รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 92 เหมันต์อัคคีผสานเป็นหนึ่ง ปรับได้ตามใจนึก!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 92 เหมันต์อัคคีผสานเป็นหนึ่ง ปรับได้ตามใจนึก!
เฮ้อ
ถึงอย่างไรก็เป็นของขวัญที่เขานำมาให้ จะไม่เอาเพราะของขวัญของเขาไม่ดีก็คงไม่ได้
ที่สำคัญท่าทีอีกฝ่ายจริงใจออกปานนั้น…
หลี่จิ่วเต้าไม่อาจปฏิเสธได้ลง กลัวจะทำร้ายจิตใจอวิ๋นกู่ ประเดี๋ยวอวิ๋นกู่กลับไปแล้วกินไม่ได้ นอนไม่หลับขึ้นมาอีก
‘ไม่น่าเป็นเช่นนี้นะ…’
‘ท่าทีอวิ๋นกู่จริงใจขนาดนั้น ไฉนเลยจะใช้หินธรรมดาเป็นของขวัญไถ่โทษ?’
หลี่จิ่วเต้าคิดในใจ รู้สึกว่าตัวเขาตาไม่ถึงเองหรือเปล่า บางทีนี่อาจเป็นหินวิเศษก็เป็นได้
ชายหนุ่มตัดสินใจว่ารอให้อวิ๋นกู่กลับไปเมื่อไหร่ค่อยหยิบมาศึกษาดี ๆ
ศึกษาต่อหน้าอวิ๋นกู่…ออกจะเสียมารยาทไปหน่อย
“ผู้เฒ่าอวิ๋นเกรงใจกันเกินไปแล้ว เสียมารยาทอะไรกัน ข้าไม่เคยใส่ใจเลยสักนิด”
หลี่จิ่วเต้ายิ้ม “ดีมาย่อมดีตอบ ให้มาย่อมให้กลับ ผู้เฒ่าอวิ๋นมอบของขวัญให้ข้า ข้าเองก็ไม่อาจเสียมารยาทต่อผู้เฒ่าอวิ๋นได้ ผู้เฒ่าอวิ๋นชื่นชอบภาพอักษร หากไม่รังเกียจ เลือกภาพอักษรในร้านไปสักภาพเถิด”
“ขอบคุณคุณชาย!”
อวิ๋นกู่ดีใจอย่างมาก
ภาพฝีมือท่านเซียน ต่อให้เป็นภาพแสนธรรมดาก็นับว่าเป็นสมบัติชั้นยอด ซึ่งไม่อาจประเมินมูลค่าได้!
หนนี้เขาโชคดียิ่งนัก!
“ผู้เฒ่าอวิ๋น โปรดตามข้ามา”
หลี่จิ่วเต้าพาอวิ๋นกู่เข้ามาในร้าน ให้อวิ๋นกู่เลือกภาพอักษรที่ต้องการ
กำแพงร้านมีภาพอักษรแขวนอยู่เต็มไปหมด ไม่ว่าภาพใดล้วนแฝงไว้ซึ่งจังหวะแห่งเต๋าอันสูงสุด หัวใจอวิ๋นกู่เต้นแรง ตื้นตันใจเหลือแสน ซ้ำยังมองจนตาเกือบลาย
ทันใดนั้น สายตาเขาก็ชะงักยามเหลือบไปเห็นภาพกระดองเต่า!
ลวดลายกระดองเต่าบนภาพนั้นดูเกิดขึ้นตามธรรมชาติ แฝงไว้ซึ่งจังหวะแห่งวิถีสวรรค์ ภาพนี้มีประโยชน์ต่อตัวเขาอย่างมาก หากฝึกฝนโดยพิจารณาเนื้อหาบนกระดองเต่าภาพนี้ เขาย่อมเข้าใกล้วิถีสวรรค์ได้มากขึ้น ถอดรหัสความลับสวรรค์ทั้งหมดที่สืบลงมาจากวิถีสวรรค์!
‘นี่จะใช่รางวัลที่ท่านเซียนเตรียมไว้ให้ข้าล่วงหน้าหรือไม่!?’
อวิ๋นกู่คิดในใจ
คราวก่อนที่เขามาย่อมได้เห็นภาพทั้งหมดในร้านแล้ว แต่ครานั้นยังไม่มีภาพกระดองเต่าภาพนี้!
ทว่าเมื่อเขามาครั้งนี้กลับมี บ่งบอกได้ว่าเป็นภาพที่ท่านเซียนเพิ่งวาดเสร็จไม่นาน ซ้ำยังนำมาแขวนไว้ในร้าน
“ท่านเซียนก็คือท่านเซียน ทั้งหมดล้วนอยู่ในการควบคุมของท่านเซียน!”
เขาพูดกับตัวเองในใจอย่างอดไม่ได้ ท่านเซียนรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเขาจะสามารถทำภารกิจที่ท่านเซียนมอบหมายให้จนสำเร็จ จึงได้ตระเตรียมภาพกระดองเต่านี้ไว้ก่อนเป็นรางวัลแก่เขา!
“คุณชาย ข้าขอภาพกระดองเต่านี้แล้วกัน!”
เขาบอกกับท่านเซียน
“ได้”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยพลางยิ้ม ก่อนจะมอบภาพกระดองเต่าให้อวิ๋นกู่
ภาพกระดองเต่านี้เป็นผลงานของเขาเมื่อวานซืน
ช่วงนี้เขาไม่มีอะไรทำจึงวาดภาพไว้ไม่น้อย
“ขอบคุณคุณชาย!”
อวิ๋นกู่กล่าวขอบคุณท่านเซียนอีกครั้ง ก่อนจะบอกลาท่านเซียน
เขาทำภารกิจที่ท่านเซียนมอบหมายให้สำเร็จแล้ว ก็ไม่กล้าอยู่รบกวนท่านเซียนที่นี่ต่อ
“ได้ ไว้มีโอกาสค่อยมาใหม่” หลี่จิ่วเต้าบอกลาอวิ๋นกู่
“นายท่าน ข้าขอไปส่งเขาหน่อย!”
ผู้เฒ่าเมิ่งจีเอ่ย
“ไปเถิด”
หลี่จิ่วเต้ากลับไปยังห้องโถง ก่อนจะหยิบก้อนหินในกล่องขึ้นมาพินิจ
ทว่าในตอนนั้นเอง บังเกิดเรื่องน่าพิศวง เปลือกหินลอกออกจากหินชั้นแล้วชั้นเล่า กลายเป็นลูกแก้วโปร่งใสกลมมนแวววาว และด้านในมีสัญลักษณ์หิมะผนึกอยู่!
‘โอ้โห ข้าตาไม่ถึงจริง ๆ ด้วย!’
หลี่จิ่วเต้าตกตะลึงอยู่ในใจ
เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นชั้นหินลอกออกมาเอง!
ลูกแก้วโปร่งแสงกลมมนแวววาวมีกลิ่นอายเย็นสบาย ไม่ถึงขั้นหนาวเหน็บ ในช่วงอากาศอุ่นร้อนเช่นนี้ ไอเย็นระดับนี้กำลังดี หลี่จิ่วเต้ารู้สึกสดชื่นยิ่ง!
‘ฮ่าฮ่า แบบนี้ก็เหมือนเครื่องปรับอากาศน่ะสิ!’
เขาหัวเราะร่วนในใจ ดีอกดีใจอย่างมากที่มีลูกแก้วนี้ เขาไม่ต้องกลัวหน้าร้อนอีกต่อไปแล้ว!
‘ปรารถนาสิ่งไหนก็ได้ตามนั้นจริง ๆ!’
ช่วงก่อนเขายังคิดอยู่เลยว่าถ้ามีเครื่องปรับอากาศคงดี วันนี้เขาก็ได้ลูกแก้วที่คุณสมบัติคล้ายเครื่องปรับอากาศมา เขาจะโชคดีเกินไปแล้ว!
‘ถ้าปรับอุณหภูมิได้เหมือนเครื่องปรับอากาศก็คงดี แบบนี้ข้าก็ไม่ต้องกลัวหน้าหนาวแล้ว!’
หลี่จิ่วเต้าพูดในใจ
แก้ปัญหาหน้าร้อนได้แล้ว แต่ยังมีหน้าหนาวอีก ปรับอุณหภูมิได้สิถึงจะหนำใจที่สุด
ทว่าสิ่งที่เขาคิดไม่ถึงคือ สัญลักษณ์หิมะที่เคยผนึกอยู่ในลูกแก้วกลมมนแวววาว แปรเปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์ต้นอ่อน
จากนั้น เขาก็สัมผัสได้ถึงไออุ่นที่โชยปะทะเข้ามา!
‘ให้ตายสิ ปรับอุณหภูมิได้ตามใจชอบจริงด้วย!’
หลี่จิ่วเต้าทึ่งไปหมด สิ่งนี้นับเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดยอดมาก เปลี่ยนแปลงอุณหภูมิได้ตามใจนึกของเขา!
เขากลัวว่าตนเองจะคิดผิดไปจึงทดลองอีกหลายครั้ง ผลพิสูจน์ว่าเขามิได้คิดผิด ลูกแก้วกลมมนแวววาวลูกนี้เปลี่ยนแปลงอุณหภูมิได้ตามที่ใจเขานึกจริง ๆ!
‘เยี่ยม เยี่ยม!’
เขาหาถาดมาใบหนึ่ง วางลูกแก้วไว้บนนั้น แล้วตั้งมันไว้ในห้องโถง
ลูกแก้วนี้สุดยอดมาก ไอเย็นแผ่ซ่านออกมาไปทั่วทั้งห้องโถง หลี่จิ่วเต้ารู้สึกสบายเป็นทวีคูณ ไม่รู้ว่าตนเองไม่ได้ชื่นอุราเช่นนี้มานานเท่าไหร่แล้ว!
ชายหนุ่มยกเก้าอี้โยกมาอย่างอารมณ์ดี เอนตัวลงพร้อมโยกเก้าอี้เบา ๆ ด้วยความสบายตัว
‘คิดไม่ถึงเลยว่าผู้เฒ่าอวิ๋นจะไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นผู้ฝึกตนอีกคน!’
หลี่จิ่วเต้าคิดในใจ
ลูกแก้วปรับอุณหภูมิได้ตามใจนึก นี่ต้องเป็นสมบัติวิญญาณที่ผู้ฝึกตนหล่อหลอมขึ้นมาแน่นอน ตัวตนของอวิ๋นกู่จึงเปิดเผยออกมา เขามิใช่คนธรรมดา แต่เป็นผู้ฝึกตน
‘ผู้ฝึกตนนี่เจ้าระเบียบยิ่ง ผู้เฒ่าอวิ๋นเป็นเช่นนี้ ผู้เฒ่าเวิงและผู้เฒ่าโจวก็เป็นเช่นนี้!’
หลี่จิ่วเต้าคิดในใจขึ้นอีกครั้ง
เวิงอู๋โยวและโจวตงต่างเป็นคนมีมารยาทมาก เกรงใจไปเสียทุกอย่าง และยังเคยมอบของขวัญให้เขาทั้งสิ้น
‘ดูท่ามีฝีมือติดตัวสักอย่างก็มีประโยชน์มากอยู่!’
หลี่จิ่วเต้านึกหัวเราะในใจ
เขาใช้ฝีไม้ลายมือนี้ถึงทำให้บรรดาผู้ฝึกตนอย่างผู้เฒ่าอวิ๋นยอมศิโรราบ ได้รับความเคารพนับถือจากพวกผู้เฒ่าอวิ๋น ดูท่าไม่ว่าจะปุถุชนหรือผู้ฝึกตน ล้วนชื่นชอบศิลปะกันทั้งสิ้น!
‘เริ่มแรกผู้ฝึกตนก็เป็นปุถุชนเหมือนกัน ย่อมมีความชอบเหมือน ๆ กันก็เป็นเรื่องปกติ’
หลี่จิ่วเต้าคิดต่อ เขาเอนตัวอยู่บนเก้าอี้โยกอย่างสบายกาย จนผล็อยหลับไปในที่สุด
‘เหมันต์อัคคีไม่อาจอยู่ร่วมกันได้…นี่มันลูกแก้วอะไรกัน ถึงผสานพลังของเหมันต์และอัคคีไว้ด้วยกันได้ ซ้ำยังสลับได้ตามใจชอบอีก!?’
ลั่วสุ่ยมองลูกแก้วกลมมนแวววาวด้วยความตะลึง
อานุภาพที่ลูกแก้วแสดงให้เห็นเปลี่ยนแปลงโลกทัศน์ของนางไปอย่างสิ้นเชิง
เหมันต์และอัคคีเป็นพลังสองประเภทที่แตกต่างกัน ต่างฝ่ายต่างไม่ถูกกัน ยากจะผสานเข้าด้วยกัน ทว่าลูกแก้วนี้กลับผสานพลังของเหมันต์และอัคคีไว้ด้วยกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซ้ำยังสลับปรับเปลี่ยนได้ตามใจนึก ช่างอัศจรรย์ยิ่งจนน่าเหลือเชื่อ!
‘อย่างไรก็เป็นของจากบ้านเกิด เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นนายท่านมีความสุขถึงเพียงนี้…’
นางมองผู้ทรงพลังแล้วคิดในใจ
ผสานพลังเหมันต์และอัคคี สิ่งของจากบ้านเกิด…
ราวกับลั่วสุ่ยนึกอะไรขึ้นมาได้ ดวงตาของนางลุกวาวขึ้นมา หัวใจเต็มตื้นสุด ๆ!
นางนึกถึงข่าวลือในยุคโบราณ คล้ายว่ามีการพูดถึงลูกแก้วลูกนี้ รวมเหมันต์อัคคีไว้เป็นหนึ่ง เป็นของจากภพเซียน หากได้มาครอบครองจักไร้เทียมทานในใต้หล้า และเป็นใหญ่ในทุกอาณาจักร!
‘ท่านเซียน! ผู้อาวุโสคือท่านเซียนไม่ผิดแน่! บ้านเกิดของท่านเซียนคือภพเซียน!’
นางตะโกนในใจ ตื่นเต้นอย่างถึงที่สุด
คราวนี้ ในที่สุดนางก็มั่นใจในตัวตนของผู้อาวุโสได้แล้ว ผู้อาวุโสคือท่านเซียนที่จุติลงมาจากภพเซียน!