ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 267 ให้เหอปี้อวิ๋นอ่านหนังสือเยอะๆ + ตอนที่ 268 อู่เจิ้งซือที่โง่เขลา
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- ตอนที่ 267 ให้เหอปี้อวิ๋นอ่านหนังสือเยอะๆ + ตอนที่ 268 อู่เจิ้งซือที่โง่เขลา
ตอนที่ 267 ให้เหอปี้อวิ๋นอ่านหนังสือเยอะๆ
เมื่อเห็นหน้าตาที่ไร้ยางอายราวกับครอบครัวที่ตกอับของเหอปี้อวิ๋น อู่เจิ้งซือแทบจะกระอักเลือดออกมา เขาข่มความโกรธเอาไว้ พูดด้วยสีหน้าโกรธแต่เสียงขรึม “เยวี่ยเยวี่ยอยู่บ้านคนเดียว ปี้อวิ๋นกลับไปก่อนเถอะ คุณไม่ต้องขึ้นมาอีกแล้วล่ะ”
หากยังไม่ได้สร้อยทอง เหอปี้อวิ๋นจะยอมตัดใจกลับบ้านเสียที่ไหน จังหวะที่เธอกำลังจะปฏิเสธ แต่หันไปเห็นดวงตาที่เคร่งเครียดของอู่เจิ้งซือ แววตาที่อยู่ด้านหลังม่านตานั้นไม่เหมือนกับความอ่อนโยนก่อนหน้านี้ ที่สดใสเป็นพิเศษ ราวกับกลุ่มไฟกำลังลุกไหม้ เธอแต่งงานกับอู่เจิ้งซือมาสิบห้าสิบหกปีแล้ว ยังไม่เคยเห็นอู่เจิ้งซือมีท่าทางเช่นนี้ แม้ว่าเมื่อก่อนจะโกรธขนาดไหน ดวงตาของเขายังคงอ่อนโยน
ถึงตอนนี้แล้ว เหอปี้อวิ๋นจึงตระหนักได้ว่าตัวเองทำผิดอะไร ทำไมทำเรื่องยุ่งเหยิงนอกบ้านได้?
อู่เจิ้งซือให้ความสำคัญกับหน้าตาที่สุด เมื่อครู่นี้เธอขอสร้อยข้อมือทองตรงๆ แบบนั้นกับจ้าวอิงหนาน ไม่แปลกเลยที่อู่เจิ้งซือจะโมโห!
เธอตกใจสะดุ้งจนตัวสั่น พลันรู้สึกเสียใจขึ้นมา สำนึกผิดจนคิดอยากจะกัดลิ้นของตัวเอง เมื่อตะกี้นี้ทำไมถึงไม่อดทน? แม้ว่าอยากจะเอาคืน แต่ก็รอตอนที่อู่เจิ้งซือไม่อยู่ก็ได้!
“งั้นฉันกลับล่ะ คุณอู่ก็อย่าดื่มเยอะนักนะ!”
เหอปี้อวิ๋นได้สติกลับคืนมา จะกล้าขัดคำสั่งอู่เจิ้งซือที่ไหนกัน ได้แต่รับปากอย่างเชื่อฟัง มองดูของขวัญที่มุมห้องอย่างไม่เต็มใจแล้วยอมตัดใจ ยังมีเวลาอีกนาน เธอไม่กลัวหากกลับมาแล้วจะมีผลดี อย่างน้อยก็ให้จ้าวอิงหนานช่วยโยกย้ายเธอไปสอนชั้นมัธยมต้น ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เคยทำธุรกิจที่ขาดทุน
รอเหอปี้อวิ๋นไปแล้ว อู่เจิ้งซือรู้สึกโล่งใจ แต่สีหน้ายังคงร้อนผ่าวนิดหน่อย เขาฝืนยิ้มแล้วพูด “ปี้อวิ๋นเธอพูดไม่ค่อยเก่ง ครูจ้าวอย่าไปทะเลาะกับเธอที่มีความรู้น้อยเลยครับ”
จ้าวอิงหนานยิ้ม เธอไม่ทะเลาะกับเหอปี้อวิ๋นที่มีความรู้น้อยแน่นอน เพราะว่าผู้หญิงที่พูดจาไม่รู้เรื่องนั้น ไม่อยู่ในสายตาของเธอ พูดจาไร้สาระแล้วเกี่ยวอะไรกับเธอ?
ตั้งแต่เหอปี้อวิ๋นส่งเสียงจนถึงตอนนี้ ปู่เหยียนคิ้วขมวดแน่นมาตลอด เขาเก็บซ่อนอารมณ์ไว้โดยไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับความหยาบคายของเหอปี้อวิ๋นนั้น เห็นแล้วขัดหูขัดตาจริงๆ ไม่รู้ว่าชื่อเสียงที่ดีตอนสมัยก่อนของเหอปี้อวิ๋นนั้นออกมาได้อย่างไร?
คนเหล่านั้นล้วนตาบอดอย่างนั้นหรือ?
“เจิ้งซือ ต่อไปต้องให้เสี่ยวเหออ่านหนังสือเยอะๆ หน้าที่ของเราในฐานะครูคือสอนหนังสือให้ความรู้ จะสอนนักเรียนให้ดีได้อย่างไร หากตัวเองไม่มีข้อมูลใดๆ และต้องรู้สึกผิดสำหรับค่าจ้างที่ประเทศจ่ายพวกเราด้วย” คุณปู่เหยียนพูดอ้อมค้อม แต่ในความหมายนั้น หากไม่ใช่คนโง่อย่างไรก็ฟังเข้าใจ
ไม่เกินที่คาดไว้ คุณปู่เหยียนอยากจะพูดว่าการศึกษาและวิชาความรู้ของเหอปี้อวิ๋นต่ำเกินไป ไม่คู่ควรที่จะเป็นครูของประชาชนอันทรงเกียรติ
อู่เจิ้งซืออับอายจนหน้าร้อนผ่าว ความรู้สึกเอือมระอาต่อเหอปี้อวิ๋นยิ่งมีมากขึ้น เป็นครั้งแรกที่เขาสำนึกผิด เขาเสียใจที่ในปีนั้นเขาไม่ฟังคำแนะนำของพ่อแม่ พี่ชาย และพี่สะใภ้ ที่แต่งงานกับผู้หญิงขี้เหนียวอย่างเหอปี้อวิ๋น ซึ่งทำให้เขาเสียหน้ามาก
“คุณเหยียนพูดถูก ผมต้องให้เหอปี้อวิ๋นอ่านหนังสือเยอะๆ แน่นอน” อู่เจิ้งซือตอบรับอย่างนอบน้อม
พ่อสยงเห็นว่าบรรยากาศไม่ดี รีบออกมาไกล่เกลี่ย หัวเราะเอิ๊กอ๊ากแล้วเอ่ย “วันนี้เป็นวันดี คุณเหยียน ครูอู่ พวกเราดื่มกันเยอะๆ เถอะ ไม่เมาไม่กลับนะ!”
“ความคิดนี้ไม่เลว เอาเหล้าเหมาไถสองขวดที่ครูอู่มอบให้มาดื่มให้หมด!” จ้าวอิงหนานยังกังวลใจกับเหอปี้อวิ๋น คุณคงปวดใจแย่เลย แต่คุณคงไม่เสียดายหรอกนะ ถ้าอย่างนั้นก็มาดื่มเหล้าที่ครอบครัวคุณให้มาแล้วกัน
เดิมทีอู่เจิ้งซืออยากจะปฏิเสธข้อเสนอที่ไม่เมาไม่กลับ แต่พอได้ยินคำพูดของจ้าวอิงหนาน ก็พูดคำนี้ไม่ออกเสียแล้ว แอบซ่อนความเกลียดเหอปี้อวิ๋นที่ปล่อยไก่ขายขี้หน้า จำใจต้องยิ้มรับเท่านั้น “หากว่าสองขวดยังไม่พอ บ้านผมยังมีสองขวด กลัวว่าครูสยงจะกินไม่ไหวน่ะสิ!”
……………………………………………………
ตอนที่268 อู่เจิ้งซือที่โง่เขลา
ครูสยงหัวเราะแหะๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ เจตนาระบายความแค้นให้ภรรยา จงใจพูดยั่วอู่เจิ้งซือ “ครูอู่ไม่รู้อะไรเสียแล้ว ในปีนั้นผมกับอิงหนานไปอยู่ในชนบทที่เป่ยต้าหวง ฤดูหนาวของที่นั่นทำให้นิ้วมือแข็งได้เลย พวกเราล้วนอาศัยเหล้าขาวท้องถิ่นจึงจะผ่านความทุกข์ทรมานในฤดูหนาวได้
เหล้าขาวนั้นแรงกว่าเหล้าเหมาไถมาก หกสิบเจ็ดดีกรี พอสัมผัสประกายไฟก็เกิดลุกไหม้ได้ คุณบอกว่าผมอาจจะกินเหมาไถไม่ไหวเหรอ? อย่าว่าแต่เหล้าเหมาไถสี่ขวดเลย แม้เพิ่มอีกสี่ขวด ผมก็ยังสบายมาก กลัวแต่ว่าบ้านครูอู่เหล้าจะไม่พอน่ะสิ!”
จ้าวอิงหนานยิ้มหวานให้สามี สามีว่าอย่างไรภรรยาก็ว่าอย่างนั้น ช่วยพูดผสมโรง “ฉันกับฉูฉู่ของฉันดื่มจนเมามาย ถึงอยู่ที่เป่ยต้าหวงมาได้ตั้งห้าหกปี ครูอู่ คุณแค่ส่งเหล้าดีๆ มาก็พอ!”
ทั้งคุณปู่เหยียนและอู่เจิ้งซือต่างก็ตกใจ จ้าวอิงหนานสองสามีภรรยาแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยเล่าประสบการณ์ในอดีตของพวกเขาให้คนอื่นฟัง ไม่คาดคิดว่าจะเป็นเคยสนับสนุนการสร้างเป่ยต้าหวง สถานที่แห่งนั้นไม่ใช่ว่าคนทั่วไปจะทนไหว คนที่ทนไหวล้วนเป็นตัวอย่างที่ดี
พ่อสยงเป็นผู้ชายก็แล้วไป แต่จ้าวอิงหนานเป็นหญิงสาวบอบบางคนหนึ่ง สามารถทนความยากลำบากได้ถึงห้าหกปี ไม่ธรรมดาจริงๆ
อู่เจิ้งซือไม่พอใจต่อเหอปี้อวิ๋นอีกครั้ง เขากับเหอปี้อวิ๋นต่างก็ใช้ชีวิตอยู่ในชนบทที่มณฑลเจียงซี แม้ว่าเธอใช้ชีวิตในชนบทยากลำบาก ทว่า นับตั้งแต่โบราณมา เจียงซีเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ สภาพภูมิอากาศก็ดี เหมาะกับการใช้ชีวิตมาก สภาพแวดล้อมต่างกับเมืองจินไม่มาก เมื่อเปรียบเทียบกับเป่ยต้าหวงแล้วมันคือสวรรค์
แม้ว่าเป็นเช่นนี้ เขาก็ยังรู้สึกลำบากมากในช่วงหลายปีนั้น ไม่รู้เลยจริงๆ ว่าสองสามีภรรยา จ้าวอิงหนานอยู่รอดมาได้อย่างไร?
เหอปี้อวิ๋นยิ่งเรียกได้ว่าทุกข์ยากตลอด หนึ่งปีมีอย่างน้อยสองสามเดือนที่ไม่สบาย เขาเห็นว่าเธอร่างกายอ่อนแอแต่กลับปิดปากเงียบไม่พูดสักคำ เขาช่วยเหอปี้อวิ๋นทำงาน ไม่อย่างนั้นหนุ่มสาวที่มีความรู้คนอื่นๆ จะยิ่งมีความเห็นมาก
อู่เจิ้งซือไม่พอใจกับสภาพของเขาในตอนนี้มาก หลายวันมานี้ทำไมเขาถึงได้คิดถึงผู้หญิงคนนั้นตลอด?
หรือว่าเขาแก่แล้วจริงๆ ?
ว่ากันว่ามีเพียงคนแก่เท่านั้นจึงจะชอบรำลึกถึงความหลัง!
อู่เจิ้งซือสะบัดหัว พยายามไม่ให้ตัวเองคิดถึงเรื่องราวในอดีตที่ไม่สบายใจเหล่านี้ ความตรงไปตรงมาของสองสามีภรรยาจ้าวอิงหนานกระตุ้นจิตใจที่ไม่ยอมพ่ายแพ้ของเขา จึงยิ้มแล้วกล่าว “ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องขอสัมผัสความคอแข็งของพวกคุณสองสามีภรรยาสักหน่อย เหล้าที่ดีมีแน่นอน เหมยเหมย ลูกกลับไปเอาเหล้าที่อยู่ในบ้านมาให้หมด ให้พ่อแม่บุญธรรมของลูกได้สัมผัสเหล้าดีของบ้านเราสักหน่อย”
“โอ้!”
อู่เหมยตอบเสียงสดใส แต่ภายในใจไม่ยินดี เหล้าดีเหล่านั้นเป็นเหล้าที่นักเรียนเก่ามอบให้อู่เจิ้งซือ เหมาไถ อู่เหลียงเย่ ส่วนใหญ่เป็นเหล้าหรูทั้งนั้น เหอปี้อวิ๋นให้ความสำคัญราวกับแก้วตาดวงใจ แต่ของพวกนี้เป็นเครื่องมือที่ใช้โอ้อวดเวลาเธอกลับบ้านเกิด เดี๋ยวถ้าเธอเอาเหล้าดีมาหมด เหอปี้อวิ๋นต้องโมโหมาก
“พี่หมิงซุ่นคะ พี่ช่วยฉันถือหน่อยนะคะ มู่มู่เธอก็ไปด้วย เหล้าดีของพ่อฉันเยอะมาก ฉันถือมาคนเดียวไม่ไหว”
อู่เหมยดึงเหยียนหมิงซุ่นกับสยงมู่มู่ไป อู่เจิ้งซือฟังด้วยความเบิกบานใจ ไม่สามารถเก็บซ่อนสีหน้าที่ภูมิใจเอาไว้ได้ ในที่สุดเวลานี้ก็เกิดความรู้สึกภาคภูมิใจจนได้ อย่าเอาแต่ปล่อยให้สองคนนี้ดูถูก ต้องให้พวกเขาเปิดหูเปิดตาสักหน่อย
“เหมยเหมยเลือกเหล้าดีๆ มานะ!” อู่เจิ้งซือกำชับเป็นพิเศษ
“พ่อคะ วางใจได้ หนูจะหยิบเหล้าที่ดีที่สุดมาแน่นอน” อู่เหมยยืดอกรับประกัน นี่ยังต้องสั่งกำชับ จะเก็บอันดีๆ ไว้ให้เหอปี้อวิ๋นได้อย่างไร?
จ้าวอิงหนานและพ่อสยงสยงกลั้นขำจนปวดท้อง รีบเข้าไปแอบหัวเราะลั่นในห้องครัว เจ้าอู่เจิ้งซือนี่โง่เขลาจริงๆ แถมยังมีอู่เหมย ลูกสาวคนนี้ที่เห็นคนนอกดีกว่า เหอปี้อวิ๋นก็เหมือนกัน ช่างน่าสงสารจริงๆ!
………………………………………………………