รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 201 ช่างน่ากลัวนัก! มีคนใหญ่คนโตเช่นนี้ได้อย่างไร!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 201 ช่างน่ากลัวนัก! มีคนใหญ่คนโตเช่นนี้ได้อย่างไร!
ฟิ้ว!
แสงกระบี่พุ่งทะยานออกมา ลมปราณทะลักสู่เมฆา ถึงแม้ว่าจะเป็นหญิงสาวร่างเล็กทว่ากลับมีพละพลังมหาศาล!
มือขาวงามดุจหยกถือกระบี่คราม เปล่งประกายทั่วทั้งเก้าแดนสวรรค์ หนึ่งกระบี่สะท้านนภา!
เลือดเนื้อกระเซ็นไปทุกหนทุกแห่ง ร่างยอดฝีมือของเผ่าอสูรโลหิตอัสนีถูกผ่าครึ่งทันที!
แสงศักดิ์สิทธิ์สาดส่องทั่วทุกหนทุกแห่ง หญิงสาวผู้นั้นไร้ศัตรูต่อกร เสื้อผ้าของนางไม่แปดเปื้อนเลือดราวกับเทพธิดาเซียนกระบี่มีบุคลิกกล้าหาญชาญชัย!
ฟาดฟันกระบี่ออกไปหนึ่งครั้งราวกับฟาดฟันท้องนภา ยอดฝีมือเผ่าอสูรโลหิตอัสนีถูกตัดหัวในตอนนั้นทันที เลือดไหลทะลักกลางอากาศสิ้นใจในบัดดล!
“ช่างร้ายกาจยิ่งนัก…!”
เซี่ยเหยียนตกใจ สตรีผู้นี้มาจากที่ใดกัน ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก!
แดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางงั้นหรือ?
ไม่ใช่!
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดยังเทียบความแข็งแกร่งของสตรีผู้นี้ไม่ได้เลย!
‘อาวุธชั้นยอด…’
หลิงอินกล่าวในใจของนาง
นางดูออกว่าระดับกระบี่ครามในมือของหญิงสาวนั้นเป็นอาวุธชั้นยอดในสมัยโบราณ
แต่สิ่งที่นางสนใจกว่า การที่อีกฝ่ายนำอาวุธชั้นยอดมาที่แห่งนี้ ภูมิหลังความเป็นมาของสตรีผู้นี้เป็นอย่างไรกันแน่?
ตู้ม ตู้ม ตู้ม!
โลหิตอัสนีอันน่าสะพรึงกลัวฟาดลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า ปรากฏฉากน่าตกตะลึง เหล่ายอดฝีมือเผ่าอสูรโลหิตอัสนีเปิดฉากต่อสู้ดิ้นรนสุดชีวิต ใช้วิชาปีศาจอันทรงพลังมากที่สุดของพวกเขาที่ได้บ่มเพาะมา เปิดฉากโจมตี!
‘ที่แท้ก็เป็นเผ่าอสูรโลหิตอัสนี!’
ตอนนี้เอง หลิงอินก็เอ่ยขึ้นในใจราวกับเข้าใจแล้ว
เดิมทีเมื่อนางเห็นสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดเหล่านี้ก็คุ้นเคยราวกับว่า นางเคยเห็นพวกมันมาจากที่ไหนสักแห่ง
และหลังจากเห็นโลหิตอัสนีฟาดฟันมาจากท้องนภา นางก็จำเรื่องทุกอย่างได้
นี่คือเผ่าอสูรโลหิตอัสนีที่บันทึกไว้ในคัมภีร์โบราณ!
เผ่าอสูรโลหิตอัสนี…ทุกอย่างไม่จำเป็นต้องคิดให้มากความ ย่อมต้องมีสาเหตุมาจากดาบมารอมตะอย่างแน่นอน
“กระบี่จ่อเวหา!”
ชุดขาวของหญิงสาวพลิ้วไหวราวกับเป็นเทพธิดาเซียนกระบี่ เผชิญกับโลหิตอัสนีฟาดฟันลงมาจากท้องนภา
นางไม่แม้แต่แสดงความกลัว วาดวิชากระบี่อันไร้เทียมทานออกมา!
กลิ่นอายของกระบี่แผ่ซ่านออกมาจากกระบี่ครามในมือของหญิงสาว คล้ายกับกลายเป็นเซียนกระบี่สวรรค์ชั้นเก้า กระบี่พุ่งตรงไปยังท้องนภา!
“วิชากระบี่ของตระกูลหยวน!”
หลิงอินจำวิชากระบี่นี้ กล่าวในใจที่แท้สตรีผู้นี้มาจากตระกูลหยวน!
ไม่จำเป็นคิดให้มากความ สตรีผู้นี้ก็มาเพื่อดาบมารอมตะเช่นกัน
ตู้ม ตู้ม ตู้ม!
เสียงระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวดังมาอย่างต่อเนื่อง เจตจำนงกระบี่ศักดิ์สิทธิ์สั่นสะเทือน กระบี่ครามช่างน่าเกรงขามนัก กำจัดโลหิตอัสนีทั้งหมดบนท้องนภาได้ในคราวเดียว!
“สมกับที่กล่าวขานว่าธิดาสวรรค์ ยากกำเนิดในรอบหมื่นปี!”
ยอดฝีมือเผ่าอสูรโลหิตอัสนีตกตะลึง สตรีหยวนอีผู้นี้ช่างน่าทึ่งจริง ๆ!
ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่ได้เลือกยอมจำนน
การต่อสู้ครั้งนี้เกี่ยวข้องกอนาคตของพวกเขา ย่อมไม่สามารถกล่าวยอมแพ้ หากพวกเขาไม่สามารถนำดาบมารอมตะกลับมาได้ เผ่าของพวกเขาก็ไม่มีวันฟื้นคืน!
“สังหาร!” พวกเขาแต่ละคนหยิบยาลูกกลอนโลหิตออกมา กลืนมันในคำเดียว ทันใดนั้น ลมปราณของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง ร่างกายของพวกเขาแปรเปลี่ยนเป็นร่างใหญ่โตราวกับภูเขาสีโลหิต! นี่เป็นยาลูกกลอนที่พวกเขาพัฒนาขึ้นมาสามารถเพิ่มพลังการต่อสู้ได้ถึงสองเท่า! แต่ผลข้างเคียงของยาลูกกลอนนี้มีมากนัก! พละพลังที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจากดูดซับเลือดและสารอาหารจากร่างกายของพวกเขา! กล่าวให้เข้าใจก็คือหลังจากกินยาลูกกลอนนี้แล้ว พวกเขายากจะมีชีวิตสืบไป เพราะใช้พลังจากเลือดและสารอาหารจากร่างกายจนหมดสิ้น! เพื่อให้เผ่าอสูรโลหิตอัสนีของพวกเขาคืนฐานะดังเดิม พวกเขาต้องทุ่มสุดตัวไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม! ในอีกด้านหนึ่ง สีหน้าของหยวนอีกับเหล่ายอดฝีมือตระกูลหยวนเปลี่ยนไปอย่างยิ่ง ฝีมือระหว่างพวกเขากับเหล่ายอดฝีมือของเผ่าอสูรโลหิตอัสนีไม่ไดด้ต่างกันมากนัก แข็งแกร่งกว่าเหล่ายอดฝีมือของเผ่าอสูรโลหิตอัสนีเล็กน้อย ในเวลานี้เหล่ายอดฝีมือของเผ่าอสูรโลหิตอัสนีกลืนยาลูกกลอนโลหิต พลังต่อสู้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ความได้เปรียบของพวกเขาถูกทำลายลงทันที!
ลมปราณที่น่าสะพรึงอันน่ากลัวแผ่ขยาย ยอดฝีมือเผ่าอสูรโลหิตอัสนีโจมตีอย่างรุนแรง หมายมั่นสังหารหยวนอีกับเหล่ายอดฝีมือตระกูลหยวน! พวกเขากลืนยาลูกกลอนโลหิต พละกำลังในสายเลือดกับสารอาหารในร่างกายลดลงอย่างรวดเร็ว พวกเขามีเวลาไม่มาก พวกเขาจำต้องกำจัดหยวนอีกับเหล่ายอดฝีมือตระกูลหยวนโดยเร็วที่สุด และนำดาบมารอมตะกลับไปยังเผ่าของพวกเขา สถานการณ์ในตอนนี้พลิกกลับอย่างสิ้นเชิง ตระกูลหยวนอันทรงพลังไร้เทียมทาน แม้แต่หยวนอีเดิมทีรับมือศัตรูอย่างเฉียบแหลมก็ยังรับมือไม่ไหว ถูกกดดันอย่างน่าสงสาร! โลหิตสีแดงฉานสาดกระเซ็นไปทั่ว คราวนี้เป็นเลือดของตระกูลหยวนอันทรงพลัง เหล่ายอดฝีมือเผ่าอสูรโลหิตอัสนีโจมตีอย่างดุเดือดไม่ปล่อยโอกาสให้ตระกูลหยวนแม้แต่น้อย อยากจะสังหารเหล่ายอดฝีมือตระกูลหยวนให้สิ้นในคราวเดียว! “ช่างน่ารังเกียจนัก!” “กองกำลังอื่นยังไม่ถึง!”
กองกำลังตระกูลหยวนเริ่มอ่อนแอ หากยังโจมตีเช่นนี้ต่อไปพวกเขาคงรับมือเผ่าอสูรโลหิตอัสนีได้อีกไม่นาน! ในตอนนี้หยวนอีได้รับบาดเจ็บ ชุดสีขาวของนางเริ่มเปื้อนโลหิต กระบี่ครามในมือเริ่มไม่มั่นคง พลังต่อสู้อีกฝ่ายเพิ่มขึ้นความแข็งแกร่งห่างชั้นมากเกินไป พวกเขาไม่มีความหวังชนะเลย ครั้งนี้พวกเขาทั้งหมดจะต้องตายที่นี่! ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ววว! ในตอนนั้นเอง ศรอาบแสงพุ่งออกมาจากด้านข้างของเรือ ประกายแสงแวววับอันน่าเกรงขาม พลังมากมายมหาศาลราวกับดาวตก มันพุ่งเข้าหายอดฝีมือของเผ่าอสูรโลหิตอัสนีอย่างรวดเร็ว!
ศรอาบแสงพุ่งตรงออกไป กลางอากาศสั่นสะเทือน พลังของศรนั้นน่ากลัวอย่างยิ่งอีกทั้งยังแม่นยำมาก ปัง ปัง ปัง!
ทันใดหลังจากนั้น เหล่ายอดฝีมือเผ่าอสูรโลหิตอัสนีร่วงหล่นจากกลางอากาศตกลงไปในทะเลสาบสิ้นใจทันที! เฮือก! มีเสียงสูดอากาศหายใจดังขึ้น หยวนอีกับเหล่ายอดฝีมือตระกูลหยวนต่างก็มองไปที่เรือด้วยความเหลือเชื่อ นี่มันพลังอะไรกัน?
ภายใต้พลังของศรอาบแสง แม้แต่เหล่ายอดฝีมือของเผ่าอสูรโลหิตอัสนีที่เพิ่มพลังต่อสู้เป็นสองเท่าแล้ว ก็ยังไม่มีความสามารถจะต่อกรได้ อ่อนด้อยจนถูกโจมตีในคราวเดียว และถูกสังหารในทันที! ความแข็งแกร่งเช่นนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว! บนเรือเซี่ยเหยียนถือคันศรราชัน ผมยาวสลวยของนางพลิ้วไหวไปตามสายลม ยากจะพรรณนาความวิเศษเหนือสามัญ
ไม่เลว
เมื่อเห็นว่าหยวนอีกับเหล่ายอดฝีมือตระกูลหยวน ไม่สามารถจัดการกับเหล่ายอดฝีมือเผ่าอสูรโลหิตอัสนีได้ นางจึงหยิบคันศรราชัน ขึ้นง้างเกาทัณฑ์สังหารยอดฝีมือเผ่าอสูรโลหิตอัสนีทั้งหมด “แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!” “นี่… เป็นไปได้อย่างไร!” เหล่ายอดฝีมือตระกูลหยวนมองเซี่ยเหยียนด้วยความเหลือเชื่อ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเซี่ยเหยียนเพิ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตพรตเต๋า อยู่ในขั้นเต๋าแรกเริ่ม แล้วนางจะสามารถสังหารเหล่ายอดฝีมือเผ่าอสูรโลหิตอัสนีได้อย่างไร!? “นี่คือยอดฝีมือทรงพลังที่ปกปิดตัวตนเป็นแน่! “ หยวนอีอดกล่าวขึ้นอย่างเสียไม่ได้ ไม่ว่าพวกเขาจะไม่เชื่อมากเพียงใด แต่ความจริงก็ยังปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเขา เซี่ยเหยียนมีพลังอันยากจะจินตนาการ! “นั่นมันอะไร…คันศร! ” หัวใจของหยวนอีสั่นสะท้าน นางรู้สึกถึงกลิ่นอายอันน่าเกรงขามจากคันศรในมือของเซี่ยเหยียน! กระบี่ครามในมือของนาง กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ชั้นยอดในตอนนี้สั่นไหวอย่างรุนแรง ราวกับได้พบกับราชันแห่งศัสตราวุธ นี่ใช่ว่าความแตกต่างของดวงดาราแต่เป็นความแตกต่างดั่งฟ้ากับดิน! ช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว! ตระกูลหยวนของพวกเขามีอาวุธมหาจักรพรรดิอยู่ในการครอบครอง ทว่าแม้แต่อาวุธมหาจักรพรรดิในตระกูลหยวนของพวกเขา ก็ยังห่างไกลจากความสามารถกับคันศรในมือของเซี่ยเหยียน! หยวนอีเคยเห็นอาวุธมหาจักรพรรดิตระกูลหยวนมาก่อน แต่กลิ่นอายอาวุธมหาจักรพรรดิในตระกูลหยวนนั้นแตกต่างจากคันศรในมือของเซี่ยเหยียนอย่างยิ่ง และไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย! นางรู้สึกว่าคันศรนี้ทรงพลังมากกว่าดาบมารอมตะเสียอีก! “เหยียนโจวเกิดอันใดขึ้น เหตุใดจึงมีคนใหญ่คนโตเช่นนี้อาศัยอยู่กัน?!”
หนังศีรษะของนางชาหนึบ ขณะเดียวกันแผ่นหลังของนางก็หลั่งเหงื่อเย็นออกมาทั่ว
ความแข็งแกร่งเทียบเท่าตระกูลหยวนของพวกเขา เกรงว่าพวกเขาจะไม่สามารถจัดการกับเซี่ยเหยียนได้เลย!