รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 830 หลี่จิ่วเต้า 'อย่ามาอีกเลย กินไม่หมดแล้วจริง ๆ!'
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 830 หลี่จิ่วเต้า 'อย่ามาอีกเลย กินไม่หมดแล้วจริง ๆ!'
บทที่ 830 หลี่จิ่วเต้า ‘อย่ามาอีกเลย กินไม่หมดแล้วจริง ๆ!’
ม่านแสงสาดประกายออกมาจากก้านหลิวชะล้างไม่หยุด คลื่นพลังบางอย่างไหลเวียน ยมราชแห่งสิบขุมนรกตกตะลึง นี่มันอะไรกัน? พวกเขาออกโรงพร้อมเพรียงยังสู้ไม่ไหวอีกหรือ!
พวกเขารู้สึกได้ว่าพลังในร่างกำลังสลายหายไปอย่างรวดเร็ว ทั้งที่เป็นเพียงก้านหลิวท่อนหนึ่งเท่านั้น สะท้านโลกันตร์เกินไปจริง ๆ พลังของพวกเขากำลังถูกชำระหรือ
“นี่มันอะไรกัน?!”
“ตีผู้อื่นห้ามตีที่หน้า เจ้า…ไร้มารยาทยิ่งนัก!”
ยอดฝีมือจากแต่ละยุคสมัยต่างมีสีหน้าประหลาด พวกเขารู้สึกขายขี้หน้า อับอายแทบทนไม่ไหว
“เกิดอันใดขึ้น!?”
พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นวีรชนผู้กำราบยุคสมัยหนึ่งได้ มาจากเทวโลก เป็นผู้นิรันดร์กันทั้งสิ้น
นับแต่ก้าวออกจากยุคสมัยของตน พวกเขาก็ฮึกเหิมเหลือคณา ประกาศศักดาอย่างยิ่งใหญ่ว่าจักสังหารศัตรูทั้งปวงของปริภูมิเวลาเพื่อตอบแทนบุญคุณ!
ทว่าต่อมา พวกเขากลับต้องกลืนน้ำลายอย่างน่าสังเวช อย่าว่าแต่สังหารหลี่จิ่วเต้าเลย พวกเขาต่อกรกับหินก้อนเดียวที่หลี่จิ่วเต้าโยนมายังมิได้เลย!
หินอะไรกัน ดุดันเหลือเกิน พวกเขาสู้ไม่ได้เลย! สำแดงพลังโจมตีไปตั้งมาก กลับมิอาจกระเทาะเปลือกก้อนหินได้ด้วยซ้ำ!
ที่สำคัญก้อนหินก้อนนี้ยังยั่วยุอารมณ์เป็นที่หนึ่ง เล็งแต่ใบหน้าพวกเขา เล่นงานพวกเขาแต่ละคนจนหน้าบวมประดุจหัวหมู ทั้งอัปลักษณ์ทั้งขายหน้า!
พวกเขาโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ ทว่าไร้ซึ่งหนทาง ก้อนหินก้อนนั้นดุดันจนน่าฉงน พวกเขาป้องกันมิได้เลย ได้แต่ปล่อยให้ก้อนหินทุบตีใบหน้า
อีกด้าน หลี่จิ่วเต้าบุกไปหาสัตว์อสูรปริภูมิเวลาด้วยตนเอง เขาให้ความสำคัญกับสัตว์อสูรปริภูมิเวลาเหล่านี้มาก ถึงอย่างไรก็เป็นวัตถุดิบอาหารชั้นเลิศ เขาต้องเก็บไปกิน!
พลังปริภูมิเวลาที่นั่นซัดสาดอย่างดุดัน น่าประหวั่นพรั่นพรึงอย่างยิ่งยวด กำลังรบระดับนิรันดร์ที่ถูกม้วนเข้าไปก็ต้องถูกบั่นจนละเอียดในบัดดล ไม่มีทางต้านแรงไหว
ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่จิ่วเต้ากลับไม่ได้ผลเลยสักนิด ชายหนุ่มคงตัวไว้ได้ราวกับอยู่บนพื้นราบ พลังปริภูมิเวลาที่เคยซัดสาดอย่างดุดันเรียบนิ่งสงบ มิอาจก่อความวุ่นวายขึ้นมาแม้แต่น้อย
สัตว์อสูรปริภูมิเวลาตื่นตระหนก หรือพวกมันต้องกลายเป็นวัตถุดิบอาหารอย่างที่หลี่จิ่วเต้าว่า ถูกอีกฝ่ายกลืนกินอย่างนั้นหรือ?!
โฮกกกก!
พวกมันระเบิดพลังเต็มเปี่ยม จะยอมให้หลี่จิ่วเต้ากลืนกินได้อย่างไร พวกมันสำแดงวิชาลับปริภูมิเวลาออกมามากมาย ห้วงมิติที่นั่นยุ่งเหยิงขึ้นมาขนาดที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า ปริภูมิเวลาต่าง ๆ ทับซ้อนกันและกัน สยดสยองถึงขีดสุด!
“ว่านอนสอนง่ายหน่อย!”
หลี่จิ่วเต้าสะบัดต้นวิเศษสัตตะ ม่านแสงเจ็ดสีไหลเวียนพร้อมด้วยกฎระเบียบบางอย่าง ทันใดนั้น พลังโจมตีทั้งหมดถูกลบล้างออกไป!
“ไม่ใช่กระมัง!”
“นี่มัน…เป็นไปได้อย่างไร?!”
สัตว์อสูรปริภูมิเวลาตกตะลึงกันหมด หลี่จิ่วเต้าน่ากลัวเกินไปแล้ว พลังของพวกมันอันตรธานในเสี้ยวลมหายใจ ไม่เหลืออยู่อีกต่อไป!
“อย่านะ!”
พวกมันร่ำไห้โหวกเหวก พยายามขัดขืนสุดกำลัง พวกมันยังอยู่บนท้องฟ้า หลังสูญเสียพลังทั้งหมดอาจต้องตกลงจากความสูงระดับนี้ เช่นนั้นพวกมันมิเละเป็นเศษเนื้อเลยหรือ!
ยังดี ขณะที่พวกมันกำลังจะกระแทกพื้น พลังบางอย่างรองรับร่างพวกมันไว้ ช่วยให้พวกมันลงพื้นได้อย่างมั่นคง
“ขืนเละเป็นเศษเนื้อคงกินไม่ได้…อีกอย่าง แค่เห็นก็สะอิดสะเอียนน่าดู!”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม
“สือเฟิง นำตัวพวกมันลงไป เลือกมากินสักสองสามตัว”
เขาบอกกับสือเฟิง บอกให้สือเฟิงนำสัตว์อสูรปริภูมิเวลาเหล่านี้ออกไป
สิ่งมีชีวิตนับคณาเลือดพล่าน ดวงตาวาวโรจน์กันถ้วนหน้า
พวกเขายังจำคำกล่าวก่อนหน้านี้ของหลี่จิ่วเต้าได้ ชายผู้นี้เอ่ยว่าจะฆ่าสัตว์อสูรปริภูมิเวลาจำนวนหนึ่งเพื่อมารับรองแขกเหรื่อ!
และพวกเขาก็คือแขกเหรื่อที่ว่า!
นั่นหมายความว่า อีกเดี๋ยวพวกเขาก็จะได้กินเลือดเนื้อของสัตว์อสูรปริภูมิเวลาเหล่านี้แล้วหรือ
สวรรค์!
เพียงเสี้ยวลมหายใจเดียวเท่านั้น พวกเขาก็ตื่นเต้นดีใจขึ้นมากันอย่างไม่หวาดไม่ไหว
ถึงแม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าสัตว์อสูรปริภูมิเวลาเหล่านี้อยู่ในขอบเขตใด แต่พวกเขาก็แน่ใจมากว่าสัตว์อสูรปริภูมิเวลาเหล่านี้มีขอบเขตสูงจนจินตนาการไม่ออกอย่างไม่ต้องสงสัย!
หากพวกเขาได้กินเลือดเนื้อของสัตว์อสูรปริภูมิเวลาเหล่านี้ ไม่รู้เลยว่าจะได้รับผลประโยชน์มหาศาลเพียงใด!
เอ่ยอย่างไม่เกินจริง เลือดเนื้อของสัตว์อสูรปริภูมิเวลาเหล่านี้ล้ำค่าหายากยิ่งกว่าสมุนไพรวิเศษสะท้านโลกันตร์เสียอีก!
“ไปเร็ว!”
ยมราชแห่งขุมนรกทั้งสิบผวา แต่ละคนขนลุกขนพองกันหมด นั่นคือฝูงสัตว์อสูรปริภูมิเวลาขอบเขตนิรันดร์เชียวนะ ดูท่าท่าทางพวกมันเห็นทีคงเป็นกำลังรบระดับนิรันดร์อาวุโสด้วย เทียบกับพวกเขารังแต่จะแข็งแกร่งยิ่งกว่า
ทว่าเหล่าสัตว์อสูรปริภูมิเวลาที่ทรงพลังน่าครั่นคร้ามเช่นนี้ กลับถูกลบล้างพลังในพริบตา จะมิให้พวกเขากลัวได้อย่างไร?!
พวกเขาอยากหนี อยากไปจากที่นี่ แต่เรื่องนั้นง่ายดายที่ไหน ก้านหลิวชะล้างเปล่งพลังไม่หยุด เล็งเป้ามาที่พวกเขาไว้แล้ว พวกเขาไม่มีทางไปไหนได้เลย
“ปล่อยพวกเราไปได้หรือไม่”
“หยุดตีหน้าเสียที!”
บรรดายอดฝีมือที่ออกจากยุคสมัยต่าง ๆ ล้วนร้องไห้กันหมด ใบหน้าของพวกเขาเละเทะด้วยแรงอัดจนเลือดเนื้อหลอมรวมเข้าด้วยกัน บ้างกระดูกโครงหน้าหักด้วยซ้ำ
พวกเขาก็หวาดผวาเช่นกัน นึกในใจว่าหลี่จิ่วเต้าผู้นี้เป็นใครกันแน่ ดุดันเหลือเกิน อยู่เหนือพวกเขาอย่างสิ้นเชิง มิใช่ผู้ที่พวกเขาทัดเทียมได้เลย!
พวกเขาอยากหนีออกจากที่นี่ แต่ไม่อาจทำได้เลย หินห้าสีนั่นน่ากลัวจนเหลือเชื่อ เล็งเป้าพวกเขาไว้แล้วเช่นกัน พวกเขาไม่มีทางหนีไปจากที่นี่ได้
“บังอาจนัก!”
ในตอนนั้นเองเสียงคล้ายอสนีบาตดังขึ้น ปฐพีสั่นไหว หัวใจของสิ่งมีชีวิตทุกตนเต้นผิดจังหวะ เสียงนี้ดังก้องอยู่ในส่วนลึกของวิญญาณพวกเขา!
รวมถึงพวกลั่วสุ่ยก็เช่นกัน มิมีผู้ใดเป็นข้อยกเว้น
บนนภากาศ กาลเวลาอันยาวนานไหลหลาก สัตว์อสูรมหึมาตัวหนึ่งปรากฏ ดวงตาสองข้างนั้นใหญ่ยักษ์ยิ่งกว่าสุริยันจันทรา ยามกะพริบตาก็มีปริภูมิเวลาไหลผ่านอย่างรวดเร็ว
นี่คือตัวอะไร?
กำลังรบระดับสูงสุดจากปริภูมิเวลาออกโรงหรือ
พวกลั่วสุ่ยมีสีหน้าคร่ำเครียด แข็งแกร่งระดับพวกเขาซ้ำยังมียอดศาสตราที่คุณชายประทานให้ ก็ยังไม่มั่นใจเลยว่าจะต่อกรกับสัตว์อสูรมหึมาตัวนี้ได้
ความห่างชั้นของระดับมากเกินไป!
คิดแล้วคงใช่ หากด้านปริภูมิเวลาน่าครั่นคร้ามไม่พอ ไฉนเลยจะกล้าลงมือกับคุณชาย
“ยังมีอีกหรือ?”
หลี่จิ่วเต้ามองสัตว์อสูรมหึมาบนนภาด้วยสีหน้าเปลี่ยนไป
“เป็นอันใดไป กลัวรึ กลัวไปก็เปล่าประโยชน์! วันนี้ เจ้าจักต้องตายอยู่ที่นี่! มิมีผู้ใดกีดขวางการตั้งกฎปริภูมิเวลาขึ้นใหม่ได้!”
บนนภากาศ สัตว์อสูรมหึมาตัวนั้นหัวเราะเสียงเย็น นัยน์ตาทอประกายดุดัน หัวใจสิ่งมีชีวิตทุกตนหยุดเต้น พวกเขารู้สึกเหมือนกำลังจะตาย ราวกับพวกเขาจะสิ้นลมในลมหายใจต่อไป!
“กลัวอะไร? ข้าหมายถึงเท่านี้ก็พอให้กินแล้ว ขืนมาอีกก็กินไม่หมดกันพอดี! โดยเฉพาะตัวใหญ่เช่นเจ้า!”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ย หาได้เกรงกลัวไม่
สู้มาถึงตอนนี้ ผมเขายังไม่ร่วงสักเส้น ไยเขาต้องกลัวด้วย?
สุดยอด…เพียงนี้เชียว!?
สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนตะลึงกับวาจาของหลี่จิ่วเต้า นี่หรือคือความมั่นใจของผู้ไร้เทียมทาน เก่งกาจเหลือเกิน ไม่เห็นสัตว์อสูรมหึมาตัวนั้นอยู่ในสายตาสักนิด!
“จะว่าไป พวกเจ้ายังมีตัวอื่นตามมาทีหลังอีกหรือไม่ อย่ามีอีกเลย กินไม่หมดแล้วจริง ๆ ลำพังขนาดตัวของเจ้าข้ายังต้องตรึกตรองให้ดีว่าต้องกินอย่างไร”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เจ้าตัวใหญ่เกินไป ต้องกินอีกกี่วันกว่าจะหมด ขืนกินบ่อย ๆ ได้เลี่ยนกันพอดี ข้าต้องเปลี่ยนวิธีปรุงไปเรื่อย ๆ” สุดท้ายเขาก็ถอนหายใจ
“เจ้านี่นะ ช่างออกโจทย์ให้ข้ายากเหลือเกิน!” เขาสั่นศีรษะพลางเอ่ย
ตัวใหญ่เกินไป ต้องเปลี่ยนวิธีปรุงไปกี่แบบจึงจะกินหมด
ยากจริง ๆ เลย