รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 278 ของว่างอันประณีต เสริมสร้างความใกล้ชิดมหาเต๋า!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 278 ของว่างอันประณีต เสริมสร้างความใกล้ชิดมหาเต๋า!
ของว่างมีหลากหลายรูปแบบ แต่ละชิ้นล้วนงดงามละเอียดอ่อนดึงดูดใจ เพียงมองก็คล้ายจะกระตุ้นความอยากอาหารขึ้นมา ทำให้ต้องการลิ้มลองสักชิ้น
มีทั้งขนมอบที่ทำจากพุทรา ขนมที่ทำจากดอกไม้และข้าวบด ขนมธัญพืชที่ทำจากถั่วลิสง เมล็ดแตงโม และงาเป็นต้น…
เครื่องดื่มเป็นน้ำผลไม้ที่หลี่จิ่วเต้าทำขึ้นมาสำหรับเด็ก ๆ อย่างพวกอ้ายฉาน
ทันทีที่ของว่างและเครื่องดื่มถูกวางลงบนโต๊ะ พวกอ้ายฉานก็รีบพากันกรูเข้าไป
ฝีมือคุณชายนั้นยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง กินเข้าไปแล้วชวนให้พวกเขาเคลิบเคลิ้ม รสชาติอบอวลอยู่ในลำคอไม่จางหาย!
หลิงอินกับเซี่ยเหยียนเองก็มาร่วมวงด้วย พวกเขาต่างกลืนน้ำลายลงคออย่างอดใจไม่ไหว
อาหารสามารถทำให้ผู้ฝึกตนไม่อาจควบคุมความอยากกินของตัวเองได้หรือ?
หากยังไม่เคยพบท่านเซียนมาก่อน แล้วมีผู้มาพูดเช่นนี้ พวกนางในอดีตคงจะตบหน้าอีกฝ่ายอย่างไร้ซึ่งความลังเล
ทว่าหลังได้พบท่านเซียน ทั้งยังได้ลิ้มลองอาหารอันโอชะที่ท่านเซียนทำขึ้นมา พวกนางก็มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า อาหารสามารถทำให้ผู้ฝึกตนไม่อาจควบคุมความอยากกินของตัวเองได้!
ยังกินอาหารอยู่?
ดูเหมือนกับปุถุชนทั่วไป…
เมื่อซางเหิงได้ยินว่าหลี่จิ่วเต้าบอกให้อันหลานเสวี่ยนำของว่างและเครื่องดื่มออกมา ภายในใจก็รู้สึกผิดหวังขึ้นมา
ต่อให้เป็นผู้ที่บรรลุขอบเขตขั้นต่ำ ก็จะไม่รู้สึกหิวโหย ไม่ต้องกินบ่อยเท่าปุถุชนทั่วไป
ทว่าหลี่จิ่วเต้ายังต้องกิน…
แสดงว่าเขาคิดผิดไปจริง ๆ หลี่จิ่วเต้านั้นไม่ใช่เซียนแต่อย่างใด
ทว่าเขาก็ปล่อยวางอย่างรวดเร็ว ปัดเป่าความผิดหวังภายในใจออกไป
นับตั้งแต่สมัยโบราณมา เซียนเป็นเพียงตำนานเล่าขาน ไร้ผู้ใดสามารถบรรลุถึง เขาคิดไปได้อย่างไรว่าหลี่จิ่วเต้านั้นเป็น นี่ช่างเพ้อเจ้อเสียจริง
แต่เมื่ออันหลานเสวี่ยนำของว่างและเครื่องดื่มออกมา เขาก็พลันตัวแข็งทื่อ
นี่…นี่…นี่!
ของว่างแต่ละชิ้นประกอบด้วยปราณแห่งชีวิตอันยิ่งใหญ่เกินกว่าจะสามารถคาดถึง น้ำผลไม้มีกลิ่นหอมชวนลิ้มลองประหนึ่งน้ำอมตะ หนึ่งหยดสามารถมอบประโยชน์ไม่รู้จบเกินกว่าที่จะจินตนาการถึง!
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เซี่ยเหยียนและคนอื่น ๆ จะเข้าหาแบบไม่รู้ตัวยามที่นำของว่างออกมา!
ของว่างและเครื่องดื่มอะไรกัน นี่มันวาสนาการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ต่างหาก!
หัวใจของเขาเต้นรัวขึ้นมาในทันที
“ท่านเป็นผู้ทำขนมเหล่านี้หรือ…?”
เขาถามหลี่จิ่วเต้า
“ใช่แล้ว หากคุณชายซางไม่รังเกียจ ก็สามารถลองชิมได้” หลี่จิ่วเต้ากล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม
หลังจากได้ยินหลี่จิ่วเต้าตอบกลับมา หัวใจของซางเหิงประหนึ่งถูกคลื่นลูกใหญ่สาดซัด ในยามนี้เขาหมดซึ่งข้อสงสัยแล้ว หลิ่วจิ่วเต้า…เป็นเซียน!
ของว่างและเครื่องดื่มเหล่านี้น่าตื่นตะลึงและเหนือชั้นยิ่งกว่าโอสถจักรพรรดิ หากบอกว่าหลี่จิ่วเต้าไม่ใช่เซียน ตีเขาให้ตายอย่างไรก็ไม่เชื่อ!
เผ่าซางของเขาสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ในหมู่บรรพบุรุษมหาจักรพรรดิจำนวนมากถือกำเนิดขึ้นมา ทำให้เขาสามารถรับรู้ได้ว่าโอสถจักรพรรดิไม่อาจเปรียบเทียบได้กับของว่างและเครื่องดื่มเหล่านี้!
นอกจากเซียนแล้ว จะมีผู้ใดสามารถทำของว่างและเครื่องดื่มเช่นนี้ได้อีก?
ย่อมไม่มีอย่างแน่นอน!
คิดเช่นนี้แล้ว ภายในใจของเขาก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างถึงที่สุด
ตั้งแต่โบราณกาล เซียนนั้นเป็นเพียงตำนานเลื่อนลอยเล่าขาน ไม่อาจสืบเสาะพบเจอ ไม่อาจแน่ใจเสียด้วยซ้ำว่าบนโลกหล้านี้มีเซียนอยู่จริงหรือไม่ มีผู้ใดสามารถกลายเป็นเซียนได้หรือไม่!
ทว่าในตอนนี้ เซียนกลับปรากฏกายขึ้นต่อหน้าเขาจริง ๆ แล้วจะให้เขาไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร
เขาตื่นเต้นอย่างถึงที่สุด!
เซียน ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องเล่าขาน!
สิ่งสำคัญที่ทำให้เขาตื่นเต้นที่สุดก็คือ ท่านเซียนเอ่ยปากชวนเขารับประทานของว่างและเครื่องดื่ม!
เขากำลังจะกล่าวออกมาว่าขอบคุณท่านเซียน แต่เมื่อคำพูดขึ้นมาถึงริมฝีปาก เขาก็พลันนึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่ตอนที่ท่านเซียนพูดกับเขา ท่านเซียนเรียกตนเองว่าเป็นมนุษย์!
สิ่งนี้ทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก เหงื่อเย็นยะเยียบไหลลงจากหลังของเขา
กล่าวว่าตนเป็นมนุษย์เช่นนี้ ท่านเซียนต้องกำลังเดินท่องโลกหล้าในฐานะปุถุชน!
ไม่น่าแปลกใจเลยที่บนร่างของท่านเซียนไร้ซึ่งความผันผวนของพลัง ดูราวกับเป็นปุถุชนธรรมดาทั่วไปผู้หนึ่ง
เขาตระหนักได้ในทันที โชคดีที่เขาไม่ได้เอ่ยคำว่า ‘ท่านเซียน’ ออกมา มิเช่นนั้นคงไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำว่าตนเองจะตายเช่นไร!
ตลกน่า ท่านเซียนเรียกตนเองว่าเป็นมนุษย์ แต่เขากลับเรียกอีกฝ่ายว่าท่านเซียน นับว่าเป็นการตบหน้าท่านเซียนไม่ใช่หรือ จะกลับกลายเป็นว่าเขาไม่เห็นแก่หน้าท่านเซียน!
“คุณชายก็กล่าวเกินไป ขนมเหล่านี้งดงามประณีตเป็นอย่างมาก มีโอกาสได้ลิ้มรสสักครั้งในชีวิตนับว่าเป็นวาสนา!”
เขารีบเอ่ยขึ้นมา
“ฮ่า ๆ คุณชายซางก็กล่าวเกินจริงไป มาเถิด ไม่ต้องสุภาพแล้ว”
หลี่จิ่วเต้ายิ้ม ไม่ได้คิดอะไรมาก
เขาไม่คิดว่าตนเองจะยอดเยี่ยมสมกับคำยอของซางเหิง คิดเพียงว่าอีกฝ่ายคงจะเอ่ยชมเพื่อเอาอกเอาใจเซี่ยเหยียนอีกที
ใช่แล้ว ใครใช่ให้เซี่ยเหยียนเก่งกาจขนาดนั้นกัน
ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกตนคนใด ก็เกรงว่าล้วนแล้วแต่ต้องการจะเอาใจเซี่ยเหยียนผู้เก่งกาจ
พูดแล้วก็นึกถึงยามที่หยวนอีมายังชิงโจวในครั้งนั้น ขนาดนางยังต้องการจะเอาใจเซี่ยเหยียนเลย
“ขอบคุณ คุณชาย!”
ซางเหิงกล่าวขอบคุณท่านเซียน ก่อนจะหยิบขนมขึ้นมาหนึ่งชิ้น
เขากัดเข้าไปหนึ่งคำ ความกรอบอร่อยแพร่กระจายเต็มปาก ราวกับเขาได้เปิดประตูสู่โลกใบใหม่ ซางเหิงไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ขนมจะสามารถอร่อยได้ถึงเพียงนี้!
ปรากฏว่า…อาหารไม่ได้เอาไว้เพียงเพื่อสนองความหิว แต่ยังใช้เพื่อมอบความเพลิดเพลิน!
ยามนี้ เขาตระหนักถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวขึ้นมาได้!
หลังจากกินขนมเข้าไปเพียงหนึ่งคำเล็ก ๆ กลับรับรู้ได้ว่าร่างกายคล้ายมีกระแสน้ำอุ่นไหลผ่าน หล่อเลี้ยงทุกอวัยวะในร่างกายของเขา!
เขารู้สึกได้ว่าแก่นกำเนิดชีวิตของตนเองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพียงไม่นานก็เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าของปริมาณเดิม กล่าวได้ว่าอายุขัยของเขาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก!
ในขณะเดียวกัน เขาก็ยังรู้สึกเหมือนกับตนได้สัมผัสเข้ากับมหาเต๋า สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก!
‘สวรรค์! ไม่ใช่รู้สึกเหมือน…แต่ข้าได้สัมผัสเข้ากับมหาเต๋าจริง ๆ!’
ภายในใจของเขากู่ร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น เขาได้สัมผัสเขากับมหาเต๋าจริง ๆ มันทำให้เส้นทางการฝึนตนของเขาถูกกำหนดให้ราบเรียบไปจนตลอดทาง ไร้ซึ่งอุปสรรคอีกต่อไป!
นี่มันเหนือล้ำยิ่งกว่าโอสถจักรพรรดิจริง ๆ!
แม้เป็นโอสถจักรพรรดิก็ไม่สามารถทำให้สัมผัสมหาเต๋าได้!
ขนมเพียงหนึ่งชิ้น กลับมีความสามารถท้าทายสวรรค์ นี่คือ…ความเก่งกาจท่านเซียน?
“อร่อยหรือไม่?”
หลี่จิ่วเต้าถาม
ซางเหิงพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนพูดออกมาด้วยความจริงใจอย่างถึงที่สุด “อร่อย อร่อยมาก! นี่เป็นสิ่งที่อร่อยที่สุดบนโลกใบนี้อย่างแน่นอน!”
หลี่จิ่วเต้ากล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม “ถ้าอร่อยก็กินอีกเยอะ ๆ ข้าทำเอาไว้หลายอย่าง กินได้อย่างไม่ต้องห่วง”
ภายในใจของเขามีความสุขเป็นอย่างยิ่ง เห็นได้ว่าในครั้งนี้ซางเหิงไม่ได้เอ่ยเพื่อเยินยอ แต่ประทับใจในรสชาติของของว่างที่เขาทำจริง ๆ
“มา ๆ ทุกคนมากินกัน”
เขาพูดกับเซี่ยเหยียนและคนอื่น ๆ
พวกเซี่ยเหยียนเองต้องการที่จะกินนานแล้ว แต่ในเมื่อท่านเซียนยังไม่ได้เอ่ยปาก พวกเขาจึงไม่กล้าจะลงมือกิน
ตอนนี้ท่านเซียนได้เอ่ยปากออกมาแล้ว พวกเขาทุกคนก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว หยิบของว่างที่ตนเล็งเอาไว้นานแล้วขึ้นมากิน
“อร่อย!”
“อร่อยมากเลย!”
พวกเขาทั้งชื่นชมและคุยกันว่าของว่างชิ้นไหนอร่อยกว่ากัน ปากของพวกเขาเต็มไปด้วยขนมอบแสนอร่อย
“เมี้ยว เมี้ยว เมี้ยว~”
ลั่วสุ่ยที่เห็นว่าพวกเซี่ยเหยียนกำลังกินกันอย่างเอร็ดอร่อยก็พลันหิวขึ้นมา นางกลืนน้ำลายอยู่เป็นระยะ ขณะที่หางของแมวน้อยส่ายไปมาไม่หยุด
ข้า…ข้า…ข้าเองก็อยากกินนะ!