ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 251 ความโกรธแค้นที่ไม่มีลูกชาย + ตอนที่ 252 เปลี่ยนแปลงมุมมองใหม่
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- ตอนที่ 251 ความโกรธแค้นที่ไม่มีลูกชาย + ตอนที่ 252 เปลี่ยนแปลงมุมมองใหม่
ตอนที่ 251 ความโกรธแค้นที่ไม่มีลูกชาย
อู่เจิ้งหงเข้าใกล้อู่เหมยเพื่อพินิจพิเคราะห์อยู่ครู่ใหญ่ถึงจุ๊ปากพูดว่า พี่สะใภ้รองฝึกฝ่ามือเหล็กหรือไง ดูหน้าเหมยเหมยสิ บวมจนกลายเป็นแบบนี้แล้ว พวกเราตระกูลอู่ยังมีกฏเกณฑ์ที่มาจากการสืบทอดความรู้และประเพณีอันดีงามอยู่นะ พี่อย่าเอานิสัยความเคยชินความหยาบคายไร้มารยาทนำเอามาใช้ที่นี่ ขายขี้หน้าตัวเองจริงๆ”
จี้เจี้ยนโปซาบซึ้งใจอู่เหมยมากที่ช่วยปิดบังเรื่องของเฮ่อเหวินจิ้ง อีกอย่างเขาก็เห็นใจอู่เหมยจริงๆ พบเจอแม่ที่ลำเอียงแล้วยังหยาบคายอีก คงยากมากกว่าจะใช้ชีวิตผ่านมาได้ พอเทียบกันแล้ว อู่เจิ้งหงยังจะน่ารักกว่าเหอปี้อวิ๋นเยอะเลย ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ภรรยาที่ดี แต่ความเป็นแม่ก็ยังจำเป็นต้องมีอยู่
“เจิ้งหงพูดถูก พี่สะใภ้รอง พี่ต้องพิจารณาตัวเองดีๆ แล้วล่ะ ตระกูลพวกเรามีหน้ามีตามีเกียรติยศ คำพูดการกระทำกิริยาท่าทางต่างก็ต้องระวัง ข้างนอกมีไม่รู้ตั้งกี่คนที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยหัวเราะพวกเรา พี่สะใภ้รอง พี่ควรค่อยๆ ศึกษาเรียนรู้ดีๆ กับพี่สะใภ้ใหญ่และเจิ้งหง ใช่ไหมเจิ้งหง?”
จี้เจี้ยนโปพูดเสร็จก็หันไปมองอู่เจิ้งหง ทำให้เธอดีใจมาก แต่ก่อนเธอขัดแย้งกับเหอปี้อวิ๋น จี้เจี้ยนโปชอบพูดว่าเธอทำไม่ถูก แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่เขาปกป้องเธออย่างแน่วแน่!
อู่เจิ้งหงมองค้อนประหลับประเหลือกให้จี้เจี้ยนโปอย่างพอใจจนหน้าบาน จนเขาเองก็คาดไม่ถึงว่าจะสวยหยาดเยิ้มขึ้นมานิดหน่อย จี้เจี้ยนโปถูฝ่ามือไปมา ในสมองจินตนาการถึงใบหน้าที่น่ารักของเฮ่อเหวินจิ้งก็ผ่อนคลายขึ้นเยอะ
ระยะนี้เฮ่อเหวินจิ้งไม่สนใจเขาเลย ครั้งที่แล้วตกลงกันซะดิบดีว่าจะออกไปเล่นกัน ต่อมากเธอก็เปลี่ยนความคิดไป นี่มันผิดปกติมากๆ เขาควรเจียดเวลาว่างไปหาเหวินจิ้ง ไม่อย่างนั้นเขาคงจะอึดอัดตาย
อู่เจิ้งหงสองสามีภรรยาพูดจารับส่งกันเป็นลูกคู่ บีบให้เหอปี้อวิ๋นไม่มีที่อยู่ กัดริมฝีปากอย่างแรง อดทนอดกลั้นต่อความแค้นใจอย่างแรงกล้า แต่ไม่ใช่เพราะว่ากลัวคำพูดของสองสามีภรรยาคู่นี้ แต่เพราะว่ากลัวคุณปู่อู่จะมองเธอขัดหูขัดตาเข้าไปใหญ่
นั่นเพราะอู่เจิ้งซือเชื่อฟังคุณปู่อู่ทั้งหมด เธอจึงไม่อาจยั่วยุจนทำให้คุณปู่อู่โมโหได้!
เพราะว่าพวกจี้เจี้ยนโปและตี๋ชิวเยวี่ยพยายามไกล่เกลี่ยเพื่ออู่เหมย คุณปู่อู่ก็ไม่ต่อว่าเธออีก แต่ที่จริงแล้วคุณปู่อู่พอใจมากกับความก้าวหน้าของอู่เหมยในช่วงนี้ ที่รู้สึกไม่พอใจอู่เหมยส่วนใหญ่ก็คือโมโหที่เธอเอาเรื่องอัปยศอดสูในบ้านเผยแพร่ออกไป ส่วนเรื่องอื่นที่ให้ต่อว่าได้ก็ไม่มี
อีกทั้งคุณปู่อู่ได้สังเกตอย่างเงียบๆ อู่เหมยไม่ใช่เพียงแค่รูปร่างหน้าตาสวยขึ้น นิสัยก็เปลี่ยนเป็นเข้มแข็งขึ้น ไม่เหมือนแต่ก่อนที่เอาแต่รับคำ ‘ค่ะๆๆ’ ตลอดเหมือนกับคนโง่เซ่อซ่า มองแล้วก็พาลเกิดอารมณ์โมโห หากเทียบกันแล้ว แน่นอนว่าเขาชื่นชมอู่เหมยตอนนี้มากกว่า
ส่วนอู่เยวี่ยคุณปู่อู่ก็ไม่ว่าอะไร แค่บอกอู่เจิ้งซือว่าอย่ากดดันเธอจนเกินไป “อยากได้ชื่อเสียงโด่งดังก็ต้องพึ่งพาผู้ชาย ผู้หญิงมีการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยก็พอแล้ว เยวี่ยเยวี่ยก็ไม่จำเป็นต้องอวดฝีมือ รักษาห้าสิบอันดับแรกของระดับโรงเรียนไว้ก็ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำให้ตัวเองให้กลายเป็นบ้าไป จนทำให้บ้านไม่สงบสุข”
“ครับ” อู่เจิ่งซือตอบรับอย่างเคารพนบน้อม ในใจรู้สึกไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก
ในบรรดาสามพี่น้อง มีแค่เขาที่ไม่มีลูกชาย บ้านพี่ชายคนโตมีลูกชายสองคน เจิ้งหงมีลูกชายหนึ่งคนและลูกสาวหนึ่งคน ทุกๆ คนต่างได้ดีกว่าเขาหมด ที่ท่านผู้เฒ่าพูดเหตุผลพวกนั้นเขาทำไมจะไม่รู้ แต่เขาแค่ไม่ยินยอม อยากจะเลี้ยงดูสั่งสอนสนับสนุนลูกสาวให้ดี ให้ไม่น้อยหน้าผู้ชาย แต่ด้วยความคิดนั้น อู่เยวี่ยกลับทำให้เขาตกใจมาก
เหมือนเหวินเฟิงและอู่เจี๋ย ที่อายุเท่าอู่เยวี่ยคะแนนไม่ใช่แค่เพียงถอยลง ในทางกลับกันกลับพัฒนาขึ้นมาก นี่ก็คือข้อได้เปรียบของผู้ชาย ช้าแต่พลังเต็มเปี่ยม เขาคงทำได้แค่มองตาปริบๆ เฮ้อ!
เหอปี้อวิ๋นเองก็รู้สึกขมปร่าในปากฉับพลัน ในชีวิตนี้ที่ไม่สามารถมีลูกชายได้นับเป็นความเจ็บปวดของเธอ ก็เป็นเพราะว่าเธอไม่ได้ให้กำเนิดลูกชาย ท่ายผู้เฒ่ากับท่านยายถึงไม่ชอบเธอ อู่เจิ้งซือถึงเย็นชากับเธอ หลังของเธอถึงยืดตรงอย่างสง่าผ่าเผยไม่ได้สักที
เป็นความผิดของยัยเด็กสมควรตายนี่ทั้งหมด ทำร้ายเธอให้มีลูกชายไม่ได้ เธอตียัยเด็กสมควรตายนี่ผิดตรงไหน?
เหอปี้อวิ๋นก้มหน้าลง กัดฟันด้วยความแค้น ใบหน้าบิดเบี้ยวผิดรูปไปหมด
………………………………………..
ตอนที่ 252 เปลี่ยนแปลงมุมมองใหม่
อู่เจิ้งซือก็หยิกยกเรื่องที่จะผูกญาติกับตระกูลสยงมาพูดอีกครั้ง เขาเอ่ยเน้นหนักไปที่ภูมิหลังของบ้านจ้าวอิงหนาน คุณปู่อู่ก็มีหน้าตาท่าทางเอาจริงเอาจังขึ้นมา มองไปที่อู่เหมยอย่างแปลกใจ หลานสาวคนนี้เป็นเด็กที่มีโชคจริงๆ สามารถเข้าตาได้รับความโปรดปรานจากครอบครัวแบบนั้นได้ พอได้ฟังแล้วอาจารย์แซ่จ้าวคนนั้นก็คงจะชอบอู่เหมยจากใจจริง!
หลานสาวคนเล็กมีแม่บุญธรรมที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ แถมยังมีรูปร่างหน้าตาเช่นนี้ หลังจากนี้เกรงว่าอนาคตคงจะดีกว่าหลายสาวคนโตหน่อย
คุณปู่อู่ถึงแม้ว่าจะปฏิบัติตัวอย่างโบราณคร่ำครึและเคร่งครัด แต่เป็นเพราะเขาใช้ชีวิตอยู่ที่โรงเรียนนี้ ในสังคมเล็กๆ แห่งนี้มาทั้งชีวิต จะไม่โบราณคร่ำครึขนาดนี้ได้อย่างไร หากจะดูคนว่านิสัยเป็นเช่นไร ก็ให้ดูว่าเขาใช้ชีวิตแบบไหนมา
“นี่เป็นเรื่องดี เจิ้งซือแกควรเตรียมของขวัญที่มีค่าไว้ให้พร้อม จะต้องไม่ให้คนอื่นรู้สึกว่าพวกเราไม่มีมารยาทได้ เอาอย่างนี้แล้วกัน ของขวัญสำหรับการผูกญาติก็ให้พี่สะใภ้จัดซื้อให้ สายตาของพี่สะใภ้ใหญ่ของแกถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว ต้องทำให้ผู้คนพอใจได้แน่นอน” คุณปู่อู่สั่งงาน
อู่เจิ้งซือหัวเราะ “พ่อ พ่อกับผมคิดเหมือนกันเลย ผมก็คิดจะรบกวนพี่สะใภ้ใหญ่อยู่เหมือนกัน!”
ตี๋ชิวเยวี่ยหัวเราะเบาๆ พูดว่า “พ่อกับน้องรองให้เกียรติฉันมากไปแล้ว ถ้าหากฉันซื้อมาไม่ดี พวกคุณก็อย่าพูดอะไร ก็ทำเป็นเงียบๆ ใบ้กินไปแล้วกันนะ”
“จะเป็นไปได้ยังไง ของที่พี่สะใภ้ใหญ่ซื้อจะไม่ดีได้ยังไง” อู่เจิ้งซือพูด
บรรยากาศค่อยๆ ผ่อนคลายขึ้นมา ทุกคนผ่อนลมหายใจ บนหน้ามีรอยยิ้ม มีแค่เหอปี้อวิ๋นกับอู่เยวี่ยที่แม้สักนิดก็ดีใจไม่ออก เหอปี้อวิ๋นรู้สึกขายขี้หน้า ก่อนหน้านั้นโดนคุณปู่อู่ด่าชุดใหญ่ อีกทั้งยังโดนอู่เจิ้งหงคู่สามีภรรยาบีบคั้น ตอนนี้แม้กระทั่งของขวัญ อู่เจิ้งซือก็ยังไม่ให้เธอจัดการหาซื้อ ข้ามหัวเธอไปให้ตี๋ชิวเยวี่ยจัดการ แถมยังจะชื่นชมยกยอนังสารเลวนี่หยั่งกับดอกไม้วิเศษที่หล่นมาจากฟากฟ้าอย่างไรอย่างนั้น แน่นอนว่า ในใจของเธอเจ็บจนเหมือนโดนมีดแทงเข้าที่อก!
ส่วนอู่เยวี่ย เป็นธรรมดาที่เธอจะรู้สึกขายหน้า และยังอิจฉาริษยาอยู่ลึกๆ แค่อู่เหมยได้แม่บุญธรรมคนเดียว คุณปู่กับพ่อก็ให้ความสำคัญกับมันแล้ว วันหลังเธอจะยังมีสถานะไหนในบ้านหลังนี้?
แค่กลัวว่าเธอจะทิ้งห่างจากอู่เหมยอย่างรวดเร็ว!
คุณย่าตบหลังอู่เยวี่ยเบาๆ เจ็บใจแทนหลานสาวคนโตเป็นอย่างมาก เด็กโง่อู่เหมยคนนั้น ไม่น่าดึงดูดให้คนรักชอบได้เลยสักนิด สายตาของคนแซ่จ้าวคนนั้นมีปัญหาหรือเปล่า ทำไมถึงทิ้งแตงโมแล้วกลับไปหยิบงาดำมาได้!
“การผูกญาติไม่ใช่เรื่องเล็กๆ พวกเราควรคิดให้รอบคอบ พิจารณาดีๆ อย่าไปร่วมกับพวกครอบครัวมั่วๆ ซั่วๆ ไม่อย่างนั้นวันหลังจะวุ่นวายไม่หยุดนะ” คุณย่าพูดอย่างมีเจตนา
อู่เจิ้งซือยิ้มพูดว่า “แม่ แม่ก็ตื่นตูมเกินไป ภูมิหลังครอบครัวของอาจารย์จ้าวก็เป็นข้าราชการบริหารเหมือนกับเจิ้งเหมียวหง จะเป็นครอบครัวมั่วๆ ซั่วๆ ได้ยังไง? แม่รู้ไหมว่ามีตั้งกี่คนที่คิดอยากจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับอาจารย์จ้าวคนนี้ คนพวกนั้นพอได้ยินว่าอาจารย์จ้าวอยากจะรับเหมยเหมยเป็นลูกบุญธรรม ไม่รู้ว่าอิจฉากันมากขนาดไหน พูดจาปากหวานก้นเปรี้ยวกันไม่หยุด”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี” คุณย่าพยักหน้ายิ้มน้อยๆ หันไปมองอู่เหมยแวบหนึ่ง อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว หลานสาวคนเล็กที่เธอไม่ชอบตั้งแต่เด็กๆ ไม่เกี่ยวกับคะแนนแต่อย่างใด ก็แค่ไม่ชอบจากก้นบึ้งของหัวใจ อย่างไรก็ชอบไม่ลง
ไม่เหมือนอู่เยวี่ย เธอแค่เห็นครั้งแรกก็รักเลย ต่อให้คะแนนไม่ดีอย่างไรแล้วเธอก็เกลียดไม่ลง ส่วนเหตุผลนั้นตัวเธอเองก็ยังอธิบายไม่ได้ ท้ายสุดแล้วคุณย่ารู้สึกว่าคงเป็นเพราะเธอกับหลานสาวคนเล็กดวงไม่สมพงศ์กันละมั้ง
แต่ว่าอู่เหมยสามารถมีอนาคตที่ดีได้ คุณย่าก็ยังคงดีใจมาก เพราะไม่ว่าอย่างไร นี่ก็คือหลานของตระกูลอู่นะ!
หลังจากที่บ้านของอู่เจิ้งซือขอตัวออกไป อู่เจิ้งต้าวกับอู่เจิ้งหงสองครอบครัวนี้ก็ขอลาเช่นกัน บ้านของอู่เจิ้งต้าวอยู่ในจินต้า ซึ่งนับว่าใกล้มาก ในมือของอู่เชามีเกี๊ยวชามใหญ่ที่เขาถือไว้ด้วยมือสองข้าง ซึ่งเขาเจาะจงให้คุณยายเก็บเอาไว้ให้เขา พรุ่งนี้ตอนเช้าจะได้มาทำเกี๊ยวซ่า ส่งกลิ่นหอมให้คนหิวตาย
“ระยะนี้เหมยเหมยเปลี่ยนแปลงไปมาก เหมือนกับเกิดใหม่เปลี่ยนร่างเปลี่ยนกระดูกยังไงอย่างงั้น” อู่เจิ้งต้าวพูดอย่างทอดถอนใจ
ตี๋ชิวเยวี่ยหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ที่ไหนมีการกดขี่ ที่นั่นก็จะมีการต่อต้าน เหอปี้อวิ๋นปฏิบัติแบบนั้นกับอู่เหมย เธอเองก็ไม่ใช่ท่อนไม้ ไม่เปลี่ยนสิถึงจะแปลก!
“ผู้หญิงยิ่งโตขึ้นก็เปลี่ยนไปได้สิบแปดแบบ ฉันว่าเหมยเหมยตอนนี้แบบนี้ดีจะตาย วันหลัง…” พูดถึงตรงนี้ ตี๋ชิวเยวี่ยหยุดชะงักชั่วคราว หัวเราะออกมาอย่างแปลกประหลาด
………………………………………..