รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 73 ราชันอสรพิษโซ่แดง เป็นความผิดของข้าเพียงผู้เดียวหรือ?
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 73 ราชันอสรพิษโซ่แดง เป็นความผิดของข้าเพียงผู้เดียวหรือ?
แม้ว่ากำลังรบโดยรวมของนิกายลับสวรรค์จะไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าแดนศักดิ์สิทธิ์อื่น แต่ถึงกระนั้นพวกเขายังมีสายสัมพันธ์อันดีงามกับที่อื่น ผู้ใดจักรู้ว่าหากบาดหมางกับนิกายลับสวรรค์เข้า จะมีกลุ่มอำนาจและยอดฝีมือพากันออกโรงแทนเพียงไหน…
นิกายลับสวรรค์คือ กลุ่มอำนาจที่ไม่ควรมีเรื่องด้วยมากที่สุดในภาคกลาง
เผ่าวิฬาร์หิมะสวรรค์นั้น ในอดีตเคยรุ่งเรืองทัดเทียมกับแดนศักดิ์สิทธิ์ ทว่าเมื่อเทียบกับนิกายลับสวรรค์ ยังนับว่าห่างชั้นอยู่หน่อย
ราชันวิฬาร์เคยพาธิดาลั่วสุ่ยเดินทางไปยังนิกายลับสวรรค์ หมายจะปูทางให้ลั่วสุ่ยธิดาของเขา ให้ธิดาของเขามีโอกาสได้สานสัมพันธ์อันดีงามกับนิกายลับสวรรค์
ครานั้น เขาตั้งใจพาบุตรสาวไปพบเจ้านิกายปัจจุบันของนิกายลับสวรรค์ น่าเสียดาย เจ้านิกายมิใช่คนที่อยากพบแล้วจะได้พบทันที…
ต่อให้เขาเป็นถึงราชันแห่งเผ่าก็ไม่ได้
เรื่องอยากพบเจ้านิกายเป็นเรื่องที่ไม่อาจฝืน ทุกอย่างล้วนแล้วแต่อารมณ์ของเจ้านิกาย…
ต่อให้เป็นประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นก็เช่นกัน
ช่วยไม่ได้ เขาได้แต่ยอมถอยไปเลือกสิ่งที่รองลงมา พาตัวลั่วสุ่ยไปเยี่ยมเยียนผู้อาวุโสใหญ่แห่งนิกายลับสวรรค์ ผู้เฒ่าเมิ่งจี
บัดนี้ เจ้านิกายลับสวรรค์รุ่นก่อนกลับเดินทางมาที่นี่ด้วยตนเองเพื่อเขา ซ้ำยังลงไม้ลงมือ เขาคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ เรื่องนี้เหนือความคาดหมายของเขาเกินไปมาก!
หากมีสัมพันธ์ลึกซึ้งดีงามปานนั้นกับนิกายลับสวรรค์จริง คงไม่ถึงกับไม่ได้พบแม้แต่หน้าเจ้านิกายกระมัง…
“ผู้อาวุโสโปรดอย่าโมโห พวกเราไม่รู้จริง ๆ ว่าราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์เกี่ยวพันลึกซึ้งกับนิกายลับสวรรค์ถึงเพียงนี้! เรื่องวันนี้เป็นความผิดของพวกเรา ผู้อาวุโสโปรดอภัยให้ด้วย!”
“พวกเราถูกราชันอสรพิษโซ่แดงเป่าหู ถึงได้ทำผิดเพียงนี้ ผู้อาวุโสโปรดวางใจ พวกเราย่อมชดใช้ให้ราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์ร้อยเท่าพันเท่า!”
ยอดฝีมือจากสี่แดนศักดิ์สิทธิ์รีบเอ่ยกับเจ้านิกายรุ่นก่อน
พวกเขามีชีวิตอยู่มาช้านาน มากล้นด้วยประสบการณ์ แต่ละคนเรียกได้ว่าเป็นคนเหนือคนทั้งนั้น
เจ้านิกายรุ่นก่อนมาเยือนที่นี่ด้วยตนเองเพื่อราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์ ซ้ำยังลงไม้ลงมือโดยไม่สนว่าเป็นการผลาญพลังชีวิต นี่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์กับนิกายลับสวรรค์ลึกซึ้งเกินหยั่ง!
ในสถานการณ์เช่นนี้ ไฉนเลยพวกเขาจะไม่ปอดแหก?
นิกายลับสวรรค์มีสัมพันธ์ไมตรีกับกลุ่มอำนาจมากมาย ขืนปะทะกับนิกายลับสวรรค์จริง ๆ ต่อให้เป็นระดับแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างพวกเขาก็ใช่ว่าจะมีชัยเหนือกว่า แล้วยังต้องเสียหายหนักกว่าอีกด้วย!
“ใช่แล้ว! ราชันอสรพิษโซ่แดงเจ้าเล่ห์ชั่วช้า หลอกล่อพวกเราด้วยคำโกหกต่าง ๆ นานา จนส่งผลให้พวกเรากระทำความผิดใหญ่หลวง!”
“ผู้อาวุโสโปรดวางใจ พวกเราย่อมต้องชดใช้ให้ราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์ร้อยเท่าพันเท่าแน่นอน!”
ราชันอสูรตนอื่นอย่าราชันนาคาสองหัวก็ยอมปอดแหก
หกเผ่าอสูรใหญ่ บวกกับเผ่าอสรพิษโซ่แดง รวมเป็นเจ็ดเผ่าอสูร แล้วยังมีสี่แดนศักดิ์สิทธิ์ที่ผนึกกำลังเข้าด้วยกัน กำลังรบที่มีมหาศาลจนน่าหวาดหวั่นอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่เมื่อเทียบกับนิกายลับสวรรค์…ยังห่างชั้นอีกมาก
นิกายลับสวรรค์โอบอ้อมอารี ไม่ว่าจะเป็นยอดฝีมือจากแดนศักดิ์สิทธิ์ หรือผู้ฝึกตนไร้สำนัก นิกายลับสวรรค์ให้ความช่วยเหลือทุกคนเท่าที่จะให้ได้ เส้นสายที่มีมากมายเสียจนไม่อาจจินตนาการ!
กล่าวโดยไม่เกินจริง หากลงมือกับนิกายลับสวรรค์ ทั่วทั้งภาคกลางคงต้องโกลาหล กระทั่งทั้งเหยียนโจวยังมีโอกาสโกลาหลไปด้วย ในเหยียนโจว ไม่รู้ว่ามีกลุ่มอำนาจและยอดฝีมือมากมายเท่าไหร่ ที่พร้อมเข้ามาเกื้อหนุนนิกายลับสวรรค์!
นี่มัน…คนอะไร อสูรอะไรกันนี่!
ราชันอสรพิษโซ่แดงโกรธจนจมูกแทบเบี้ยว
เขาไปเอ่ยคำโกหกหลอกล่อตั้งแต่เมื่อใด?
ครานั้น เมื่อครั้งเขาติดต่อกับราชันอสูรและบรรดาแดนศักดิ์สิทธิ์ บอกเพียงมีโอกาสรวบหัวรวมหางราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์และราชันอสูรอีกห้าตนที่เหลือ หลังเรื่องจบ ทุกคนสามารถแบ่งสรรฐานทัพและสมบัติของราชันอสูรเหล่านี้ได้
และราชันอสูรกับแดนศักดิ์สิทธิ์พวกนี้ก็ตอบตกลงทันทีด้วย!
เหตุใดยามนี้ทุกอย่างถึงกลายเป็นความคิดของเขาทั้งหมดเล่า!
มีสหายจริงใจที่ไหนกัน!
เขาใกล้ชิดสนิทสนมกับราชันนาคาสองหัวดั่งพี่น้อง เอากับเขาสิ พอเกิดเรื่องจริง ๆ ราชันนาคาสองหัวทรยศเขาคนแรก!
‘ช่างเทียบไม่ได้เลย…ไอ้&%#!’
เขาก่นด่าในใจ
ดูสหายของราชันวิฬาร์สิ แล้วดูสหายของเขา…ต่างกันเกินไปไหม!
“ไยพวกเจ้าถึงมาขอโทษข้า มาขอให้ข้าอภัยให้…พวกเจ้าควรขอโทษราชันวิฬาร์ ขอให้ราชันวิฬาร์อภัยให้ ถ้าราชันวิฬาร์ไม่ให้อภัยพวกเจ้า อย่าว่าแต่พวกเจ้าชดใช้ให้ร้อยเท่าพันเท่าเลย ต่อให้หมื่นเท่าก็ไม่ได้!”
เจ้านิกายรุ่นก่อนกล่าว
“ราชันวิฬาร์ พวกเราผิดไปแล้ว พวกเรายินดีรับโทษ ขอเพียงราชันวิฬาร์ยอมยกโทษให้!”
“ให้ชดใช้อย่างไรพวกเราก็ยอม ขอเพียงราชันวิฬาร์ให้อภัยพวกเราเป็นพอ!”
ราชันอสูรทั้งหกตนและยอดฝีมือจากสี่แดนศักดิ์สิทธิ์รีบขอโทษขอโพยราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์
“หา?”
ราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์รู้สึกตัวเบาเหมือนกำลังล่องลอย ราวกับทุกสิ่งทุกอย่างเป็นความฝัน ไม่สมจริงแม้แต่น้อย
“ไม่ต้องกังวลสิ่งใด ไม่อยากยกโทษให้พวกเขาก็บอกมาตามตรง นิกายลับสวรรค์หนุนหลังเจ้าถึงที่สุด ต่อให้เจ้าต้องการล้างบางพวกเขาทั้งหมด นิกายลับสวรรค์ก็ช่วยเจ้าได้”
เจ้านิกายรุ่นก่อนบอกกับราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์ ท่าทางหนักแน่น ตราบใดที่ราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์ยังไม่หายแค้น พวกเขาจักจู่โจมหกเผ่าอสูรและสี่แดนศักดิ์สิทธิ์เต็มรูปแบบ
ความสัมพันธ์ลึกซึ้งเกินไปแล้ว!
สีหน้าของหกราชันอสูรและยอดฝีมือจากสี่แดนศักดิ์สิทธิ์เปลี่ยนไปทั้งหมด ต่างรีบขอโทษขอโพยราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์อีกครั้ง หวังได้รับการอภัยจากราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์
“จบแล้ว…จบแล้ว!”
ราชันอสรพิษโซ่แดงหน้าซีดเทา เจ้านิกายรุ่นก่อนเกื้อหนุนราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์ขนาดนี้ หนนี้เขาและเผ่าอสรพิษโซ่แดงถึงคราวจบเห่เป็นแน่…
ราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์ได้ยินคำกล่าวของเจ้านิกายรุ่นก่อน แล้วถึงกับตะลึงในไมตรีที่ถูกหยิบยื่นให้!
แต่ถึงอย่างไรเขายังเป็นราชันของเผ่า รู้ขอบเขต รู้ว่ายามไหนควรรุก ยามไหนควรรับ
หากไม่ให้อภัยราชันอสูรทั้งหกและยอดฝีมือจากสี่แดนศักดิ์สิทธิ์ ดึงดันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ย่อมสะใจมาก ระบายความแค้นได้ดีมาก ทว่าจะส่งผลกระทบต่อนิกายลับสวรรค์มหาศาลเช่นกัน
นิกายลับสวรรค์มีสัมพันธ์ไมตรีกับผู้อื่นมากหน้าหลายตาก็จริง เรียกได้ว่ามีคนรอขานรับเป็นร้อยในเหยียนโจว แต่หากคิดกำจัดหกเผ่าอสูรใหญ่และสี่แดนศักดิ์สิทธิ์ก็มิใช่เรื่องง่าย
เขาไม่ต้องการรบกวนนิกายลับสวรรค์ถึงเพียงนั้น ซ้ำเขาไม่รู้ด้วยว่าเหตุใดนิกายลับสวรรค์ถึงดีกับเขาเยี่ยงนี้!
“ราชันอสรพิษโซ่แดงเจ้าเล่ห์เพทุบายมาแต่ไหนแต่ไร ข้าคิดว่าทุกคนคงถูกเขาเป่าหูเอาถึงทำเช่นนี้ ฮ่าฮ่า ข้าไม่โทษทุกท่านหรอก”
เขาเอ่ยยิ้ม ๆ
“ราชันวิฬาร์ทรงคุณธรรมยิ่งนัก!”
“จากนี้ไปหากราชันวิฬาร์มีความต้องการใด เอ่ยปากกับพวกเราได้เสมอ พวกเราย่อมช่วยจนถึงที่สุด!”
หกราชันอสูรและยอดฝีมือจากสี่แดนศักดิ์สิทธิ์รีบเอ่ยขึ้น
“ราชันวิฬาร์มีคุณธรรม ไม่อยากเอาเรื่องพวกเจ้า แต่เรื่องนี้จะผ่านไปเฉย ๆ อย่างนี้ไม่ได้ หลังพวกเจ้ากลับไปแล้ว ไปเตรียมของกำนัลล้ำค่ามาไถ่โทษกับราชันวิฬาร์และสหายของราชันวิฬาร์ เพื่อชดใช้ความเสียหายของราชันวิฬาร์และสหายของเขา!”
สายตาเจ้านิกายรุ่นก่อนกวาดผ่านหกราชันอสูรและยอดฝีมือจากแดนศักดิ์สิทธิ์ “จำไว้ ของกำนัลล้ำค่า อย่าได้ตุกติก มิฉะนั้น ข้าจักให้พวกเจ้าได้เห็นดีกัน!”
เขาเข้าใจดีว่าราชันวิฬาร์ไม่ต้องการมีเรื่องมีราวใหญ่โตจนเกิดเป็นความยุ่งยาก จึงไม่แม้แต่จะเอ่ยถึงการชดใช้
ทว่าเขาจะไม่ยอมให้ราชันวิฬาร์เสียเปรียบเด็ดขาด!
“พวกเราเข้าใจดี!”
“ผู้อาวุโสโปรดวางใจ พวกเราไม่มีทางตุกติกแน่นอน!”
หกราชันอสูรและยอดฝีมือจากแดนศักดิ์สิทธิ์ตอบ
“เอาล่ะ หมดเรื่องของพวกเจ้าแล้ว กลับไปเตรียมของกำนัลล้ำค่าเถิด”
เจ้านิกายรุ่นก่อนเอ่ยราบเรียบ
“ขอบคุณผู้อาวุโส! ขอบคุณราชันวิฬาร์!”
“พวกเราจะกลับไปเตรียมเดี๋ยวนี้!”
หกราชันอสูรและยอดฝีมือจากแดนศักดิ์สิทธิ์กล่าว ก่อนจะไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว
“ผู้อาวุโส…ข้านั้นมีความดีความชอบแค่ไหนเชียว ผู้อาวุโสถึงช่วยเหลือขนาดนี้!”
เจ้านิกายรุ่นก่อนยิ้ม สายตาแฝงความหมายลึกซึ้ง “ราชันวิฬาร์ถ่อมตนเกินไปแล้ว ธิดาของเจ้าจักได้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ในภายหน้า ความสำเร็จของนางเกินหยั่ง ถึงเวลานั้น ข้าและนิกายลับสวรรค์ต้องพึ่งพาราชันวิฬาร์แล้ว!”