รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 355 ไม่เลว ก้าวหน้าได้ว่องไวปานนี้!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 355 ไม่เลว ก้าวหน้าได้ว่องไวปานนี้!
“คิดผิดหรือ?”
จ้าวหุบเขาคิดไม่ถึงว่าหลิงอินจะให้คำตอบเช่นนี้
ผิดตรงไหนกัน?
หรือว่าหลิงอินไม่ได้มาจากยอดนิกาย?
ทว่าหลิงอินไม่เอ่ยวาจาและไม่อธิบายให้มากความ
แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธสถานะสมาชิกยอดนิกายเช่นกัน
การปฏิเสธสถานะสมาชิกยอดนิกายรังแต่จะเพิ่มความยุ่งยากขึ้นไปอีก พาให้ผู้อื่นคาดเดาถึงฐานะของนางไปต่าง ๆ นานา แล้วถ้าโยงไปถึงท่านเซียนคงไม่ดีแน่
มีฐานะสมาชิกยอดนิกายบังหน้าก็ดีเหมือนกัน
นางมิได้พูดจา แต่สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามตนนั้นพูดขึ้นแทน
“เจ้าคิดผิด”
สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามหัวเราะ หันมองจ้าวหุบเขาพลางเอ่ย “สายน้ำของอาณาจักรเทียนหยวนลึกล้ำกว่าที่พวกเจ้าคิดมากนัก! พวกเจ้าคิดว่ามันเป็นเพียงอาณาจักรระดับกลาง แท้จริงแล้วสิ่งที่หนุนหลังมันอยู่ชวนสยดสยองเป็นที่สุด!”
ความเข้าใจที่คนนอกมีต่ออาณาจักรเทียนหยวนนั้นผิวเผิน ทว่าทะเลต้องห้ามไม่เหมือนกัน พวกมันรู้จักอาณาจักรเทียนหยวนในเชิงลึกกว่า
จุดประสงค์ของอาณาจักรเทียนหยวนมิได้ธรรมดาแค่นั้น
แต่ดูเหมือนมันไม่อยากพูดสิ่งใดไปมากกว่านี้
พูดจบ มันก็หันไปมองหลิงอิน “ตามข้าไปเถิด จ้าวสมุทรเชิญเจ้าไปที่ทะเลต้องห้าม”
“เชิญข้าไป ข้าก็ต้องไปหรือ?”
หลิงอินมองสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามพลางเอ่ย “ข้าอยากเชิญเขามาเหมือนกัน เจ้าไปเชิญเขามาที่นี่ดีหรือไม่”
“ข้ามีความเกรงใจ ไม่อยากลงมือกับเจ้า หวังว่าเจ้าจะมองสถานการณ์ตรงหน้าให้ออก อย่าหาเรื่องใส่ตัวเลย”
สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามกล่าว
“ขออภัย ข้าไม่มีความเกรงใจต่อเจ้า!”
หลิงอินชูมือ คันศรใหญ่คันหนึ่งพลันปรากฏบนมือนางทันที นางค้อมตัวดึงคัน ยิงศรไปยังสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามทันที!
สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามตนนี้ปลิดชีพผู้คนในที่แห่งนี้ไปมาก หุบเขาคงหลิงมีโลหิตหลั่งไหลเป็นลำธาร นางไม่มีทางปล่อยสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามตนนี้ไว้แน่!
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
นางยิงศรรัว แต่ละศรล้วนน่าประหวั่นพรั่นพรึง แฝงไว้ด้วยพลังอันน่าหวาดหวั่น วาดผ่านรัตติกาล ห้ำหั่นตรงไปข้างหน้า!
“ต้องลงมือให้ได้เลยหรือ”
สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามมีสีหน้าราบเรียบ กระทั่งไม่เกรงกลัวศรทั้งหลายที่ยิงมาหามัน
หมอกทมิฬชวนพิศวงเหลือคณาไหลเวียนอยู่รอบกายของมัน จำแลงออกมาเป็นฝ่ามือใหญ่มากมาย คว้าศรทั้งหมดที่ยิงเข้ามากำไว้ในมือ
ปัง! ปัง! ปัง!
จากนั้นมือใหญ่ของมันก็ออกแรง ศรทุกดอกระเบิดแหลกลาญในพริบตา กลายเป็นเศษสะเก็ดแสง เมื่อมือดำแบออกมา เศษเหล่านั้นก็กระจายลงพื้น
พลังของมันกล้าแกร่งมาก เหนือกว่าจักรพรรดิบุปผาอย่างเห็นได้ชัด มิฉะนั้นมันคงไม่กล้าอาละวาดตามอำเภอใจที่หุบเขาคงหลิงเป็นแน่ ถึงอย่างไรจักรพรรดิบุปผาก็ยังสิ้นชีพในมือหลิงอินมาแล้ว
หญิงสาวขมวดคิ้ว ทะเลต้องห้ามนี่ช่างพรั่นพรึงยิ่งนัก
พลังรบระดับนี้ แม้กระทั่งในยุคโบราณยังมีอยู่น้อยมาก การที่ทะเลต้องห้ามมีกำลังรบระดับนี้ในยุคนี้นับเป็นเรื่องน่าตกใจเหลือแสน!
“ไปได้แล้ว!”
สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามมิได้พูดสิ่งใดไปมากกว่านี้ มือใหญ่สีดำข้างหนึ่งคว้าไปทางหลิงอินอย่างรวดเร็ว
“คิดมากไปแล้ว!”
หลิงอินหัวเราะเสียงเย็น นางดึงคันศรอีกครั้ง ศรอาบแสงดอกใหญ่พลันปรากฏ ยิงมือใหญ่สีดำข้างนั้นระเบิดดังตู้ม!
“หืม!?”
ดวงตาของสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามหรี่ลง พลังจากศรนี้ของหลิงอินเกินความคาดหมายของมันยิ่ง
ศรนี้ทรงพลังและน่ากลัวกว่าพลังของศรเมื่อครู่ขึ้นไปอีก
เพียงแต่นี่เพิ่งผ่านไปไม่กี่วัน พลังที่หลิงอินปลดปล่อยออกมาได้แข็งแกร่งขึ้นแล้วหรือ?
หนก่อนที่มันมาสืบเสาะก็ได้รับทราบทุกอย่างแล้ว
ครานั้น มันแทรกซึมเข้ามาในหุบเขาคงหลิงโดยตรง จับตัวผู้อาวุโสคนหนึ่งของหุบเขาคงหลิงไว้โดยมิให้ผู้ใดรู้ตัว แล้วค้นวิญญาณของผู้อาวุโสหุบเขาคงหลิงผู้นั้น จึงรับทราบเรื่องราวทุกอย่าง
ยามหลิงอินสังหารจักรพรรดิบุปผามิได้หวังพึ่งพลังเพียงอย่างเดียว พลังของนางไม่สามารถบดขยี้จักรพรรดินีได้ นางค่อย ๆ ผลาญพลังของจักรพรรดิบุปผาไปเรื่อย ๆ จวบจนพลังของจักรพรรดิบุปผาสลายจนสิ้นถึงปลิดชีพจักรพรรดิบุปผาได้
ทว่าพลังจากศรนี้ที่หลิงอินยิงออกมา เหนือกว่ายามนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย
ไม่ต้องมีข้อกังขาใดอีก ช่วงหลายวันที่ผ่านมา หลิงอินต้องได้รับการยกระดับพลังมหาศาลเป็นแน่!
หากนางสามารถปล่อยพลังได้ระดับนี้ในครานั้น นางย่อมไม่จำเป็นต้องใช้วิธีผลาญพลังของจักรพรรดิบุปผาก็สามารถปลิดชีพจักรพรรดิบุปผาได้สบาย
มันไม่อยากจะเชื่อ!
เวลาไม่กี่วันกลับก้าวหน้าได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ?
ใช่แล้ว!
เวลาแค่ไม่กี่วันสามารถก้าวหน้าได้ถึงเพียงนี้แหละ!
ไม่กี่วันก่อน หลิงอินยังอยู่ในขอบเขตราชันเทวา ทว่าบัดนี้ หลิงอินบรรลุเป็นนักบุญแล้ว!
มิใช่กึ่งนักบุญ หากแต่เป็นนักบุญอย่างแท้จริง!
หลายวันมานี้นางใช้ชีวิตอยู่กับท่านเซียนมาตลอด ท่องเที่ยวชมทิวทัศน์ไปทั่วภาคกลาง ยามท่านเซียนได้เห็นทัศนียภาพอันงดงามก็ประพันธ์บทกวีออกมามากมาย
ในบทกวีเหล่านั้นมีปรมัตถ์แห่งมหาเต๋าอันน่าทึ่งแฝงอยู่ หลังนางได้ฟังแล้วขบคิดอย่างถี่ถ้วน ก็ได้รับผลประโยชน์มหาศาล ความเข้าใจที่มีต่อมหาเต๋านั้นทวีคูณไปอีกหลายขั้น!
ขอบเขตพลังของนางบรรลุรวดจากขั้นราชันเทวาจนถึงขั้นยอดเทวา แล้วก้าวสู่ขอบเขตกึ่งนักบุญ จนท้ายที่สุดพ้นจากกึ่งนักบุญกลายเป็นนักบุญอย่างแท้จริง!
การยกระดับของขอบเขตนั้นเป็นเรื่องรอง
เรื่องสำคัญที่สุดคือความเข้าใจที่นางมีต่อมหาเต๋านั้นยกระดับขึ้นมหาศาล!
พูดอย่างไม่เกินจริง ด้วยระดับความเข้าใจในมหาเต๋าที่นางมีในตอนนี้ เทียบเคียงกับระดับมหาจักรพรรดิได้อย่างแน่นอน!
และจากนี้ไป ความเร็วในการไต่ระดับของนางจะยิ่งไวขึ้นอีก!
นางได้กินอาหารสูงส่งมากมายจากท่านเซียน ในกายมีพลังสั่งสมอยู่เต็มเปี่ยม ก่อนนี้ขอบเขตของนางต่ำเกินไป พลังที่ดูดซับได้จึงมีจำกัด ซ้ำยังเชื่องช้ามากอีกด้วย
ทว่าคล้อยตามขอบเขตที่เพิ่มพูนของนาง พลังที่นางดูดซับได้ก็มากขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งยังไวขึ้นด้วย!
ผนวกกับความเข้าใจที่มีต่อมหาเต๋าอยู่ในขั้นมหาจักรพรรดิ หลังจากนี้ นางสามารถยกระดับตนเองจนถึงขอบเขตมหาจักรพรรดิได้อย่างไร้อุปสรรค!
แล้วยังใช้เวลาไม่นานอีกด้วย!
พลังของกายเนื้อ หัวใจเต๋า และวิญญาณของนางล้วนนำโด่งไปไกล ไม่ถึงขั้นทัดเทียมมหาจักรพรรดิ แต่ก็ห่างไม่มากนัก
การบรรลุมหาจักรพรรดิมิใช่เรื่องยากสำหรับนางอีกต่อไปแล้ว!
ความเข้าใจในมหาเต๋าก้าวสู่ขั้นมหาจักรพรรดิ ช่วยให้นางได้ประโยชน์มหาศาล วิถีแห่งฉินและวิถีแห่งธนูของนางล้วนก้าวหน้าขึ้นอย่างมาก!
มิหนำซ้ำมันยังทำให้นางสำแดงฤทธิ์ของฉินเฟิ่งหมิงและคันศรวิเศษได้ทรงพลังขึ้นอีกด้วย!
กล่าวโดยไม่เกินจริง นางในตอนนี้ปลิดชีพจักรพรรดิบุปผาในครานั้นได้สบาย!
“ข้าบรรเลงเพลงฉินให้เจ้าฟังแล้วกัน”
ร่างของหลิงอินเอนไหว นางปล่อยอวตารร่างหนึ่งพุ่งออกไป และเรียกฉินเฟิ่งหมิงในเวลาเดียวกัน
ร่างอวตารของนางดีดฉินบรรเลง พลานุภาพของท่วงทำนองแห่งฉินสำแดงออกมา ยังคงเป็นบทเพลง ‘เซียนโบยบินในห้วงนภา’!
เงาคล้ายนางเซียนเงาหนึ่งหลอมรวมขึ้นจากเพลงฉิน ก่อนจะตวัดกระบี่ยาวสีเขียวพุ่งเข้าไปหาสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้าม
ร่างต้นของหลิงอินค้อมตัวดึงคัน ยิงศรขนปีกออกไปศรแล้วศรเล่า จู่โจมสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามควบคู่กับเงาคล้ายนางเซียน!
ตอนนี้สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามไม่อาจรักษาความสุขุมได้อีกต่อไป
มันคิดไม่ถึงว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ สถานการณ์เริ่มดำเนินไปในทางที่มันเสียเปรียบ
พลังของฉินวิเศษและคันศรวิเศษปะทุออกมาเต็มกำลัง พุ่งขนาบกันเข้าไป สะกดข่มอย่างยิ่งยวด!
“เจ้าคิดกระไรอยู่! ไม่ว่าเจ้าน่าทึ่งปานใด เจ้าก็ไม่อาจต่อกรกับทะเลต้องห้ามได้!”
มันคำรามกราดเกี้ยว พลังปราณน่าพรั่นพรึงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนจะปะทุพลังออกมาเหมือนกัน และปล่อยพลังกับวิชาทั้งหมดที่มันมีออกมา!
ไม่ว่าอย่างไร มันก็ต้องนำตัวหลิงอินกลับไปยังทะเลต้องห้ามให้จงได้!