รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 72 เกี่ยวข้องกันอย่างไรนะ…เจ้านิกายรุ่นก่อนถึงมาด้วยตัวเอง!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 72 เกี่ยวข้องกันอย่างไรนะ…เจ้านิกายรุ่นก่อนถึงมาด้วยตัวเอง!
หกราชันอสูร ยอดฝีมือชั้นยอดจากสี่แดนศักดิ์สิทธิ์ ต่างยืนอยู่กลางอากาศด้วยสีหน้าเย็นชา ก้มมองราชันอสูรอย่างพวกราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์อย่างผู้เหนือกว่า
นอกจากราชันนาคาสองหัวพอรู้จักมักคุ้นกับราชันอสรพิษโซ่แดงอยู่บ้าง คนอื่น ๆ ล้วนไม่เคยข้องแวะกับราชันอสรพิษโซ่แดง
ที่มาในครานี้ พวกเขาเพียงต้องการกำจัดทั้งห้าเผ่าอย่างเผ่าฉลูจอมกำลังและอื่น ๆ เพื่อแบ่งสรรฐานทัพกับสมบัติต่าง ๆ ของทั้งห้าเผ่า
ราชันอสูรทั้งห้ายกกำลังทั้งเผ่ามาล้อมเผ่าอสรพิษโซ่แดงเพื่อแก้แค้นให้ราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์ นับเป็นโอกาสดีงามอย่างไม่ต้องสงสัย หลังจากราชันอสรพิษโซ่แดงออกปากเชื้อเชิญพวกเขา พวกเขาตกลงในทันที
หนนี้พวกเขาสามารถล้างบางทั้งห้าเผ่านี้ได้โดยไม่เหลือตัวอันตรายไว้ในภายหลัง!
โลกนี้โหดร้ายอยู่เสมอ ผู้ที่อ่อนแอย่อมถูกผู้ที่แข็งแกร่งกลืนกิน และปฐพีแดนดินนี้ยิ่งอำมหิตเข้าไปใหญ่ ต่อให้เป็นเผ่าแข็งแกร่ง ก็ยังอาจถูกล้างบางได้ในพริบตา!
“สหายของข้า ข้าผิดไปแล้วจริง ๆ ข้าไม่น่าลากพวกเจ้าเข้ามายุ่งเลย!”
ราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์เข้าใจถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดี
หกเผ่าอสูรกับสี่แดนศักดิ์สิทธิ์ไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปแน่ ไม่ว่าจะพูดอะไรก็เปล่าประโยชน์…
“พูดเหลวไหลสิ่งใดอยู่! เมื่อครั้งเราสองคนบุกโพรงสวรรค์ ข้าถูกสัตว์ประหลาดในโพรงสวรรค์ล้อมไว้ ทั้งที่เจ้าหนีไปได้ แต่เจ้ากลับมาช่วยข้าโดยไม่สนความปลอดภัยของตน! หากไม่ใช่เจ้า ชีวิตของข้าคงจบลงตั้งแต่ที่โพรงสวรรค์แล้ว!”
แววตาราชันฉลูจอมกำลังทอประกายดุดัน “กลัวพวกเขาไปไย ลุยไปเลย ไม่ว่าอย่างไรข้าฉลูเฒ่าก็ต้องลากราชันไปกับข้าด้วยสักคน!”
“ข้าเองก็จะลากราชันสักคนไปกับข้า!”
“ผู้ใดลากราชันไปกับตัวเองไม่ได้ ผู้นั้นเป็นเต่าหัวหด!”
ราชันสิงห์มารเพลิงม่วง ราชันหมาป่าอเวจี ราชันหมีเทาขนเหล็ก และราชันวานรทองดำประกาศกร้าว ไร้ซึ่งความกริ่งเกรงใด ๆ!
พวกเขาต่างผ่านความเป็นความตายมากับราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์ ต่อให้เวลานี้พวกเขาอยู่ในช่วงคับขัน ก็ไม่นึกเสียใจใด ๆ
“ทุกท่าน…!”
ราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์น้ำตาคลอหน่วย ซึ้งใจอย่างยิ่ง
ได้มีสหายประเสริฐเพียงนี้ถึงห้าคน ชีวิตนี้นับว่าคุ้มค่าแล้ว!
“สู้ตาย!”
เขาตวาด ลำแสงสยดสยองแผ่กำจายออกมาทั่วกาย ความต้องการรบท่วมท้นฟ้า
“เพ้อเจ้อถึงขั้นคิดจะลากพวกเราไปตายด้วยอย่างนั้นหรือ? น่าขำ น่าขำยิ่งนัก!”
หัวมหึมาทั้งสองของราชันนาคาสองหัวส่ายไปมา คำพูดคำจาเปี่ยมด้วยความดูแคลน
“ทุกท่าน ลงมือเลย ข้าอยากรีบกลับไปร่ำสุราสักจอกสองจอก”
ยอดฝีมือแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้กำเนิดเอ่ยราบเรียบ ไม่เห็นราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์และราชันตนอื่น ๆ อยู่ในสายตาสักนิด
ห่างชั้นกันปานนี้ ขืนพวกเขายังโดนพวกราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์ลากลงนรกไปด้วย พวกเขาก็ไม่ต้องมีชีวิตต่อไปแล้ว น่าขายหน้าเกินไป!
“ราชันวิฬาร์ ข้าจะรอดูว่าหนนี้เจ้าจะหนีอย่างไร! ต่อให้เจ้าผลาญแก่นกำเนิดอีกคราก็ช่วยไม่ได้แล้ว!”
ราชันอสรพิษโซ่แดงหัวเราะเสียงเย็น นำทัพบุกเข้ามา พลังแกร่งกล้าของเขาอาละวาด ทะลวงไปด้านหน้า!
จากนั้น ราชันนาคาสองหัว ราชันมุสิกกลืนทอง ราชันกิ้งก่าเกราะกนก ราชันตะขาบแดงสิบหาง ราชันแมงมุมทนต์ผี ราชันค้างคาวหัวสิงคาล ยอดฝีมือจากแดนศักดิ์สิทธิ์เมฆาอินทนิล แดนศักดิ์สิทธิ์ไร้กำเนิด แดนศักดิ์สิทธิ์ร้อยบุปผา และแดนศักดิ์สิทธิ์สัตดาราเคลื่อนไหวกันหมด เริ่มการเข่นฆ่า!
สัตว์อสูรและผู้ฝึกตนที่พวกเขาพามาก็เคลื่อนไหวเช่นกัน!
ศึกตะลุมบอนเปิดฉากในพริบตา!
เสียงตะโกนขู่ฆ่าดังไม่หยุด เสียงอสูรคำรามดังไม่หย่อน เลือดสาดกระเซ็น คลื่นพลังสยดสยองเอ่อล้นออกไปทั้งพื้นที่ ฟ้าดินถูกย้อมเป็นสีแดงฉาน!
ห่างชั้นกันมากจริง ๆ สถานการณ์เอนไปทางฝ่ายเดียว
พวกราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์สู้โดยเอาชีวิตเข้าแลก ทว่าก็ยังไม่ไหว อย่าว่าแต่ลากไปตายด้วยกันสักคนเลย ลำพังจะทำให้บาดเจ็บยังทำไม่ได้!
“เจ้าว่าเหตุใดเจ้าถึงต้องกลับมาตายด้วย ซ้ำยังพาสหายของเจ้ามาตายเป็นเพื่อนอีก ฮ่าฮ่า…”
ราชันอสรพิษโซ่แดงหัวเราะลั่น ตามองราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์ที่เลือดท่วมตัว นอนอยู่กับพื้นด้วยสายตาดูหมิ่น
ราชันฉลูจอมกำลังและราชันอสูรที่เหลือต่างหมดแรงทรุดลงกับพื้น ลมปราณแผ่วเบา บาดเจ็บสาหัส ไร้กำลังจะลุกต่อสู้อีก
ความห่างชั้นทางพลังนั้นมากเกินไปจริง ๆ…
“วัวตัวนี้ข้าขอ ข้าอยากกินวัวตัวนี้มานานแล้ว!”
ราชันมุสิกกลืนทองเลียปาก ตามองราชันฉลูจอมกำลังด้วยสายตาละโมบ
“ข้าขอสิงโต ข้าอยากถักเสื้อขนสิงโตอยู่พอดี”
สตรีวัยกลางคนผู้หนึ่งจากแดนศักดิ์สิทธิ์ร้อยบุปผาหัวเราะเบา ๆ หมายตาราชันสิงห์มารเพลิงม่วง
จุดจบถูกกำหนดไว้แล้ว ราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์และราชันอสูรตนอื่นหมดกำลังขัดขืน พวกเขาจะเริ่มแบ่งสรรปันส่วนผลประกอบการจากชัยชนะของพวกเขาแล้ว
“เอาล่ะ ฆ่าให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”
ราชันนาคาสองหัวกล่าว
“ได้”
ราชันอสูรตนอื่นและยอดฝีมือจากแดนศักดิ์สิทธิ์พยักหน้า ไม่อยากเสียเวลาต่อไป
“สหายเอ๋ย มีสหายเช่นพวกเจ้า ชีวิตนี้ของข้าคุ้มแล้ว! ฮ่าฮ่า เราไปด้วยกันเถอะ!”
ราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์หันมองราชันฉลูจอมกำลังและราชันอสูรตนอื่น หัวเราะเสียงดังอย่างร้าวราน ก่อนจะปิดตาด้วยความสิ้นหวัง
“ข้าก็เช่นกัน! มีสหายเช่นพวกเจ้า นับว่าคุ้มค่าแล้ว!”
“ถ้าชาติหน้ามีจริง พวกเราต้องมาเป็นเพื่อนกันอีก!”
ราชันฉลูจอมกำลังและราชันอสูรตนอื่นหลับตาลงเช่นกัน รอคอยการมาถึงของความตาย
“ฆ่า!”
ราชันอสรพิษโซ่แดงตวาดเสียงเย็น หลอมมีดจากพลังอสูร ปลายมีดชี้ไปที่ราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์ หมายจะตัดหัวของอีกฝ่าย
พวกราชันอสูรอย่างราชันนาคาสองหัว และยอดฝีมือจากสี่แดนศักดิ์สิทธิ์คนอื่น ๆ ก็รีดเร้นพลัง หมายจะปลิดชีพราชันฉลูจอมกำลังและราชันอสูรตนอื่น
“หยุด!”
ทว่าตอนนั้นเอง ร่างหนึ่งร่างพลันกระโจนมาถึงในชั่วพริบตา ลมปราณแกร่งกล้าถาโถมฟ้าดิน เขาฟาดฝ่ามือออกไป เหล่าราชันอสูรอย่างราชันอสรพิษโซ่แดงและยอดฝีมือจากสี่แดนศักดิ์สิทธิ์ถึงกับตัวกระเด็นร่างลอยออกไปในชั่วพริบตา!
พรวด! พรวด! พรวด!
โลหิตอุ่นร้อนสาดกระจาย พลังจากฝ่ามือนี้น่ากลัวอย่างยิ่ง ถึงขั้นทำให้ราชันอสูรอย่างราชันอสรพิษโซ่แดงและตนอื่น ๆ รวมถึงยอดฝีมือจากสี่แดนศักดิ์สิทธิ์บาดเจ็บหนักกันหมด เลือดเนื้อแหลกเหลวจนรวมเป็นกองเดียวกัน!
“เจ้านิกายรุ่นก่อนแห่งนิกายลับสวรรค์!”
พวกราชันอสรพิษโซ่แดงม่านตาหรี่ลงฉับพลัน อย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าเหตุใดเจ้านิกายเฒ่าแห่งนิกายลับสวรรค์ถึงมาอยู่ที่นี่ มิหนำซ้ำยังลงมือทำร้ายพวกเขาอีกด้วย!
“ผู้อาวุโส?”
ยอดฝีมือจากสี่แดนศักดิ์สิทธิ์มึนงง นิกายลับสวรรค์ต้องการสิ่งใด?
“วันนี้ข้าขอดูหน่อยว่าพวกเจ้าคนใดบังอาจแตะต้องราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์!”
เจ้านิกายลับสวรรค์รุ่นก่อนแค่นเสียงเย็น ดวงตาชราคู่นั้นกวาดมองราชันอสรพิษโซ่แดงและราชันอสูรตนอื่น รวมถึงยอดฝีมือจากสี่แดนศักดิ์สิทธิ์ นัยน์ตาเปล่งประกายน่าหวาดกลัว บารมีดุดัน
เขามาเพื่อราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์อย่างนั้นหรือ?
มิหนำซ้ำ เจ้านิกายลับสวรรค์รุ่นก่อนยังมาด้วยตนเองอีกด้วย
ราชันอสรพิษโซ่แดงสบสายตากับราชันอสูรตนอื่น คิดไม่ถึงเลยว่าราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์เกี่ยวข้องลึกซึ้งกับนิกายลับสวรรค์ถึงเพียงนี้!
บุคคลระดับเจ้านิกายรุ่นก่อน มีชีวิตอยู่มาเนิ่นนาน อายุขัยเหลือไม่มากแล้ว โดยปกติจึงไม่ยอมออกมาง่าย ๆ และยิ่งไม่มีทางลงมือสุ่มสี่สุ่มห้า
เพราะการเคลื่อนไหวตามอำเภอใจถือเป็นการเผาผลาญสำหรับพวกเขา เร่งความตายของพวกเขาให้ไวขึ้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการลงมือ ยิ่งเผาผลาญพลังของพวกเขาหนักเข้าไปใหญ่ ก็เร่งให้ความตายมาไวมากยิ่งขึ้น!
ทว่าเจ้านิกายลับสวรรค์รุ่นก่อนไม่เพียงแต่มาเยือนที่นี่ด้วยตัวเองเพื่อราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์ ซ้ำยังลงไม้ลงมือกับพวกเขาอีก!
ราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์เกี่ยวข้องกับนิกายลับสวรรค์ลึกซึ้งเท่าใดเชียว เจ้านิกายรุ่นก่อนถึงยอมทิ้งชีวิตตนเพื่อราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์?
ยอดฝีมือจากสี่แดนศักดิ์สิทธิ์ก็รู้สึกเหลือเชื่ออยู่เหมือนกัน
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์รุ่นก่อนของพวกเขาก็ยังอยู่ พวกเขารู้ดีว่าสภาพของประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์รุ่นก่อนย่ำแย่เพียงใด ปกติเดินสักก้าวยังมิกล้า เรื่องลงไม้ลงมือยิ่งไม่ต้องพูดถึง!
‘เกรงว่าต่อให้เจ้านิกายลับสวรรค์รุ่นปัจจุบันถูกลอบโจมตีอยู่ข้างนอก เจ้านิกายลับสวรรค์รุ่นก่อนก็คงไม่เดินทางไปช่วยด้วยตัวเองหรอก!’
‘เกี่ยวข้องกัน…อย่างไรกันแน่นะ!’
พวกเขาคิดในใจอย่างอดไม่ได้
“สหาย เจ้าใช้ได้นี่ เกี่ยวข้องลึกซึ้งกับนิกายลับสวรรค์ถึงเพียงนี้!”
ราชันฉลูจอมกำลังคลี่ยิ้มให้ราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์
“???”
ราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์หน้าตามึนงงยิ่ง เหตุใดเขาถึงจำไม่ได้ว่าตนเคยเกี่ยวข้องลึกซึ้งกับนิกายลับสวรรค์ถึงเพียงนี้?
เขาอยากถามเหลือเกินว่า ‘เจ้านิกายรุ่นก่อน ท่านจำคนผิดหรือไม่ ท่านช่วยคนผิดไปหรือเปล่า?’