รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 204 โอสถจักรพรรดิมากกว่าหนึ่งโหล นี่เป็นลานเล็ก ๆ ของมนุษย์ได้หรือ!?
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 204 โอสถจักรพรรดิมากกว่าหนึ่งโหล นี่เป็นลานเล็ก ๆ ของมนุษย์ได้หรือ!?
หลี่จิ่วเต้ากับคนอื่น ๆ ยังคงล่องเรือและเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ต่อไป
แน่นอนว่าพวกเขาไม่พบเจอการรบกวนใดอีก
ทั้งสามอยู่บนเรือ กินของว่าง และเพลิดเพลินไปกับวิวทะเลสาบที่งดงาม นับว่ามีความสุขมาก!
เมื่อมองไปยังวิวทะเลสาบที่งดงาม หลี่จิ่วเต้าก็นึกถึงบทกวีที่เขียนโดยกวีของดาวเคราะห์สีฟ้า
เขาหยิบพู่กัน เปิดพัดกระดาษเปล่า และเขียนบทกวีบนพัดกระดาษ
พู่กัน หมึก และพัดกระดาษสีขาวล้วนถูกมอบให้เขาโดยเจ้าของแผงลอยริมทะเลสาบ
ทิวทัศน์ของทะเลสาบชิงสุ่ยนั้นงดงามมาก นักปราชญ์และบัณฑิตมักไปเยี่ยมชมทะเลสาบเพื่อชมทิวทัศน์ ทำให้มีพ่อค้ามากมายขายพู่กัน หมึก และพัดกระดาษขาวที่นี่
หลี่จิ่วเต้าเขียนด้วยการตวัดเพียงครั้งเดียว เสมือนการรังสรรค์ด้วยหมึกที่สาดกระเซ็น และดอกไม้ก็เกิดขึ้นภายใต้พู่กัน ทำเอาผู้คนรู้สึกประหลาดใจยิ่ง!
บทกวีถูกเขียนออกมา…
‘ครั้นทะเลสาบตะวันตก ณ เดือนหก ต่างสิ้นสี่ฤดูทิวทัศน์มองมิคล้าย
ใบบัวบนฟ้าแผ่ซึ่งสีเขียวขจี แลเห็นบัวแดงงามยามต้องอัสดง’
หลังจากที่หลี่จิ่วเต้าเขียนบทกวีจบแล้ว เขาก็อ่านมันอีกครั้ง
บทกวีนี้เหมาะสำหรับเวลานี้มาก ทะเลสาบชิงสุ่ยนั้นสวยงามพอ ๆ กับทะเลสาบซีหูในดาวเคราะห์สีฟ้า นอกจากนี้ดอกบัวจำนวนมากเสริมให้ทิวทัศน์น่ารื่นรมย์เป็นอย่างยิ่ง
“บทกวีที่ดีและตัวอักษรที่ดี!”
เซี่ยเหยียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชม
สองประโยคแรกของบทกวีนี้ดูเรียบง่าย แต่กระชับ ทั้งยังอธิบายถึงความงามและความเป็นเลิศของวิวทะเลสาบได้โดยตรง
สองประโยคสุดท้ายน่าทึ่งมาก จับภาพทิวทัศน์ที่สวยงามได้อย่างแม่นยำ มิหนำซ้ำ คำอธิบายก็เหมาะสมและเป็นศิลปะ!
เมื่อมองดูตัวอักษรของท่านเซียนอีกครั้ง มันก็เหมือนกับมังกรพุ่งทะยานออกไป อิสระไร้ข้อผูกมัด!
“เจ้าชอบหรือ?”
หลี่จิ่วเต้ายิ้มและพูดว่า “เช่นนั้น นี่สำหรับเจ้า”
“ขอบคุณเจ้าค่ะ!”
เซี่ยเหยียนมีความสุขมาก สัมผัสแห่งเต๋าที่อยู่ในตัวอักษรของท่านเซียนนั้นน่าอัศจรรย์จริง ๆ นี่ต้องเป็นสมบัติอย่างมิต้องสงสัย!
นางหัวเราะคิกคักอยู่ในใจ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นรางวัลจากท่านเซียน สำหรับที่นางจัดการได้ถูกต้องเมื่อครู่นี้
แล้วหลี่จิ่วเต้าก็หยิบพู่กันขึ้นมาอีกครั้ง ลงมือเขียนบทกวีบนพัดกระดาษสีขาวอีกครั้ง ก่อนจะมอบให้กับหลิงอิน
เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะปฏิบัติต่อคนหนึ่งดีกว่าอีกคนหนึ่ง โดยการมอบให้เพียงเซี่ยเหยียน แต่ไม่ให้หลิงอิน
หากทำเช่นนั้นจะดูแย่เอา
“ขอบคุณเจ้าค่ะ!”
หลิงอินก็ตื่นเต้นเช่นกัน
แน่นอนว่าไม่มีสิ่งใดสามารถรอดพ้นสายตาของท่านเซียนได้
ท่านเซียนให้พัดกระดาษบทกวีแก่เซี่ยเหยียน ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับการแสดงของเซี่ยเหยียนเมื่อครู่นี้
และท่านเซียนก็มอบพัดกระดาษบทกวีให้นาง โดยเป็นรางวัลที่นางเตือนเซี่ยเหยียนไปเมื่อครู่!
ท่านเซียนนั้นช่างดีจริง ๆ เขาไม่ปฏิบัติต่อผู้ที่ทำงานให้อย่างเลวร้าย!
“ในอนาคตข้าจะทำงานให้หนักขึ้นเพื่อท่านเซียน!”
หลิงอินพูดอย่างจริงจังในใจของตนเอง
…
อีกด้านหนึ่ง มียอดฝีมือสัตว์ประหลาดมากมายจากชิงโจวที่มาที่นี่
พวกเขาได้รับคำเชิญจากยอดฝีมือของเผ่าอสูรโลหิตอัสนีให้แย่งชิงดาบมารอมตะด้วยกัน
ทว่าหลังจากมาที่นี่ พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะผลีผลาม
เพราะพวกเขาไม่สามารถติดต่อกับยอดฝีมือของเผ่าอสูรโลหิตอัสนีได้!
“ดูเหมือนว่า สมาชิกที่ทรงพลังของเผ่าอสูรโลหิตอัสนีจะตายกันหมด!”
“ใช่ การเคลื่อนไหวของตระกูลจักรพรรดิช่างรวดเร็วยิ่งนัก!”
พวกเขาเห็นว่ามียอดฝีมือของเผ่าจักรพรรดิชิงโจวจำนวนมากอยู่ที่นี่ และพวกเขาก็รู้สึกว่ายอดฝีมือของเผ่าอสูรโลหิตอัสนีส่วนใหญ่ได้ตกตายไปแล้ว
มิฉะนั้น พวกเขาไม่ควรไม่สามารถติดต่อยอดฝีมือของเผ่าอสูรโลหิตอัสนีได้ ชั่วขณะหนึ่งพวกเขาไม่กล้าขยับหรือโผล่หัวออกไป
เผ่าอสูรโลหิตอัสนีสามารถรับรู้ตำแหน่งของดาบมารอมตะได้ แต่พวกเขาทำไม่ได้ ซ้ำยังไม่สามารถรับรู้ตำแหน่งของดาบมารอมตะได้
ในเวลานี้มันคงไร้ความหมายที่จะออกไปต่อสู้กับยอดฝีมือของตระกูลจักรพรรดิ
นอกจากนี้ตระกูลจักรพรรดิยังมียอดฝีมือมากเกินไป หากสู้กันจริง ๆ พวกเขาเกรงจะไม่ใช่คู่ต่อสู้
…
เวลาผ่านไปและมันก็สายมากแล้ว หลี่จิ่วเต้ากับคนอื่น ๆ จึงพายเรือกลับ
ชายหนุ่มทิ้งเงินไว้เพียงพอสำหรับพ่อค้าเช่าเหมาลำ จากนั้นเขาก็กลับไปที่เมืองชิงซานพร้อมกับเซี่ยเหยียนและหลิงอิน
ครั้งนี้เขาไปรอบ ๆ ทะเลสาบเพื่อชมวิวทิวทัศน์ ยกเว้นจุดตรงกลาง แต่เท่านี้ก็นับว่าพอใจมากแล้ว
หลังจากกลับมาที่ลานเล็ก ๆ นั้น เซี่ยเหยียนก็หยิบดาบออกมาแล้วส่งมันคืนให้หลี่จิ่วเต้า
หลี่จิ่วเต้ารับดาบมาวางไว้ข้าง ๆ
“คุณชาย ดอกบัวช่างงามจริง ๆ!” เซี่ยเหยียนกล่าว
“ใช่ มันสวยมาก”
หลี่จิ่วเต้าพยักหน้า ชำเลืองมองที่ถังน้ำในสวน และพูดว่า “ข้าจะปลูกบัวในถังทีหลัง”
ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว หลี่จิ่วเต้าให้เซี่ยเหยียนกับหลิงอินอยู่ทานด้วยกัน หลังจากทานอาหารเย็นแล้ว เซี่ยเหยียนกับหลิงอินก็พากันกล่าวลาและออกจากลานไปทีละคน
หลี่จิ่วเต้ามองไปที่ดาบในลานบ้าน ยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “พรุ่งนี้ข้าจะเริ่มทำจอบ!”
เขาเองได้ฝึกฝนทักษะการตีเหล็กจนถึง ‘ขั้นเทวะ’ เพราะฉะนั้นแล้ว การเปลี่ยนดาบเป็นจอบจึงเป็นเรื่องง่ายดายยิ่งสำหรับเขา
ชายหนุ่มหาวฟอด ก่อนจะเดินกลับเข้าไปข้างในและผล็อยหลับไป
ท้องฟ้าค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเวลากลางคืน
“ฮ่า ๆ ในที่สุดข้าก็ฟื้นคืนพลังแล้ว!”
ในลานเล็ก ๆ พลันมีเสียงหัวเราะดังออกมาจากดาบ
ดาบเล่มนี้คือดาบมารอมตะนั่นเอง
“แปลกนัก ข้าไม่ได้ถูกลูกหลานของจักรพรรดิหยวนจับไปหรอกหรือ?”
ดาบมารอมตะรู้สึกงงงวยเล็กน้อย
ลูกหลานของจักรพรรดิหยวนติดตามเขามาอย่างใกล้ชิด พูดตามเหตุผล ลูกหลานของจักรพรรดิหยวนต้องได้พบเขาแล้ว!
แต่เมื่อดูสภาพแวดล้อมที่นี่แล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ถูกจับ เพราะมันดูเป็นลานเล็ก ๆ ที่ให้ผู้คนอาศัยอยู่มากกว่า
“มนุษย์นั่นไม่น่าพาข้ากลับบ้านได้!”
ดาบมารอมตะเปิดสัมผัสวิญญาณของตนเอง และก็สัมผัสได้ถึงหลี่จิ่วเต้า
ในขณะนี้ หลี่จิ่วเต้ากำลังนอนหลับสนิท!
“เจ้ากล้านอนงั้นหรือ!”
ดาบมารอมตะกล่าวอย่างเกลียดชังว่า “สับเจ้าให้ตายด้วยดาบเดียวยามหลับ มันจะดีเกินไปสำหรับเจ้า! ข้าต้องการให้เจ้าตื่นมาดูตัวเองถูกข้าเฉือนเป็นชิ้น ๆ ดาบแล้วดาบเล่า!”
แม้จะไม่รู้ว่าเหตุใดตนถึงไม่ถูกลูกหลานของจักรพรรดิหยวนจับตัวไป แต่นั่นหาใช่เรื่องสำคัญ!
สิ่งสำคัญคือยามนี้เขาสามารถแก้แค้นและฆ่ามนุษย์คนนี้ได้แล้ว!
“ข้าอยากเป็นฝันร้ายของเจ้า ปล่อยให้เจ้าตายตกด้วยความกลัวและความเจ็บปวดไร้ที่สิ้นสุด!”
ดาบมารอมตะส่องประกายอย่างดุดันพร้อมเจตนาสังหาร!
มนุษย์ผู้นี้ดูถูกตัวเขาอย่างรุนแรง และเขาจะไม่มีวันปล่อยมนุษย์คนนี้ไปง่าย ๆ! ทั้งยังต้องการให้มนุษย์ผู้นี้ตายด้วยความทรมาน! ดาบมารอมตะลอยขึ้นและบินไปในทิศทางห้องของหลี่จิวเต้า
“เดี๋ยวก่อน… นี่มัน!”
เมื่อบินไปถึงกลางลานเล็ก ๆ เขาก็หยุดทันที
กลิ่นหอมของดอกไม้โชยมา ดาบมารอมตะมองดูดอกไม้และต้นไม้สองข้างทาง แล้วในชั่วพริบตา ตัวเขาก็ต้องตกใจ
“นี่มัน… โอสถจักรพรรดิ!!!”
ดาบมารอมตะอุทานด้วยความไม่อยากจะเชื่อ รู้สึกเหมือนกำลังฝันไป!
เดิมเขาอยู่ที่มุมของลานเล็ก ๆ ทั้งยังไม่ได้ดูลานเล็ก ๆ ให้ดี
แต่เมื่อบินไปที่กลางลานเล็ก ๆ แล้วได้กลิ่นหอมของดอกไม้ จึงสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างทันที!
กลิ่นหอมของดอกไม้มีกลิ่นพิเศษ คล้ายกับเต๋าจนแยกไม่ออกและน่าอัศจรรย์โดยแท้
แน่นอนว่าหลังจากที่มองดอกไม้และพืชทั้งสองด้านแล้ว ดาบมารอมตะก็แน่ใจว่าดอกไม้ที่ปลูกไว้สองข้างทางนั้นไม่ธรรมดาเลย พวกมันล้วนเป็นโอสถจักรพรรดิที่หาได้ยากยิ่ง!
“นี่…ที่นี่คือที่ใดกัน! “
ดาบมารอมตะตกใจเป็นอย่างยิ่ง
สองข้างทางมีต้นไม้มากกว่าสิบต้นปลูกอยู่!
ต้นไม้ประมาณสิบกว่าต้นล้วนเป็นโอสถจักรพรรดิที่หายากยิ่ง แล้วที่นี่จะเป็นลานเล็ก ๆ สำหรับมนุษย์ธรรมดาได้อย่างไร!?
อย่าเหลวไหล!
โอสถจักรพรรดิหายาก แม้แต่มหาจักรพรรดิในสมัยโบราณก็ไม่อาจครอบครองโอสถจักรพรรดิได้!
ที่นี่มีโอสถจักรพรรดิมากกว่าหนึ่งโหล…
สวรรค์ เขามาลงเอยที่ใดกันแน่!!!