รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 926 ลานสัพพัญญูไท่ชิง ซีออกมาแล้ว!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 926 ลานสัพพัญญูไท่ชิง ซีออกมาแล้ว!
บทที่ 926 ลานสัพพัญญูไท่ชิง ซีออกมาแล้ว!
ห้องหนังสือตกลงสู่ความเงียบ
ฉินอี๋อินและพู่กันไม่ได้สนทนากันอีก พวกมันรู้เรื่องราวมากกว่าสมบัติชิ้นอื่น ๆ ดังนั้นจึงไม่ได้คึกคักเริงร่าแต่อย่างใด ก่อนหน้านี้ไม่ได้ลงมือเคลื่อนไหวอันใดเลย
เพราะพวกมันกำลังเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้อันไร้ที่สิ้นสุด
…
หลังฉาก
ลานสัพพัญญูไท่ชิง
ที่แห่งนี้เงียบสงัดลงยิ่งนัก สิ่งมีชีวิตที่อยู่ก็มีน้อยกว่าก่อนหน้านี้มาก ลานเต๋าสัพพัญญูไท่ชิงอยู่ในสถานะปิด แม้ว่าจะมีคุณสมบัติเพียงพอจะเข้าไปในลานเต๋าสัพพัญญูไท่ชิงก็ไม่อาจเข้าไปได้
ทว่าต่อให้พวกเขาจะเข้าไปด้านในลานสัพพัญญูไท่ชิงได้ พวกเขาก็ไม่กล้าเข้าไป
พวกเขาล่วงรู้เรียบร้อยแล้วว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น
หนานกงอวี่ ปิงหนิง และหลีเฟย ทั้งสามต่างเป็นยอดบุตรแห่งสวรรค์ มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ของลานสัพพัญญูไท่ชิง ทั้งยังเพียงพอจะเข้าไปยังแดนมงคลอันดับหนึ่งอีกด้วย
แต่ก่อนหน้าพวกเขาทั้งสามคน มีผู้สามารถเข้าไปยังแดนมงคลอันดับหนึ่งได้ก่อนแล้ว
แดนมงคลอันดับหนึ่งมีตำแหน่งให้ฝึกฝนเพียงสามที่เท่านั้น เมื่อคนก่อนหน้าจับจองไปแล้ว จึงเหลือเพียงแค่สองที่
พวกหนานกงอวี่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ดังนั้นจึงต้องการร่วมมือกันขับไล่คนผู้นั้นออกไป ทว่าผลออกมากลับล้มเหลว ไม่เพียงแต่ไม่อาจขับไล่คนออกไปได้ ยังเป็นฝ่ายถูกไล่ออกมาแทน!
กระทั่งสมบัติประจำตระกูลบนตัวของหนานกงอวี่ แผนผังแปดทิศยังถูกคนผู้นั้นนำไป!
เมื่อพวกเขาได้ทราบเรื่องราวเหล่านี้ก็พลันเกิดความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
พวกหนานกงอวี่แต่ละคนล้วนน่าตื่นตะลึง ต่างเป็นตัวตนที่ไร้เทียมทานในระดับเดียวกัน อีกทั้งหนานกงอวี่ยังถือสมบัติล้ำค่าเช่นแผนผังแปดทิศเอาไว้ในมือ แต่กลับประสบความล้มเหลวทั้งยังสูญเสียแผนผังแปดทิศ ทั้งหมดนี่น่าสะพรึงกลัวเกินไปแล้ว!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่ทำให้พวกเขาตะลึงพรึงเพริดอย่างไม่อาจบรรยายออกมาได้ ก็คือหลังจากที่คนผู้นั้นเอาชนะพวกหนานกงอวี่ได้แล้ว ยังทำการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงข้อห้ามของลานเต๋า!
กระทั่งบิดาของหนานกงอวี่อย่างหนานกงเจิ้นเทียนยังถูกสกัดกั้น ไม่อาจเข้าไปในลานเต๋าได้!
น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือหลังจากที่หนานกงเจิ้นเทียนเชิญบิดาของปิงหนิง หนึ่งในผู้แข็งแกร่งที่สุดของหลังฉากอย่างปิงหยวนมา ทั้งสองก็ยังไม่อาจเข้าไปได้!
ระดับความลึกซึ้งของปิงหยวนในด้านข้อห้ามเป็นที่รู้กันดีของสิ่งมีชีวิตหลังฉาก เหนือชั้นแข็งแกร่งเกินกว่าจินตนาการ ถูกขนานนามว่าเป็นอันดับหนึ่งในหลังฉากก็ไม่ผิด
กระทั่งปิงหยวนที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ยังไม่อาจทำสิ่งใดได้ ถึงกับอุทานออกมาว่า ‘สมบูรณ์แบบ!’
นี่มันสัตว์ประหลาดวิปลาสอันใดกัน!
ภายในใจพวกเขาตื่นกลัวอย่างแท้จริง!
นามของซีแพร่กระจายไปทั่วหลังฉากอย่างรวดเร็ว!
สิ่งมีชีวิตหลังฉากต่างก็รู้ว่ามีสัตว์ประหลาดท้าทายสวรรค์ปรากฏตัวออกมา!
ตอนนี้ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดกล้าเข้าสู่ลานเต๋าสัพพัญญูไท่ชิงเพื่อฝึกฝน
คิดอันใดอยู่!
หนานกงเจิ้นเทียนเฝ้าอยู่ด้านนอกด้วยจิตสังหาร เรื่องนี้ถูกกำหนดเอาไว้แล้วว่าจะต้องไม่จบลงด้วยดี การเข้าไปในลานเต๋ายามนี้ก็เป็นเพียงการรนหาที่ตายเท่านั้น!
พวกเขายังได้ยินมาว่าในช่วงนี้หนานกงเจิ้นเทียนไม่ได้อยู่เฉย ไปพบยอดฝีมือสูงสุดคนแล้วคนเล่า ไม่จำเป็นต้องคิดก็รู้ได้ว่าหนานกงเจิ้นเทียนไปพบเหล่ายอดฝีมือด้วยเหตุผลอันใด
หนานกงเจิ้นเทียนต้องการให้ยอดฝีมืออาวุโสเหล่านี้ออกโรงช่วยเหลือ
จากนี้ลานเต๋าจะต้องไม่สงบสุขอย่างแน่นอน เกิดเป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่ขึ้น ผู้ใดคิดยุ่งเกี่ยวก็ไม่ต่างอันใดกับการรนหาที่ตาย!
“สหายเจิ้นเทียนอย่าได้กังวลไป ข้าเพียงแค่อยากพูดคุยกับแม่นางน้อยท่านนั้น ไม่ได้มีเจตนาอื่นใด หากต้องลงมือจริง ๆ ข้าจะต้องยืนอยู่ข้างสหายเจิ้นเทียนแน่นอน”
ปิงหยวนเองก็อยู่ที่นี่ เขาเอ่ยกับหนานกงเจิ้นเทียนด้วยรอยยิ้ม
“อย่างไรเสียลูก ๆ ของพวกเรามีความสัมพันธ์อันดี วันหน้าย่อมกลายเป็นครอบครัวเดียวกัน!”
เขาหัวเราะออกมาเสียงดัง
“สหายปิงหยวนล้อเล่นแล้ว ความสัมพันธ์ของพวกเราก็เป็นเช่นนี้ ยังจำเป็นต้องพูดอันใดมากมายเพียงนี้หรือ?”
หนานกงเจิ้นเทียนแย้มยิ้ม “ข้าปฏิบัติกับสหายปิงหยวนดั่งครอบครัวคนหนึ่งมาโดยตลอด”
เขาไฉนเลยจะไม่เข้าใจ ว่าปิงหยวนยังคงคอยดูสถานการณ์ ไม่ได้วางแผนเลือกข้างง่าย ๆ
ไม่เช่นนั้นปิงหยวนคงไม่เอ่ยออกมาว่าต้องการสนทนากับซี
ปิงหยวนยังคงรั้งมือ เขาต้องการพูดคุยทำความรู้จักกับซีเสียก่อนค่อยตัดสินใจ
ทว่าไม่ได้ขัดขวาง
และเขาก็ไม่ได้เปิดโปงจุดนี้ออกมา
กล่าวตามตรงแล้ว เมื่อบุตรชายของเขาหนานกงอวี่ถูกขับไล่ออกมา ทั้งยังต้องเสียแผนผังแปดทิศไป เขาโกรธจนแทบจะระเบิดโทสะออกมา
แต่โกรธก็ส่วนโกรธ โมโหก็ส่วนโมโห เขายังไม่ได้สูญเสียสติ ยังไม่ถึงขั้นไม่คิดคำนึงถึงสิ่งใด
ซีสามารถเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงข้อห้ามให้น่ากลัวขึ้นได้ เช่นนั้นจะเป็นคนธรรมดาได้อย่างไร ไฉนเลยจะมีเบื้องหลังเรียบง่าย
ปิงหยวนต้องการจะคุยกับซีก่อน เขาเองก็เห็นพ้อง
เขาเองก็ต้องการรู้เรื่องเกี่ยวกับซีก่อนทำการตัดสินใจ!
“นายท่านเจิ้นเทียน โปรดลงมือด้วยความระมัดระวัง บุตรธิดาของพวกเราต่างอยู่ด้านในนั้น พวกเขาทั้งหมดล้วนบริสุทธิ์ หวังว่าจะไม่ได้โดนลูกหลงแต่อย่างใด!”
“ได้โปรดด้วยนายท่านเจิ้นเทียน!”
สิ่งมีชีวิตจำนวนไม่น้อยเอ่ยขอร้องหนานกงเจิ้นเทียน กังวลว่าเหล่าบุตรธิดาของตนภายในลานเต๋าจะโดนลูกหลง หวังว่าหนานกงเจิ้นเทียนจะให้ความใส่ใจ
“วางใจเถิด บุตรธิดาของพวกเจ้าจะไม่เป็นอันใด เป็นเพราะข้าห่วงความปลอดภัยของพวกเขา จึงได้เฝ้ารออยู่ด้านนอก ไม่เช่นนั้นข้าคงใช้กำลังฝืนเข้าไปแล้ว!”
หนานกงเจิ้นเทียนเอ่ยอย่างสงบนิ่ง “แม้ข้อห้ามนี่จะถูกปรับปรุงให้แข็งแกร่งขึ้นบ้าง แต่มันก็แค่นั้น หากข้าต้องการทำโดยไม่คำนึงสิ่งใด ย่อมไม่อาจหยุดยั้งข้าได้”
ช่าง…กล้าพูด!
ปิงหยวนที่อยู่ด้านข้างร้องขึ้นมาในใจ
หนานกงเจิ้นเทียนช่างเสแสร้งเสียจริง
นี่เป็นข้อห้ามสมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา เช่นนั้นจะทลายลงโดยง่ายได้อย่างไร!
เกรงว่าต่อให้หนานกงเจิ้นเทียนเรียกยอดฝีมือสูงสุดคนอื่น ๆ ให้มาช่วยเหลือในการโจมตีข้อห้าม ผ่านไปหลายปีก็มีความเป็นไปได้ที่จะไม่สามารถทำลายข้อห้ามนี้
สมบูรณ์แบบหมายถึงสิ่งใด?
สมบูรณ์แบบคือการไร้ข้อบกพร่อง!
ภายในข้อห้ามเปี่ยมด้วยพลังต่อเนื่องไร้ที่สิ้นสุด เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นเล็กน้อย จะถูกฟื้นฟูกลับมาภายในพริบตา ข้อห้ามที่เขาไม่รู้ว่าทำงานเช่นไรสามารถพึ่งพาตนเองได้ ไม่จำเป็นต้องเปลืองพลังถ่ายเทเข้ามา
ข้อห้ามที่พึ่งพาตนเองได้ อยู่ในสภาพแข็งแกร่งสุดตลอดกาล ไม่อ่อนแอลงแม้แต่น้อย ทั้งยังไม่ปรากฏจุดอ่อน นี่นับเป็นข้อห้ามอันสมบูรณ์แบบที่เขาใฝ่หา
น่าเสียดาย สิ่งนี้อยู่เหนือกว่าความรู้ความเข้าใจของเขาโดยสิ้นเชิง เขาไม่สามารถจัดวางออกมาได้แม้แต่น้อย
“ขอบพระคุณนายท่านเจิ้นเทียน!”
“นายท่านเจิ้นเทียนช่างเป็นคนดียิ่งนัก!”
สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นต่างกล่าวขอบคุณหนานกงเจิ้นเทียน
เดิมทีหนานกงเจิ้นเทียนต้องการเอ่ยคำ ‘ถ่อมตัว’ ออกมา ทว่าในตอนนั้นเอง สีหน้าของเขาก็ต้องแปรเปลี่ยนไป ดึงคำพูดที่กำลังจะออกจากริมฝีปากกลับมา
“จะออกมาแล้ว?!”
เขามองไปทางลานเต๋าด้วยสายตาเย็นเยียบ รับรู้ได้ว่าข้อห้ามของลานเต๋าเกิดการเคลื่อนไหว ส่งสัญญาณว่าจะเปิดออกมา
“เร็วปานนี้?!”
ปิงหยวนเองก็มองไปทางเดียวกัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจและไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย
“กำลังเสริมมาถึงแล้วหรือ?”
เขามองไปรอบ ๆ ด้วยความระมัดระวัง ญาณสัมผัสแผ่กระจายออกไปทั่วบริเวณ สำรวจตรวจสอบอย่างไม่พลาดแม้สักแห่งหน
ด้วยพลังของซีเองห่างไกลเกินกว่าจะเทียบหนานกงเจิ้นเทียนได้ อีกทั้งซีไม่มีทางไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นด้านนอก ในเมื่อซีกล้าออกมา แสดงว่ากำลังเสริมที่อยู่เบื้องหลังนางจะต้องมาถึงแล้ว!
หากไม่ใช่เพราะกำลังเสริมมาถึง ซีคงไม่กล้าออกมาเช่นนี้
“เช่นนั้นให้ข้าดูเสียว่าผู้ใดอยู่เบื้องหลังเจ้า!”
หนานกงเจิ้นเทียนยิ้มเย็น ญาณสัมผัสของเขาแผ่ออกอย่างเต็มที่ ไม่ละเว้นสถานที่ใดเอาไว้ ค้นหาอย่างละเอียดรอบด้าน!
เขาเป็นยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งแห่งหลังฉาก แม้ว่าจะกริ่งเกรงซีอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถึงขั้นเกรงกลัว
หากคนที่อยู่เบื้องหลังซีเป็นคนธรรมดา หรือแข็งแกร่งกว่าเพียงเล็กน้อย เขาย่อมไม่มีทางปล่อยไปโดยง่าย จะต้องทำให้ซีและผู้ที่อยู่เบื้องหลังนางชดใช้อย่างสาสม!