รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 236 จงสาบานต่อสวรรค์และนับถือข้าเป็นนายหญิง!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 236 จงสาบานต่อสวรรค์และนับถือข้าเป็นนายหญิง!
เดิมทีหยวนอีไม่ได้คิดอะไรมากมาย แต่หลังจากนางถูกวิญญาณนักบุญหยุดเอาไว้ก็มีความคิดอื่นแวบขึ้นมาในใจของนาง
นางมองเหล่ายอดฝีมือขอบเขตนักบุญและกล่าวอย่างเชื่องช้า “อย่ากังวลไป ข้าไม่สังหารพวกเจ้าหรอก เพียงแต่ข้าอยากให้พวกเจ้าสาบานว่าจะเชื่อฟังข้า ปฏิบัติตามคำสั่งของข้า”
“อะไรนะ!”
“เจ้าอยากให้พวกเรารับใช้ท่านในฐานะนายหญิง!?”
หลังจากได้ยินคำพูดหยวนอี เหล่ายอดฝีมือขอบเขตนักบุญต่างรู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง
พวกเขาเข้าสู่ขอบเขตนักบุญ แข็งแกร่งร้ายกาจเพียงใด แต่มาตอนนี้เหล่ายอดฝีมือขอบเขตนักบุญต่างตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทั้ง ๆ ที่ความสามารถของพวกเขาสามารถกวาดล้างแผ่นดินนี้ให้ราบเป็นหน้ากลองได้
แต่ยังไม่ทันได้เดินออกไปอวดเบ่งอำนาจพลังวิญญาณนักบุญของพวกเขาเลย พวกเขากลับต้องมาก้มหัวรับใช้ผู้เป็นนายหญิง ในใจพวกเขาจะไม่รู้สึกไม่สบอารมณ์ได้อย่างไร?
ทว่าแม้ในใจพวกเขาจะรู้สึกไม่สบอารมณ์เพียงใด แต่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือก
ค่ายกลโบราณตรึงพวกเขาเอาไว้อยู่ หากพวกเขาไม่เห็นด้วย สิ่งที่รอพวกเขาอยู่ก็คือความตาย…
“วางใจเถิด ข้าไม่ได้ร้องขอพวกเจ้ามากเกินไป เพียงแค่ขอให้พวกเจ้าทำสองข้อ”
หยวนอีกล่าว “ข้อแรกคือเจ้าต้องปกป้องโพรงมังกร อย่าให้ผู้ใดเข้าไปในโพรงมังกรเด็ดขาด รวมถึงตัวพวกเจ้าด้วย! คำสั่งข้อสองคือข้าอยากให้พวกเจ้าทั้งหมดออกมาป้องกันไม่ให้สิ่งมีชีวิตภายนอกเข้ามารุกราน”
นางไม่รู้เหตุใดมังกรดำถึงอยากลวงสิ่งมีชีวิตเข้ามาฆ่า แต่นางรู้ดีว่านางไม่สามารถปล่อยให้มังกรดำทำตามใจปรารถนาได้
ดังนั้น นางจึงเลือกเก็บชีวิตของเหล่ายอดฝีมือขอบเขตนักบุญพวกนี้เอาไว้ ให้เหล่ายอดฝีมือขอบเขตนักบุญพวกนี้อยู่พิทักษ์ที่แห่งนี้ ห้ามไม่ให้สิ่งมีชีวิตใดเข้าไปในโพรงมังกรโดยเด็ดขาด
เหล่ายอดฝีมือขอบเขตนักบุญเป็นขอบเขตระดับสูง ให้อยู่หน้าโพรงมังกรคอยพิทักษ์ ป้องกันไม่ให้สิ่งมีชีวิตใดเข้าไปในโพรงมังกร
นอกจากนี้ ในฐานะตระกูลที่มีการสืบสานมาอย่างยาวนาน พวกเขาตระกูลหยวนย่อมเคยประสบหายนะในสมัยโบราณมาก่อน
หากไม่ใช่เพราะภัยพิบัติในสมัยโบราณ ตระกูลหยวนของพวกเขาจะต้องแข็งแกร่งกว่าในปัจจุบันหลายเท่า
อย่างน้อยก็น่าจะมีวิญญาณนักบุญในตระกูลหยวนของพวกเขา
ในหายนะในสมัยโบราณครั้งนั้น สิ่งมีชีวิตจำนวนมากกลัวการต่อสู้ ซ่อนตัวและไม่กล้าเข้าร่วมในสงคราม เพราะเห็นแก่ตัวและคิดแต่เรื่องของตัวเอง
ทว่าตระกูลหยวนของพวกเขาไม่ได้ทำเช่นนั้น
ตระกูลหยวนของพวกเขาเป็นกำลังรบระดับแนวหน้าและด้วยเหตุนี้จึงต้องจ่ายราคามหาศาล นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ปัจจุบัน ขอบเขตสูงสุดของตระกูลของพวกเขาอยู่ในระดับขอบเขตเทวาเท่านั้น
สิ่งมีชีวิตอื่นอาจไม่รู้มากนักว่าหายนะในสมัยโบราณเกิดอะไรขึ้น
เพียงแต่พวกเขาเข้าใจเป็นอย่างดี
พวกเขารู้ว่าหายนะในสมัยโบราณเป็นเพราะมีสิ่งชีวิตต่างแดนบุกเข้ามารุกราน
นอกจากนี้ยังรู้ดีว่าการรุกรานกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
พวกเขาจึงต้องการผู้แข็งแกร่งมาช่วยต่อต้านการรุกรานนี้
ดังนั้น หยวนอีจึงขอให้เหล่ายอดฝีมือขอบเขตนักบุญรับใช้ตนในฐานะนายหญิง เพื่อที่ตัวนางจะได้เป็นผู้นำเหล่ายอดฝีมือขอบเขตนักบุญเพื่อต่อสู้กับการรุกรานในอนาคต
อนิจจา…
ภายในใจของเหล่ายอดฝีมือขอบเขตนักบุญต่างถอนหายใจกันอย่างหนักหน่วง
พวกเขารู้ว่าตนไม่มีทางเลือก นับประสาอะไรกับคำขอสองข้อ ถึงแม้จะมีคำขอเป็นสองร้อยข้อ พวกเขาก็ต้องตกลง…
หลังจากนั้นพวกเขาก็กล่าวสาบานต่อสวรรค์ว่าจะรับใช้หยวนอีเป็นนายหญิง
บนอากาศ กฎแห่งสวรรค์ปรากฏชัดเจนแจ่มแจ้ง ก่อนที่ประกายพิรุณแสงเหนือสรรพสิ่งจะโปรยปรายตกลงมาบนร่างของเหล่ายอดฝีมือขอบเขตนักบุญ
ร่างเหล่ายอดฝีมือขอบเขตนักบุญสั่นเทิ้ม พวกเขาสัมผัสได้ว่าคำสาบานสวรรค์นั้นเสร็จสิ้นแล้ว และพวกเขาก็ถูกคำสาบานผูกมัดไว้เรียบร้อย
หากพวกเขาไม่ซื่อสัตย์ต่อหยวนอีในอนาคต หรือแม้แต่มีความคิดเป็นอื่น วิถีสวรรค์จะเผาทำลายพวกเขาจนเป็นจุณ
หลังจากกล่าวคำสาบานสวรรค์เสร็จแล้ว หยวนอีก็รู้สึกโล่งใจเช่นกัน หญิงสาววางอาวุธจักรพรรดิลงพร้อมกับปลดค่ายกลโบราณ
ค่ายกลโบราณนี้นางได้รับมาจากมังกรดำเช่นกัน เป็นฝีมือการเขียนค่ายกลของมหาจักรพรรดิผู้หนึ่ง แฝงไปด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง
“ดีแล้ว นับเป็นเรื่องดี ข้าจะปฏิบัติต่อพวกเจ้าอย่างเป็นธรรมแน่นอน”
หยวนอีโบกมือขึ้นและหยิบโอสถจักรพรรดิหลายสิบเม็ดออกมา มอบให้กับเหล่ายอดฝีมือขอบเขตนักบุญถึงมือคนละหนึ่งเม็ด
มังกรดำนั้นสะสมโอสถจักรพรรดิไว้หลายพันเม็ด
กาลเวลาอันยาวนาน มีเพียงสวรรค์ที่รู้ดีว่าตลอดกาลที่ผ่านมามังกรดำรวบรวมสมบัติอย่างบ้าคลั่งไว้มากมายเพียงใด
แม้แต่หยวนอียังคิดว่ามังกรดำอาจไปยังอาณาจักรอื่น และรวบรวมสมบัติจากอาณาจักรอื่น…
ไม่เช่นนั้นมังกรดำคงไม่น่าสามารถรวบรวมสมบัติได้มากมายถึงเพียงนี้
สุดท้ายพวกอาวุธจักรพรรดิ โอสถจักรพรรดิ ค่ายกลจักรพรรดิ วัสดุจักรพรรดิเหล่านี้ก็ยากจะหาได้ และเป็นการยากที่จะรวบรวมของจำนวนมากจากเฉพาะในอาณาจักรนี้เท่านั้น
แต่การออกจากอาณาจักรแห่งนี้ ไปยังอาณาจักรอื่นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำได้เลย…
อย่างน้อยต้องไปถึงขอบเขตสูงสุดถึงจะออกไปได้ ต่ำกว่าขอบเขตสูงสุดนั้นยากจะปรากฏตนในแดนอื่น
หยวนอีได้สมบัติทั้งหมดที่มังกรดำเก็บหอมรอมริบมาแล้ว เพราะฉะนั้นการให้โอสถจักรพรรดิกับพวกเขาไปก็ไม่นับว่าเป็นอันใดเลย
นอกจากนี้ ยังไม่ถือว่าเสียเปล่าจริง ๆ
ภายใต้คำสาบานสวรรค์ เหล่ายอดฝีมือขอบเขตนักบุญจะต้องถือว่านางเป็นนายหญิง จงรักภักดีต่อนางชั่วชีวิต ยิ่งเหล่ายอดฝีมือขอบเขตนักบุญมีพลังศักดิ์สิทธิ์แข็งแกร่งมากเพียงใด พลังเหล่านั้นก็จะยิ่งเป็นประโยชน์ต่อนางมากขึ้นเท่านั้น
ไม่ว่าจะอยู่ที่แห่งนี้หรือจะไปสู้กับนางในอนาคต ยิ่งแข็งแกร่งเท่าใดก็ยิ่งดีเท่านั้น
“ขอบคุณขอรับ นายหญิง!”
“ขอบคุณขอรับ!”
หลังจากเหล่ายอดฝีมือขอบเขตนักบุญได้รับโอสถจักรพรรดิ แต่ละคนดีใจหน้าบาน กล่าวขอบคุณหยวนอีซ้ำแล้วซ้ำเล่า รวมถึงเรียกขานนายหญิงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ
บนใบหน้าของพวกเขาแปรเปลี่ยนเป็นยินยอมพร้อมใจอย่างแท้จริง
“ไปกันเถอะ…”
แล้วกลุ่มหยวนอีก็จากไป ร่างของพวกเขาหายไปจากเกาะมังกร
…
ณ เหยียนโจว ภาคกลาง
นิกายลับสวรรค์
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับสือเฟิงมาถึงนิกายลับสวรรค์
“ขออภัย!”
ผู้เฒ่าเมิ่งจีออกมาต้อนรับประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับสือเฟิงทันที และกล่าวขออภัยสือเฟิงหนึ่งคำ เป็นการบอกว่าเขาไม่มีเบาะแสเรื่องนี้เลย
มีบันทึกเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์ผักวิเศษน้อยมาก เขาเองก็ใช้กำลังทั้งหมดของนิกายลับสวรรค์ออกค้นหาแล้ว
ทว่าน่าเสียดายยิ่ง พวกเขายังไม่เจอเบาะแสอะไรเลยแม้แต่เบาะแสเดียว
กระทั่งผู้เฒ่าเมิ่งจียังกล่าวว่าเขาใช้วิชาพยากรณ์ค้นหาความลับสวรรค์แล้ว แต่ก็ไร้ประโยชน์
“จะบอกว่าไร้ประโยชน์ก็คงไม่ได้ ต้องเป็นเพราะการทำนายครั้งนี้ยากมาก อีกทั้งยังต้องใช้เวลานาน”
ผู้เฒ่าเมิ่งจีกล่าว
หากเขาไม่ได้อยู่กับท่านเซียนมาระยะหนึ่ง ทั้งยังได้รับคำชี้แนะมากมายจากท่านเซียน วิชาพยากรณ์ของเขาเองคงไม่มาถึงระดับนี้เช่นกัน…
เกรงว่าหากเขาเริ่มใช้วิชาพยากรณ์ เขาคงจะต้องประสบกับเคราะห์กรรมรุนแรงอย่างแน่นอน
สิ่งสำคัญที่สุดในวิชาพยากรณ์คือการประเมินกำลังตนเอง ยิ่งพยากรณ์ในสิ่งของไกลเกินตัวมากเท่าใด ก็ยิ่งต้องประสบเคราะห์กรรมมากขึ้นเท่านั้น
เขาคิดว่าการใช้วิชาพยากรณ์เช่นนี้ ขั้นต่ำคือควรอยู่ขอบเขตนักบุญ และดีที่สุดคือระดับจักรพรรดิ ทว่านี่มันไกลเกินตัวเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
โชคดีที่อาศัยกับท่านเซียนได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์และรับคำชี้แนะมากมายจากท่านเซียน วิชาพยากรณ์ของตัวเขาจึงประสบความสำเร็จสูงมาก ต่อให้เขาพยากรณ์หาของวิเศษมากมายก็ไม่ต้องประสบเคราะห์กรรม
ทว่าเฉกเช่นกับที่เขาได้กล่าวไว้ เขาเริ่มการพยากรณ์ก็รู้สึกได้ว่าการพยากรณ์ครั้งยากเย็นยิ่ง ไม่สามารถใช้เวลาสั้น ๆ พยากรณ์ออกมาได้ อย่างน้อยต้องใช้เวลาขั้นต่ำหนึ่งเดือน
แต่หนึ่งเดือนนานเกินไป…ถึงเวลานั้นเกรงว่าท่านเซียนคงจะปลูกผักไปแล้ว มิหนำซ้ำ ผักพวกย่อมแตกหน่อออกผล เติบใหญ่แล้วเป็นแน่
ดังนั้นเขาจึงไม่ได้พยากรณ์ต่อไป