รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 327 ความเจ็บปวดทวีเป็นเท่าตัว ทั้งหมดนี้สาสมแก่ความผิดแล้ว!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 327 ความเจ็บปวดทวีเป็นเท่าตัว ทั้งหมดนี้สาสมแก่ความผิดแล้ว!
“นี่หรือคือชีวิตที่ผ่านมาของจักรพรรดิบุปผา!?”
“ทั้งหมดล้วนเป็นของคนอื่นหรือ!”
บรรดาจ้าวสูงสุดยุคโบราณเบิกตากว้าง พวกนางมีพลังค่อนข้างสูง จึงได้ยินวาจาที่จักรพรรดิบุปผากล่าว
พวกนางไม่รู้ต้องสรรหาคำใดมาเอื้อนเอ่ย รู้สึกระคายใจอย่างยิ่ง อะไรกัน จักรพรรดิบุปผามิเคยพึ่งตนเอง ทั้งหมดล้วนลักเอาจากผู้อื่นทั้งนั้น!
“ในยุคโบราณ โอรสธิดาสวรรค์มากมายหายตัวไปอย่างลึกลับ แต่ละตระกูลอลหม่านกันแทบบ้า แต่สุดท้ายก็ไม่เจอตัวว่าเป็นฝีมือผู้ใด! บัดนี้ความจริงเปิดเผย เป็นฝีมือของนางทั้งหมด!”
“ไร้มนุษยธรรมจริง ๆ ทำร้ายใครต่อใครไปตั้งเท่าใดเพียงเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง!!!”
บรรดาจ้าวสูงสุดจากยุคโบราณสบถก่นด่า คนเราสามารถอำมหิตเห็นแก่ตัวได้ถึงปานใด จักรพรรดิบุปผาช่วยให้พวกนางได้เห็นแล้ว
“บรรพจารย์ทั้งหลาย พวกท่านพูดถึงเรื่องใดอยู่หรือ”
“เล่าให้พวกเราฟังบ้างสิ!”
สมาชิกหุบเขาคงหลิงไม่น้อยพากันปริปาก ขอบเขตพลังของพวกนางต่ำต้อยเกินไป ไม่อาจได้ยินบทสนทนาของจักรพรรดิบุปผา
“น่าชิงชังนัก!”
“นี่คือความอัปยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเราหุบเขาคงหลิง!”
บรรดาจ้าวสูงสุดจากยุคโบราณได้ยินกันถ้วนหน้าว่าจักรพรรดิบุปผาเอ่ยสิ่งใดออกมาบ้าง
“อะไรนะ!”
“ผู้ที่พวกเราเคารพนับถือเป็นคนเยี่ยงนี้หรือนี่!?”
หลังสมาชิกหุบเขาคงหลิงได้ฟังก็อึ้งกันหมด
จักรพรรดิบุปผาผู้เป็นตำนานที่พวกนางภาคภูมิที่แท้เป็นโจรหรือนี่!
คนผู้นี้สารเลวจริง ๆ!
พรวด พรวด พรวด!
อีกด้าน บาดแผลตามตัวจักรพรรดิบุปผามากขึ้นเรื่อย ๆ เลือดไหลไม่หยุด นางกลายเป็นมนุษย์เลือดไปอย่างสิ้นเชิง สภาพน่าอนาถเหลือคณา
นางคำรามกราดเกรี้ยว “ที่ข้านิทราในที่แห่งนี้เป็นคำสั่งของทะเลต้องห้าม ในอนาคต พวกมันจักเข้ามาปลุกข้า! เจ้าฆ่าข้าไป แรงกายแรงใจที่ทะเลต้องห้ามใช้ไปกับการบำเพ็ญข้าจะเสียเปล่า แผนการก็ได้รับผลกระทบ ถึงครานั้น ทะเลต้องห้ามย่อมไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่ เจ้าไม่มีทางจบดีแน่!”
นางยังกระเสือกกระสนหาทางรอด หวังว่าทะเลต้องห้ามจักข่มขวัญหลิงอินได้บ้าง
อนิจจา หลิงอินไม่เคยกลัวทะเลต้องห้ามอะไรนั่นมาตั้งแต่ต้น!
หลิงอินไม่ว่ากล่าวสิ่งใด คันศรใหญ่ในมือยิงออกไปอย่างไม่หยุดหย่อน เพลงฉินที่ร่างอวตารเป็นผู้บรรเลงก็ดังต่อไปเรื่อย ๆ เงาคล้ายนางเซียนกับศรอาบแสงจู่โจมจักรพรรดิบุปผาไม่เลิกรา!
เสียงดังพรวด ท้ายที่สุดจักรพรรดิบุปผาก็ทานไม่ไหว ถูกศรยิงร่วงจากนภา ตรึงร่างไว้กับพื้น
พลังปราณของนางอ่อนแรงถึงขีดสุด พลังในกายเหลืออยู่เพียงน้อยนิด การต่อสู้ดุเดือดนี้ผลาญพลังของนางไปจนหมด
“อ๊าก อ๊าก อ๊าก!”
นางคำรามเสียงโศกา ระทมทุกข์เป็นหนักหนา
นางอยู่เหนือมหาจักรพรรดิ แต่กลับพ่ายแพ้ให้ราชันเทวาคนหนึ่ง จะให้นางรู้สึกดีได้เยี่ยงไร
นับแต่โบราณกาล นางคงเป็นคนแรกที่อนาถถึงเพียงนี้กระมัง!
“อย่าโหวกเหวก ประเดี๋ยวมีเวลาให้เจ้าใช้เสียง ไว้ค่อยครวญครางตอนนั้นแล้วกัน!”
หลิงอินเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเย็นชา
ในที่สุดนางก็กำราบจักรพรรดิบุปผาลงได้!
“ปล่อยข้าไปเถิด ขอร้อง ปล่อยข้าไปเถิด! ให้โอกาสข้าสักครา เจ้าให้ข้าทำสิ่งใดก็ยอม!”
จักรพรรดิบุปผาร่ำไห้ขอความเมตตา นางไม่อยากตายจริง ๆ
“ปล่อยเจ้าไปหรือ!?”
หลิงอินเดือดดาลจนแทบคุมไม่อยู่ “เจ้ายอมปล่อยเสี่ยวหยาหรือ? เสี่ยวหยามิได้ขอให้เจ้าอย่าฆ่านาง นางขอเพียงเจ้านำร่างของนางไปด้วย แล้วเจ้าทำสิ่งใดไป เจ้าไม่เพียงแต่ไม่พาร่างของเสี่ยวหยาไป ซ้ำร้ายยังเย็บติดศีรษะของเสี่ยวหยา กลัวว่าพี่ชายของเสี่ยวหยาจะจำนางไม่ได้!”
นางเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ยิ่งคิดยิ่งแค้น สั่นเทิ้มไปทั้งร่าง
“เจ้ายังมีหน้ามาขอร้องข้าให้ปล่อยเจ้าไปอีกหรือ!”
ดวงตาของนางจ้องเขม็งจักรพรรดิบุปผาด้วยความกราดเกรี้ยว เปลวเพลิงโทสะลุกโชนถึงขีดสุด
กระนั้นนางยังข่มใจตัวเองไว้ได้
นางกลัวว่าตัวเองจะปลิดชีพจักรพรรดิบุปผาไปเฉย ๆ!
หากเป็นเช่นนั้นจักรพรรดิบุปผาคงสบายเกินไป!
หลังได้ยินวาจาของหลิงอิน จักรพรรดิบุปผาสำนึกเสียใจเป็นที่สุด
นางช่างแกว่งเท้าหาเสี้ยนเก่งเหลือเกิน!
ไยต้องฉายภาพเหตุการณ์ในครานั้นขึ้นมาอีกครั้งด้วย!?
ตอนนี้สิดี…เหมือนนางยกหินทุ่มใส่เท้าตนเอง อยากตายดี ๆ ยังยาก!
“ข้าจักบรรเลงบทเพลงเพื่อส่งเจ้า!”
หลิงอินกล่าวเสียงเยียบเย็น
จากนั้น ร่างอวตารของนางนำฉินเฟิ่งหมิงมาที่นี่
ร่างอวตารของนางเริ่มดีดบรรเลง คลื่นพลังประหลาดปกคลุมจักรพรรดิบุปผา
“เจ้า…เจ้าคิดจะทำอันใด!?”
จักรพรรดิบุปผากลัวจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง นางตระหนักขึ้นมาว่านางจะตกอยู่ในสภาพน่าสังเวช!
“ให้เจ้าได้ลิ้มรสสิ่งที่เจ้าได้กระทำกับเสี่ยวหยา!”
หลิงอินยกมือเรียกมีดสั้นเล่มหนึ่งออกมา นางมองจักรพรรดิบุปผาพลางกล่าว “เพลงฉินบทนี้มีคุณสมบัติสร้างความทวีคูณ ประสาทสัมผัสด้านต่าง ๆ ของเจ้าจักเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว รวมถึงความเจ็บปวดของเจ้าด้วย!”
นางกรีดมีดสั้นผ่านร่างจักรพรรดิบุปผาเบา ๆ ผิวหนังไม่ถลอกด้วยซ้ำ ทว่าจักรพรรดิบุปผากลับรู้สึกเหมือนถูกกระบี่คมแทงเข้ากระดูก เจ็บขนาดที่จักรพรรดิบุปผารับไม่ไหว คำรามเสียงร้าวราน
“เจ้า…เจ้าฆ่าข้าเถิด!”
จักรพรรดิบุปผาตะโกนลั่น บัดนี้นางปรารถนาเพียงความตาย
มีดสั้นกรีดผ่านผิวหนังนางเบา ๆ นางเจ็บจนทนไม่ไหวปานนี้ หากต้องถูกขุดกระดูกจริง ๆ ต้องเจ็บปวดเพียงใด!?
นางมิกล้าคิด!
“คนชั่วเวรกรรมย่อมตามสนอง บาปที่เจ้าได้กระทำ ท้ายที่สุดเจ้าต้องเป็นผู้ชดใช้เอง!”
สีหน้าหลิงอินเย็นชา นางไม่เคยโกรธแค้นผู้ใดเท่านี้มาก่อน นางไม่สามารถให้อภัยจักรพรรดิบุปผาได้เลย!
นางลงมือด้วยตัวเอง มีดสั้นกรีดผ่านเลือดเนื้อของจักรพรรดิบุปผา ค่อย ๆ ขุดกระดูกของจักรพรรดิบุปผาออกมาทีละน้อย!
ระหว่างนี้ จักรพรรดิบุปผาปวดร้าวใจแทบขาด เจ็บจนทนไม่ไหว ความเจ็บปวดที่ทวีคูณนี้แม้แต่ตัวตนขอบเขตมหาจักรพรรดิอย่างนางยังต้านทานไม่ได้!
“เจ้ารู้จักเจ็บด้วยหรือ! เสี่ยวหยาเล่า? ยามเจ้าขุดกระดูกเสี่ยวหยาไยไม่คิดบ้างว่าจะพบจุดจบอย่างวันนี้!”
หลิงอินไม่เห็นใจจักรพรรดิบุปผาแม้แต่น้อย จุดจบเยี่ยงนี้สาสมแก่จักรพรรดิบุปผาแล้ว!
ทว่าท้ายที่สุดนางก็มิใช่จักรพรรดิบุปผา นางไม่เหมือนจักรพรรดิบุปผา ไม่อาจอำมหิตเช่นนาง
หลังขุดกระดูกของจักรพรรดิบุปผาออกไป นางยิงศรทะลุวิญญาณจักรพรรดิบุปผา ปลิดชีพนางลง ณ ที่นี้
นางต้องการให้จักรพรรดิบุปผาได้ลิ้มรสความเจ็บปวดของการขุดกระดูก!
จากนั้น นางทำลายกระดูกและกายเนื้อของจักรพรรดิบุปผาจนราบคาบ ไม่ให้เหลือแม้แต่น้อย!
นางยังเก็บโลงศพหินและของเหลวสีดำประหลาดไปอีกด้วย
โลงศพหินและของเหลวสีดำประหลาดไม่ธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด นางต้องการศึกษาเมื่อมีเวลา
“หากมีคนจากทะเลต้องห้ามมา พวกเจ้านำข่าวมาแจ้งข้าได้เลย”
หลิงอินมาอยู่ข้างกายพวกจ้าวหุบเขา “พวกเจ้ามีศาสตราที่ติดต่อสื่อสารได้ทุกเมื่อใช่หรือไม่ นำมาให้ข้าสักชิ้น”
นางเห็นการกระทำสุดท้ายของจ้าวหุบเขาและสมาชิกอื่น ๆ ของหุบเขาคงหลิงทั้งหมด
ทำผิดไม่น่ากลัว สิ่งที่น่ากลัวคือไม่ยอมรับผิด ไม่ยอมปรับปรุงแก้ไข
จ้าวหุบเขาและสมาชิกอื่น ๆ ของหุบเขาคงหลิงรู้จักแก้ไขเมื่อทำผิด ไม่แม้แต่จะกลัวความตาย ข้อนี้หาได้ยากยิ่ง
และเพราะเหตุนี้ นางถึงขอศาสตราที่ใช้ติดต่อได้ทุกเมื่อจากจ้าวหุบเขา
ตามคำกล่าวอ้างของจักรพรรดิบุปผา ทะเลต้องห้ามไม่มีทางเลิกราง่าย ๆ หากพวกมันมาจริง หุบเขาคงหลิงไม่อาจสกัดได้เลย
ในเมื่อเหล่าสมาชิกของหุบเขาคงหลิงสำนึกผิดแล้ว เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องพาผู้บริสุทธิ์ติดร่างแหไปด้วย นางจะรับผิดชอบเรื่องนี้ ต่อกรกับทะเลต้องห้ามด้วยตนเอง!
“มี!”
จ้าวหุบเขาเข้าใจเจตนาของหลิงอิน นางสั่งให้ผู้อาวุโสนำศาสตราที่ใช้ติดต่อได้ทุกเมื่อมาและยื่นให้หลิงอิน
หลิงอินรับศาสตรามาพลางพยักหน้า “จริงสิ นำแท่นค่ายกลมาให้ข้าเยอะ ๆ ให้ข้าสะดวกแก่การมาที่นี่ได้ทุกเมื่อ”
“ได้!”
จ้าวหุบเขาสั่งให้ผู้อาวุโสนำแท่นค่ายกลเข้ามาอีก ก่อนจะยื่นให้หลิงอิน
“ก่อกรรมทำเข็ญ ภัยย่อมย้อนมาถึงตัว ไตร่ตรองดี ๆ เรื่องของจักรพรรดิบุปผาถือว่าเป็นอุทาหรณ์เตือนใจ เดินบนวิถีที่ถูกต้อง อย่าหลงไปบนเส้นทางนอกรีต!”
หลิงอินกล่าว ก่อนจะคลี่แท่นค่ายกลออก ก้าวขึ้นไปและไปจากที่นี่
เวลานี้ฟ้าเพิ่งสาง ไม่มีผู้ใดคิดได้ว่าภายในเวลาหนึ่งคืนจะเกิดเหตุการณ์มากมายเยี่ยงนี้ และที่ยิ่งคิดไม่ถึงคือ การดำรงอยู่ซึ่งอยู่เหนือมหาจักรพรรดิตนหนึ่งต้องสิ้นชีพอย่างสมบูรณ์!