รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 398 เพิ่มราคา อย่างไรก็ต้องเพิ่มราคา!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 398 เพิ่มราคา อย่างไรก็ต้องเพิ่มราคา!
สมาชิกเครือข่ายข่าวสารขั้นสี่ของกองกำลังฮวงเฉวียนมาถึงเกือบครบแล้ว ทว่าพวกเขายังไม่ทันเริ่มต้นสืบค้น ก็ได้รับสัญญาณบอกให้ถอย
“อะไรกัน!”
“อู๋ฉีก็ตายแล้วหรือ!?”
“นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไร!”
หน้าตาพวกเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ อย่างไรก็เชื่อไม่ลง
อู๋ฉีเป็นผู้นำของพวกเขา และเป็นคนที่ฝีมือโดดเด่นที่สุด ระดับพลังอยู่ในขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุด อีกนิดเดียวก็สามารถก้าวสู่ขั้นตี้หวง!
และผู้ที่อู๋ฉีรับผิดชอบคือหลี่จิ่วเต้า
ทว่าอู๋ฉีเป็นเช่นเดียวกับหนานเจี๋ย ทันทีที่ไปถึงก็ถูกจับได้ ซ้ำยังสิ้นชีพลง จะให้พวกเขาทำใจเชื่อได้อย่างไร!?
เกินมนุษย์!
เกินมนุษย์จริง ๆ!
หลี่จิ่วเต้าเป็นใครกันแน่!
เหตุใดถึงได้น่าประหวั่นพรั่นพรึงถึงเพียงนี้!?
ก่อนหน้านี้ กองกำลังฮวงเฉวียนของพวกเขาไม่เคยพานพบเรื่องเช่นนี้มาก่อน สมาชิกยอดเยี่ยมที่สุดในเครือข่ายข่าวสารขั้นสี่ออกโรง ตายทันทีที่ไปถึง นับเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นแน่นอน!
พวกเขามิกล้าลังเลมัวเสียเวลาอยู่ รีบล่าถอยทันที
อู๋ฉีตายแล้ว หมายความว่าภารกิจของพวกเขาล้มเหลวอีกครั้ง หากพวกเขายังไม่ถอยเกรงว่าคงต้องตายไปด้วย!
…
นอกเมืองชิงซาน ริมลำธาร
“พวกนี้มันตัวอะไรกัน?”
ต้นหลิวเอ่ยอย่างสงสัย มันกับก้อนหินจับปุถุชนตัวปลอมหมายจะเข้าเมืองชิงซานได้อีกหนึ่ง
คนผู้นี้เป็นพวกเดียวกับคนก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด พลังปราณคล้ายคลึงกันสุด ๆ
คนผู้นี้มีพลังไม่เบา อำพรางตัวได้ดียิ่ง ทว่าเทียบกับพวกมันยังห่างชั้นกันอยู่มาก
พวกมันเห็นคนผู้นี้ในปราดเดียวก็ย้ายเขาเข้าไปในมิติพิเศษทันที
เพราะมีประสบการณ์จากคราวก่อน หลังจากพวกมันย้ายอีกฝ่ายเข้ามาในมิติพิเศษแล้ว ก็ทำการสะกดพลังทั้งหมดของเขาไว้ทันที ป้องกันมิให้คนผู้นี้ฆ่าตัวตายเฉกเช่นคนก่อน
พวกมันต้องการล้วงข้อมูลจากคนผู้นี้ให้ได้มากขึ้น เพื่อให้พวกมันอารักขาได้ดียิ่งขึ้น
แต่สิ่งที่พวกเขาคิดไม่ถึงคือ ในวิญญาณของคนผู้นี้มีผนึกอยู่เช่นกัน!
ทันทีที่พวกมันใช้พลังวิญญาณ ทำท่าจะตรวจสอบความทรงจำในวิญญาณของเขา ผนึกในวิญญาณของคนผู้นี้ก็ทำงาน แผดเผาทั้งวิญญาณและกายเนื้อของเขาเป็นจุณ!
“ป้องกันอย่างไรก็ไม่หมด!”
ก้อนหินกล่าวด้วยน้ำเสียงแค้นใจ คนกลุ่มนี้อำมหิตและลึกลับใช้ได้ เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลรั่วไหลถึงกับวางผนึกเต็มร่างกายไปหมด!
“ไม่ว่าอย่างไร เจ้ากับข้าต้องปกปักรักษาที่นี่ให้ดี จะปล่อยให้คนพวกนี้เข้าไปในเมืองไม่ได้เด็ดขาด!”
ต้นหลิวเอ่ยเสียงจริงจัง
…
ณ ดินแดนฮวง
บนยอดเขาตั้งโดด ภายในตำหนักย่อยฮวงเฉวียนมโหฬาร
“ขาดทุน ขาดทุนย่อยยับ!”
นายตำหนักย่อยโมโหจนกระทืบเท้า แต่ไหนแต่ไรกองกำลังฮวงเฉวียนของพวกเขาไม่เคยขาดทุนมาก่อน หนนี้กลับขาดทุนมหาศาล!
ไม่ว่าเมื่อใด ข้อมูลคือสิ่งสำคัญที่สุด และหนานเจี๋ยกับอู๋ฉีสองคนล้วนเป็นมือดีในการรวบรวมข้อมูล ฝึกฝนวิชาซ่อนอำพรางได้แตกฉาน
เป็นผู้มีฝีมือที่หาได้ยากยิ่ง กองกำลังฮวงเฉวียนของพวกมันทุ่มเทกายใจไปมากกว่าจะสั่งสอนออกมาได้สักคน
บัดนี้กลับพากันตายไปทีละคน อย่าให้พูดเลยว่าเขาปวดใจปานใด!
“อ๊าก! ค่าตอบแทนทั้งหมดรวมกันยังไม่พอมูลค่าของคนที่ตายไปเพียงคนเดียวเลย!”
เขาคำรามลั่น อย่าให้พูดเลยว่าสำนึกเสียใจปานใด
รู้อย่างนี้ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะไม่รับภารกิจจากจักรพรรดิหาน!
เสียหายเกินไปแล้ว
ค่าตอบแทนทั้งหมดที่จักรพรรดิหานมอบให้ รวมถึงที่ยอมรับใช้พวกเขาร้อยปี ยังไม่พอหักล้างกับการตายของหนานเจี๋ยเพียงคนเดียว!
“เพิ่มราคา อย่างไรก็ต้องเพิ่มราคา!”
เขาเอ่ยเสียงเคียดแค้น สั่งให้พาตัวจักรพรรดิหานเข้ามา
“ภารกิจสำเร็จแล้วหรือ”
จักรพรรดิหานเดินออกมายิ้ม ๆ ฮวงเฉวียนออกโรง ไม่เคยพ่ายแพ้มาก่อน
เขาคิดว่าพวกหลี่จิ่วเต้าถูกจัดการไปแล้ว
ขอเพียงพวกหลี่จิ่วเต้าถูกจัดการ ตระกูลหานของพวกเขาก็หมดอันตราย สามารถเดินเหินอยู่ในโลกภายนอกได้อย่างสง่าผ่าเผย
แม้ว่าบัดนี้สมาชิกทั้งหมดในตระกูลหานของพวกเขาล้วนอยู่กับกองกำลังฮวงเฉวียน กระนั้นกองกำลังฮวงเฉวียนไม่เคยขอให้พวกเขาอยู่ที่นี่ตลอด
การนี้เป็นเพียงชั่วคราว
กองกำลังฮวงเฉวียนระบุชัดแล้วว่าขอเพียงจัดการพวกหลี่จิ่วเต้าได้ แล้วจะปล่อยพวกเขาออกไป สร้างตัวใหม่อีกครั้งในโลกภายนอก แล้วคอยคำสั่งก่อนดำเนินการใด
“จัดการได้กับผีสิ!”
นายตำหนักย่อยเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “กองกำลังฮวงเฉวียนของเราสูญเสียสมาชิกสำคัญไปสองคน เพิ่มราคา ต้องเพิ่มราคา!”
“หา?”
หลังจักรพรรดิหานได้ยินคำกล่าวของนายตำหนักย่อย ดวงหน้าของชายชราพลันเปลี่ยนเป็นสีเขียวในบัดดล
ยังจะ…เพิ่มราคาอีกหรือ!?
เขาขายสมาชิกทั้งหมดของตระกูลหานให้แล้ว จะเพิ่มจากตรงไหนอีก?
“เพิ่มอีกหนึ่งร้อยปี ไม่สิ เพิ่มอีกหนึ่งพันปี!”
นายตำหนักย่อยเอ่ยเสียงเจ็บแค้น
บวกอีกหนึ่งร้อยปีก็ยากจะชดเชยมูลค่าที่เสียไปเพราะการตายของหนานเจี๋ยและอู๋ฉี อย่างน้อยก็ต้องหนึ่งพันปี!
“ไม่ใช่แล้วกระมัง!”
อย่าให้พูดเลยว่าจักรพรรดิหานทรมานใจเพียงใด พับผ่าสิ บวกราคาขึ้นไปทีเดียวถึงพันปีเลยหรือ
“เรื่องนั้น… ข้าเลือกยกเลิกภารกิจได้หรือไม่”
เขาพูดอย่างอดไม่ได้ ไม่อยากดำเนินการต่อแล้วจริง ๆ นี่มันเรื่องอะไรกัน ขืนเพิ่มราคามั่วซั่วเช่นนี้ ตระกูลหานของพวกเขาจะยังมีอิสรภาพเหลืออยู่หรือ
มิต้องเป็นทาสของกองกำลังฮวงเฉวียนไปนิรันดรเลยรึ!
“ได้ แต่ต้องทำงานให้เราครบห้าร้อยปีก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”
นายตำหนักย่อยกล่าว
ไอ้…เวร!
มีเหตุผลบ้างหรือไม่!?
จักรพรรดิหานก่นด่าในใจเป็นชุด ให้ตายสิ เขายกเลิกภารกิจก็ไม่ได้หรือ ยังต้องเป็นทาสอีกห้าร้อยปี!?
สวรรค์ยังมีตาอยู่หรือไม่!
ใจดำ!
ใจดำ…ฉิบ!
ดำทมิฬยิ่งกว่าหลุมดำไร้ที่สิ้นสุดเสียอีก!
“พันปีก็พันปี พวกท่าน…ดำเนินการต่อเถิด!”
จักรพรรดิหานกลับไปทันที ไม่อยากเสวนากับนายตำหนักย่อยอีก
บ้าจริง…ขืนเสวนาต่อ น่ากลัวว่าคงไม่ใช่แค่พันปี!
“ครั้งสุดท้าย หากยังไม่สำเร็จดำเนินการต่อไม่ได้แล้ว”
ภายในตำหนักมโหฬาร นายตำหนักย่อยพึมพำกับตัวเอง
เขาเตรียมปลุกสมาชิกเครือข่ายข่าวสารขั้นห้า!
จากผลการตรวจสอบล่าสุดที่ส่งกลับมา เซี่ยเหยียนยังมีของวิเศษที่ดียิ่งกว่าในตัว และหลี่จิ่วเต้าในฐานะผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในคนทั้งหมด น่ากลัวว่ามีของวิเศษมากกว่านี้อีก
หากสำเร็จ พอจะชดเชยค่าเสียหายที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้บ้าง
ขณะเดียวกัน ยังรวมถึงราคาของการปลุกสมาชิกเครือข่ายข่าวสารขั้นห้า
ทว่าหากปลุกสมาชิกเครือข่ายข่าวสารขั้นห้าขึ้นมาทั้งหมด ค่าเสียหายนั้นมากเกินกว่าจะชดใช้ได้หมด ต่อให้พวกหลี่จิ่วเต้ามีสมบัติมากมายปานใดก็ไม่ไหว
เป้าหมายการตั้งเครือข่ายข่าวสารขั้นห้ามิใช่เพื่อปฏิบัติภารกิจเหล่านี้…
“ปลุกหนึ่งคนเพื่อต่อกรกับหลี่จิ่วเต้าโดยเฉพาะ!”
เขาตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว
ปัญหาทั้งหมดเกิดขึ้นกับหลี่จิ่วเต้า ขอเพียงจัดการอีกฝ่ายได้ คนอื่น ๆ ย่อมจัดการได้ง่าย
ท้ายที่สุด เขาปลุกสมาชิกเครือข่ายข่าวสารขั้นห้าขึ้นมาคนหนึ่ง ส่งเขามุ่งหน้าไปตรวจสอบหลี่จิ่วเต้า
เขาเป็นผู้เฒ่าผมขาว ใบหน้าเปี่ยมเมตตา ดูมีไมตรีจิตยิ่ง แต่แท้จริงแล้วน่ากลัวเหลือแสน ไม่รู้ว่ามีสิ่งมีชีวิตระดับยอดฝีมือมากมายเพียงใดตายด้วยมือเขา
“การช่วงชิงในดินแดนนั้นเริ่มขึ้นแล้วหรือ”
ผู้เฒ่าผมขาวถามเสียงเบา
“เปล่า”
นายตำหนักย่อยกล่าว “เป็นภารกิจอื่น”
จากนั้น เขาเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้ผู้เฒ่าผมขาวฟังอย่างละเอียด
“มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ? เอาเถิด ถือเสียว่าอุ่นเครื่องก่อนการช่วงชิงในดินแดนนั้นเริ่มขึ้น ให้ข้าไปประมือกับหลี่จิ่วเต้าผู้นี้หน่อย”
ผู้เฒ่าผมขาวจากไป