รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 801 ข้าคือหลี่จิ่วเต้า จักกำราบศัตรูทั้งปวง!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 801 ข้าคือหลี่จิ่วเต้า จักกำราบศัตรูทั้งปวง!
บทที่ 801 ข้าคือหลี่จิ่วเต้า จักกำราบศัตรูทั้งปวง!
“คนผู้นั้นเป็นใครกัน ดุดันยิ่งนัก!”
“ฝ่ายพวกเรายังมีตัวตนระดับนี้อยู่ด้วยหรือ”
สิ่งมีชีวิตในเมืองเก่าแก่หัวใจเต้น ‘โครมคราม’ รู้สึกเหลือเชื่อ ความแข็งแกร่งของหลี่จิ่วเต้าเกินขอบเขตการรับรู้ของพวกตนไปไกล!
พวกมันไม่รู้ว่าสิ่งมีชีวิตพิศวงลางร้ายหกตนนั้นอยู่ในระดับใด แต่พวกเขารู้ดีว่า ลำพังขนเส้นเดียวที่ร่วงหล่นจากสิ่งมีชีวิตพิศวงลางร้ายสักตนในหกตนนี้ ก็เพียงพอจะทำลายจักรวาลโกลาหลทั้งผืนจนพินาศ!
ทว่า สิ่งมีชีวิตพิศวงลางร้ายแสนน่ากลัวปานนั้น กลับกระจิริดประดุจลูกแกะเมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่จิ่วเต้า ไม่อาจต้านทานได้เลย น่าตกใจจริง ๆ!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
เวลานั้นเอง ฟ้าดินพลันมืดมน ดวงอาทิตย์สิ้นแสง ดวงดาราหม่นหมอง พลังปราณพิศวงอันน่าครั่นคร้ามคืบคลานเข้ามา สิ่งมีชีวิตแต่ละตนล้วนระส่ำระส่ายราวกับตกอยู่ในความมืดมิดไร้ที่สิ้นสุด!
พวกมันใกล้แตกสลายเต็มที กดดันเหลือคณา คล้ายความตายจุติลงมาหาพวกมันแล้ว พวกมันล้มลงไปทีละตน ตัวสั่นระริก หัวใจใกล้หยุดเต้น!
สุนัขดำก็เช่นกัน ลมหายใจหนักอึ้งขึ้นมา ร่างทั้งร่างเอนลงไปอย่างอดไม่ได้ ผวาขึ้นมาในใจอย่างกลั้นไม่อยู่!
สสารพิศวงลางร้ายที่โลดแล่นออกจากเส้นทางเปล่งประกายพิศวง ในสภาพแวดล้อมมืดมิดมองไม่เห็นสิ่งใดเช่นนี้ อย่าให้เอ่ยเลยว่าน่าสะพรึงเพียงใด!
พริบตาต่อมา สิ่งมีชีวิตจำนวนหนึ่งก้าวออกจากที่นั่น
พวกมันมากันทั้งหมดแปดตน นิยามเผ่าพันธุ์ไม่ได้ ขนยาวพิศวงบนตัวประหนึ่งเปลวเพลิงลุกโชน พลิ้วไสวในความมืดมิด น่ากลัวเหลือคณา!
หลังพวกมันก้าวออกมา ทั่วทั้งจักรวาลเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ ดวงดาราล่มสลายแหลกลาญดวงแล้วดวงเล่า กลายเป็นเศษประกายดารากระจัดกระจายไปทั่วอวกาศ!
ลมปราณของพวกมันน่าประหวั่นพรั่นพรึง ซ้ำร้ายนั่นยังไม่ใช่การตั้งใจ หากแต่เป็นเพียงลมปราณที่ไหลเวียนออกมาตามปกติเท่านั้น ยังเป็นผลให้สิ่งมีชีวิตในเมืองเก่าแก่รู้สึกเหมือนถูกบีบคอ ขาข้างหนึ่งก้าวสู่ปรโลกแล้ว!
พิธีบรรพชาที่เกิดขึ้นกับพวกมันในครั้งนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ โลงกระดูกจุติ ประทานกำลังรบสุดกล้าแกร่งแก่พวกมัน จนพวกมันแทบทัดเทียมขอบเขตนิรันดร์ขั้นหกแล้ว!
ขอบเขตนิรันดร์!
ต้องเป็นขอบเขตสูงส่งเพียงใดกัน แม้แต่ในเบื้องบนเทวโลกยังมีกำลังรบระดับนี้อยู่เพียงหยิบมือ!
และกำลังรบขั้นหกเช่นนี้ยิ่งมีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย!
หลังโลงกระดูกจุติ ถึงกับช่วยให้ต้นบรรพจารย์พิศวงลางร้ายแปดตนมีกำลังรบระดับนี้ได้ ต้องเป็นโลงเช่นไรกัน ไม่ต้องคิดให้มากความก็รับรู้ได้ถึงความน่าครั่นคร้ามของโลงศพนั้น!
“ฆ่า!”
หลังพวกมันปรากฏตัว ก็ไม่คิดรีรอให้เสียเวลา แต่ละตนต่างมีอาวุธพิศวงทรงพลังในมือ พร้อมตวัดไปหาหลี่จิ่วเต้า!
ไม่มีสิ่งใดต้องพูดกันอีก พวกมันมาแล้ว กำราบหลี่จิ่วเต้าให้ได้เป็นพอ!
“ยังจะมาอีกหรือ เช่นนั้นข้าขอยืดเส้นยืดสายหน่อยแล้วกัน…”
หลี่จิ่วเต้าหัวเราะเบา ๆ ก้าวเท้าออกไปอย่างทะมัดทะแมง ทะลุขีดจำกัดความเร็ว ปราดเข้ามาอยู่ตรงหน้าต้นบรรพจารย์ตนหนึ่งในพริบตา พลังแกร่งกล้าปะทุออกจากกำปั้น ถล่มใส่ศีรษะของต้นบรรพจารย์ตนนั้น
ทว่า เรื่องที่เหนือความคาดหมายคือ ต้นบรรพจารย์ตนนี้กลับอันตรธานไปจากเบื้องหน้าของตน หมัดของเขาพลาดเป้า!
“เจ้านี่ไม่ไหวจริง ๆ ด้วย…”
ต้นบรรพจารย์ตนนั้นหัวเราะเสียงเย็น ปรากฏออกมาในอีกมุมหนึ่ง มันจับร่องรอยหลี่จิ่วเต้าได้ล่วงหน้า และทำการหลบหลีกได้ทันท่วงที
ไม่มีสิ่งใดให้ต้องกังวล หลี่จิ่วเต้าไม่ได้ทรงพลังถึงเพียงนั้น มิฉะนั้น มันไม่มีทางตรวจจับร่องรอยหลี่จิ่วเต้าได้ก่อนจนหลบการโจมตีนี้ได้
คิดแล้วก็ใช่ นี่เป็นเพียงร่างจำแลงของหลี่จิ่วเต้า จะแข็งแกร่งสักสักเพียงใด!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ต้นบรรพจารย์ตนอื่นบุกเข้ามา อาวุธพิศวงในมือเปล่งพลังน่าพรั่นพรึง หมายจะกำราบร่างจำแลงของหลี่จิ่วเต้า และกระชากตัวจริงออกมาผ่านร่างจำแลง!
“อ๋อ พลังด้อยไปหน่อยหรือ เช่นนั้นข้าเพิ่มความแข็งแกร่งอีกนิดก็แล้วกัน”
หลี่จิ่วเต้าคลี่ยิ้ม เปล่งแสงทั่วร่างขจัดความมืดมิดออกไป ส่องสว่างไปทั่วทั้งอวกาศ!
ทรงพลังเกินไปก็ไม่สนุกสิ เมื่อครู่ยามเขาต่อสู้กับพวกสิ่งมีชีวิตพิศวงลางร้าย คิดเพียงต้องการมีพลังที่ต่อกรกับสิ่งมีชีวิตพิศวงลางร้ายได้ก็พอ
แต่บัดนี้ดูแล้ว พลังระดับนี้ไม่อาจต่อกรกับต้นบรรพจารย์ทั้งแปดได้
ทว่าไม่เป็นไร โลกนี้เป็นไปตามที่เขาบงการ เขาอยากมีพลังแข็งแกร่งเท่าใด ก็มีพลังแข็งแกร่งเท่านั้น!
หลังเสริมกำลังหนนี้ เขาจักมีพลังพอให้สู้กับต้นบรรพจารย์ทั้งหลาย!
ตึง! ตึง! ตึง!
เขาเสริมความแข็งแกร่ง ดุดันเหลือแสน หมัดสองข้างทนทานยิ่งกว่าศาสตราทั้งปวง ยามปะทะกับอาวุธพิศวงที่จู่โจมเข้ามา อาวุธพิศวงเหล่านั้นยังสั่นสะท้าน บ้างยังเกิดรอยบิ่น!
สีหน้าต้นบรรพจารย์ทั้งแปดเปลี่ยนสีฉับพลัน พลังที่แข็งแกร่งขึ้นได้ตามใจ หลี่จิ่วเต้าผู้นี้ไม่อาจคาดการณ์ด้วยหลักการทั่วไปจริง ๆ!
“กรงขังทมิฬ!”
ต้นบรรพจารย์พิศวงลางร้ายตนหนึ่งตวาด สำแดงวิชาลับออกมา นี่คือวิชาลับที่มันได้มาในพิธีบรรพชาจากโลงกระดูก พลานุภาพน่ากลัวยิ่ง!
หลังมันสำแดงวิชาลับนี้ออกไป รอบ ๆ หลี่จิ่วเต้าพลันปรากฏกรงขัง จองจำตัวคนไว้ ทั้งยังมองเห็นเงาดำมากมายในกรงขังบุกเข้าไปกัดหลี่จิ่วเต้าอีกด้วย
ตู้ม!
หลี่จิ่วเต้าเปล่งแสงทั่วร่าง ฝ่าออกจากกรงขังทมิฬได้ในเสี้ยวลมหายใจ เงาดำมากมายถูกบดขยี้จนพินาศ!
“เพลิงบาปทมิฬ!”
ต้นบรรพจารย์พิศวงลางร้ายอีกตนหนึ่งตวาดเสียงเย็น เรียกเพลิงบาปทมิฬออกมา นี่คือเปลวเพลิงที่ร่วงหล่นจากโลงกระดูก สามารถจุดประกายความมืดมนในจิตใจของสิ่งมีชีวิต และแผดเผาทุกอย่างให้สิ้นซาก!
ทว่า พริบตาต่อมามันก็ต้องอึ้งงัน หลังเพลิงบาปทมิฬถาโถมเข้าไป กลับกระโจนผ่านไปราวกับสายลมพัดผ่าน!
นี่มันหมายความว่าอย่างไร หลี่จิ่วเต้าไม่มีความมืดมนในใจหรือ?
“ฆ่า!”
ต้นบรรพจารย์พิศวงลางร้ายเรียกโลหิตสีดำออกมาหนึ่งหยด นี่คือเลือดที่หยดลงจากกระดูกในโลง พลังที่แฝงอยู่ในนั้นสยดสยองถึงขีดสุด!
ซ่า!
เสียงคล้ายสายน้ำดังขึ้นในนภา ร่างน่าสะพรึงร่างหนึ่งบุกออกจากโลหิตสีดำ มันดูเหมือนขุนศึกผู้หนึ่ง สวมชุดเกราะและมือถือหอก ทันทีที่โผล่ออกมาก็ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดตระการตา เสียงกู่ร้องเข่นฆ่าดั่งกึกก้องอยู่ในอวกาศ ทหารมากมายนับไม่ถ้วนบุกออกไปข้างหน้าตามหลังขุนศึกผู้นี้ จนรู้สึกคล้ายว่าได้มาอยู่ในสมรภูมิดุเดือดเลือดสาด!
“ข้าคือหลี่จิ่วเต้า จักกำราบศัตรูทั้งปวง!”
หลี่จิ่วเต้านึกประโยคอหังการชื่อดังในดาวเคราะห์สีฟ้าขึ้นมา และบุกออกไปข้างหน้า!
เขาบดขยี้สมรภูมิดุเดือดจนแหลกลาญ เผยให้เห็นถึงความไร้เทียมทานอย่างแท้จริง โลหิตสีดำถูกเล่นงานจนระเบิด ไม่อาจหยุดยั้งหมัดของเขาได้!
ต้นบรรพจารย์พิศวงลางร้ายทั้งแปดอึ้งงัน เหตุใดหลี่จิ่วเต้าถึงดุดันปานนี้?!
แม้แต่วิชาลับและโลหิตสีดำที่พวกมันได้จากโลงกระดูกก็ยังสู้ไม่ได้!
ตึง!
เวลานั้นเอง อวกาศนอกอาณาจักรสั่นไหวรุนแรง โลงศพโลงหนึ่งลอยออกมาจากเส้นทาง!
โลงศพนี้ก็คือโลงกระดูกที่ว่า สร้างขึ้นโดยท่อนกระดูกมากมาย แต่ละท่อนล้วนน่าประหวั่นพรั่นพรึง ม่านหมอกมืดมิดล้อมรอบ ราวกับมาเพื่อจัดงานศพให้กับสิ่งมีชีวิตทั้งปวงในใต้หล้า!
“นี่หรือคือสาเหตุที่คุณชายออกโรง?!”
หลังสุนัขดำได้เห็นโลงกระดูก หัวใจของมันแทบหยุดเต้น ขนสุนัขลุกชัน นิยามด้วยคำว่าหวาดผวายังไม่พอ!
เมื่ออยู่ต่อหน้าโลงกระดูกนี้ ต้นบรรพจารย์พิศวงลางร้ายก็ไม่อาจเทียบได้ เทียบไม่ได้แม้แต่กับท่อนกระดูกที่อ่อนพลังที่สุดในนั้นด้วยซ้ำ!
…..
นอกเมืองชิงซาน ริมลำธาร
“โลงอะไรนี่ ความรู้สึกน่ากลัวกว่ากระโปรงสีขาวแห่งความตายและดาบโลหิตอีก!”
เสียงของต้นหลิวเคร่งเครียด มันคอยจับตาดูเหตุการณ์ด้านนี้อยู่เช่นกัน และมันแน่ใจว่าโลงกระดูกนี้ไม่ใช่ภาพสะท้อน หากแต่เป็นโลงศพจริง ๆ เป็นโลงศพที่มาจากความมืดมิดเฉกเช่นกระโปรงสีขาวแห่งความตาย!
อนาคตข้างหน้าจะเกิดสิ่งใดกันแน่?!
เริ่มจากกระโปรงสีขาวแห่งความตาย ต่อมาเป็นโลงกระดูกนี้ ความมืดมิดนี้มีต้นกำเนิดจากที่ใดกัน?!
มิน่า คุณชายถึงต้องออกโรง หากเป็นมันที่ไป ไม่แน่ว่าอาจจัดการไม่ไหว โลงกระดูกนั้นน่าพรั่นพรึงเหลือคณา น่ากลัวว่ามีสิ่งมีชีวิตที่สยดสยองยิ่งกว่าดำรงอยู่ภายใน!
…..
อวกาศนอกอาณาจักร
“นี่เขาตื่นกลัวจนนิ่งไปเลยหรือไร”
ต้นบรรพจารย์พิศวงลางร้ายตนหนึ่งหัวเราะเยาะ หลังโลงกระดูกปรากฏ หลี่จิ่วเต้าก็ไม่ขยับอีก ‘นิ่ง’ อยู่ที่เดิม
ตึง!
มีเสียงดังออกจากโลงกระดูกอีกครั้ง ภาพร่างหลี่จิ่วเต้าระเบิดแหลกลาญ หายไปอย่างสิ้นเชิง!
“นี่น่ะหรือ ข้าคือหลี่จิ่วเต้า จักกำราบศัตรูทั้งปวง! ถุย ต้านการโจมตีเพียงครั้งเดียวไม่ได้ด้วยซ้ำ!”
“ไร้น้ำยาสิ้นดี!”
ต้นบรรพจารย์พิศวงลางร้ายทั้งหลายหัวเราะร่วน อย่าให้เอ่ยเลยว่าอารมณ์ชื่นบานเพียงใด!
เปราะบางยิ่งนัก!