ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 265 กำไลมือที่ล้ำค่า + ตอนที่ 266 เหอปี้อวิ๋นที่ยิ่งแก่ยิ่งโง่เขลา
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- ตอนที่ 265 กำไลมือที่ล้ำค่า + ตอนที่ 266 เหอปี้อวิ๋นที่ยิ่งแก่ยิ่งโง่เขลา
ตอนที่ 265 กำไลมือที่ล้ำค่า
อู่เหมยได้ศึกษาเกี่ยวกับเครื่องประดับหยกมาบ้าง ในอดีตชาติเหมยซูหานไม่เคยปฏิบัติต่อเธออย่างขาดตกบกพร่อง เธออยากซื้ออะไรก็ซื้อ เธอไม่ชอบสิ่งของอย่างอื่น แต่เครื่องประดับเธอซื้อมาเยอะแล้ว เธอดูออกคร่าวๆ ตั้งแต่แรก และคืนกำไลมือให้เจ้าอิงหนาน
“แม่บุญธรรมคะ กำไลมืออันนี้ไม่เหมาะกับหนู แม่บุญธรรมใส่สวยกว่า ยกอย่างอื่นให้หนูเถอะคะ ?” อู่เหมยพูดอมยิ้ม
เหอปี้อวิ๋นสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย บ่นเบาๆ “เหมยเหมยเมินเฉยของขวัญที่ผู้ใหญ่มอบให้ได้อย่างไร แม่สอนลูกว่ายังไง ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย”
เธอไม่รู้ว่ากำไลมือวงนั้นของเจ้าอิงหนานมีค่าเพียงใด จากที่เธอดู เธอดูแล้วก็เป็นแค่กำไลหยกธรรมดาเท่านั้นเอง ห้า หยวนก็แพงสุดแล้ว
ช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อนเมื่อสองปีก่อน โรงเรียนของเธอจัดให้ครูทั้งโรงเรียนไปเที่ยวต่างจังหวัด ภายในเขตที่มีทัศนียภาพสวยงามก็จะมีกำไลหยกขาย วงละสองหยวน เธอซื้อมาสองวง อู่เยวี่ยกับเธอคนละวง ดูแล้วยังสวยกว่ากำไลมือวงนี้ของเจ้าอิงหนานเสียอีก ห้าหยวน หรือว่าเธอพูดเกินราคาขึ้นไปอีกนะ!
สิ่งที่สยงมู่มู่ทนดูไม่ได้มากที่สุดคือ เหอปี้อวิ๋น เมื่อได้ยินอย่างนั้นก็รีบพูดขึ้นมาทันที “อาเหอดูยังไงว่า เหมยเหมยเมินเฉย กำไลมือของแม่ผม เห็น ๆ อยู่ว่าเหมยเหมยกล่าวชมกำไลมือ!
เหอปี้อวิ๋นสีหน้าไม่เป็นธรรมชาติ ยิ้มเขินๆ ไอ้เด็กคนนี้ช่างไร้มารยาทจริง ๆ หากเป็นลูกของเธอ คงจัดการไปตั้งนานแล้ว
“เมื่อก่อนฉันคิดว่ามู่มู่พูดน้อย คิดไม่ถึงว่าเขาจะนิสัยร่าเริงขนาดนี้”
เหอปี้อวิ๋นโมโหจริง ๆ อดไม่ได้ที่จะพูดจากระทบกระเทียบ ว่าสยงมู่มู่เอะอะโวยวายเหมือนกับบรรดาหญิงแก่
อาการยิ้มที่ใบหน้าของเจ้าอิงหนานหายไปเล็กน้อย พูดเสียงเรียบ “มู่มู่ของเราปกติก็เป็นคนร่าเริง แต่ต้องดูว่า คนที่ไม่ชอบ มู่มู่ไม่แม้แต่จะมอง ยิ่งไม่ต้องพูดเลยว่าจะคุย เมื่อเวลาผ่านไปนาน คนนอกก็แค่รู้สึกว่ามู่มู่ของเรามีนิสัยเก็บตัว
เจิ้งซือเอินฟังออกถึงความไม่พอใจของเจ้าอิงหนาน ถึงแม้ว่าเขาก็รู้สึกว่าสยงมู่มู่จะเสียมารยาทจริง ๆ แต่ลูกชายของบ้านอื่น จะไม่สนใจทำไม?
ทำไมต้องทำให้พ่อแม่คนอื่นไม่พอใจด้วย?
เขาหันกลับไปจ้องเหอปี้อวิ๋นอย่างซ่อนเร้นอีกครั้ง ในช่วงเวลานี้ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เหอปี้อวิ๋นยิ่งโง่เขลา ไม่รู้จักพูด เห็น ๆ อยู่ว่า ตอนเป็นวัยรุ่นไม่ใช่นิสัยอย่างนี้
ไม่น่าแปลกใจที่เจี่ยเป่าอวี้ชอบแต่สาวสวยที่อายุสิบห้าสิบหกปี สิ่งน่ารำคาญที่สุดคือภรรยา แม้แต่มองก็รู้สึกว่าแปดเปื้อนดวงตา แม้ว่างานเขียนของคุณเฉาจะเกินจริงไปบ้าง แต่ก็คือความจริง
เหอปี้อวิ๋น ก็คือตัวอย่างที่เป็นจริงไม่ใช่เหรอ?
อายุยิ่งมาก
แต่จิตใจยิ่งคับแคบ หนักใจกับสิ่งต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น ช่างทำให้คนเกิดอาการเอียนจริง ๆ
เจ้าอิงหนานไม่ได้เก็บเอากำไลมือคืน ยังคงให้อู่เหมย พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นที่สงสัย “ตอนนี้ไม่เหมาะสมที่จะใส่ก็เก็บเอาไว้ก่อน ต่อไปโตเป็นผู้ใหญ่ค่อยใส่”
“แม่บุญธรรมคะ สิ่งนี้มันมีค่าเกินไป หนูกลัวว่าจะไม่ระวังแล้วทำเสียหาย ถ้าอย่างนั้นแม่บุญธรรมให้ของไม่มีค่าแก่หนูเถอะค่ะ?” อู่เหมยเกรงใจมาก
เจ้าอิงหนานเลิกคิ้ว คิดไม่ถึงว่าอู่เหมยจะมองกำไลนี้ออก สายตาแหลมคมยิ่งกว่าผู้ใหญ่บางคน ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้ไปเรียนมาจากไหน เห็นท่าทางที่โง่เขลาของสองสามีภรรยาอู่เจิ้งซือ พวกเขาเองต่างก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ เป็นไปไม่ได้ที่จะสอนยายเด็กนี่
ถึงจะมีค่ายังไงก็เป็นแค่ของนอกกาย หากเสียหายแล้วแม่บุญธรรมค่อยเอาให้หนู
เจ้าอิงหนานเอากำไลมือสวมลงบนข้อมือของอู่เหมยโดยไม่สนใจ ข้อมือขาวนวลเหมาะกับกำไลมือ สวยจนพูดไม่ออก เพียงแต่ว่ากำไลมือใหญ่ไปนิดหน่อย
“เหมยเหมยใส่แล้วสวยมาก สวยเหมือนกับที่คุณแม่ใส่เลย” สยงมู่มู่ชมเสียงดัง อวยเจ้าอิงหนานจนจิตใจเบิกบาน และมองไปทางอู่เหมยด้วยสายที่อ่อนโยนมากขึ้น
เหยียนหมิงซุ่นมองสยงมู่มู่ ไอ้เด็กนี่ช่างปากหวานนัก ไม่แปลกใจเลยที่สามารถหลอกยายเด็กโง่จนสับสนไปหมด
แต่ว่ากะล่อนเกินไปหน่อย ต่อไปต้องบอกยายเด็กโง่ให้ระวังสยงมู่มู่ อย่าหลงกลจนถูกหลอก
———————————————————————————————————————————
ตอนที่ 266 เหอปี้อวิ๋นที่ยิ่งแก่ยิ่งโง่เขลา
อู่เจิ้งซือเมื่อฟังน้ำเสียงของเจ้าอิงหนาน ก็รู้ว่ากำไลมือที่เหมือนจะธรรมดาวงนี้ ไม่ใช่ของธรรมดา เมื่อครุ่นคิดเกี่ยวกับวงศ์ตระกูลของเจ้าอิงหนานอีกครั้ง เขาอดไม่ได้ที่จะหงุดหงิดเล็กน้อย คนอย่างเจ้าอิงหนานจะมาใส่ของธรรมดาได้อย่างไร?
นึกไม่ถึงว่าเขายังไม่เข้าใจลูกสาวคนเล็กซึ่งไม่สมควรอย่างยิ่ง
อู่เจิ้งซือก็ไม่พูดอะไรอีก แอบดีอกดีใจอยู่ในใจเงียบๆ ที่เว่ยชิวเย่เป็นคนเตรียมของขวัญรับญาติบุญธรรม เว่ยชิวเยวี่ยฝากเพื่อนร่วมชั้นที่ทำงานในห้างสรรพสินค้าซื้อชุดเครื่องนอนไหมผ้าไหมแท้หนึ่งชุด คุณภาพดีแน่นอน นอกจากนี้ยังมีเหล้าเหมาไถสองขวด บุหรี่ต้าจงหวาหนึ่งห่อ แค่ของขวัญเหล่านี้ก็ใช้เงินเดือนของเขาไปเกินครึ่งเดือนแล้ว ทว่าสินค้าหรูหรา ทันสมัย ไม่ทำให้อู่เจิ้งซือเสียหน้า
ถ้าหากให้เหอปี้อวิ๋นไปจัดการ เขาใช้นิ้วเท้าคิดก็คิดออก ซื้อตามสเปคสูงที่สุด อย่างดีที่สุดคือนมผงผสมมอลต์หนึ่งกระป๋อง ผลไม้กระป๋องสองกระป๋อง อาจจะซื้อเหล้าอีกหนึ่งขวด นี่ยังต้องดูว่าเหอปี้อวิ๋นอารมณ์ดีหรือไม่
ของขวัญเหล่านี้มอบให้คนอื่นไม่มีปัญหาอะไร แต่จะมอบเป็นของขวัญให้คนอย่างเจ้าอิงหนานได้เหรอ?
ไม่เห็นว่า กำไลมือที่เจ้าอิงหนานมอบให้เหมยเหมยนั้นจะเป็นของธรรมดา!
มาคิดดูแล้ว เงินเดือนหนึ่งเดือนของเขาคงซื้อไม่ได้?
เหอปี้อวิ๋นยิ้มเยาะอยู่ในใจ สำหรับคำพูดของเจ้าอิงหนาน ไม่เข้าใจว่าเป็นเช่นนั้น จะมีค่ามากแค่ไหนกันเชียว? อย่างมากสุดก็สิบหยวน พูดแล้วยังไงเสียบ้านของเธอที่ขาดทุน พี่อู่ เจ้าคนฟุ่มเฟือย คาดไม่ถึงที่ให้เว่ยชิวเยวี่ยไปซื้อของขวัญ ผู้หญิงคนนี้จะสามารถซื้อของดีอะไร?
ชุดเครื่องนอนผ้าไหมแท้ เหล้าเหมาไถ ต้าจงหวาอีก?
เป็นแค่การรับญาติบุญธรรมเท่านั้น ต้องซื้อของดีขนาดนี้เหรอ? เจตนาของเว่ยชิวเยวี่ยก็คือคิดจะถลุงเงินบ้านเธอนะสิ หน้าด้านจริง ๆ หลอกพี่อู่ของเธอจนหัวหมุน เธอโมโหมาก!
เหอปี้อวิ๋นหันไปมองที่ของขวัญบนพื้นอีกครั้ง เจ็บจี๊ดในใจ ของเหล่านั้นล้วนคือเงินของเธอทั้งนั้น ตอนนี้กลับเสียเปรียบเจ้าอิงหนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังทำเพื่ออู่เหมย ยายตัวดี ถ้าหากเป็นการรับเยวี่ยเยวี่ยเป็นลูกบุญธรรมก็ว่าไปอย่าง!
“กำไลมือนี้สวยจริง ๆ ฉันก็มีแค่กำไลมือ ซื้อมาวงละสองหยวน ของครูเจ้าวงนี้กี่หยวนคะ?”
ในที่สุดเหอปี้อวิ๋นก็ทนไม่ไหว รู้ทั้งรู้ว่าถามเช่นนี้เป็นการเสียมารยาท แต่เธอไม่พอใจ ก็เลยอยากจะเสียมารยาทต่อหน้าความภูมิฐานของจ้าวหยิงหนาน ใครปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้ ไม่ไว้หน้าเธอหลายต่อหลายครั้ง
อู่เจิ้งซือสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย หันไปจ้องเหอปี้อวิ๋นอย่างขุ่นเคือง เหอปี้อวิ๋นไม่มองเขาเลยสักนิด เธอไม่เพียงแต่มีอคติกับเจ้าอิงหนานเท่านั้น สำหรับอู่เจิ้งซือแล้วยิ่งอัดอั้นตันใจเต็มหัวใจ คุมอำนาจในการดูแลบ้านของเธอ ใจร้ายยิ่งกว่าฆ่าเธอเสียอีก ทำไมเธอจะไม่โมโห!
เจ้าอิงหนานไม่โกรธกลับยิ้ม พูดยิ้มเยาะ “ฉันคงเทียบไม่ได้กับสิ่งล้ำค่าของครูเหอ ไม่ใช้สักสตางค์เดียว ไร้ค่า”
ช่วงนี้สมองของเหอปีอวิ๋นไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ คาดไม่ถึงว่าจะฟังคำพูดของเจ้าอิงหนานไม่ออก สายตาที่ดูถูกเหยียดหยามก็ปิดไว้ไม่มิด แล้วยังหันไปมองของขวัญที่มุมกำแพงอีก สิ่งของไร้ค่า ก็หลอกสิ่งของดี ๆ ของบ้านเธอตั้งมากมาย แผนการนี้ช่างแยบยลเสียจริง
มิน่าถึงได้บอกว่ายิ่งมีเงินยิ่งขี้เหนียว เห็น ๆ กันอยู่ว่าเจ้าอิงหน้าไม่ขาดแคลนเงิน กลับให้กำไลมือที่ไร้ค่า แม้ว่าจะให้สร้อยทองก็ยังดีกว่าของสิ่งนี้ ถึงอย่างไรเสียก็สามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้บ้าง
“เหมยเหมยพูดถูก กำไลนี้พอกระแทกก็หักแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นครูเจ้าเปลี่ยนเป็นสร้อยทองสิ อันนั้นตกไม่แตก” เหอปี้อวิ๋นอวดดีว่าตนเองฉลาด แต่ซ่อนแผนร้ายในสายตาเอาไว้ไม่อยู่ หันไปมองสร้อยทองที่แวววาวบนข้อมือเจ้าอิงหนาน
เมื่อวานเจ้าอิงหนานยังไม่ได้ใส่สร้อยทองที่ข้อมือ คิดว่าคงจะให้กำไลหยก จึงเปลี่ยนเป็นใส่สร้อยทองแทน งานละเอียดประณีตเป็นอย่างยิ่ง พอมองดูก็รู้ว่าราคาแพง อย่างไรก็ตามในสายตาของเหอปี้อวิ๋น สร้อยทองเส้นนี้ก็มีค่ากว่ากำไลหยกขาวนี้
……………………………………………………