รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 329 เผ่ามัจฉาสัตมายา ทั้งหมดอยู่ในโอ่ง ทำไมจะไม่เกี่ยวกับข้า?
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 329 เผ่ามัจฉาสัตมายา ทั้งหมดอยู่ในโอ่ง ทำไมจะไม่เกี่ยวกับข้า?
“เป็นเช่นนั้นจริงหรือ?”
หลี่จิ่วเต้ามองผู้เฒ่าเฮ่อกับสือเฟิง พวกเขาสองคนมาจากภาคกลาง
“ใช่ขอรับ ทิวทัศน์ของยอดเขาท่องนภาไม่ควรพลาดจริง ๆ นายท่าน ยอดเขาท่องนภาเป็นสถานที่งดงามแห่งหนึ่งเชียว”
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกล่าว
“เอาสิ เช่นนั้นพวกเราอยู่เที่ยวชมยอดเขาท่องนภาสักหลายวันก็ดี”
หลี่จิ่วเต้ามองหานเยว่และกล่าวว่า “ขอบคุณแม่นางที่แนะนำ”
“ไม่ต้องขอบคุณ เป็นเรื่องธรรมดา”
หานเยว่แย้มยิ้มแต่ในใจกล่าวว่า ข้าควรจะขอบคุณเจ้ามากกว่า
จากนั้นนางก็กล่าวลาจากไป กลับเขาหยงหมิงของตระกูลหาน
“มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือไม่”
แม่เฒ่าตระกูลหานถามหานเยว่
“อืม มีเจ้าค่ะ!”
หานเยว่เล่าทุกอย่างให้แม่เฒ่าฟัง
หลังจากได้ยิน แม่เฒ่าก็หัวเราะออกมาพลางกล่าวว่า “เยว่เอ๋อร์ เจ้าทำดีมาก!”
เมื่ออยู่บริเวณใกล้เขาหยงหมิง พวกเขาลงมือไม่ได้
ถึงอย่างไร ยอดฝีมือของแต่ละตระกูลโบราณกับสำนักชื่อดังล้วนแต่อยู่ในเขาหยงหมิง หากลงมือใกล้เขาหยงหมิงมันเสี่ยงเกินไป
หานเยว่แนะนำให้พวกหลี่จิ่วเต้าไปเที่ยวที่ยอดเขาท่องนภา นี่ถือเป็นโอกาสดีของพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
พวกเขาสามารถเตรียมการในยอดเขาท่องนภาเอาไว้ล่วงหน้า ถึงเวลานั้น พวกเขาจะมั่นใจมากขึ้น!
“ข้าทำไม่ได้ดีขนาดนั้นหรอก หลี่จิ่วเต้าผู้นั้นต่างหากที่ยอดเยี่ยม รับไม้ต่อไปจัดการ”
หานเยว่กล่าวด้วยรอยยิ้ม นางไม่คิดว่ามันจะราบรื่นถึงเพียงนี้ นี่เพราะหลี่จิ่วเต้าช่วยเอาไว้มาก
“ฮ่าฮ่า ถึงเวลานั้นก็เก็บศพหลี่จิ่วเต้าเอาไว้ให้ครบสมบูรณ์แล้วกัน ถือว่าเขาช่วยทำเรื่องดี ๆ!”
แม่เฒ่าหัวเราะเสียงดังพลางกล่าวว่า “ข้าจะนำเรื่องนี้รายงานท่านประมุข!”
ผู้อาวุโสของตระกูลหานกับผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลหาน รวมถึงบรรพชนของตระกูลฉงฉีที่ใกล้มาถึงเขาหยงหมิงแล้ว จึงต้องเตรียมพร้อมลงมือตามแผนการ
นางพลันออกจากเขาหยงหมิงและตามหาผู้อาวุโสตระกูลอื่น
…
แดนฝอ
ยอดเขาจิ่วฉง
ที่แห่งนี้คือสถานที่กักขังพุทธสาวกที่กระทำความผิด
ต้าเต๋อนั่งอยู่บนสิงโตแปดหัว ทั่วตัวมีสีขนเปล่งประกาย ในมือถือไหสุรา ทั้งร่างของเขาเจือไปด้วยกลิ่นสุรารสเข้ม
เขายกไหสุราขึ้นจิบอีกครั้ง ใบหน้าเล็ก ๆ เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองพลางกล่าวว่า “นี่ เจ้าสิงโตแปดหัวตัวประหลาด เจ้าคิดว่าเหตุใดพระสังฆราชถึงขังข้าไว้ในนี้?”
“…”
สิงโตแปดหัวพูดไม่ออกแต่ในใจกล่าวว่า เจ้าถามข้า แล้วข้าจะไปถามใครกัน!
ช้าก่อนนะ สิงโตแปดหัวตัวประหลาดคืออันใดกัน!!!
บัดซบ!
เจ้าน่ะสิประหลาด!
บิดาของมันอยู่ในตระกูลเก่าแก่อย่างสิงโตทองเก้าหัว สายเลือดสูงส่งมาก ครั้งหนึ่งบรรพชนเคยเป็นพาหนะของพระเถระองค์ใหญ่ผู้สูงศักดิ์มิใช่หรือ?
ตัวมันมีแปดหัว นั่นเป็นเพราะถูกเจ้าตัดหนึ่งหัวไปทำน้ำแกงมิใช่หรือ!!!
ยิ่งเณรน้อยคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็ยิ่งรู้สึกผิดจึงกระดกสุราเข้าไปอีกอึกหนึ่ง
“สุราของพระอากาศครรภมหาโพธิสัตว์ไม่เลว ข้าเมาแล้ว…เมื่อใดพระสังฆราชจะปล่อยข้าไปเสียที”
เณรน้อยนอนเมาอยู่บนสิงโตแปดหัวพลางเอ่ยเสียงเบา
“คงอีกไม่นานแล้ว พระสังฆราชไม่ได้โกรธเจ้า ครั้งนี้ข้าเดาว่าคงลงโทษเจ้าเล็กน้อย”
สิงโตแปดหัวกล่าว
ฐานะของพุทธบุตรกลับชาติมาเกิดนั้นสูงส่งเกินไป พระสังฆราชย่อมไม่ทำอะไรกับเณรน้อยอย่างแน่นอน
หากมันไม่รู้เรื่องนี้ มันคงกัดเณรน้อยตายไปแล้ว มันจะปล่อยให้เณรน้อยตัดหัวมันไปทำน้ำแกงดื่มได้อย่างไร!
มันก้าวเข้าสู่ขอบเขตเทวาแล้ว เณรน้อยห่างชั้น ยากจะเป็นคู่ต่อกรของมัน
“เป็นเช่นนั้นหรือ?”
เณรน้อยเมามายไม่ได้สติ “เอาไว้ตอนเย็น… น้ำแกงอร่อยดี ถ้าเช่นนั้น…รอข้ากินหมดค่อยปล่อยข้าออกไปก็ได้”
“!!!”
สิงโตแปดหัวสบถสาปส่งในใจ มันอดนึกถึงหัวสิงโตของมันอย่างเสียมิได้!!!
มารดามันเถอะ! อยากถูกถีบสักคราหรือไม่!
พระสังฆราช ท่านรีบปล่อยตัวหายนะน้อยนี้ไปเสียที ท่านไม่ลงโทษตัวหายนะน้อย แต่ขังเขาไว้ที่นี่นับเป็นการลงโทษข้าโดยแท้!
หากช้ากว่านี้เกรงว่าจะไม่เหลือหัวแล้ว!
มันภาวนาในใจถึงพระพระสังฆราชให้รีบปล่อยเณรน้อยออกไปเร็ว ๆ
“เฮ้อ…”
เณรน้อยถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขารู้ว่าครั้งนี้ไม่ง่ายอย่างนั้นแน่นอน
ดูจากท่าทีของพระพระสังฆราชที่มีต่อเขา…
หากไม่ใช่เรื่องใหญ่ พระสังฆราชคงไม่ปฏิบัติกับเขาเช่นนี้
“ช่างเถอะ อย่ากังวลไป ทำทุกวันให้มีความสุขก็พอ!”
เณรน้อยปรือตาก่อนจะหลับไป
…
ณ เหยียนโจว แดนบูรพาทิศ เมืองชิงซาน
ภายในลานบ้านของหลี่จิ่วเต้า
จ๋อม จ๋อม!
ในโอ่งน้ำ มีมัจฉากลุ่มหนึ่งจับกลุ่มคุยกันบางอย่าง
แม้จะไม่ได้พูดออกมาแต่พวกมันสื่อสารกันเป็นภาษามัจฉา
“ท่านเซียนไม่อยู่บ้าน นี่เป็นโอกาสดีที่พวกเราจะหนี!”
“ใช่ หลังจากท่านเซียนกลับมา พวกเราจะหนีไปไหนไม่ได้อีกเลย!”
มัจฉาฝูงหนึ่งสุมหัวคุยกัน
พวกมันกำลังปรึกษากันว่าจะหนีออกไปจากที่นี่!
ให้ตายเถิด หากพวกมันไม่หนีไป ไม่แคล้วว่าพวกมันทั้งหมดจะต้องเป็นอาหารของแมวขาวตัวน้อย ถูกแมวขาวตัวน้อยนั่นจับกินในภายหลัง
“พี่น้องกำลังคุยอะไรกัน”
มัจฉาสัตมายาแหวกว่ายส่ายหางไปมา
“ไปซะ ไม่ใช่เรื่องของเจ้า”
“ที่จริงมันก็ไม่เกี่ยวกับเจ้า”
มัจฉากลุ่มหนึ่งบอกมัจฉาสัตมายา
มัจฉาสัตมายาตอบกลับทันที “ให้ตาย เราต่างก็เป็นมัจฉาในโอ่งเดียวกัน จะไม่เกี่ยวกับข้าได้อย่างไร!”
มันถูกกีดกันหรือ?
นี่ทำให้มันโกรธเป็นอย่างมาก!
“อย่าสร้างปัญหา มันไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้าเลย!”
“ถึงอย่างไรเจ้าก็ไม่ตาย โชคดีได้รับความสามารถท้าทายสวรรค์มา!”
ฝูงมัจฉากล่าวอย่างริษยา
มัจฉาสัตมายาโชคดีมาก อีกฝ่ายเป็นมัจฉาชุดแรกที่ถูกจับมาแต่ยังมีชีวิตอยู่ดีกินดี!
ทว่าพวกมันไม่โชคดีเหมือนมัจฉาสัตมายา จึงจำต้องหนีจากที่นี่ มิฉะนั้น พวกมันทั้งหมดจะเข้าไปอยู่ในท้องแมวขาวตัวน้อยแทน!
“ข้าจะโชคดีตลอดเวลาได้อย่างไร! ครั้งที่แล้วท่านเซียนบอกอยากกินข้า!”
เผ่ามัจฉาสัตมายาว่ายเข้ามา พลันเข้าใจเรื่องที่มัจฉาพวกนี้กำลังคุยกัน
มัจฉาเหล่านี้กำลังถกกันเพื่อหนี!
“มันไม่เหมาะกับข้าจริง ๆ เจ้าทำกันเถอะ…”
แล้วเผ่ามัจฉาสัตมายาก็ว่ายจากไป
ท่านเซียนทรงพลังเพียงใด หากไม่ได้รับอนุญาตจากท่านเซียน หากอยากหนีนั่นย่อมเป็นการรนหาที่ตายอย่างแท้จริง เพราะฉะนั้นจงเก็บชีวิตไว้ในโอ่งเถอะ
อย่างน้อยก็ยังคงมีความหวังริบหรี่!
แม้ว่าความหวังนี้จะริบหรี่สุด ๆ ก็ตาม…
มัจฉาตัวอื่น ๆ ยังคงวางแผนต่อ ในที่สุดพวกมันก็หารือกันตัดสินใจจะช่วยส่งมัจฉาตัวหนึ่งออกไปก่อน
พลันก็เริ่มเคลื่อนไหว กลุ่มมัจฉารวมตัวกันและช่วยส่งหนึ่งในนั้นออกไป
ครั้งที่หนึ่ง ครั้งที่สอง พวกมันพยายามหลายครั้งก็ยังไม่สำเร็จ
แต่ถึงกระนั้นพวกมันไม่คิดยอมแพ้ ในที่สุด พวกมันก็ร่วมช่วยด้วยกัน ส่งมัจฉาตัวหนึ่งออกไปได้สำเร็จ!
“ฮ่าฮ่า!”
“สำเร็จแล้ว!”
มัจฉาในโอ่งตื่นเต้นดีใจ
“ข้า… ข้าสามารถใช้พลังของข้าได้จริง ๆ!”
มัจฉานอกโอ่งมัจฉายิ่งตื่นเต้นอย่างมาก ทั้งตัวของมันเปล่งประกาย พลังในร่างกายเคลื่อนไหวไหลลื่น ฟื้นพละกำลังกลับมา!
“เข้าใจแล้ว! เหยื่อตกมัจฉาระงับพลังของพวกเราหายไปแล้ว สิ่งที่ระงับพลังของพวกเราที่แท้เป็นโอ่งน้ำ!”
มันตะโกนเสียงดังว่าเข้าใจทุกอย่างแล้ว
จ๋อม! จ๋อม!
มัจฉาตัวอื่นในโอ่งไม่สามารถพูดภาษามนุษย์ได้ พวกมันจึงได้แต่ส่งเสียงร้องตะโกน
พวกมันอยากให้มัจฉาข้างนอกเอาพวกมันออกไปด้วย!