รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 439 ข้าแค่ต้องการยืมศาสตรา พวกเจ้าต้องทำถึงขั้นนี้เชียวหรือ
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 439 ข้าแค่ต้องการยืมศาสตรา พวกเจ้าต้องทำถึงขั้นนี้เชียวหรือ
บทที่ 439 ข้าแค่ต้องการยืมศาสตรา พวกเจ้าต้องทำถึงขั้นนี้เชียวหรือ?
อยากเอาชีวิตนางปานนั้นเชียว?
หลิงอินคิดในใจไปว่าทะเลต้องห้ามอำมหิตยิ่ง มาถึงก็ปล่อยวิชาพิฆาตมากมาย หมายจะสังหารนางให้ได้
การโจมตีนานัปการถาโถมเข้ามา คลื่นพลังน่าประหวั่นพรั่นพรึงแผ่ขยายท่วมท้นฟ้าดิน ทั้งดินแดนฮวงโกลาหลไปหมด สิ่งมีชีวิตมากมายนับไม่ถ้วนต่างทอดสายตามา ใคร่รู้ในใจเหลือแสนว่าเกิดเรื่องใดขึ้นกับฟากทะเลต้องห้าม
การโจมตีระดับนี้ ต่อให้เป็นเทียนตี้ยังไม่อาจทำใจสงบ รับมือด้วยความนิ่งเฉย ทว่าหลิงอินกลับสุขุมอย่างยิ่ง สีหน้าไม่เปลี่ยนไปสักนิด
นางก้าวออกไปหนึ่งก้าว ดีดตัวขึ้นจากพื้นดิน กระโปรงสีขาวพิสุทธิ์พลิ้วไหวตามลม งดงามไร้มลทิน เมื่ออยู่กลางทะเลต้องห้ามอันมืดทะมึนดั่งน้ำหมึก พิศวงดุจอเวจีจิ่วโยว นางเปรียบเสมือนท่านเซียนจากโลกมนุษย์ เจิดจ้าแยงตาเกินไป
ครืน!
พลังอันน่าหวาดหวั่นซัดสาดเข้ามา ราวกับพร้อมทำลายผืนฟ้าแผ่นดินแห่งนี้ไปด้วย สยดสยองชวนขนลุก ทว่าหญิงสาวกลับพุ่งรับการโจมตี ปราศจากความเกรงกลัว!
ร่างกายของนางเปล่งแสงแวววาว กฎแห่งมหาเต๋ามากมายล้อมรอบเป็นคลื่นอยู่รอบตัว ก่อนจะสมานร่างเป็นม่านแสงปกป้องอยู่ตามเนื้อกาย นางสวมอาภรณ์กฎแห่งมหาเต๋าอีกครั้ง สูงส่งศักดิ์สิทธิ์เหลือแสน!
การโจมตีท่วมท้นนภาถล่มลงมา นางไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำ การโจมตีทั้งหมดแม้แต่จะเข้าใกล้นางยังทำไม่ได้ ถูกลบล้างออกไปในชั่วพริบตา!
ซ่า!
น้ำทะเลสีดำซัดสาดเป็นเกลียวคลื่นสูงนับหมื่นจั้ง ซากศพเปื่อยอสูรสินธุชวนขนลุกจู่โจมเข้ามาตัวแล้วตัวเล่า น่าพรั่นพรึงเป็นอย่างยิ่ง!
พวกมันมิใช่สิ่งมีชีวิตปกติ ถูกสร้างขึ้นและควบคุมโดยวิชาลับบางอย่างของทะเลต้องห้าม ต่อมาได้รับการเพิ่มพลังจากอสุรกายหัวกิเลน พวกมันบุกเข้าไปพร้อมเพรียง คร่าชีวิตได้แม้แต่เทียนตี้!
พลังน่าพิศวงออกอาละวาด นี่คือพลังที่ลึกลับที่สุดในทะเลต้องห้าม มาจากพลังของอาณาจักรซึ่งอยู่เบื้องหลัง
จักรพรรดิบุปผาอยู่รอดมาตั้งแต่ยุคโบราณถึงยุคปัจจุบัน ซ้ำยังคืนสภาพในช่วงเปี่ยมพลังที่สุดได้ ก็เป็นเพราะพลังพิศวงที่ได้รับการประทานทั้งสิ้น
อนิจจา ซากศพเปื่อยอสูรสินธุเหล่านี้แม้นสยดสยองสุดขีด กระนั้นเมื่ออยู่เบื้องหน้าหยกคุ้มกายก็อ่อนพลังไม่ควรค่าแก่การพูดถึง!
หยกคุ้มกายหลอมร่างอาภรณ์กฎวิถีมหาเต๋าออกมา สวมใส่บนตัวหลิงอิน ขณะที่เหล่าซากศพอสูรสินธุพุ่งมาหานางก็เปล่งแสนยานุภาพ ปล่องพลังใส่ซากศพอสูรสินธุจนทั้งหมดกระเด็นไปอีกทาง
ซากศพอสูรสินธุส่วนหนึ่งที่ค่อนข้างอ่อนพลังลงก็ถูกระเบิดแหลกเหลวเพราะพลังนี้ เหลือเพียงเศษซาก!
ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!
เวลานั้น มีลำแสงสีดำสยดสยองมากมายพุ่งออกจากมหาสมุทรสีดำ ผนึกบนมหาสมุทรสีดำเดินหน้าเต็มกำลัง ยันต์อักขระน่าประหวั่นพรั่นพรึงมากมายเด้งขึ้นลง พลังแสนน่ากลัวคืบคลานออกมา จนสั่นสะท้านไปทั้งดวงวิญญาณและร่างกาย
หลิงอินยังคงไม่มีทีท่าหวาดกลัว มีหยกคุ้มกายที่ท่านเซียนประทาน นางกล้าไปทุกที่ ไม่เกรงกลัวผนึกใด ๆ
นางย่างกรายไปด้านหน้า ผมยาวสยายตามลม นางสวมใส่อาภรณ์กฎวิถีมหาเต๋า กลายเป็นเหมือนนางเซียนสูงส่งไร้มลทินนางหนึ่งจริง ๆ!
ครืน!
คล้อยตามการเยื้องย่างของนาง ผนึกบนมหาสมุทรสีดำระเบิดแหลกลาญในบัดดล พลังระดับนี้มิได้อยู่ในขั้นเดียวกัน ผนึกบนมหาสมุทรสีดำเปราะบางเสียจนเหมือนทำจากแก้ว เพียงแตะเบา ๆ ก็แตกสลาย
“อะไรกัน!”
อีกด้าน อย่าให้พูดเลยว่าจ้าวสมุทรหน้าม่านแสงสีหน้าย่ำแย่ปานใด
หลิงอินฆ่าท่านบูรพาจารย์ได้ บ่งบอกว่าพลังของนางน่ากลัวอย่างยิ่งโดยไม่ต้องสงสัย เขามิได้ประเมินนางต่ำ แต่จินตนาการถึงหญิงสาวในระดับที่สูงมาก
ทว่าบัดนี้ดูแล้ว เขาก็ยังประเมินอีกฝ่ายต่ำไป นางน่าพรั่นพรึงกว่าที่เขาจินตนาการไว้มากนัก!
ท่านบูรพาจารย์เคยกล่าวว่า ผนึกบนมหาสมุทรสีดำแม้แต่ตัวเขาเองยังไม่อาจทลายได้โดยง่าย
แต่เมื่อเผชิญกับอาภรณ์กฎวิถีมหาเต๋าที่หลิงอินสวมใส่ ผนึกบนมหาสมุทรสีดำอ่อนแอเหลือคณา แผ้วพานนางไม่ได้เลย
“กลับมา กลับมาให้หมด!”
เขาคำรามเสียงต่ำ สั่งให้สิ่งมีชีวิตทะเลต้องห้ามทุกตนที่ประจำอยู่ชายขอบทะเลต้องห้ามถอยกลับมา
จากนั้น สิ่งมีชีวิตทะเลต้องห้ามทุกคนจึงล่าถอยกลับไปที่เกาะ
ยอมแพ้แล้วหรือ?
หลิงอินเห็นว่าสิ่งมีชีวิตทะเลต้องห้ามทุกตนยอมถอย จึงเข้าใจว่าทะเลต้องห้ามถอดใจแล้ว
“ไปเถิดเสี่ยวหยา”
มหาสมุทรสีดำปราศจากผนึก เสี่ยวหยาเข้ามาได้อย่างปลอดภัย หลิงอินบอกให้เสี่ยวหยาเข้าไปในทะเลต้องห้ามกับนาง
“ได้!”
เสี่ยวหยาเหินเข้ามา เคียงบ่าเคียงไหล่กับหลิงอิน เหาะเข้าไปยังส่วนลึกของทะเลต้องห้าม
บนมหาสมุทรสีดำมีผนึกทรงพลัง ซ้ำยังมีผนึกที่น่าพรั่นพรึงยิ่งกว่านั้น
เกาะนี่คือรากฐานของทะเลต้องห้ามในอาณาจักรนี้ ส่วนลึกของเกาะมีความลับใหญ่หลวงซ่อนอยู่ อสุรกายหัวกิเลนตั้งใจวางผนึกบนมากเกาะกว่าปกติ
มันนำวัตถุดิบหายากจากอาณาจักรเบื้องหลังมามากมาย และใช้ไปกับเกาะเกือบทั้งหมด การวางผนึกที่นี่มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันภัยร้ายจากการปรากฏของดินแดนนั้น ไม่ต้องพูดเลยว่าการวางผนึกบนเกาะน่าพรั่นพรึงเพียงใด!
ท่านบูรพาจารย์เคยกล่าวว่า แม้แต่กำลังรบระดับเขายังทลายไม่ได้ หากฝืนบุกเข้าไป ย่อมต้องเลือดกระจาย ตายลงในที่สุด!
แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น จ้าวสมุทรก็มิได้มั่นใจนัก พลานุภาพจากหยกคุ้มกายที่หลิงอินสวมใส่น่าหวาดหวั่นเกินไป!
“ฟังคำสั่งจากข้า สมาชิกทะเลต้องห้ามทุกคนเผาผลาญตนเอง สละพลังทั้งหมด เสริมความแข็งแกร่งให้กับผนึกของเกาะ!”
จ้าวสมุทรออกคำสั่งอย่างอำมหิตออกมาแล้วจริง ๆ เขาหมายใจสละสมาชิกทุกตนในทะเลต้องห้าม
จะเกิดอะไรกับเกาะนี้ไม่ได้เด็ดขาด รากฐานของพวกเขาทะเลต้องห้ามในกาลเวลาอันยาวนานอยู่บนเกาะนี้ทั้งหมด เขาปล่อยให้หลิงอินไปที่เกาะไม่ได้เด็ดขาด!
ต่อให้ต้องสละชีวิตสมาชิกทั้งหมดในทะเลต้องห้ามก็ยอม!
หลังเขาออกคำสั่ง สมาชิกทุกตนในทะเลต้องห้ามพลันมีเปลวเพลิงลุกโชติออกมา พลังนับพันนับหมื่นหลอมรวมเข้าด้วยกัน เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับผนึกบนเกาะ
ชั่วขณะนั้น คลื่นพลังแสนสยดสยองหลั่งไหลออกจากเกาะ
“โหดเหี้ยม…ถึงเพียงนี้เชียว!?”
หลิงอินเห็นแล้วตาโตอ้าปากค้างทันที
นางนึกในใจว่านางแค่มาขอยืมศาสตราที่ใช้เดินทางในจักรวาล อีกฝ่ายต้องทำถึงขั้นนี้เชียวหรือ?
ทว่าความกังขาในใจนางทวีความรุนแรง อาจกล่าวได้ว่านางแน่ใจแล้ว
ทะเลต้องห้ามทำเรื่องชั่วช้าบางอย่างไว้แน่นอน ซ้ำยังเกี่ยวข้องกับนาง เพราะอย่างนั้นหลังได้เห็นนางถึงมีปฏิกิริยารุนแรงเยี่ยงนี้ กลัวนางขนาดนี้!
‘ข้าอยากเห็นเหลือเกินว่าพวกเจ้าทำเรื่องใดไว้ หรือกำลังวางแผนใดกันอยู่!’
สายตานางเย็นเยียบลงเรื่อย ๆ
ทะเลต้องห้ามยอมสละชีวิตของสมาชิกทุกตนเพื่อขัดขวางนาง เรื่องนี้ต้องมิใช่เรื่องเล็กแน่ ๆ อาจใหญ่หลวงรุนแรงเหลือแสน!
เดิมนางคิดจะกลับมาสืบใหม่ แต่บัดนี้ดูแล้วคงทำเช่นนั้นมิได้ นางจำต้องสืบให้รู้ความแล้วค่อยว่ากัน เพื่อป้องกันมิให้เกิดเรื่องไม่คาดคิด!
ตัวนางเองไม่กลัวเท่าใด แต่เพียงกลัวจะเกิดเรื่องกับคนที่ตนรู้จัก นางกลัวว่าทะเลต้องห้ามวางแผนทำร้ายคนที่ตนเองรู้จัก
นางไม่เป็นห่วงครอบครัวในเมืองชิงซาน เมืองชิงซานมีท่านเซียนคอยพิทักษ์ ไม่ว่าทะเลต้องห้ามมีแผนใดก็ไม่มีทางสำเร็จ
ทว่านอกเมืองชิงซานก็มีคนที่นางรู้จักอยู่ อย่างเช่นหุบเขาคงหลิง…
คราวก่อนนางสังหารจักรพรรดิบุปผาที่หุบเขาคงหลิง ผูกความแค้นกับทะเลต้องห้าม พลอยทำให้หุบเขาคงหลิงเคราะห์ร้ายไปด้วย เพื่อปกป้องนาง ไม่ว่าอย่างไรจ้าวหุบเขาก็ไม่ยอมติดต่อนาง ส่งผลให้คนในหุบเขาคงหลิงมากมายตายตกตามกัน
ครานั้นนางได้ประกาศว่าจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นอีก นางไม่ยอมให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องต้องโดนหางเลขอีก
หนนี้นางจักสืบให้รู้แจ้ง ยุติแผนการของทะเลต้องห้ามโดยสมบูรณ์ ไม่ปล่อยให้ผู้อื่นต้องพลอยลำบากเพราะนาง
“ฆ่า!”
จ้าวสมุทรคำรามเสียงต่ำอยู่บนเกาะ ควบคุมพลังผนึกถล่มเข้าใส่หลิงอิน
เขาสละชีวิตของสิ่งมีชีวิตทุกตนในทะเลต้องห้าม เพื่อเพิ่มอานุภาพผนึก เขาไม่เพียงต้องการหยุดยั้งนาง แต่ยังต้องการสังหารนาง ณ ที่นี้ด้วย!
ขืนไม่ฆ่าหลิงอิน คงยากจะชดใช้การสูญเสียมหาศาลเยี่ยงนี้!
แสงทะมึนมากมายพวยพุ่งขึ้นฟ้าจากบนเกาะ ราวกับทะลุจากดินไปสู่ฟ้า ฟ้าแลบฟ้าร้องไม่หยุด ก่อร่างเป็นอักขระยักษ์ใหญ่ พลังสยดสยองไร้ที่สิ้นสุดซัดสาดดุจคลื่นทะเล จ้าวสมุทรเร่งกำลังอานุภาพผนึกบนเกาะเต็มสูบ โจมตีเอาชีวิตหลิงอิน!
“สวรรค์! จะทำลายทั้งดินแดนฮวงไปด้วยหรืออย่างไร!?”
“ทะเลต้องห้ามคิดจะทำสิ่งใดกันแน่!”
สิ่งมีชีวิตในดินแดนฮวงผวาเหลือคณา เสาแสงทะมึนมากมายที่พุ่งขึ้นฟ้าล้วนน่าประหวั่นพรั่นพรึงถึงขีดสุด แม้แต่สิ่งมีชีวิตที่ห่างกันแสนไกลยังรู้สึกถึงความน่ากลัวของเสาแสงทะมึนมากมายที่ทะยานขึ้นฟ้า
พวกเขาตื่นกลัวแทบแย่ ถึงขนาดรู้สึกว่าความตายคลี่ปกคลุมอยู่เหนือหัวพวกเขา!
การโจมตีนี้น่ากลัวอย่างแท้จริง แม้แต่สิ่งมีชีวิตที่มีกำลังรบสูงกว่าอสุรกายหัวกิเลนยังต้านทานไม่ไหว สยองเกินไปแล้ว สยองจนจินตนาการไม่ออก!
“ครั้งนี้ข้าจะเอาชีวิตเจ้าให้ได้!”
จ้าวสมุทรคำรามโหดเหี้ยม ทุ่มเททุกอย่าง ฆ่าหลิงอินไม่ได้เขาไม่ยอมเลิกรา!