ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 207 แผนซ้อนแผน + ตอนที่ 208 พี่สาวบ้าไปแล้ว
ตอนที่ 207 แผนซ้อนแผน
อู่เยวี่ยมีกำลังเยอะมาก ออกแรงบีบคออู่เหมยอย่างไม่คิดชีวิต ถลึงตาจ้องมองเธออย่างโหดเหี้ยม หน้าตาดุร้าย สูญเสียความอ่อนโยนและกิริยาอ่อนหวานในอดีตไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อโดนโจมตีอย่างต่อเนื่องทำให้การควบคุมและสติปัญญาของอู่เยวี่ยนั้นหายไปในพริบตา เวลานี้เธอคิดเพียงแค่ว่าจะบีบคออู่เหมยให้ตาย หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง อะไรก็ไม่อยากจะไปคิดทั้งนั้นแหละ
ตอนที่อู่เยวี่ยโผเข้ามาในช่วงเวลานั้น อู่เหมยอยากจะหลบก็หลบได้ แต่เธอไปคิดไปคิดมา ท้ายที่สุดก็ไม่ได้หลบ แล้วแกล้งทำเป็นต่อสู้ดิ้นรน ให้อู่เยวี่ยดำเนินแผนการให้สำเร็จ
แต่เธอกลับคาดไม่ถึงว่าอู่เยวี่ยจะใช้แรงมากมายขนาดนี้ ลำคอของเธอเหมือนกับว่าโดนเชือกรัดไว้จนหายใจไม่ออก อากาศอยู่ใกล้แค่นี้ แต่เธอกลับไม่อาจหายใจเข้าไปได้
อู่เยวี่ยจะฆ่าเธอจริงๆ!
อู่เหมยคับแค้นใจเป็นอย่างมาก นังสารเลวนี่สมควรตาย ชาติที่แล้วเธอตายในเงื้อมมือของนังนี่ ถ้าชาตินี้ยังต้องมาโดนนังนี่บีบคอตายอีกล่ะก็ เธอก็ไม่สมควรเป็นคนอีกต่อไป สมควรที่จะไปเป็นเมียเต่าแทนแล้ว
ระยะนี้เธอกินดีดื่มดี ไม่เพียงแต่มีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น พละกำลังก็เพิ่มขึ้นไม่น้อย อู่เหมยใช้พละกำลังที่มีดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากพันธนาการของอู่เยวี่ย แต่อู่เยวี่ยเหมือนกินยาเพิ่มพลังเข้าไปก็ไม่ปาน เธอดิ้นไปสักพักก็ยังไม่หลุด เรี่ยวแรงเริ่มหมด หัวของเธอก็เริ่มเบลอแล้ว
“เธอยังคิดจะฆ่าฉัน? ฉันจะฆ่านังคนโง่หน้าไม่อายอย่างเธอก่อน!”
ดวงตาของอู่เยวี่ยแดงฉานราวกับอาบไปด้วยเลือด มองอู่เหมยอย่างเย็นชา มือไม่ผ่อนแรงลง เมื่อได้เห็นหน้าสวยๆ ของอู่เหมยบิดเบี้ยวจนผิดรูปร่าง ในใจของอู่เยวี่ยกลับรู้สึกเต็มไปด้วยความสุข
อีกเพียงแค่นิดเดียว อีกแค่นิดเดียว คนโง่เง่าน่ารังเกียจอย่างนังนี่ก็จะหายไปตลอดกาลและจะไม่ปรากฏต่อหน้าเธออีกเลย!
ใกล้แล้ว!
อู่เหมยเริ่มรู้สึกถึงความตาย ภายในใจเริ่มกลัว ออกแรงดึงมือของอู่เยวี่ยออก ร้องเสียงดัง “พ่อ ช่วยด้วย!”
เสียงกรีดร้องที่แสบหูในคืนที่เงียบสงัดยังคงชัดในโสตประสาท อู่เยวี่ยโดนเสียงกรีดร้องของเธอกระชากสติกลับมา ร่างกายของเธอสั่น พละกำลังของเธอก็หายไป ตื่นตระหนกมองดูอู่เหมยที่ไอไม่หยุด
เธอกำลังทำอะไร?
เธอจะฆ่าคนได้อย่างไร?
ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป คนอื่นจะมองเธออย่างไรบ้าง?
จะเป็นไปได้ไหมที่คนเขาจะพูดกันว่าเธอเป็นฆาตกร?
“เหมยเหมย ฉัน…ฉัน…ฉันแค่ฝัน ฉันจะต้องฝันอยู่แน่ๆ!” ในตอนแรกอู่เยวี่ยยังคงพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ก็สงบลงมาได้อย่างรวดเร็ว แล้วคิดคำพูดโกหกที่จะมีผลดีต่อเธอที่สุดออกมาได้
เธอไม่รู้อะไรทั้งนั้น เธอแค่ฝันร้าย มันต้องเป็นแบบนั้น เธอคืออู่เยวี่ยคนที่จิตใจมีเมตตา อ่อนโยน และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ จะทำเรื่องที่น่ารังเกียจอย่างฆ่าน้องสาวตัวเองได้อย่างไร?
จะเกิดขึ้นไม่ได้อย่างเด็ดขาด!
อู่เหมยมองท่าทางของอู่เยวี่ยก็รับรู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังคิดจะทำอะไร จึงหัวเราะเยาะในใจ คิดไว้สวยงามขนาดไหน ก็ต้องดูว่าเธอจะยินยอมไม่ยินยอมแล้วล่ะ!
อู่เยวี่ยเก็บมือกลับไป ตั้งใจที่จะกลับไปที่เตียงนอนต่อ อู่เหมยมีหรือจะยินยอมให้เธอกลับไปอย่างง่ายๆ จึงคว้ามือของอู่เยวี่ยวางลงบนคอของตัวเองอีกครั้ง ดึงกันไปมาแล้วกรีดร้องตะโกนว่า “ช่วยด้วย พี่สาวจะฆ่าหนู พ่อรีบมาช่วยหนูเร็ว!”
กลางดึกเวลานี้คือเวลาที่ดีที่สุดที่จะนอนหลับ ทุกต่างก็นอนหลับลึก อู่เหมยส่งเสียงกรีดร้องน่ากลัวขนาดนี้ ทำเอาผู้คนส่วนหนึ่งตื่นตกใจขึ้นมา รีบใส่เสื้อผ้าแล้วออกมาข้างนอก
นับว่าในยุคนี้เพื่อนร่วมงานหรือเป็นเพื่อนบ้านต่างกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก ไม่ว่าบ้านใครมีเรื่องอะไรทุกคนต่างก็จะมาดูแลช่วยเหลือ ไม่เหมือนสมัยใหม่นี้ที่อยู่ด้วยกันมากี่ปีแล้ว บางทีห้องตรงข้ามนามสกุลอะไรยังไม่รู้เลยมั้ง!
อู่เจิ้งซือเองก็ถูกเสียงดังปลุกขึ้นมาแล้วเหมือนกัน รีบร้อนวิ่งไปทางห้องนอนของลูกสาว แค่ผลักประตูนิดเดียวก็เปิดออกแล้ว ประจวบเหมาะเห็นสองพี่น้องกำลังต่อสู้ดิ้นรนอยู่ มองขึ้นมาก็คืออู่เยวี่ยกำลังบีบคออู่เหมยอยู่ แถมอู่เหมยก็กำลังต่อสู้ดิ้นรนอย่างสุดชีวิต
…………………………………………………………………………………………..
ตอนที่ 208 พี่สาวบ้าไปแล้ว
“เยวี่ยเยวี่ยหนูกำลังทำอะไร รีบปล่อยมือ!”
อู่เจิ้งซือรีบร้อนพุ่งขึ้นไปดึงอู่เยวี่ยออกมา อู่เหมยมีสีหน้าหวาดกลัวโผเข้าหาอ้อมกอดของอู่เจิ้งซือ พูดเสียงสั่นว่า “พ่อคะ พี่สาว…พี่จะฆ่าหนู พี่…จะฆ่าหนู หนูกลัวมากเลย!”
“เธอพูดไร้สาระอะไร? พี่สาวเธอจะคิดฆ่าน้องสาวได้ยังไง? ทั้งวันเอาแต่หาเรื่องพี่สาวเธอ เธอ…”
เหอปี้อวิ๋นที่รีบมาก็พูดไปด่าไปพลางเดินเข้ามาด้วยใบหน้าอึมครึม แต่พอเธอเห็นรอยเขียวช้ำที่คอของอู่เหมย คำพูดของเธอก็หยุดลงกะทันหัน มองลูกสาวคนเล็กอย่างตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก
บนรอบคอขาวๆ มีร่องรอยเขียวช้ำจากการบีบแถมยังมีรอยนิ้วมือ เห็นได้ชัดเจนเป็นอย่างยิ่งว่าโดนคนบีบ อู่เหมยไม่พูดอะไร ทำเพียงแค่แหงนคอให้อู่เจิ้งซือดู ดูว่าพวกเขาจะล้างบริสุทธิ์ให้อู่เยวี่ยยังไง!
“ลูกคนนี้ฝันยังไงทำไมถึงบีบคอตัวเองได้ จริงๆ เลย!”
เหอปี้อวิ๋นหลังจากที่ตื่นตระหนกตกใจเสร็จแล้ว ปฏิกิริยาโต้ตอบแรกนั้นก็คือทำให้ลูกสาวสุดที่รักหลุดพ้นจากความผิด ยังไงชื่อเสียงของอู่เยวี่ยก็จะเสื่อมเสียไม่ได้เด็ดขาด
อู่เหมยหัวเราะในใจ รู้อยู่แล้วว่าเหอปี้อวิ๋นจะพูดแบบนี้ แต่ไม่เป็นไร หลักฐานชัดเจนขนาดนี้ เหอปี้อวิ๋นอย่าคิดที่จะปั้นน้ำเป็นตัว เธอหันหัวไปมองอู่เจิ้งซือ ชี้ที่รอยแผลถามว่า “พ่อคะ แม่บอกว่ารอยนี้คือหนูบีบตัวเอง? พ่อว่ามันเป็นไปได้หรือคะ?”
อู่เจิ้งซือจ้องเขม็งไปที่เหอปี้อวิ๋น ช่างเป็นเมียที่โง่นัก จะหาข้ออ้างก็ไม่หาที่มันดีหน่อย เขามองอู่เยวี่ยด้วยสายตาสิ้นหวัง อู่เยวี่ยเองดูเหมือนจะตกใจจนทำอะไรไม่ถูกไปแล้ว ตั้งแต่ที่พวกเขาเข้ามาจนถึงตอนนี้ ก็ไม่พูดเลยสักคำเหมือนคนทึ่ม ไม่มีเคล้าของความฉลาดปราดเปรื่องเหมือนแต่ก่อน
“เยวี่ยเยวี่ยเป็นอะไรลูก ฝันร้ายหรือเปล่า?” อู่เจิ้งซือตั้งใจพูดเสียงช้าๆ ดังๆ เขาคิดเหมือนกันกับเหอปี้อวิ๋น ยังไงก็จะทำให้ชื่อเสียงของลูกสาวคนโตเสื่อมเสียไม่ได้เด็ดขาด
จะให้คนอื่นรู้ได้ยังไงว่าอยู่ดีๆ กลางดึกลูกสาวคนโตก็คิดจะฆ่าน้องสาว หลังจากนี้ เขา อู่เจิ้งซือจะมีหน้าไปโรงเรียนอีกได้อย่างไร?
ยังไม่รู้ว่าจะมีกี่คนหัวเราะเยาะเขา!
ในใจของอู่เหมยมีความผิดหวังล้นออกมา แต่ว่าก็แค่เพียงเล็กน้อย เธอรู้แต่แรกแล้วว่าปฏิกิริยาของอู่เจิ้งซือต้องเป็นแบบนี้ คนที่เห็นหน้าตาสำคัญยิ่งกว่าชีวิต แน่นอนว่าต้องไม่ให้เรื่องอับอายในบ้านแพร่งพรายออกไปหรอก
แต่ครั้งนี้เธอจะไม่ให้อู่เจิ้งซือสมหวังหรอก เธอต่อสู้จนได้รับความทรมานทางร่างกายขนาดนี้ จริงอย่างที่เขาพูดกันว่า ฝันร้ายเดี๋ยวก็ผ่านไป!
ชาติก่อนไม่ใช่พวกเขาหรอกหรือที่บอกว่าเธอเป็นบ้า?
ถ้าอย่างนั้นชาตินี้ก็ให้อู่เยวี่ยลูกสาวอันเป็นแก้วตาดวงใจเป็นโรคประสาทไปแล้วกัน!
ในใจของอู่เยวี่ยคิดไปคิดมาพันล้านตลบ พอได้ฟังอู่เจิ้งซือถามก็แอบดีใจ พยักหน้าอย่างขลาดๆ น้ำตาคลอเบ้า พูดอย่างทุกข์ใจว่า “ในฝันน่ากลัวมากเลย เหมยเหมยเธอหยิบมีดจะมาแทงหนู แล้วพวกเราก็สู้กัน เหมยเหมยขอโทษนะ พี่ไม่ได้ตั้งใจ ไม่งั้นก็ตีพี่เพื่อระบายอารมณ์ออกมาก็ได้นะ”
เหอปี้อวิ๋นกล่าวอย่างปวดใจว่า “เป็นพี่น้องกันมีปัญหาอะไรให้ขอโทษกันซะ เยวี่ยเยวี่ยช่วงนี้เรียนคงเหนื่อยมาก หน้าตอบหมดแล้ว นี่บีบไปแค่แป๊ปเดียวเอง เอาน้ำมันมวยทาๆ สักพักแล้วก็รีบไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องไปโรงเรียนอีกนะ!”
อู่เหมยมองอู่เยวี่ยที่น่าสงสารอย่างเย็นชา บนคอยังคงรู้สึกเจ็บเหมือนได้เตือนสติตัวเองอยู่ตลอดว่าดอกไม้สีขาวเล็กๆ ตรงหน้าของเธอเป็นงูพิษที่ซ่อนความโหดเหี้ยมและเหลี่ยมจัดไว้ และเรื่องวันนี้เธอจะไม่มีวันลืมมันง่ายๆ
“หนูไม่อยากนอน พี่เป็นบ้าไปแล้ว พี่จะฆ่าหนู หนูไม่อยากนอนห้องเดียวกับพี่ หนูกลัว!”
อู่เหมยส่งเสียงแหลมร้องออกมา ทันใดนั้นก็วิ่งออกไปข้างนอก เพราะพวกคุณคิดจะปิดบังเรื่องเสื่อมเสียนี่เพื่ออู่เยวี่ยไม่ใช่หรอกหรือ?
งั้นเธอก็จะตะโกนให้คนทั้งตึกได้ยินกันทั้งหมด!
…………………………………………………………………………………………..