รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 301 ผู้หญิงของท่านเซียนหรือ? คิกคิก เช่นนั้นก็ดีไปเลย!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 301 ผู้หญิงของท่านเซียนหรือ? คิกคิก เช่นนั้นก็ดีไปเลย!
เช้าตรู่
ดวงตะวันเจิดจ้า แสงสีทองสาดส่องลงมาบนพื้นดินคล้ายมีชั้นทองคำปกคลุมอยู่
“หลับสบายจัง!”
หลิงอินตื่นขึ้นพร้อมกับบิดกายอย่างเกียจคร้าน แล้วนางก็ลุกขึ้นจากที่นอน ใบหน้าขาวนวลของหญิงสาวปรากฏรอยยิ้มหวาน
เมื่อคืนนี้นางนอนหลับสบายยิ่ง เรียกได้ว่าไม่เคยรู้สึกสบายเท่านี้มาก่อน ทั้งร่างกายและจิตใจปลอดโปร่ง นอนหลับสนิทมาก
เพียงแต่เมื่อนางพินิจรอบ ๆ แล้วก็พลันตกตะลึง รอยยิ้มหวานบนใบกลายเป็นแข็งค้างในทันใด
ที่นี่…มันไม่ใช่ห้องของนาง!!!
มันเกิดอะไรขึ้น!
นางนอนที่ไหน!?
ไม่ถูกต้อง ไม่ถูกต้อง…
นางรู้ตัวทันทีว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง จึงกระโดดลงจากเตียงทันที
แต่หลังจากนางลุกจากเตียง นาง… นางก็ต้องตกตะลึงยิ่งกว่า!
“ไม่มีทาง ชุดของข้า…!”
ดวงตากลมโตของนางเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ ชุดของนางรวมถึงชุดชั้นในของนางถูกใครบางคนเปลี่ยน!
ผู้ใดเปลี่ยนให้นาง!?
นางโมโหยิ่งนัก ในชาติที่แล้วร่างกายของนางบริสุทธิ์ผุดผ่อง ในชาตินี้ร่างกายของนางก็สมควรบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วยเช่นกัน มาตอนนี้ความบริสุทธิ์ผุดผ่องของทั้งสองชาติหายไปแล้ว!?
“ข้าจะฆ่าคนผู้นี้เสีย!!!”
นางกัดฟันกรอด ทั่วร่างเต็มไปด้วยจิตสังหาร มือผลักประตูเดินออกจากห้อง นางอยากดูว่าที่นี่คือที่ไหน!
ผู้ใดจะรู้ นางออกมาก็เจอกับท่านเซียนแล้ว
“อ้าว ตื่นแล้วหรือ เมื่อคืนเจ้าเอาแต่ทำแล้วทำเล่า…” (หลิงอินเข้าใจว่า ‘ทำแล้วทำเล่าจริง ๆ’ ขณะที่หลี่จิ่วเต้าหมายถึง ‘นางนอนพลิกตัวไปมาไม่หยุด’)
ชายหนุ่มหาวพลางบ่นเล็กน้อย
ท่านเซียน…เหตุใดท่านเซียนถึงอยู่ที่นี่!?
ที่นี่…คือที่พำนักของท่านเซียน?
เมื่อคืนยังทำแล้วทำเล่าด้วย!
นี่มันหมายความว่าอย่างไร!?
นาง…นางกลายเป็นผู้หญิงของท่านเซียนไปแล้วหรือ!?
หลับนอนบนเตียงของท่านเซียน ชุดชั้นในทั้งหมดก็ถูกเปลี่ยน แล้วยังจะ…ทำแล้วทำเล่าอีกหรือ!
ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อทันที แดงเหมือนผลทับทิม
หลี่จิ่วเต้าเห็นใบหน้าของหลิงอินแดงมาก ก็คิดว่าเมื่อคืนนี้นางดื่มมากเกินไป ตอนนี้ยังไม่สร่างเมาดี!
“เหตุใดเจ้าไม่นอนต่อเล่า? ดูเหมือนเจ้านอนหลับไม่ค่อยสนิท ก็นะ เมื่อคืนเจ้าจะนอนหลับนอนได้อย่างไร เมื่อคืนเจ้าร้องโวยวายจะทำอยู่หลายครั้ง กระดูกของข้าถูกเจ้าทำระบมไปหมดแล้ว!”
แล้วหลี่จิ่วเต้าก็กล่าวต่ออีกว่า “เจ้าไปนอนเถอะ ข้าทำอาหารสร็จแล้วจะเรียกเจ้าเอง”
กล่าวจบ เขาก็ออกจากห้องไปทำอาหาร
กระดูกของท่านเซียนถูกนางทำระบมไปหมดแล้ว!!!
นาง…เมื่อคืนนางร้อนแรงขนาดนั้นเชียว!?
ทันใดนั้นทั้งร่างของนางก็แดงระเรื่อ
ยังจะ…ฆ่าดีหรือไม่?
ก่อนหน้านี้นางโวยวายจะฆ่าคน แต่ตอนนี้พอรู้แล้วว่าคนผู้นั้นคือใคร…
“ผู้หญิงของนายท่าน…คิกคิก”
นางคล้ายกับหญิงสาวที่กำลังตกอยู่ในห้วงความรัก ซ้ำยังยิ้มโง่งมออกมาโดยไม่รู้ตัว
ฆ่าคน?
ฆ่าใคร?
ฆ่าท่านเซียน?
นางทำไม่ได้!
นางมีความสุขจนแทบทนไม่ไหวน่ะสิ!
น่าเสียดายเรื่องเมื่อคืนนางเมาจนจำอะไรไม่ได้เลย ไม่อย่างนั้นประสบการณ์กับท่านเซียนเมื่อคืน คงจะเป็นความทรงแสนหวานอย่างแน่นอน…
“นี่ ตื่นสิ เจ้าคิดอะไรอยู่!?”
แมวสีขาวตัวน้อยลั่วสุ่ยมาแล้ว พอได้ยินคำพูดของหลิงอิน นางก็โกรธทันที
ผู้หญิงของนายท่านอะไร!?
นี่กลางวันแสก ๆ ยังจะฝันกลางวันอีกหรือ!?
“เจ้าไม่เข้าใจ…”
หลิงอินหัวเราะอีกครั้ง นางกอดลั่วสุ่ย ลูบขนอันนุ่มฟูบนร่างของลั่วสุ่ยพลางกล่าวว่า “จากนี้ไปข้าจะเป็นนายหญิงของเจ้า”
ลั่วสุ่ยขนลุกขนพอง กระโดดลงจากตักหลิงอิน พร้อมกับหันมาแยกเขี้ยวใส่นางทันที “เจ้าพูดจาเพ้อเจ้ออะไร!!!”
“คิกคิก หลังจากนี้เจ้าจะรู้เอง”
หลิงอินยิ้มโง่งม ไฉนเลยจะเหลือภาพลักษณ์สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งสมัยโบราณกาลอยู่อีก?
นางกระซิบอีกว่า “พอดีเลย ต่อไปท่านแม่กับป้าหวังจะได้ไม่ต้องเร่งรัดให้แต่งงานอีก”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วสุ่ยก็เข้าใจแล้ว
หลิงอินคิดว่าเมื่อคืนนี้มีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นกับนางและท่านเซียน!
“คิดอะไรอยู่! เมื่อคืนเจ้าเมาแล้วตกลงไปในอ้อมแขนของนายท่าน นายท่านช่วยพาเจ้ากลับห้องไปนอน ผู้ใดจะรู้ว่าเจ้าประพฤติตัวไม่งาม อยู่บนเตียงนอนพลิกตัวไปมา เมาแล้วก่อความวุ่นวาย ทั้งเตะทั้งต่อย นอนดิ้นไปมาครึ่งค่อนคืน!”
ลั่วสุ่ยกล่าวต่อไปว่า “นายท่านกับเจ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น สะอาดบริสุทธิ์ยิ่ง อย่าได้คิดเละเทอะอีก! หลังจากเจ้าหลับไปแล้ว นายท่านก็ไปนอนห้องข้าง ๆ”
“หา!?”
หลิงอินอับอายมาก เมื่อครู่ท่านเซียนหมายถึงพลิกตัวไปมาหรอกหรือ?
“ไม่ถูกต้อง เช่นนั้น ชุดของข้าเล่า?”
หลิงอินกล่าว ชุดของนางถูกเปลี่ยนหมดแล้วรวมถึงชุดชั้นในด้วย เรื่องนี้จะไม่จริงได้อย่างไร?
“ข้าเปลี่ยนให้เจ้า!”
ลั่วสุ่ยจ้องหลิงอินอย่างขุ่นเคืองพลางกล่าวว่า “ตอนกลางดึกข้าตื่นขึ้นมาได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของเจ้า จึงลุกขึ้นมาดู เห็นเจ้าอาเจียนเลอะเทอะ ก็เลยช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าทั้งหมดให้เจ้า รวมถึงเก็บกวาดที่นี่ให้ด้วย!”
“อ๊า…”
ตอนนี้หลิงอินอับอายเป็นอย่างยิ่ง ใบหน้าของนางแดงก่ำ รู้สึกอยากจะมุดรอยแตกบนพื้น แล้วเอาตัวเองไปซ่อน!
ช่างขายขี้หน้านัก!
ทุกอย่างเป็นเพียงจินตนาการของนางทั้งสิ้น!
มาลองคิดดูแล้ว ท่านเซียนจะทำเรื่องเช่นนี้กับคนไม่มีสติได้อย่างไร!
“อย่าคิดมาก มีข้าคอยดูแลเจ้าอยู่!”
ลั่วสุ่ยกล่าวพลางมองหลิงอิน
…
บนยอดเขา วังพำนักของเณรน้อย
“ร้ายกาจเกินไปแล้ว!”
เณรน้อยลืมตาขึ้น เขาฝึกตนเสร็จสิ้นแล้ว
ตั้งแต่กลับมา เขาก็เอาแต่บำเพ็ญ ทั้งสุราและเนื้อมีพลังมหาศาลเหนือคาด เขาได้รับประโยชน์มากมาย!
หลังเสร็จสิ้นการหลอมรวมแล้ว ร่างกายกับจิตวิญญาณของเขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่!
ผิวของต้าเต๋อเปล่งประกาย เจิดจ้าศักดิ์สิทธิ์เหนือสามัญ ปรากฏลวดลายอักขระเต๋าเป็นครั้งคราววิเศษเหนือสรรพสิ่ง!
ลวดลายอักขระเต๋ากายเนื้อ นี่คือขอบเขตกายเนื้อขั้นสูงมีชื่อว่า ร่างหมื่นอมตะ!
มีกายเนื้อเช่นนี้ ไม่ต้องเกรงกลัวผู้ใดบนโลกนี้แล้ว!
นี่เป็นขอบเขตกายเนื้อเทียบเท่าขอบเขตสูงสุด!
สูงสุดนั้นยังไม่สมบูรณ์ ผู้ฝึกตนขอบเขตสูงสุดมากมายไม่อาจครอบครองขอบเขตกายเนื้อขั้นสูงได้ มหา
จักรพรรดิจึงได้พบจุดจบ
หากอยากก้าวเข้าสู่ขอบเขตมหาจักรพรรดิ ร่างกาย จิตเต๋า จิตวิญญาณทั้งหมดต้องส่งเสริมไปด้วยกัน
ครั้งเมื่อสิ่งมีชีวิตขอบเขตสูงสุดดำรงอยู่ แต่พวกเขาไม่มีความสามารถในการครอบครองร่างหมื่นอมตะ
ร่างหมื่นอมตะเป็นกายเนื้อที่ยากจะบำเพ็ญได้ แม้แต่ในสมัยโบราณ สิ่งมีชีวิตขอบเขตสูงสุดมากมายก็มีเพียงหนึ่งหรือสองตนเท่านั้น ที่บำเพ็ญร่างหมื่นอมตะจนสำเร็จ
“จิตวิญญาณสูงสุด!”
เณรน้อยตื่นตระหนกอย่างยิ่ง
ดื่มสุราทำให้จิตวิญญาณของเขาได้รับการขัดเกลา เดิมทีจิตวิญญาณของเขาแตกต่างจากยอดฝีมือธรรมดาอยู่แล้ว แต่มาตอนนี้หลังเสร็จสิ้นการบำเพ็ญ เขาก็ได้ครอบครองจิตวิญญาณสูงสุดในคราวเดียว!
จิตวิญญาณสูงสุด! ร่างหมื่นอมตะ!
ขนาดขอบเขตสูงสุดยังไม่สามารถครอบครองสองสิ่งนี้ในคราวเดียวได้ ทว่าตอนนี้เขาที่อยู่เพียงขอบเขตพรตเต๋ากลับครอบครองมันได้แล้ว นี่จะไม่ให้เขาตื่นเต้นได้อย่างไร!?
จิตวิญญาณคือสิ่งสำคัญสำหรับการบำเพ็ญ ไม่ใช่แค่ขอบเขตการฝึกตนก้าวหน้าอย่างเดียว จิตวิญญาณก็จะต้องก้าวหน้าด้วยเช่นกัน
บำเพ็ญไม่ใช่เรื่องง่าย ขอบเขต จิตเต๋า กายเนื้อ จิตวิญญาณล้วนแต่ต้องบำเพ็ญด้วยตนเอง!
“แปลกยิ่งนัก เหตุใดที่นี่ถึงมีนักรบพระโพธิสัตว์มากมาย?”
เณรน้อยขมวดคิ้ว จิตวิญญาณสูงสุดทำให้เขาสัมผัสได้ว่า มีนักรบพระโพธิสัตว์แปดตนกำลังตรงมาที่นี่
นักรบพระโพธิสัตว์ เป็นผู้พิทักษ์พระพุทธะในพุทธศาสนา ฟังเพียงแต่คำสั่งของพระพุทธะเท่านั้น มักจะไม่ค่อยเคลื่อนไหว เหตุใดจึงได้มาที่นี่กะทันหัน?
เกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นหรือไม่?
หรือมาเพราะยอดนิกาย?
เขารู้ว่าเกาเซิงรายงานเรื่องยอดนิยายให้เบื้องบนทราบแล้วแต่ไม่น่าใช่ หากมาเพราะเรื่องนอกพุทธศาสนาก็ควรให้พระอาจารย์มาสิ ไม่น่าจะต้องให้นักรบพระโพธิสัตว์มาด้วยตนเอง!
“ตรงมาหาข้าแล้ว!”
เขาได้ยินการสนทนาระหว่างนักรบพระโพธิสัตว์กับพระอาจารย์เกาเซิง นักรบพระโพธิสัตว์แปดตนกำลังมาหาเขา!