รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 856 สิ่งมีชีวิตใต้ดิน สัตว์ประหลาดสีเลือด!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 856 สิ่งมีชีวิตใต้ดิน สัตว์ประหลาดสีเลือด!
บทที่ 856 สิ่งมีชีวิตใต้ดิน สัตว์ประหลาดสีเลือด!
ณ ดินแดนฮวง
บนเกาะกลางทะเลขนาดไม่ใหญ่นัก
“ฮัดชิ่ว!”
เวลานั้น บรรพจารย์ฝูอดมิได้ที่จะจามออกมาอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยเสียงขมขื่น “มาอีกแล้ว! ดูท่าคงหนีไม่พ้นแล้วจริง ๆ หรือ”
เขาอยากร้องไห้จริง ๆ สังหรณ์ไม่ดีในใจรุนแรงยิ่งนัก น่ากลัวว่าเขาคงซ่อนตัวต่อไปมิได้แล้ว!
…
บนทะเลทราย
“บรรพจารย์ฝู?”
แมงมุมยักษ์สีดำหัวเราะพรืด “ข้าไม่สนบรรพจารย์อะไรทั้งนั้น ยามอยู่ต่อหน้าข้าล้วนไร้น้ำยา!”
มันมาจากจักรวาลโกลาหลแห่งอื่น เป็นตัวตนระดับจ้าวผู้ยิ่งใหญ่ในนั้น ระดับพลังสูงถึงขอบเขตลอยชายขั้นเจ็ด
แน่นอนว่าเป็นขอบเขตก่อนมันมายังอาณาจักรนี้
บัดนี้ขอบเขตของมันสูงยิ่งขึ้น เหนือกว่าขอบเขตลอยชาย ก้าวสู่ขอบเขตผู้บงการแล้ว
สิ่งแวดล้อมในปฐพีผืนนี้เปลี่ยนไปมหันต์ สสารระดับสูงพวยพุ่งไม่หยุด มันเป็นกลุ่มแรกที่มาถึงอาณาจักรนี้ และหลังมันมาถึงก็ง่วนอยู่กับการฝึกฝน
นี่อย่างไร มันเพิ่งตื่นจากการนิทราลึก จนก้าวข้ามขอบเขตไปแล้ว
มันไม่รับรู้เรื่องราวภายนอกเลยสักนิด จดจ่ออยู่กับการฝึกฝนเท่านั้น
หากมิใช่ว่าหลี่จิ่วเต้าตวัดกระบี่ฉุนจวินที่นี่จนสะเทือนไปถึงมัน มันคงยังไม่ตื่นมาและฝึกฝนขั้นลึกต่อ
นอกจากนี้ เรื่องนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความน่าทึ่งของสสารระดับสูงที่พวยพุ่งไม่หยุดในอาณาจักรนี้
มันเพิ่งมาอยู่อาณาจักรนี้ได้นานเท่าใดเอง สองสามปีไม่เกินเท่านั้น แต่กลับยกระดับพลังได้อย่างถี่กระชั้น ซ้ำยังก้าวข้ามขอบเขตใหญ่ไปได้ สสารระดับสูงนี้มหัศจรรย์เหลือเกิน!
สิ่งมีชีวิตจักรวาลโกลาหลตนอื่นที่ง่วนอยู่แต่กับการฝึกฝนเฉกเช่นแมงมุมมีอยู่นับคณา ไม่น้อยเลยทีเดียว
ถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่แน่ใจว่าสสารระดับสูงนี้มีวันหายไปหรือไม่ ด้วยเหตุนี้พวกเขาถึงเห็นค่าเวลาอย่างยิ่งยวด ไม่ต้องการเสียไปแม้แต่น้อย มุ่งมั่นอยู่แต่กับการฝึกฝน
แมงมุมดำก้าวสู่ขอบเขตผู้บงการ กำลังรบเพิ่มพูนทวีคูณ มันไม่แยแสบรรพจารย์ฝูอะไรนั่นเลยสักนิด
ต่อให้บรรพจารย์ฝูคือยอดฝีมือจากจักรวาลโกลาหลอื่น มันก็ไม่ยี่หระ
ใช่ว่าจักรวาลโกลาหลทุกผืนเหมือนกันหมด
จักรวาลโกลาหลมีทั้งที่แข็งแกร่งและอ่อนแอ ผืนของมันคือสุดยอดจักรวาลโกลาหล เหนือชั้นกว่าจักรวาลโกลาหลอื่น ๆ ไปมาก
มันผู้เป็นถึงตัวตนระดับจ้าวผู้ยิ่งใหญ่ในสุดยอดจักรวาลโกลาหลเช่นนี้ย่อมทะนงตน ไม่เห็นสิ่งมีชีวิตจากจักรวาลโกลาหลอื่น ๆ ในสายตา
โดยเฉพาะตอนนี้ที่มันบรรลุขอบเขตผู้บงการ ยิ่งไม่ต้องเห็นอยู่ในสายตา
‘หากข้าออกไปในเวลานี้ คงกวาดล้างได้ทุกสิ่ง!’
มันคิดในใจ มั่นใจเต็มเปี่ยม ทึกทักว่ามันในยามนี้ไร้เทียมทาน มิมีผู้ใดเป็นคู่มือของมัน
“ไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของบรรพจารย์ฝูมาก่อนหรือ ดูท่าเจ้าเองคงไม่เท่าไหร่”
หลี่จิ่วเต้ามองแมงมุมดำขึ้น ๆ ลง ๆ รู้สึกว่าแมงมุมดำคงมิได้แข็งแกร่งแน่ ๆ ถือเป็นตัวละครต่ำต้อย ถึงไม่เคยได้ยินกิตติศัพท์ของบรรพจารย์ฝู
เขารู้ดีว่าบรรพจารย์ฝูแข็งแกร่งเพียงใด หากแมงมุมดำเก่งกาจพอ ไม่มีทางไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของบรรพจารย์ฝูมาก่อน
“ไม่เท่าไรหรือ?!”
หลังแมงมุมดำได้ยินก็อยากหัวเราะให้ตายชัก
มันเป็นถึงผู้บงการ กลับถูกกล่าวหาว่าไม่เท่าไรรึ หลี่จิ่วเต้าคิดจะทำให้เขาตายเพราะการขำ แล้วรอดจากเคราะห์ร้ายคราวนี้ไปได้อย่างนั้นหรือ
“เช่นนั้นข้าผู้มีฝีมือไม่เท่าไรจักจบชีวิตเจ้าเสียที่นี่!”
ขาแมงมุมข้างหนึ่งของมันฟาดฟันไปหาหลี่จิ่วเต้า คมกริบเสียยิ่งกว่าปลายมีด พร้อมด้วยเรี่ยวแรงไร้เทียมทานสามารถตัดได้ทุกสิ่ง
หลี่จิ่วเต้ายกมือ ตั้งจิตหนึ่งครั้ง กระบี่ฉุนจวินพุ่งออกจากมือเขาทันทีและฟันลงไปที่ขาแมงมุม
กระบี่ฉุนจวินต่างหากที่ไร้เทียมทานอย่างแท้จจริง เสียงดังพรวด ขาแมงมุมข้างนั้นโดนฟันขาด ตัวกระบี่มิมีโลหิตเปรอะเปื้อนสักหยด
‘เป็นพวกตัวละครต่ำต้อยจริงด้วย!’
หลี่จิ่วเต้าหัวเราะในใจ การต่อสู้นี้กดดันหรือ? ไม่เลยสักนิด!
“อะไรกัน!”
แมงมุมดำตกใจแทบแย่ เป็นไปได้อย่างไร นั่นมันกระบี่อันใดกัน น่ากลัวเกินไปแล้ว! ตัดขามันได้ง่ายดายราวกับตัดเต้าหู้!
กายเนื้อขอบเขตผู้บงการของมันประหนึ่งของตั้งวาง ไม่อาจป้องกันได้เลย!
เช่นนี้แล้วมันไฉนเลยจะไม่เข้าใจอีก มันเจอกับคนโหดเข้าแล้ว หลี่จิ่วเต้าน่าพรั่นพรึงกว่าที่มันคิดมาก!
“บรรพจารย์ฝู! บรรพจารย์ฝูผู้นั้นน่ะหรือ ข้านึกออกแล้ว ช่างเป็นบุคคลไร้เทียมทานจริง ๆ! ข้าเคยมีวาสนาพบกับบรรพจารย์ฝูผู้นี้ ทรงพลังสุด ๆ!”
มันรีบบอก และประจบประแจงบรรพจารย์ฝู แม้ว่ามันไม่รู้จักบรรพจารย์ฝูที่ว่าและไม่เคยพบเห็นมาก่อน แต่ประจบไปก่อนย่อมไม่เสียเปรียบ!
ตามคาด มันเห็นสีหน้าของหลี่จิ่วเต้าผ่อนลง ทั้งยังเก็บกระบี่ฉุนจวินกลับไป
“ฝึกฝนโดยไม่รู้จักบรรพจารย์ฝู ต่อให้ขอบเขตพลังสูงส่งเพียงใดก็ไร้ความหมาย!”
หลี่จิ่วเต้าหันมองแมงมุมดำพลางกล่าว “จำชื่อบรรพจารย์ฝูให้แม่น แล้วมีใจเคารพต่อบรรพจารย์ฝู วันหน้าอาจช่วยชีวิตเจ้าได้”
“เข้าใจแล้ว ข้าจะจำชื่อบรรพจารย์ฝูให้ขึ้นใจ!”
แมงมุมดำรีบบอก
มันนึกไปว่าบรรพจารย์ฝูผู้นี้เป็นตัวตนระดับใดกัน กระทั่งหลี่จิ่วเต้าผู้นี้ยังนับถือปานนี้!
‘จำไว้ จากนี้ไปหากเจอปัญหาเข้าจริง ๆ สามารถกล่าวอ้างถึงบรรพจารย์ฝูผู้นี้! บางทีอาจข่มขวัญศัตรูได้จริง ๆ!’
มันคิดในใจ
“เอาล่ะ จงอยู่อย่างสงบเจียมตัว อย่าได้กระทำความชั่ว มิฉะนั้น ข้าจะมาหาเจ้าเป็นคนแรก!”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ย ก่อนจะไปจากที่นี่พร้อมกิเลนไฟ
แน่นอนว่าเขามิได้ขี่หลังกิเลนไฟ หากแต่ยืนอยู่บนกระบี่ฉุนจวินและเหิน
‘กระบี่นี่ไม่มีปัญหา แต่ปัญหาคือที่ใดมีปีศาจอยู่บ้าง ท่องยุทธภพพร้อมอาวุธคู่ใจ ตวัดฟาดฟันปีศาจมารร้ายต่างหากคือความฝันสูงสุดของข้า!’
หลี่จิ่วเต้าตาลุกวาวขณะคิดในใจ
“ค่อย ๆ ไป พวกเราวนให้ทั่ว ๆ…”
เขาบอกกับกิเลนไฟ อยากดูว่าที่ใดมีความไม่สงบบ้าง เขาจะได้ตวัดกระบี่ขจัดความอยุติธรรม!
…
บนยอดเขาที่กระบี่ฉุนจวินเคยปักอยู่
ตึง! ตึง! ตึง!
เสียงบางอย่างดังขึ้นจากใต้พสุธาอีกครั้งประดุจเสียงเต้นของหัวใจ พร้อมกับเสียงหายใจที่ดังขึ้น
ที่นี่เคยมีเสียงหัวใจเต้นดังมาก่อน ทว่ามิได้รุนแรงชัดเจนเฉกเช่นครานี้ สิ่งมีชีวิตใต้ดินกำลังจะฟื้นสภาพออกมาแล้วหรือ?!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า สิ่งมีชีวิตใต้ดินย่อมต้องสยดสยองถึงขีดสุด กระทั่งกระบี่ฉุนจวินยังมิอาจสะกดได้อีก ถูกไล่ต้อนออกไป!
มิหนำซ้ำ กระบี่ฉุนจวินยังได้รับผลกระทบใหญ่หลวง พลานุภาพลดฮวบ มีทีท่าว่าจะถูกดูดกลืนให้กลายเป็นพวกเดียวกัน!
ครานั้นกระบี่ฉุนจวินถูกไล่ต้อนออกมา ซ้ำยังอยากหนีไปจากไปที่นี่ สิ่งมีชีวิตใต้ดินน่ากลัวเกินไป ใกล้จะควบคุมมันได้เต็มรูปแบบแล้ว
อนิจจา กระบี่ฉุนจวินหนีไม่พ้น ถูกพลังจากสิ่งมีชีวิตใต้ดินดูดดึงไป ถึงได้ปักอยู่บนยอดเขา
ถ้าหากหลี่จิ่วเต้ามิได้นำกระบี่ฉุนจวินไปด้วย กระบี่ฉุนจวินต้องตกเป็นศาสตราของสิ่งมีชีวิตใต้ดินเป็นแน่!
เวลานั้นเอง คล้อยตามเสียงเต้นของหัวใจและเสียงหายใจที่ดังออกมาไม่หยุด ที่นี่เริ่มมีม่านหมอกสีเลือดแผ่ซ่านออกไปรอบ ๆ
ม่านหมอกสีเลือดเหล่านี้พิศวงน่าสะพรึงอย่างยิ่งยวด คล้ายว่าสนอกสนใจในสิ่งมีชีวิตผู้ทรงพลัง ยามเดินทางผ่านสิ่งมีชีวิตที่มิได้มีฝีมือเท่าใดจึงไม่มีความเคลื่อนไหวแต่อย่างใด
ทว่าเมื่อได้พบสิ่งมีชีวิตความสามารถกล้าแกร่ง ม่านหมอกสีเลือดเหล่านี้เริ่มขยับตัว บุกไปหาสิ่งมีชีวิตทรงพลังเหล่านั้น!
“นี่มันอะไรกัน?!”
“ไสหัวไปเสีย!”
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังออกมาจากสถานที่ต่าง ๆ สิ่งมีชีวิตยอดฝีมือที่ถูกม่านหมอกสีเลือดจู่โจมล้วนปัดป้องสุดกำลัง ไม่ยอมให้ม่านหลอกสีเลือดประชิดตัว
ทว่าม่านหมอกสีเลือดเหล่านี้น่าประหวั่นพรั่นพรึงเป็นที่สุด สิ่งมีชีวิตยอดฝีมือเหล่านั้นไม่อาจหยุดยั้งได้เลย พลังและการโจมตีต่างไม่เป็นผลเลยสักนิด!
ไม่นานนัก ม่านหมอกสีเลือดเหล่านี้ก็คลี่แผ่ปกคลุมบรรดาสิ่งมีชีวิตยอดฝีมือ และกลืนกินพวกเขาไปในเสี้ยวลมหายใจ!
จากนั้น ภาพแสนพิศวงเกิดขึ้น ม่านหมอกสีเลือดที่กลืนกินเหล่าสิ่งมีชีวิตยอดฝีมือเข้าไปมีลำตัวและศีรษะงอกออกมา กลายเป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างพิลึก!
โฮกกกก!
พวกมันส่งเสียงคำรามกราดเกรี้ยว บ้างคล้ายเสียงอสูร บ้างคล้ายเสียงครวญครางของวิญญาณร้ายที่สิงสถิตมานับหมื่นปี พวกมันกระจายตัวกันไปตามหาเป้าหมายใหม่!
ในสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งมีสสารระดับสูงอยู่มาก สรรพสิ่งในพื้นที่นี้ล้วนเปลี่ยนไปอย่างพลิกผัน ต้นไม้กลายเป็นพฤกษาวิเศษสูงส่ง เหล่าสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยและพวกแมลงก็แกร่งกล้าขึ้นอย่างยิ่งยวด
แม้แต่ยอดฝีมือจากจักรวาลโกลาหลอื่นยังไม่สามารถเข้ามาได้ง่าย ๆ ขืนผลีผลามได้จบชีวิตแน่
และสถานที่แห่งนี้มิใช่สถานที่ในภาพวาดของหลี่จิ่วเต้า เพียงแต่อยู่ในละแวกใกล้เคียงเท่านั้น สถานที่ในภาพวาดหลี่จิ่วเต้ามหัศจรรย์น่าทึ่งยิ่งกว่า เป็นแหล่งกำเนิดของสสารระดับสูงที่พวยพุ่งอยู่ สิ่งที่อยู่ในนั้นวิเศษสูงส่งยิ่งกว่า!
พื้นที่นั้นยิ่งไม่สามารถเข้าไปได้ง่าย ๆ ยอดฝีมือจากจักรวาลโกลาหลอื่นไม่อาจเข้าใกล้ด้วยซ้ำ ทันทีที่เข้าใกล้ต้องจ่ายด้วยชีวิต!
ปีศาจที่หลอมร่างจากม่านหมอกสีเลือดบุกเข้ามา น่าประหวั่นพรั่นพรึงเป็นหนักหนา ไม่นานนักก็กวาดล้างเข้ามาในพื้นที่ซึ่งมีสสารระดับสูงอยู่อย่างเข้มข้น กลืนกินพฤกษาและสัตว์น้อยใหญ่เข้าไปทั้งหมด!
พวกมันทวีความแข็งแกร่งขึ้นในพริบตา ม่านหมอกสีเลือดน่าสะพรึงกลัวรายล้อมอยู่รอบ ๆ ทุกอิริยาบถล้วนมีพลังซึ่งสามารถทำลายล้างปฐพีไหลเวียน!
จุดที่ถูกกวาดล้างมิได้มีเพียงที่เดียว ยังมีอีกหลากหลายพื้นที่ จำนวนปีศาจสีเลือดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ปีศาจจำนวนหนึ่งในพวกมันหมายตาสถานที่ในภาพวาดของหลี่จิ่วเต้า หมายจะกลืนกินทุกสิ่งในนั้น ทว่าสถานที่ในภาพวาดของหลี่จิ่วเต้ามิได้ธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด!
ปีศาจจำนวนหนึ่งสูญสลายทันทีที่บุกเข้าไป ถูกลบล้างอย่างสมบูรณ์!
โฮก!
สถานที่ในภาพวาดเหล่านี้มีอสูรร้ายที่พัฒนาขึ้นจนสะท้านโลกันตร์อยู่ พวกมันคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวหมายจะพุ่งออกไป ยังมีพฤกษาบุปผาน่าพรั่นพรึงจำนวนหนึ่งขยายตัวอย่างรวดเร็วราวกับต้องการบุกออกไปเช่นกัน
ทว่าพวกมันล้มเหลวกันหมด ราวกับมีผนึกบางอย่างในสถานที่ในภาพวาดที่สะกดพวกมันไว้ มีเพียงสสารระดับสูงเท่านั้นถึงพวยพุ่งออกไปได้ พฤกษาบุปผา รวมถึงสัตว์น้อยใหญ่ในนี้ล้วนมิอาจออกไป
ปีศาจสีเลือดเสียเปรียบในสถานที่ในภาพวาดเหล่านี้ จนดูเหมือนมิกล้าเข้าไปยังสถานที่ในภาพวาดอีก พวกเขาเบนสายตาไปยังที่อื่น!
หลังยอดฝีมือจากจักรวาลโกลาหลอื่นจำนวนหนึ่งมาถึงอาณาจักรนี้ ก็พำนักอยู่ตามพื้นที่ซึ่งมีสสารระดับสูงเข้มข้น และกลายเป็นเป้าหมายโจมตีของปีศาจสีเลือดเหล่านั้น!
“พวกนี้เป็นตัวบ้าอะไรกัน!”
“สมควรตายนัก!”
พวกเขาประสบกับการจู่โจมจากสัตว์ประหลาดสีเลือด อเนจอนาถกันถ้วนหน้าโดยมิมีข้อยกเว้น พวกเขาไม่มีพลังจะโต้กลับเลยสักนิด พริบตาเดียวก็ถูกสัตว์ประหลาดสีเลือดเหล่านี้กลืนกินและสังหารอย่างสิ้นเชิง
และสัตว์ประหลาดสีเลือดเหล่านี้แยกร่างสัตว์ประหลาดออกมาอีกนับคณา สีแดงอันน่าพิศวงเพิ่มจำนวนขึ้นบนแผ่นดิน ดูน่าสะพรึงอย่างยิ่งยวด!
“พวกนี้เป็นตัวอะไร?!”
บนนภา หลี่จิ่วเต้ามองเห็นภาพการณ์สัตว์ประหลาดสีเลือดกลืนกินสิ่งมีชีวิตตนอื่น คิ้วพลันขมวดมุ่น
เขารีบดิ่งลงไปเตรียมกำจัดสัตว์ประหวาดสีเลือดเหล่านี้!
มีสัตว์ประหลาดสีเลือดบางตนหันไปเห็นหลี่จิ่วเต้า จึงอ้าปากกว้างบุกเข้ามา หมายจะกลืนกินเขา
“ฆ่า!”
ชายหนุ่มตวาดเสียงลั่น กระบี่ฉุนจวินพุ่งออกไปทันที ผ่าร่างปีศาจสีเลือดตัวนี้เป็นสองท่อนในกระบี่เดียว!
ขณะเดียวกัน คลื่นแสงพิเศษบางอย่างซัดสาดออกจากกระบี่ฉุนจวิน ปลิดชีพสัตว์ประหลาดสีเลือดตัวนี้ลงอย่างสมบูรณ์!
“ฆ่าให้หมด!”
หลี่จิ่วเต้ามีสีหน้าเย็นชา กระบี่ฉุนจวินเหินออกไปอย่างรวดเร็ว กำจัดสัตว์ประหลาดสีเลือดที่เหลืออยู่ในสถานที่นี้จนเกลี้ยง!
“ไป!”
เขากระโดดขึ้นไปบนหลังกิเลนไฟ กระบี่ฉุนจวินบินวนอยู่รอบ ๆ ก่อนนี้เขาเห็นเงาสีเลือดมามาก คิดแล้วคงเป็นสัตว์ประหลาดสีเลือดเช่นนี้กันหมด
เขาจะไม่ปล่อยไปแม้แต่ตนเดียว!