รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 87 ท่านเซียนเอ็นดูข้าเกินไปแล้ว!
เจ้านิกายตัวสั่นหงึกหงัก ยากจะรักษาความสุขุมในใจไว้ได้ สิ่งที่ได้พบเห็นในวันนี้เกินกว่าองค์ความรู้ที่เขามีมาก เขาสะท้านใจยิ่ง!
“ใจเย็นไว้เจ้านิกาย อย่าได้เสียมารยาทต่อหน้าท่านเซียน!”
ผู้เฒ่าเมิ่งจีเตือนเจ้านิกายเสียงเบา
เจ้านิกายหายใจเข้าลึกอยู่หลายเฮือก จนสงบหัวใจแสนสะท้านลงได้ในที่สุด
เขารู้ดีว่าเสียมารยาทต่อหน้าท่านเซียนไม่ได้เด็ดขาด หากสร้างความไม่พอใจให้กับท่านเซียน ทุกสิ่งทุกอย่างคงถูกทำลายลงทั้งหมด…
ภายในห้อง หลี่จิ่วเต้าได้ยินสุ้มเสียงด้านนอกจึงเดินออกมาจากห้อง
“ผู้นี้คือ…”
เขาประหลาดใจนิดหน่อย เหตุใดผู้เฒ่าถึงพาคนอื่นกลับมาด้วย
“คารวะคุณชาย ข้ามีนามว่าอวิ๋นกู่ ด้วยความชื่นชอบในภาพอักษรของคุณชาย จึงตั้งใจมาเยี่ยมเยือน!”
เจ้านิกายเอ่ยอย่างนอบน้อม
“ชื่นชอบภาพอักษรของข้า…?”
หลี่จิ่วเต้าคิดไม่ถึงเท่าไหร่ เขาไม่เคยพบอวิ๋นกู่ผู้นี้ แล้วอวิ๋นกู่ชื่นชมผลงานเขาจากแห่งหนใดกัน
“นายท่าน ข้าวาดภาพอยู่นอกเมือง บังเอิญอวิ๋นกู่ผู้นี้ผ่านทางมา เขาเองก็ชื่นชอบวาดภาพอย่างยิ่ง เราสองคนสนทนากันถูกอก ข้าจึงบอกเขาว่านายท่านเป็นผู้สอนสั่งฝีมือวาดภาพให้แก่ข้า ฝีมือการวาดภาพของนายท่านต่างหากที่วิเศษล้ำเลิศ เหนือกว่าผู้อื่น! เขาจึงเกิดความคิดอยากมาหานายท่าน ข้าถึงได้พาเขามาหานายท่าน”
ผู้เฒ่าเมิ่งจีเอ่ยเสริมอยู่ด้านข้าง
“อ้อ”
หลี่จิ่วเต้าถึงบางอ้อ ที่แท้ก็เพราะเหตุนี้นี่เอง
แล้วชายหนุ่มก็หัวเราะร่า “อย่าไปฟังที่เขาพูดเหลวไหลเลย ข้ามิได้เก่งกาจถึงเพียงนั้นหรอก”
“คุณชายถ่อมตนเกินไปแล้ว ภาพอักษรที่คุณชายแขวนอยู่ในร้าน ไม่ว่าภาพใดล้วนเรียกได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่หาได้ยากยิ่ง น่านับถือจริง ๆ!”
เจ้านิกายเอ่ยชมจากใจจริง
“ชมเกินไปแล้ว ชมเกินไปแล้ว…”
หลิ่วจิ่วเต้ายิ้ม “ผู้มาเยือนนับว่าเป็นแขก เชิญเข้ามาข้างในเถิด”
เจ้านิกายเดินตามหลี่จิ่วเต้าเข้าไปในห้องโถงใหญ่
เขามองรอบ ๆ พลันสีหน้าพิศวงขึ้นมา
เป็นดั่งที่ผู้เฒ่าเมิ่งจีบอกจริง ๆ กระถางในห้องนับว่าน่าทึ่งยิ่งกว่า เป็นถึงโอสถจักรพรรดิขั้นสูงสุดในตำนานโบราณกาลทั้งหมด!”
หนึ่งต้น สองต้น สามต้น…โอสถจักรพรรดิทั้งหมดเก้าต้น!
เขาไม่มีคำใดจะเอ่ย สุดยอดเกินไปแล้ว ปลูกโอสถจักรพรรดิเก้าต้นเป็นพืชพรรณชมเล่น ผู้ใดจะมือเติบได้ปานนี้
ท่านเซียนน่ากลัวเกินไปแล้ว!
“นี่คือ…”
สายตาเขาชะงัก หยุดอยู่ตรงภาพวาดภาพหนึ่งบนโต๊ะ
รอยหมึกบนภาพยังไม่แห้ง เห็นได้ชัดว่าเป็นภาพที่เพิ่งวาดไป
บนภาพนั้น ประกายแสงดั่งเสาค้ำฟ้าสายแล้วสายเล่าเชื่อมต่อฟ้าดินเข้าด้วยกัน นี่เขาวาดปรากฏการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นจากซากโบราณหรือ!
ฟึ่บ!
ราวกับเขาได้เข้ามาอยู่ในภาพ ได้อยู่ตรงหน้าซากโบราณนั้น ประกายแสงทะยานฟ้าคณานัปอยู่ห่างจากเขาเพียงคืบ เอื้อมมือไปก็ถึง!
จากนั้น เขาก็เห็นผนึกภายในซากโบราณ ผนึกที่ปกคลุมไปทุกส่วนของซากโบราณ จนตัดขาดซากโบราณจากโลกภายนอก ทรงพลังล้นฟ้า คนนอกยากจะเข้าถึง
หลังจากนั้น เขาก็ได้เห็นภาพเหตุการณ์แสนเหลือเชื่ออีก
ผนึกภายในซากโบราณแยกตัวออกทีละนิด รายละเอียดต่าง ๆ ล้วนปรากฏแก่เบื้องหน้าเขาอย่างละเอียด!
ฟู่ว ฟู่ว~
ลมหายใจของเขาหนักอึ้งขึ้นทุกขณะ หัวใจสั่นสะท้านอย่างหนัก ผนึกที่สลับซับซ้อน ไม่รู้ควรลงมือจากตรงไหน ค่อย ๆ เรียบง่ายขึ้นคล้อยหลังการแยกตัว!
หลังจากผนึกแยกออกจากกันอย่างสมบูรณ์แล้ว เขาพลันเกิดความเข้าใจในผนึกอย่างครบถ้วน สามารถทลายผนึกนี้ได้อย่างง่ายดาย
‘ท่านเซียนกำลังสอนวิธีทลายผนึกแก่ข้า!’
เขาเข้าใจทันที
“ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของท่านเซียนจริงด้วย ท่านเซียนรู้อยู่แล้วว่าข้าต้องมา จึงตั้งใจวาดภาพนี้อยู่ก่อน…”
เขาพูดกับตัวเองด้วยความนับถืออันเปี่ยมล้น
ผู้เฒ่าเมิ่งจีก็ได้เห็นภาพนี้ ตัวเขาเองก็เสมือนเข้ามาอยู่ในภาพ ได้ไปอยู่เบื้องหน้าซากโบราณ
ผนีกของซากโบราณปรากฏต่อหน้าเขาแจ่มชัด แยกออกจากกันทีละน้อย จนเผยรายละเอียดทั้งหมด ไม่ตกหล่นแม้แต่นิดเดียว!
‘ท่านเซียนเอ็นดูข้าจริง ๆ ด้วย!’
ผู้เฒ่าเมิ่งจีกล่าวในใจ
เขาซาบซึ้งเหลือเกิน ทั้งยังตกใจกับความเอ็นดูที่ได้รับ ไม่คิดเลยว่าท่านเซียนจะรักใคร่เขาถึงเพียงนี้!
เมื่อครั้งท่านเซียนมอบหมายภารกิจให้กับเขา มิได้บอกกล่าววิธีทำลายผนึกแก่เขาโดยตรง หลังจากเขาพาเจ้านิกายเข้ามา ท่านเซียนก็บอกกล่าววิธีทำลายผนึกทันที!
หมายความว่าท่านเซียนรักใคร่เอ็นดูเขาจริง ๆ และไม่ต้องการหยุดการฝึกฝนในฐานะปุถุชนของเขา ให้เขาได้รู้แจ้งในโลกมนุษย์ด้วยตัวตนปุถุชนต่อ เพื่อตระหนักในวิถีแห่งมนุษย์!
“ท่านเซียน…”
เขาใกล้จะร้องไห้เต็มที ท่านเซียนดีกับเขาถึงเพียงนี้ เขาไม่คิดไม่ฝันเลยจริง ๆ!
“ท่านเซียนโปรดวางใจ ข้าย่อมไม่ทำให้คำสั่งสอนของท่านเซียนเสียเปล่า ข้าจักรู้แจ้งในโลกมนุษย์ด้วยตัวตนปุถุชน นับแต่นี้ไป ผู้เฒ่าเมิ่งจีแห่งโลกการฝึกตนได้หายไปแล้ว ข้าเป็นเพียงปุถุชนคนธรรมดาเท่านั้น!”
เขาสาบานกับตัวเองในใจ ไม่ขอพูดถึงเรื่องการฝึกตนอีก ขอตั้งใจเป็นปุถุชนให้ดี รู้แจ้งในโลกมนุษย์ไปกับท่านเซียน!
‘ขอบคุณ!’
เขาหันมองลั่วสุ่ยข้างกายท่านเซียน ส่งสายตาซาบซึ้งไปให้
ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณลั่วสุ่ย หากไม่ได้ลั่วสุ่ยชี้แนะ เขาไม่มีทางทำได้ดีเยี่ยมขนาดนี้ ทั้งยังตรงใจท่านเซียนขนาดนี้!
อย่างไรลั่วสุ่ยก็ติดตามข้างกายท่านเซียนมานาน ย่อมรู้ใจท่านเซียนมากกว่าเขา!
“เมี้ยว”
ลั่วสุ่ยส่งเสียงร้อง นางเห็นสายตาซาบซึ้งของผู้เฒ่าเมิ่งจี จึงส่งสายตากลับ ราวกับต้องการบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ
ผู้เฒ่าเมิ่งจีช่วยแก้ปัญหาเสด็จพ่อของนาง นางต่างหากเป็นฝ่ายต้องขอบคุณผู้เฒ่าเมิ่งจี!
“เจ้าต้องหัวเราะเยาะแล้ว นี่คือภาพที่ข้าเพิ่งวาดเมื่อครู่ ยังไม่ทันได้เก็บ…”
หลี่จิ่วเต้ายิ้ม เมื่อครู่เขาอยู่วาดภาพในห้องมาตลอด
“คุณชายถ่อมตนเกินไปแล้ว ภาพวาดยิ่งใหญ่เพียงนี้ ข้าได้มีโอกาสเห็น นับเป็นวาสนาที่สั่งสมมาหลายภพหลายชาติ!”
เจ้านิกายอวิ๋นกู่เอ่ยจากใจจริง
ทุกลายเส้นบนภาพวาดต่างมีจังหวะแห่งเต๋าสูงสุดผสานอยู่ ต่อให้ไม่มีวิธีทำลายผนึก ภาพนี้ก็ยังเป็นสมบัติล้ำค่า มูลค่าสูงเกินหยั่ง!
หลี่จิ่วเต้านึกลำพองใจ
เรื่องอื่นยังไม่พูดถึง ลำพังแค่ฝีมือการเล่นกู่ฉิน การเขียนตัวอักษร การวาดภาพนั้น เขานับว่าสุดยอดจริง ๆ ความสามารถเหนือปวงประชาไปแล้ว ยากจะหาผู้ใดทัดเทียมเขา
กระทั่งผู้ฝึกตนยังศิโรราบให้กับฝีมือการเล่นกู่ฉิน การเขียนตัวอักษร และการวาดภาพของเขา อย่างเช่นผู้เฒ่าเวิง ผู้เฒ่าโจว เซี่ยเหยียน…
เขาเชิญ ‘อวิ๋นกู่’ นั่ง ส่วนตัวเขาเองไปยกเครื่องชาชุดหนึ่งออกจากห้องครัว
นี่คือเครื่องชาที่เขาหล่อขึ้นเอง หาใช่เครื่องชาที่ระบบให้รางวัล ใบชานี้เขาก็ขึ้นไปเด็ดบนเขาด้วยตัวเอง
ชายหนุ่มต้มน้ำชาให้อวิ๋นกู่ ฝีมือชงชาช่ำชองลื่นไหล เป็นจังหวะพิเศษบางอย่าง
อวิ๋นกู่มองเครื่องชา เขานึกสิ่งใดไม่ออก และไม่รู้จักเครื่องชาชุดนี้เลยสักนิด
แต่เขามิกล้าสบประมาทเครื่องชาชุดนี้แม้แต่น้อย
นี่เพราะสัมผัสถึงจังหวะแห่งเต๋าที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติได้ ซ้ำยังมีกฎวิถีสวรรค์บางอย่างไหลเวียนอยู่!
โดยไม่ต้องสงสัย นี่ย่อมไม่ใช่ชุดเครื่องชาธรรมดา ระดับขึ้นสูงส่งเสียจนแทบจะเหนืออาวุธจักรพรรดิไปแล้ว!
ส่วนใบชานั้น…เขาไม่รู้สึกถึงความผิดแปลกแต่อย่างใด ราวกับเป็นชาที่คนธรรมดาดื่มกินกันทั่วไป
“ไม่ใช่ชาชั้นดีอะไรหรอก โปรดอย่ารังเกียจ”
หลี่จิ่วเต้ากล่าวยิ้ม ๆ
ใบชาซึ่งเป็นรางวัลจากระบบ ดื่มไปเท่าไหร่หมดเท่านั้น ตัวเขาเองปกติแล้วยังนึกเสียดายดื่มไม่ลง มีเพียงตอนที่รับรองแขกเหรื่อมีเกียรติเท่านั้นถึงจะเอาออกมา
คราวก่อนเขาทำเพื่อช่วยเซี่ยเหยียน ถึงได้นำใบชาที่ระบบให้รางวัลมารับรองผู้เฒ่าเวิง
ปกติเขาดื่มแต่ชาที่เด็ดเอง ใช้เครื่องชาที่เขาหล่อเอง
ใบชาของระบบ ปกติแล้วเขาใช้คู่กับชุดเครื่องชาที่เป็นรางวัลจากระบบ