รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 234 น้ำเสียงของแม่นางน้อยผู้นี้ไม่ธรรมดา ช่างใจกล้ายิ่งนัก!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 234 น้ำเสียงของแม่นางน้อยผู้นี้ไม่ธรรมดา ช่างใจกล้ายิ่งนัก!
“อย่ากังวล…”
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนแย้มยิ้มพลางกล่าว “ตามข้ามา”
หลังจากนั้นเขากับสือเฟิงก็ออกไปจากสถานที่
“ข้าก็จะไปเหมือนกัน!”
หยวนเซิ่งรีบกล่าวลากับผู้นำกองกำลังลับ หลังจากนั้นเขาก็กล่าวลาประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับสือเฟิงด้วยเช่นกัน ก่อนจะรีบกลับไปยังลัทธิไท่เสวียนโดยเร็ว!
“กางม่านพลัง เตรียมพร้อมรับสงคราม!”
เขารีบสั่งการในลัทธิทันที
“ท่านประมุขรู้หรือว่าอยู่ที่ใด?”
ระหว่างทาง สือเฟิงพลันถามขึ้นมา
“ข้าไม่รู้ แต่ใครบางคนสามารถช่วยพวกเราได้”
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกล่าวต่อ “ไปกันเถอะ ไปที่นิกายลับสวรรค์กัน”
ตอนที่เขายืมอ่านคัมภีร์โบราณหาเมล็ดพันธุ์ผักวิเศษ มีความเป็นไปได้ว่าก่อนหน้านี้จะมีคนแอบค้นพบก่อนแล้ว เป็นเหตุให้พวกเขาหาไม่เจอ
ด้วยเหตุนี้ ตั้งแต่เริ่มการค้นหาประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนจึงไม่ได้สักแต่จะใช้บันทึกในคัมภีร์โบราณ หาเมล็ดพันธุ์ผักวิเศษเพียงอย่างเดียว
เขาอาศัยบันทึกคัมภีร์โบราณค้นหา เพราะเขาแค่ต้องการขอบเขตในการค้นหา
หากมีขอบเขตเป็นตัวกำหนดมันก็จะดีมาก!
เขาจึงต้องการขอให้ผู้เฒ่าเมิ่งจีช่วยพยากรณ์ให้!
นิกายลับสวรรค์นั้นเก่งกาจในวิชาพยากรณ์ และผู้เฒ่าเมิ่งจีเองก็โดดเด่นในวิชานี้เป็นอย่างยิ่ง นับว่าเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งในวิชาพยากรณ์!
นอกจากนี้ ผู้เฒ่าเมิ่งจียังติดตามท่านเซียนเป็นช่วงเวลาหนึ่ง เขาคิดว่าวิชาพยากรณ์ของผู้เฒ่าเมิ่งจีน่าจะทวีคูณมากกว่าเดิม
หากพยากรณ์อย่างไร้ขอบเขต เกรงว่ามันจะยากเกินไป ถึงแม้จะพยากรณ์ได้สำเร็จ แต่นั่นก็อาจจะต้องใช้เวลานาน
ถึงอย่างไร สมัยโบราณก็มีประวัติศาสตร์มากเกินไป…
ระหว่างทางไป ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนเล่าเรื่องทั้งหมดให้สือเฟิงฟัง
“ท่านประมุขนับว่าปรีชาโดยแท้!”
สือเฟิงกล่าวด้วยความชื่นชม
เขามาหาถูกคนแล้ว ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนคิดรอบคอบกว่าเขามากนัก หากไม่มีประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียน ป่านนี้เขาคงหาเบาะแสไม่เจอเป็นแน่
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องพวกนี้ ข้าไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือไม่ จะรู้ก็ต่อเมื่อไปถึงนิกายลับสวรรค์เท่านั้น” แล้วพวกเขาก็เร่งความเร็วยิ่งขึ้น เหาะเหินกลางอากาศมุ่งหน้าไปยังนิกายลับสวรรค์
…
บนเกาะมังกร
กลุ่มหยวนอีเพิ่งออกมาจากโพรงมังกร ยังไม่ทันได้เดินมาออกมาก ก็ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตกลุ่มหนึ่ง
ท่ามกลางสิ่งมีชีวิตพวกนี้ มีทั้งเผ่าพันธุ์มนุษย์และสัตว์อสูรปะปนอยู่ มิหนำซ้ำ แต่ละตนยังมีขอบเขตสูงส่ง ปลดปล่อยพลังปราณอันน่าหวาดหวั่นออกมาไม่หยุด
“พวกเจ้าออกมาจากโพรงมังกรทั้ง ๆ ยังมีชีวิตอยู่!”
“นี่…เป็นไปได้อย่างไร!?”
กลุ่มสิ่งมีชีวิตเหล่านี้เห็นกลุ่มของหยวนอีออกมาจากโพรงมังกรได้ ดวงตาของพวกมันก็แทบถลนออกจากเบ้า
ช่างดีนัก นับตั้งแต่สมัยโบราณมาไม่เคยมีสิ่งมีชีวิตใดสามารถรอดออกมาจากโพรงมังกรได้เลย แม้แต่มหาจักรพรรดิก็ยังไม่รอด เข้าไปแล้วไม่ได้กลับออกมาอีกเลย!
สุดท้ายกลับกลายเป็นกลุ่มของหยวนอีที่มีชีวิตรอดออกมาจากโพรงมังกร พวกเขาย่อมต้องตกใจ แต่ละตนรู้สึกคาดไม่ถึง!
“พวกเราไปกันเถอะ”
หยวนอีขมวดคิ้ว ไม่อยากเกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ นางหยิบยันต์แผ่นหนึ่งออกมาฉีก พลันแสงศักดิ์สิทธิ์ส่องสว่างขึ้น หลังจากนั้น นางและบิดา รวมถึงบรรพจารย์ของนางก็หายตัวจากที่แห่งนี้
นี่คือยันต์เคลื่อนย้ายหมื่นลี้ มีวิญญาณนักบุญเป็นผู้สร้างขึ้น หลังจากฉีกออกแล้ว ก็สามารถเคลื่อนย้ายได้ถึงหมื่นลี้ในชั่วพริบตา
สิ่งนี้คล้ายกับแท่นค่ายกลเคลื่อนย้าย ที่แตกต่างกันคือ สลักยันต์บนแท่นค่ายกลเคลื่อนย้ายกับสลักยันต์บนแผ่นยันต์
นางได้ยันต์เคลื่อนย้ายหมื่นลี้มาจากโพรงมังกร และไม่ใช่แค่ชิ้นเดียว แต่เป็นหลายร้อยจนเกือบจะเป็นพันชิ้นได้
ตู้ม!
ทว่าพวกเขายังมิทันก้าวเข้าสู่ความว่างเปล่าก็ถูกพลังอันน่าสะพรึงกลัวโจมตี บีบบังคับให้พวกเขาออกมาจากความว่างเปล่า!
“วิญญาณนักบุญ!”
รูม่านตาของบิดาหยวนอีหดลง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ คาดไม่ถึงว่าชีวิตนี้จะได้พบกับวิญญาณนักบุญ!
พลังที่บีบบังคับให้พวกเขาออกมาจากความว่างเปล่านั้น เป็นลมปราณอันทรงพลังของวิญญาณนักบุญอย่างไม่ต้องสงสัย นี่ย่อมเป็นฝีมือของวิญญาณนักบุญแน่นอน!
“ชีวิตนี้ไม่เคยเห็นวิญญาณนักบุญปรากฏกายมาก่อน ที่แท้แล้วยังมีอยู่!”
บรรพจารย์เองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน
สภาพฟ้าดินในปัจจุบันนั้นแย่มาก หากอยากเป็นวิญญาณนักบุญก็ยากยิ่งกว่าขึ้นสู่สวรรค์!
ถึงแม้เขาจะรู้ว่า สิ่งมีชีวิตบนเกาะมังกรนั้นทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็คาดไม่ถึงอยู่ดีว่าสิ่งมีชีวิตบนเกาะมังกรจะทรงพลังมากมายถึงเพียงนี้ กระทั่งมีวิญญาณนักบุญดำรงอยู่!
“เกรงว่าจะมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับโพรงมังกร…”
หยวนอีมองทิศทางของโพรงมังกรกล่าวอย่างครุ่นคิด
สภาพแวดล้อมรอบ ๆ โพรงมังกรมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ มีปราณวิญญาณระดับสูงมากมายแผ่ออกมา เป็นไปได้ว่าวิญญาณนักบุญบนเกาะมังกรอาจจะบังเอิญเจอสิ่งเหล่านี้เข้า
ฟิ้ว!
ในตอนนั้นเอง พลังศักดิ์สิทธิ์ไร้สิ้นสุดปรากฎขึ้น หลังจากนั้นก็มีชายวัยกลางคนเดินออกมาจากความว่างเปล่าต่อหน้าพวกเขา
“พวกเจ้าออกมาจากโพรงมังกรจริง ๆ…”
ชายวัยกลางคนมองกลุ่มของหยวนอีบนใบหน้าฉายแววประหลาดใจ เพราะเขาไม่คาดคิดว่าจะมีผู้ใดออกมาจากโพรงมังกรได้
ทว่ากลุ่มคนเบื้องหน้าเป็นกลุ่มที่สังหารผู้เฝ้าโพรงมังกรและบุกรุกเข้าไปในโพรงมังกร
หลังจากเกิดเรื่องนี้ เขาก็เริ่มใส่ใจมากยิ่งขึ้น
เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีก เขาละทิ้งการฝึกเต๋าศักดิ์สิทธิ์ มาตรวจสอบให้แน่ใจว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาดอีก
ทว่าสิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือ คนกลุ่มตรงหน้าบุกเข้าไปในโพรงมังกรแล้วยังมีชีวิตรอดกลับมาอีก!
ตอนหยวนอีฉีกยันต์เคลื่อนย้ายหมื่นลี้ เขาไม่ลังเลที่จะรีบออกฝีมือหยุดกลุ่มของหยวนอีทันที
หากช้ากว่านี้ เกรงว่ากลุ่มของหยวนอีคงออกจากเกาะไปนานแล้ว
“พวกเจ้าทำได้อย่างไร?”
เขาถามขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้ และนึกไม่ออกจริง ๆ
เขาก้าวเข้าสู่ขอบเขตนักบุญ ส่วนกลุ่มของหยวนอีมองแวบเดียวก็เห็นขอบเขตแล้ว ขอบเขตสูงสุดของกลุ่มของหยวนอีไม่เกินขอบเขตเทวา…
ขอบเขตเทวานั้นต่ำเกินไป จะออกมาจากโพรงมังกรทั้งเป็นได้อย่างไร?
จำต้องรู้ว่า แม้แต่มหาจักรพรรดิเข้าไปแล้วยังหวนกลับมาไม่ได้!
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
ในขณะนี้เองพลันแสงศักดิ์สิทธิ์สาดส่องเจิดจ้า สว่างวาบขึ้นมาหลายกลุ่มรอบสถานแห่งนี้ จากนั้นก็มียอดฝีมือออกมาทีละคน!
ยอดฝีมือเหล่านี้มีเผ่าพันธุ์มนุษย์กับสัตว์อสูร
พลังปราณของพวกเขานับว่าน่ากลัวยิ่ง พลังศักดิ์สิทธิ์ไหลเวียนทั่วร่างกาย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตนักบุญแล้ว
หลังจากมาถึงที่แห่งนี้พวกเขาทั้งหมดต่างจ้องเขม็งกลุ่มของหยวนอีด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตกตะลึง
มีคนเป็นออกมาจากโพรงมังกรได้ จะให้พวกเขาเชื่อลงได้อย่างไร!
พวกเขายังทิ้งจิตนักบุญไว้ในโพรงมังกร ถึงได้รู้ว่ากลุ่มของหยวนอีออกมาจากโพรงมังกรทั้งเป็น!
“มีอะไรอยู่ในโพรงมังกร?”
“พวกเจ้าได้สมบัติอะไรมาบ้าง?”
“เดาว่าความน่ากริ่งเกรงในโพรงมังกรตอนนี้คงไม่อยู่แล้ว ดังนั้นพวกเจ้าถึงออกมาทั้งเป็นอย่างง่ายดายเช่นนี้ได้!”
พวกเขารีบถามกลุ่มของหยวนอีอย่างให้ความสนใจ
ยอดเยี่ยม มีซากศพมังกรอยู่ในโพรงมังกร รวมถึงสมบัติล้ำค่าที่เผ่ามังกรเป็นคนรวบรวมไว้ กระทั่งมหาจักรพรรดิยังสนใจ แล้วจะไม่ให้พวกเขาสนใจได้อย่างไร?
“ข้าไม่ได้อยากเป็นศัตรูกับพวกท่าน พวกท่านแยกย้ายกันไปเถิด…”
หยวนอีส่ายหัวเบา ๆ สงบนิ่งเป็นอย่างมาก ปราศจากความกลัว
มังกรดำในโพรงมังกรไม่สามารถทำอะไรนางได้ก็จริง แต่นับประสาอะไรกับขอบเขตนักบุญ…
มังกรดำตัวนั้นน่ากลัวกว่าขอบเขตนักบุญเหล่านี้ตั้งกี่เท่า!
ว่าอันใดนะ?
ไม่อยากจะเป็นศัตรูของพวกเขา?
แม่นางน้อย เจ้าไม่ดูขอบเขตของเจ้าบ้างหรือว่าเราอยู่ขอบเขตระดับใดแล้ว…
เหล่ายอดฝีมือขอบเขตนักบุญเหล่านี้มองหน้ากันอย่างขบขัน ถึงกับสงสัยว่าพวกเขาได้ยินผิดไปหรือไม่
ขอบเขตเทวาต่อหน้าพวกเขาไม่นับว่าเป็นตัวอะไรเลย เสมือนเป็นการดำรงอยู่ของมดปลวก นับประสาอะไรกับขอบเขตราชันผู้เกริกไกร…