ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 175 ไม่ได้ฝันไป + ตอนที่ 176 เหรียญที่เก่าสุดมีราคาดีสุด
ตอนที่ 175 ไม่ได้ฝันไป
เหยียนหมิงซุ่นถามด้วยความแปลกใจ “ในเมื่อเธอคิดว่ามันไม่สวย แล้วทำไมถึงยังซื้อมันกลับมาด้วยล่ะ?”
อู่เหมยเงียบไปครู่หนึ่งเพราะตอบคำถามนี้ไม่ได้ คงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าฉิวฉิวอยากให้เธอซื้อ โดยเฉพาะช่วงที่เธอเลือกเหรียญที่เก่าที่สุดนั้นฉิวฉิวก็กระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ เธอจึงยิ้มและตอบ “ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงไร้สติขนาดนี้”
เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะอย่างแผ่วเบา แท้จริงก็เป็นพวกโง่เขลาที่เอาแต่มองโลกในแง่ดี แค่แวบเดียวก็ทำให้เขาจับพิรุธได้แล้ว
“เหมยเหมยรู้จักเงินพวกนี้ไหม?”
อู่เหมยรู้สึกสับสนและส่ายหัวไปมา สยงมู่มู่ถอนหายใจและถาม “หรือว่านายรู้จักเหรอ?”
เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้มองหน้าเขาแต่หยิบเหรียญโบราณที่ดูดีนั้นขึ้นมาและพูด “นี่คือเหรียญกษาปณ์เสียนเฟิงทงเป่า” และเขายังพูดต่ออีกว่า “และนี่ก็เป็นเหรียญกษาปณ์เสียนเฟิงทงเป่า เพียงแต่เหรียญนี้มีความต่างจากเหรียญนั้น และไม่ได้มีราคาเท่าเหรียญนี้ เหรียญนี้คือเหรียญกษาปณ์เฉียนหลงทงเป่า และสองเหรียญนี้คือเหรียญกษาปณ์ถงจื้อทงเป่า เธอนี่โชคดีเหมือนกันนะทั้งหมดที่เลือกมาเป็นเงินราชวงศ์ชิงหมดเลย อีกทั้งยังเป็นเงินราชวงศ์ชิงที่มีมูลค่ามากสุดสำหรับการสะสม”
อย่างอื่นที่เป็นเฉียนหลง เสียนเฟิง หรือถงจื้ออะไรนั่นเธอฟังไม่เข้าใจ และไม่อยากเข้าใจด้วย แต่ประโยคสุดท้ายเธอฟังเข้าใจมาก มีมูลค่ามากสุดสำหรับการสะสมนั่นหมายถึงมีราคาสูง?
ดวงตาของอู่เหมยเปล่งประกายขึ้นมาทันทีและถามขึ้นอย่างรีบร้อน “เหรียญพวกนี้แลกเป็นเงินได้เหรอคะ?”
ถ้าหากว่าแลกเป็นเงินมาได้ เธอคงไม่ต้องได้กังวลกับค่าเรียนแล้ว!
เหยียนหมิงซุ่นยิ้มและพยักหน้าตอบ “แลกเป็นเงินได้ และยังแลกเป็นเงินจำนวนไม่น้อยด้วย”
รอยยิ้มบนใบหน้าของอู่เหมยปกปิดแทบไม่มิด แม้แต่ดวงตายังเบิกกว้างเพราะเห็นเงิน สยงมูมู่หันหน้าหนีด้วยความรู้สึกเอือมระอาอีกครั้ง ขายขี้หน้าจนหน้าเขาคงถูกขายไปจนถึงบ้านยายแล้ว
“พี่หมิงซุ่น แล้วเหรียญพวกนี้จะแลกเงินได้เท่าไหร่คะ?” อู่เหมยลองไถ่ถามเพราะดูจากคำพูดที่มีเหตุผลของเหยียนหมิงซุ่น เขาคงจะรู้เกี่ยวกับเรื่องราคาพอสมควร?
แต่อู่เหมยกลับคิดว่านั่นเป็นเรื่องแปลก เพราะชาติก่อนเธอไม่เคยรู้ว่าเหยียนหมิงซุ่นเข้าใจเกี่ยวกับของโบราณ ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าในชาตินี้ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของต่างก็เปลี่ยนไปมาก
แต่อู่เหมยไม่ได้คิดอะไรมาก ต่อให้ทุกอย่างจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน ถึงยังไงเธอก็จะจำแค่ว่าอู่เยวี่ยคือศัตรูของเธอ เหมยซูหานคือคนที่เธอควรจะหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด แต่กับเหยียนหมิงซุ่นต่อไปแค่เขามีอนาคตที่ดีก็เพียงพอแล้ว
เหยียนหมิงซุ่นหยิบเหรียญกษาปณ์เสียนเฟิงทงเป่าขึ้นมาเหรียญแรก เพียงแค่เขาบอกจำนวนตัวเลขออกมานั่นก็ทำให้อู่เหมยรู้สึกตกใจไม่น้อย แม้แต่สยงมู่มู่ก็ตกใจตามไปด้วย
“สองร้อยหยวน? เหรียญเก่านี่ได้ราคาถึงสองร้อยหยวน? นายคงไม่ได้พูดอะไรมั่วๆ หรอกใช่ไหม?” สยงมู่มู่จ้องมองเหรียญนั้นอย่างยากที่จะเชื่อได้ เขาเข้าใจถึงความร้อนระอุในลำคอและกลืนน้ำลายไม่หยุด
อู่เหมยเองก็กระหายไม่ต่างกัน ใจของเธอเต้นตุบๆๆ อยู่ตลอดและใบหน้าจิ้มลิ้มที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ ใจของเธอที่ลอยขึ้นไปชัวขณะหนึ่งและตกหล่นลงมาใหม่ แม้จะดีใจแต่ก็ยังกังวล เธอดีใจที่สามารถหาเงินได้เยอะ แต่ก็กังวลว่านี่อาจเป็นแค่ฝันอันงดงาม ถ้าเธอตื่นขึ้นมาจากฝัน เธอก็จะกลายเป็นคนจนๆ ที่ทรัพย์สมบัติทั้งหมดมีแค่แปดหยวนห้าเจี่ยว
“นี่ อู่เหมยเธอเป็นบ้าอะไรอีก? เธอเกิดปีหมาหรือไง!” สยงมู่มู่ที่เอาแต่กอดมือตัวเองไว้อย่างโมโห บนมือนิ่มๆ ของเขาปรากฏรอยแดงของฟันแบบครบทุกซี่
และนั่นถึงทำให้อู่เหมยรู้สึกดีใจขึ้นมาจริงๆ “ไม่ได้ฝันไป ฮ่าๆ ฉันจะมีเงินแล้ว พี่หมิงซุ่นช่วยเอาเหรียญนี่ไปขายแทนหนูได้ไหมคะ? หนูจะให้ส่วนแบ่งกับพี่”
เหยียนหมิงซุ่นที่ได้ยินก็นึกตลกกับคำพูดของเธอ ยัยเด็กนี่ไม่ได้โง่ขนาดนั้น เพราะขนาดเรื่องแบ่งเงินเธอยังเข้าใจ เขานึกสนุกขึ้นมาพร้อมหยิบเหรียญกษาปณ์ต้าฉีทงเป่า และพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันไม่ต้องการส่วนแบ่ง ไม่งั้นเธอเอาเหรียญพวกนี้ให้ฉันก็พอแล้ว!”
อู่เหมยกลับเข้าใจผิดคิดว่าเขาคงไม่อยากเอาเปรียบเธอเลยตั้งใจจะเอาเหรียญที่ไม่มีราคาพวกนี้ไป เธอนำเหรียญกษาปณ์เสียนเฟิงทงเป่าที่ได้ราคาถึงสองร้อยหยวนยัดใส่มือของเขาโดยไม่คิดอะไร “เหรียญนั่นมันไม่ได้ราคาอะไร ไม่อย่างนั้นหนูยกให้พี่ค่ะ”
หนึ่งเหรียญก็ได้ราคาถึงสองร้อยหยวน เธอยังเหลืออยู่สี่เหรียญ ต่อให้หนึ่งเหรียญราคาหนึ่งร้อยหยวนก็ยังได้เงินสี่ร้อยหยวน อย่าว่าจะแต่เรียนวาดรูปเลย ถ้าจะเรียนเต้นรำหรือดนตรีต่างๆ เธอยังเรียนได้เลย เฮ้อ! วันนี้ช่างเป็นวันที่ดีจริงๆ!
…………………………………………………………………………………………..
ตอนที่ 176 เหรียญที่เก่าสุดมีราคาดีสุด
ฟันกรามของสยงมู่มู่เริ่มเกิดอาการปวดขึ้นมาอีกครั้ง เขากลั้นเสียงในลำคอจนแทบจะขาดใจเพื่อจะไอออกมา ยิ่งไปกว่าผู้ป่วยวัณโรค อู่เหมยเริ่มมีความคิดความอ่านขึ้นจากความดื้อดึง เธอเคาะหน้าผากตัวเองและเลือกมั่วๆ เพื่อหยิบเหรียญโบราณไปให้สยงมู่มู่
“ตอนแรกฉันตั้งใจจะให้นายหลังจากที่กลับไปถึงบ้านแต่ฉันกลัวว่าจะลืมเสียก่อน เพราะงั้นก็ให้นายตอนนี้เลยละกัน ปีนี้ไม่ได้เป็นปีเกิดของนายหรอกเหรอ นายกลับถึงบ้านก็ให้ป้าจ้าวหาด้ายแดงมาผูกแล้วก็แขวนไว้กับตัวนะ”
อู่เหมยเกิดรู้สึกเสียดาย เธอเอาแต่มองเหรียญกษาปณ์ที่อยู่ในมือของสยงมู่มู่และเอาแต่ปลอบใจตัวเองไม่หยุด ไม่ต้องกลัวๆ เธอยังเหลืออีกสามเหรียญตั้งสามร้อยหยวนเลยนะ!
แบบนี้จึงทำให้สยงมู่มู่รู้สึกสบายใจขึ้น แต่พอเขาเห็นถึงความขี้เหนียวของอู่เหมย ความใจแคบที่มีก็เริ่มออกอาการอีกครั้ง เธอเอาเหรียญกษาปณ์ให้เหยียนหมิงซุ่นไปแบบเรียกว่าใจกว้างจนหนังตาแทบไม่กะพริบ แต่พอเอาให้เขากลับทำเหมือนทำใจไม่ได้ เหอะ! อย่างนี้เขาจึงจงใจที่จะไม่คืน จะทำให้ยัยตัวแสบนี่เจ็บปวดจนตาย
“ขอบใจนะ ไว้ถึงบ้านแล้วฉันจะใส่ห้อยไว้” สยงมู่มู่เงยหน้าขึ้นและเก็บเหรียญไว้อย่างหน้าตาเฉย
อู่เหมยเบะปากมองพลางนึกในใจว่าเขาเอาของของคนอื่นไปแล้วยังมีท่าทีแบบนี้อีก หากไม่ไช่เพราะชาติก่อนนายนั่นตายอย่างทรมานและน่าสงสาร เธอคงไม่ยอมให้ไปหรอก!
เงินหนึ่งร้อยหยวนในตอนนี้ยังใช้การได้มากกว่าเงินหนึ่งพันหยวนในชาติก่อนเสียอีก อู่เหมยเอาเงินทั้งสามเหรียญยื่นให้เหยียนหมิงซุ่นไปและพูดเชิงขอร้อง “พี่หมิงซุ่นคะ พี่ช่วยเอาเหรียญกษาปณ์ทั้งสามเหรียญของฉันไปแลกเป็นเงินให้หน่อยได้ไหม?”
“ไม่มีปัญหา แล้วเหรียญนั่นเธอจะไม่แลกเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นชี้ไปยังเหรียญกษาปณ์ต้าฉีทงเป่าที่ไร้ขอบ
อู่เหมยชูเหรียญเก่านี้ขึ้นมาอย่างตกตะลึงและถามด้วยความงงงวย “เหรียญนี่เก่าขนาดนี้แล้ว ยังจะมีคนอยากได้อีกเหรอ?”
ตอนแรกเธอวางแผนไว้หากกลับถึงบ้านจะร้อยเหรียญกับด้ายแดงแล้วแขวนไว้กับตัว เพราะปีนี้ก็เป็นปีเกิดของเธอเหมือนกัน มีเหรียญเก่าๆ ห้อยคอไว้ก็คงดีกว่าไม่มีอะไรเลย!
เหยียนหมิงซุ่นมองท่าทีเงอะงะซื่อบื้อของเธอจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ใครเขาสรรเสริญเธอว่าเงินเก่าๆ จะไม่มีคนต้องการ? เงินห้าเหรียญของเธอรวมกันยังได้ราคาไม่เท่ากับเหรียญนี้เหรียญเดียวเลยนะ!”
“อะไรนะ?”
ราวกับร่างของอู่เหมยถูกสาปให้แข็งทื่อเป็นท่อนไม้ เธอยืนนิ่งงันไปเป็นเวลาหนึ่งนาทีเต็ม แม้แต่ดวงตายังไม่ขยับและเธอก็เอาแต่จ้องมอง ‘เหรียญเก่า’ ในมือ ฉิวฉิวที่อยู่ในอ้อมแขนของเธอได้ใจจนต้องสะบัดหางไปมา ถือว่าดีที่มีคนรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี ในบรรดาเหรียญเก่าๆ ทั้งหมดนั้น เหรียญกษาปณ์เหรียญนี้เก่าที่สุดและล้ำค่าที่สุด ส่วนเหรียญที่เหลือเป็นเพียงที่เขาหาออกมารวมๆ ก็เท่านั้น
แต่เมื่อครู่เขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นของดีอีก แต่เจ้านายของมันไม่ยอมไป น่าเสียดาย!
อู่เหมยนิ่งอึ้งไปเป็นเวลานานกว่าจะมีปฏิกริยาตอบสนองกลับและมีใบหน้าที่เริ่มแดงขึ้น เธอจึงแย่งเหรียญกษาปณ์เสียนเฟิงทงเป่าจากมือเหยียนหมิงซุ่นมาและวาง ‘เหรียญเก่า’ ไว้บนมือเขา “เหรียญนี้ยกให้พี่หมิงซุ่น ฉัน…เมื่อกี้ฉันไม่รู้ ฉัน…”
เหยียนหมิงซุ่นมองดูยัยตัวแสบที่มีท่าทางตื่นตระหนก ทำให้เขารู้สึกใจอ่อนขึ้นมา
เขายื่นเหรียญกษาปณ์ต้าฉีทงเป่าคืนให้เธอและหยิบเอาเหรียญกษาปณ์เสียนเฟิงทงเป่ามาแทน “เหรียญนี้ก็พอแล้ว เหรียญนั้นมีค่าเกินไป เหมยเหมยเธอเก็บไว้เองเถอะ”
สยงมู่มู่ถามด้วยความแปลกใจ “แล้วเงินโบราณนี่คือยุคสมัยไหนกันแน่? ดูเหมือนจะไม่ใช่ราชวงศ์ชิงแล้วก็ไม่ใช่ราชวงศ์หมิง”
“นี่คือเงินตราของถังใต้ยุคแรก เรียกว่าต้าฉีทงเป่า จำนวนที่พบเห็นบนโลกในปัจจุบันมีเพียงไม่กี่เหรียญเท่านั้นเอง มีมูลค่าสูงมาก ยากที่จะใช้เงินทองมาตีค่าราคาของมันได้” เหยียนหมิงซุ่นอธิบาย
อู่เหมยกับสยงมู่มู่ตกใจเป็นอย่างมาก ถ้าเป็นอย่างที่พูดจริง เงินเก่าๆ เหรียญนี้ก็ถือเป็นของมีค่าที่ไม่สามารถตีราคาได้งั้นหรือ?
ต่อให้อู่เหมยจะโง่แค่ไหนแต่เธอก็รู้สึกถึงความผิดปกติ ลักษณะท่าทางที่ฉิวฉิวแสดงออกในตอนที่ซื้อเหรียญโบราณ และยังมีคำพูดที่สยงมู่มู่พูดเล่นกับเธออีก หรือว่าเจ้าฉิวฉิวมันจะ…?
“ฉิวฉิว เป็นแกจริงๆ เหรอ?”
อู่เหมยกอดฉิวฉิวไว้แน่น และกระซิบพูดที่ข้างหูของมัน ฉิวฉิวกะพริบตาปริบๆ อย่างได้ใจและมันใช้หางใหญ่ๆ ที่มีขนฟูฟ่องสะบัดไปมาบนใบหน้าของอู่เหมย จึงให้ความรู้สึกคันๆ ชาๆ และจั๊กจี้
…………………………………………………………………………………………..