รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 438 ยอมแล้ว จำเป็นต้องอ่อนไหวตื่นกลัวขนาดนี้เชียวหรือ!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 438 ยอมแล้ว จำเป็นต้องอ่อนไหวตื่นกลัวขนาดนี้เชียวหรือ!
บทที่ 438 ยอมแล้ว จำเป็นต้องอ่อนไหวตื่นกลัวขนาดนี้เชียวหรือ!
ท่ามกลางมหาสมุทรสีดำอันไร้ที่สิ้นสุด พิศวงน่าขนลุก น้ำทะเลเหนียวหนืดดำทะมึนยิ่งกว่าน้ำหมึก สายลมพัดผ่าน สิ่งที่โชยชายออกมาล้วนเป็นกลิ่นเหม็นคาวน่าคลื่นไส้ กลิ่นแรงเหลือคณา
มีอสูรสินธุกระโจนขึ้นจากน้ำทะเลสีดำเป็นครั้งคราว ไม่มีตัวใดเป็นสัตว์ทะเลปกติ ล้วนแล้วเป็นซากศพอสูรซึ่งมีเศษเนื้อเปื่อยติดอยู่
หลิงอินกับเสี่ยวหยามาถึงทะเลต้องห้าม
ศาสตราปริภูมิที่จ้าวหุบเขาให้มาช่วยพวกนางไว้มาก เวลาการเดินทางของพวกนางร่นระยะลงมหาศาล
ทั้งสองมาถึงที่นี่ในเวลาไม่ถึงหนึ่งวัน
“ที่นี่น่ากลัวยิ่งกว่าเดิมอีก…”
หลิงอินหรี่ตาเล็กน้อย รู้สึกถึงความเปลี่ยนของทะเลต้องห้ามในตอนนี้ ทะเลต้องห้ามในตอนนี้น่าพรั่นพรึงขึ้นจากที่นางมาครั้งก่อน
อย่างเช่นผนึกที่ไหลไปตามน้ำทะเลสีดำ เทียบกับที่นางมาคราวก่อนยิ่งทวีความแข็งแกร่งขึ้นหลายเท่า ทะเลต้องห้ามเข้ายากกว่าเดิมแล้ว…
ทว่าสำหรับนางทั้งหมดนี้มิได้สลักสำคัญ
ผนึกบนท้องทะเลสีดำแข็งแกร่งขึ้นปานใด น่ากลัวขึ้นปานใดก็ขวางนางไม่ได้
ขณะเดียวกัน จ้าวสมุทรรับรู้การมาของหลิงอินในทันที
“มาแล้ว ในที่สุดก็มาแล้ว!”
จ้าวสมุทรร้อนรนเหมือนมดบนหม้อร้อน เดินไปเดินมาไม่หยุด
หลิงอินเคยพูดกับพวกเขาไว้ตั้งแต่คราวก่อนว่าอย่าสร้างเรื่องอีก มิฉะนั้นจะไม่ปรานีต่อทะเลต้องห้าม และจะมาเยือนทะเลต้องห้ามของพวกเขาอีกครั้ง
ครั้นเมื่อท่านบูรพาจารย์มาถึง เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพลังผนึกในทะเลต้องห้าม แล้วจึงออกเดินทางไปสังหารหลิงอิน
ผลสุดท้ายท่านบูรพาจารย์ฆ่าหลิงอินไม่ได้ กลับตายเสียเอง…
ตั้งแต่ท่านบูรพาจารย์ตายไป เขาก็อกสั่นขวัญแขวนอยู่ทุกวี่วัน วิตกกังวลว่าหลิงอินจะมาเยือนถึงที่
และบัดนี้ หลิงอินมาหาถึงที่แล้วจริง ๆ!
“ระดมกำลังทั้งหมดในทะเลต้องห้าม ห้ามปล่อยนางเข้ามาเด็ดขาด ยอดฝีมือจากอาณาจักรเราใกล้มาถึงแล้ว ต้องประวิงเวลาออกไปจนกว่ายอดฝีมือในอาณาจักรเราจะมาถึง!”
จ้าวสมุทรตวาดลั่นคล้ายจะขาดใจ มีคำสั่งลงไปให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในทะเลต้องห้ามเคลื่อนไหว ไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามปล่อยหลิงอินเข้ามาเด็ดขาด
ให้ตายสิ ขืนปล่อยให้หลิงอินเข้ามา เกรงว่าทะเลต้องห้ามของพวกเขาคงถูกทำลายพังพินาศ!
สิ่งที่อยู่ในส่วนลึกสำคัญเกินไป เขาไม่มีทางปล่อยให้หลิงอินเข้ามาในทะเลต้องห้ามของพวกเขาเด็ดขาด
“รับบัญชา!”
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในทะเลต้องห้ามที่ตื่นได้ล้วนตื่นขึ้นมา รุดหน้าไปสกัดหลิงอิน
“คงพอยับยั้งได้กระมัง! ต่อให้ยับยั้งไม่ได้ แต่ประวิงเวลาต่อไปสักหน่อยก็น่าจะไหว!”
จ้าวสมุทรพึมพำเสียงเบากับตัวเอง
ทะเลต้องห้ามผ่านการเสริมพลังจากท่านบูรพาจารย์ ต่อให้ต้องเผชิญกับการบุกโจมตีของกลุ่มเทียนตี้ยังไม่เป็นปัญหา ป้องกันไว้ได้แน่นอน
ทว่ายามเขาเอ่ยวาจานี้ กลับมิได้มั่นใจมากนัก…
จะให้เขามั่นใจได้เยี่ยงไร!
หลิงอินเป็นตัวตนที่น่าเหลือเชื่อเกินไป แม้แต่ท่านบูรพาจารย์ยังสูญสิ้นในมือนาง เขาไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วอีกฝ่ายน่ากลัวได้ถึงปานใด แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรกัน ภายในใจหวาดหวั่นเป็นอย่างยิ่ง
ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!
เพียงพริบตาเดียว สิ่งมีชีวิตในทะเลต้องห้ามจำนวนมากก็มาถึงชายขอบมหาสมุทรสีดำ ประจันหน้ากับหลิงอิน
หลิงอินเห็นดังนั้นก็ฉงนนิดหน่อย ทะเลต้องห้ามตื่นตูมกันเพียงนี้เชียวหรือ
ถึงแม้คราวก่อนนางจะอาละวาดในทะเลต้องห้ามไปยกใหญ่ จนทั้งทะเลต้องห้ามหวาดผวาเหลือคณา
กระนั้นตอนนี้นางยังมิได้ทำสิ่งใด ทะเลต้องห้ามจำเป็นต้องตึงเครียดถึงขั้นนี้เลยหรือ
สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามเรียงรายยั้วเยี้ยเต็มไปหมด ราวกับจะทำศึกเต็มกำลัง
“ทุกท่าน ไม่ต้องเครียด ข้ามาที่นี้มิได้มีเจตนาร้ายอันใด เพียงต้องการเจรจากับจ้าวสมุทรของพวกเจ้า ขอยืมอะไรสักหน่อย”
หลิงอินกล่าว
นางเดินทางมาครังนี้เพื่อ ‘ยืม’ ของวิเศษ ไม่ได้คิดลงไม้ลงมือในทะเลต้องห้ามแต่อย่างใด
อีกด้าน เบื้องหน้าจ้าวสมุทรมีม่านแสงมโหฬารปรากฏ ภายในม่านแสงสามารถมองเห็นหลิงอินและเสี่ยวหยาได้อย่างชัดเจน ซ้ำยังได้ยินคำพูดของหลิงอินอีกด้วย
สิ่งนี้คือศาสตราทรงพลัง ช่วยให้เขาได้เห็นภาพการณ์ตรงนั้นจากที่แห่งนี้ได้
“บัดซบ! เจ้าฆ่าท่านบูรพาจารย์ไปแล้ว ยังกล่าวว่าไม่มีเจตนาร้ายอีกหรือ! หลอกเด็กสามขวบหรือไร!”
จ้าวสมุทรเอ่ยอย่างเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน
มีแต่คนโง่เท่านั้นถึงเชื่อคำกล่าวของนาง!
เขามิได้โง่!
หลิงอินไฉนเลยจะไม่ประสงค์ร้าย หากไม่ประสงค์ร้ายจริง ก็คงไม่ปลิดชีพท่านบูรพาจารย์ของพวกเขา
ที่หลินอินเดินทางมาครานี้ เห็นได้ชัดว่ามาคิดบัญชีกับพวกเขา!
เขาไม่มีทางปล่อยให้นางเข้ามาเด็ดขาด ขืนปล่อยเข้ามาก็เท่ากับชักศึกเข้าบ้าน!
“อย่าไปฟังวาจาเหลวไหลของนาง ป้องกันไว้ให้ดี ต่อให้ตายก็ห้ามปล่อยนางเข้ามาเด็ดขาด!”
เขาออกคำสั่ง
อีกด้าน สิ่งมีชีวิตตามชายขอบทะเลต้องห้ามได้รับคำสั่ง จึงพากันเรียกศาสตราของตนออกมา อีกทั้งโคจรกำลังภายในตัวจนอยู่ในระดับสูงสุด เตรียมพร้อมเข้าห้ำหั่นด้วยชีวิตทุกเมื่อ!
…
หลิงอินเห็นภาพนี้แล้วระอาใจยิ่งขึ้น
ทะเลต้องห้ามอ่อนไหวเกินไปแล้วกระมัง
นางบอกไปแล้วว่ามิได้มีเจตนาร้าย ทะเลต้องห้ามยังต้องทำถึงขนาดนี้เชียวหรือ
“ทุกท่าน ข้าไม่ต้องการลงไม้ลงมือ เพียงแต่ต้องการหารือกับจ้าวสมุทรของพวกเจ้าเพื่อขอยืมสิ่งของ”
นางเอ่ยอีกครั้ง แสดงจุดยืน
ทว่าท่าทางตึงเครียดเพียงนี้ของทะเลต้องห้ามก็สร้างความแคลงใจให้นางไม่น้อย
ทะเลต้องห้ามทำอะไรไว้หรือ?
มิฉะนั้น ไยต้องกลัวนางปานนี้?
หากมิใช่ว่าทะเลต้องห้ามมีชนักติดหลัง ย่อมไม่มีทางอ่อนไหวตื่นกลัวเยี่ยงนี้
“อย่าชะล่าใจ ห้ามประมาทเด็ดขาด หากนางบังอาจเหยียบย่ำเข้ามาในทะเลต้องห้ามหนึ่งก้าว พวกเจ้าเริ่มโจมตีทันที เอาให้ถึงตาย!”
จ้าวสมุทรบงการทุกอย่าง ออกคำสั่งลงไป
สิ่งมีชีวิตที่อยู่ตรงชายขอบทะเลต้องห้ามได้รับคำสั่งแล้วมิกล้าชะล่าใจแม้แต่น้อย มือกำอาวุธแน่นขึ้นไปอีกขณะเล็งไปที่หลิงอิน
หลิงอินได้เห็นภาพนี้แล้วยิ่งแคลงใจมากขึ้น
ดูท่าทะเลต้องห้ามทำอะไรไว้จริง ๆ ถึงได้เกรงกลัวนางเยี่ยงนี้
แต่จะเป็นเรื่องใดกันนั้น…
ช่วงนี้นางมิได้ข้องแวะกับสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้าม และมิได้พบเจอเรื่องผิดปกติแต่อย่างใด…
‘คงยังไม่ได้ลงมือ แค่กำลังวางแผน ยามนี้เห็นข้าบุกมาถึงที่ คงคิดว่าแผนรั่วไหลออกไปจนข้าล่วงรู้…’
หลิงอินวิเคราะห์ในใจ
นางไม่รู้เรื่องที่อสุรกายหัวกิเลน บูรพาจารย์แห่งทะเลต้องห้ามเคยไปหานาง เพราะพลังของต้นหลิวปิดกั้นทุกสิ่งอย่าง
‘ข้าแค่มา ‘ยืม’ ของวิเศษเท่านั้น แต่กลับจับพลัดจับผลูทำให้พวกเขาแผนแตกได้พอดีหรือ’
หลิงอินคิดอย่างนึกขันในใจ
ทว่าตอนนี้นางไม่มีเวลาต่อความยาวสาวความยืดกับทะเลต้องห้าม พี่ชายของเสี่ยวหยาอยู่ในสถานการณ์คับขัน ไม่อาจเสียเวลาได้แม้แต่น้อย รอให้นางกลับมาเมื่อใดค่อยคิดบัญชีกับทะเลต้องห้ามยังไม่สาย
“ข้าไม่อยากลงมือ หลีกไป!”
นางเอ่ยเสียงดังฟังชัด ก้าวออกไปหนึ่งก้าว
สิ่งมีชีวิตทะเลต้องห้ามเห็นหลิงอินเคลื่อนไหว พวกเขาจู่โจมหญิงสาวทันทีตามคำสั่งของจ้าวสมุทร
สิ่งมีชีวิตทะเลต้องห้ามยั้วเยี้ยเต็มนภา จำนวนสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามมีมากเกินไป เวลานี้พากันจู่โจมพร้อมเพรียง อาวุธมากมายปะทุพลังแสนน่ากลัว อย่าให้พูดเลยว่าภาพการณ์นั้นน่าหวาดหวั่นปานใด!
ครืน!
ปฐพีสั่นไหว เสียงระเบิดอันน่าพรั่นพรึงดังไม่หยุดหย่อน สิ่งมีชีวิตทะเลต้องห้ามเหล่านี้ล้วนไม่ปิดบังฝีมือ จู่โจมด้วยพลังสูงสุดของตน
น้ำทะเลสีดำเดือดพล่าน ซากศพอสูรเน่าเปื่อยชวนขนลุกในนั้นต่างพุ่งขึ้นมา กลิ่นเหม็นคาวแผ่ซ่านอยู่ในฟ้าดิน แทบไม่อาจหายใจ
พวกมันน่ากลัวมากเช่นกัน พลังที่มีนั้นสยดสยอง เทียบกับสิ่งมีชีวิตในทะเลต้องห้ามมีแต่จะยิ่งแข็งแกร่งกว่า!
ภาพนี้น่าหวาดหวั่นยิ่งกว่ากาลอวสานของโลกมาถึงเสียอีก!