ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 279 ถึงตายก็ไม่ยอมรับ + ตอนที่ 280 นังสารเลวคนนี้เป็นคนทำ
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- ตอนที่ 279 ถึงตายก็ไม่ยอมรับ + ตอนที่ 280 นังสารเลวคนนี้เป็นคนทำ
ตอนที่ 279 ถึงตายก็ไม่ยอมรับ
นี่เป็นครั้งแรกที่อู่เจิ้งซือปกป้องอู่เหมยตรงๆ แม้ว่าจะเย็นชากับคนในครอบครัว แต่อู่เหมยก็ยังรู้สึกอบอุ่นในหัวใจบ้างเล็กน้อย หากชาติที่แล้วอู่เจิ้งซือสามารถปกป้องเธอเช่นนี้ เธอก็คงจะไม่รู้สึกต่ำต้อยด้อยค่า และก็ไม่คงจะไม่ถูกอู่เยวี่ยฆ่าตาย!
โชคดีที่เธอได้กลับมาใหม่ และในชาตินี้เธอจะแข็งแกร่งขึ้น ชีวิตของเธอคล้ายหญ้าป่าที่งอกงาม แม้เธอจะไม่อยากได้รับการปกป้องจากอู่เจิ้งซืออีกแล้ว แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธ อย่างน้อยก็ยังยั่วโมโหอู่เยวี่ยได้ แม้จะแค่เล็กน้อยก็ทำให้เธอเบิกบานใจ
อู่เยวี่ยมองออกว่าอู่เจิ้งซือปกป้องอู่เหมยอย่างเห็นได้ชัด เธอทั้งริษยาทั้งเคียดแค้น ให้เธอมาเกิดแล้ว ไฉนต้องให้อู่เหมยมาเกิดด้วย มีลูกสาวที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้แล้ว ทำไมพ่อแม่ยังมีอู่เหมยเพิ่มขึ้นมาเพื่อแย่งความรักทั้งหมดที่ควรจะเป็นของเธอไปล่ะ?
“พ่อค่ะ อย่าโมโหเลย หนูจะไปล้างจานเดี๋ยวนี้”
อู่เยวี่ยทนกล้ำกลืนกับความไม่เป็นธรรม ฝืนยิ้มออกมา เก็บจานของหนึ่งวัน และยังหันไปแอบส่ายหน้ากับเหอปี้อวิ๋น บอกเธอว่าอย่าได้เป็นปฏิปักษ์กับอู่เจิ้งซืออีก ในบ้านอู่เจิ้งซือคือหัวหน้าที่พูดคำไหนคำนั้น คนที่อ่อนแอหรือจะสู้คนที่กำลังเข้มแข็งได้ เหอปี้อวิ๋นเอาชนะอู่เจิ้งซือไม่ได้อยู่แล้ว มีแต่จะแกว่งเท้าหาเสี้ยนเท่านั้น
มีหรือที่เหอปี้อวิ๋นจะไม่เข้าใจเหตุผลเหล่านี้ ทว่า เธอก็เคารพศักดิ์ศรีของตัวเอง เธอยอมให้อู่เจิ้งซือด่าว่าตบตีเช่นนี้ ถ้าเธอทนได้ก็แปลกแล้ว แต่ตอนนี้เธอใจเย็นลงแล้ว คำพูดของอู่เจิ้งซือยิ่งทำให้เธอเศร้าใจอย่างที่สุด
ยายตัวดี วางยาเสน่ห์อู่เจิ้งซือไปเท่าไหร่นะ ใจถึงได้เอนเอียงเข้าข้างยายตัวดีขนาดนี้!
เยวี่ยเยวี่ยที่น่าสงสารของเธอต้องล้างจานทั้งวัน แล้วมือจะทนไหวหรือ?
“เหล่าอู่ วันนี้คุณเป็นอะไรกันแน่? คุณไปโมโหมาจากข้างนอกก็อย่าเอากลับมาบ้าน แล้วก็อย่าไปลงที่เยวี่ยเยวี่ย คุณ…” เหอปี้อวิ๋นข่มความโกรธไว้ ท่าทีของเธออ่อนลง อยากจะค่อยๆ พูดกับอู่เจิ้งซือ แต่กลับถูกอู่เจิ้งซือที่ใจร้อนขัดจังหวะ
“เหอปี้อวิ๋น คุณไม่ต้องมาพูดจาไร้สาระกับผม เอาของเหมยเหมยที่หยิบไปออกมาซะดีๆ นั่นเป็นของขวัญที่เหมยเหมยเตรียมมอบให้แก่ครูจ้าว คุณก็ยังจะมีหน้าเอาไปอีก?”
“ตกลงมันคืออะไรกันแน่ อู่เจิ้งซือ คุณพูดดีๆ นะ ยายตัวดีนี่จะมีของดีอะไร ฉันถึงจะต้องขโมยไป? อู่เจิ้งซือ คุณนี่มันโง่เขลาแถมยังไม่รู้จักใช้สมองคิดให้ดีอีก!” เหอปี้อวิ๋นโมโห พูดเสียงดังขึ้นมา
อู่เหมยขมวดคิ้วมุ่น เห็นท่าทางเหอปี้อวิ๋นแล้วก็สัมผัสได้ว่าเหมือนกับเธอถูกใส่ร้ายจริงๆ หากไม่ใช่หล่อนแล้วจะเป็นใครล่ะ?
หรือว่า…
อู่เจิ้งซือบอกว่าเครื่องประดับเงินสามชิ้น เหอปิ้อวิ๋นหัวเราะเยาะหยันไม่หยุด “เหมยเหมย อาทิตย์หนึ่งมีเงินใช้เพียงสองหยวน จะเอาเงินมาจากไหนไปซื้อเครื่องประดับเงินพวกนี้? ยายตัวดีนี่พูดโกหกจนเป็นนิสัยแล้ว เหล่าอู่ คุณโดนยายตัวดีนี่หลอกแล้วล่ะ!”
เมื่อก่อนหากเธอพูดอย่างนี้ อู่เจิ้งซือก็อยากจะเชื่อ แต่เรื่องนี้มีหลักฐานและพยานอยู่ อู่เจิ้งซือเชื่ออู่เหมย แต่ก็มีความสงสัยต่อกำลังซื้อของอู่เหมยอยู่บ้าง ถึงแม้เครื่องประดับเงินจะไม่ได้มีค่า แต่สามชิ้นรวมกันแล้ว อย่างน้อยก็ราคาห้า หกหยวน อู่เหมยเอาเงินมากมายมาจากไหน?
อู่เหมยแอบยิ้มเยาะในใจ เธอแกล้งทำเป็นน้อยใจเพื่อแก้ต่างให้ตัวเอง เธอกล่าว “หนูซื้อที่ถนนหนานสุ่ย เครื่องประดับสี่ชิ้นนี้ดำมาก หนูซื้อมาเพียงสองหยวนค่ะ หลังจากกลับมาหนูก็ใช้ยาสีฟันล้างทำความสะอาด ถึงได้พบว่ามันคือเครื่องประดับเงินแท้
อู่เจิ้งซือพอได้ยินว่าซื้อที่ถนนหนานสุ่ยก็เชื่อ ของที่นั่นต้องอาศัยโชคช่วย โชคดีที่ซื้อมาสี่ชิ้นแค่สองหยวน ก็อาจเป็นไปได้
เหอปี้อวิ๋นหัวเราะเยาะและกล่าว “ตอนนี้แกจะพูดยังไงก็ได้ เหล่าอู่ ถึงอย่างไรฉันก็ไม่เชื่อยายตัวดีนี่ เครื่องประดับเงินบ้าบอพวกนั้น แกต้องพูดสุ่มสี่สุ่มห้าแน่นอน คงอยากจะแยกความสัมพันธ์ระหว่างเราสามีภรรยาสินะ ยายตัวดี แกนี่มันเลวมาก”
……………………………………………………………..
ตอนที่ 280 นังสารเลวคนนี้เป็นคนทำ
อู่เหมยไม่รู้สึกโกรธแค้นสักนิดเลย เป็นเรื่องปกติมากที่ผู้หญิงคนนี้จะพูดอย่างนี้ หากวันไหนที่บอกว่าเธอดี ถึงเป็นเรื่องแปลก เธอหันมองอู่เยวี่ยที่ล้างจานอยู่ เธอคิดอะไรออก
“หากหนูหาเครื่องประดับเงินเจอ แม่จะว่าอย่างไรคะ?” อู่เหมยจ้องเหอปี้อวิ๋นด้วยความอาฆาต
เหอปี้อวิ๋นตะลึงงัน ไม่กล้าที่จะมองอู่เหมยตรงๆ หันหน้าไปด้านข้างเล็กน้อย แต่พอหลบได้ เธอก็รู้สึกหงุดหงิด ถึงเธอจะเป็นผู้ใหญ่ แต่จะแสดงความอ่อนแอต่อหน้าอู่เหมยได้อย่างไร?
ครั้นแล้วเหอปี้อวิ๋นก็หันหน้ามาอีกครั้ง แต่มองได้ไม่ถึงหนึ่งนาที เธอก็ทนต่อไปไม่ไหว เห็นอู่เหมยเธอก็นึกถึงนังแพศยาคนนั้น รู้สึกสะอิดสะเอียนจะแย่
“ถ้าแกมีความสามารถ ก็หาให้เจอนะ อยู่ที่นี่อย่ามาคุยโขมงก่อน” เหอปี้อวิ๋นโกรธมาก เธอรู้สึกว่าอู่เหมยกำลังพูดโกหก จงใจบอกว่าของหาย แล้วก็โยนความผิดให้เธอ ยายตัวดีนี่ใจดำเหลือเกิน
อู่เหมยก็ไม่เถียงกับเธอ เธอพอจะรู้แล้วว่าเครื่องประดับเงินอยู่ที่ไหน ในบ้านตอนนั้นมีแค่อู่เยวี่ยกับเหอปี้อวิ๋น หากไม่ใช่เหอปี้อวิ๋น ก็เป็นอู่เยวี่ยที่ขโมย อีกอย่างอู่เยวี่ยเคยมีประวัติขโมยเงิน นังสารเลวคนนี้ยิ่งน่าสงสัย
ตอนนี้ที่เธอเดิมพันก็คืออู่เยวี่ยเอาเครื่องประดับเงินซ่อนไว้ในห้อง คนที่เอาของไป ทิ้งแค่กล่องและภาพวาดไว้ อธิบายได้ว่าเธอแค่ชอบเครื่องประดับสามชิ้นนั้น น่าจะเอาของเหล่านั้นเก็บไว้ในที่ที่ตัวเองคุ้นเคยที่สุด
อู่เยวี่ยเห็นอู่เหมยผลักประตูห้องนอนของตัวเอง เธอมือสั่น เกือบจะทำถ้วยในมือตกแตก เธอสูดหายใจเข้าลึก ตะโกนพูดกับอู่เหมย “เหมยเหมย น้องไปทำอะไรห้องพี่น่ะ?”
“ก็ไปหาของนะสิ!”
อู่เหมยผลักประตูเข้าไปโดยไม่ลังเล เปิดลิ้นชักของอู่เยวี่ย หยิบกล่องใส่เครื่องประดับขึ้นมา ไม่พบอะไรตามที่เธอคาดการณ์ไว้ ของที่ขโมยมาวางไว้ในที่สะดุดตาไม่ได้ ต้องซ่อนเอาไว้อย่างดีถึงจะถูก
“แกเข้าไปหาอะไรในห้องพี่สาว? ออกมาเดี๋ยวนี้นะ!” เหอปี้อวิ๋นเอ็ดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด ยังคิดจะไปลากอู่เหมยออกมา
อู่เหมยหลบอย่างว่องไว ยิ้มเยาะ “พี่คะ เมื่อก่อนแม้กระทั่งเงินของฉัน พี่ก็ยังขโมย ขโมยของอีกนิดหน่อยจะเป็นอะไรไป ขอย้ำว่าในตอนนั้นในบ้านก็มีแม่กับพี่อยู่สองคน ถ้าไม่ใช่แม่เอาไป นอกจากพี่แล้ว ยังจะมีใครอีกล่ะคะ?”
อู่เยวี่ยหน้าซีดเผือด พยายามระงับอารมณ์ตัวเอง เธอซ่อนสิ่งของอันนั้นไว้อย่างดี อู่เหมยหาไม่เจอแน่นอน
“เหมยเหมย เธอทำไมต้องใส่ร้ายป้ายสีพี่บ่อยๆ ด้วย? พี่เคยขโมยเงินของเธอตอนไหน?” อู่เยวี่ยน้ำตาไหลพราก
“จะหยิบเงินไปหรือไม่นั้น ตัวพี่เองรู้ดีที่สุด ส่วนเครื่องประดับเงินสามชิ้นนี้ รอฉันหาเจอก็จะได้รู้กัน แล้วพี่จะกระวนกระวายใจอะไร?”
อู่เหมยไม่สนใจอู่เยวี่ย มือก็ควานหาไม่หยุด ลิ้นชัก ใต้ที่นอน ใต้เตียง ตู้…ถูกเธอค้นทั้งหมด แต่ก็ไม่เจออะไรเลย จิตใจของอู่เยวี่ยสงบลง ที่หางคิ้วปรากฏความภาคภูมิใจ ที่แห่งนั้นอู่เหมยหาไม่เจอแน่นอน
“เหมยเหมย ถ้าเธอหาของไม่เจอ ต้องมาขอโทษพี่ หลายวันมานี้ เธอใส่ร้ายป้ายสีพี่หลายครั้งแล้ว ทีแรกพี่ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะพูดใส่ฉอดๆ พี่ยอมให้เธอพูดให้ร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พี่จะบอกเธอเอาไว้นะ ความอดทนของพี่ก็มีขีดจำกัด” อู่เยวี่ยดูเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างยิ่ง เพื่อให้ครอบครัวรักใคร่ปรองดองกัน จึงข่มอารมณ์เอาไว้ ทำทีว่าเข้าอกเข้าใจ เหอปี้อวิ๋นใจว้าวุ่น อยากจะตีอู่เหมยใจจะขาด
“เหล่าอู่ คุณเห็นไหมว่ายายตัวดีนี่เหมือนอะไร? คุณยังไม่สนใจอีกเหรอ?”
อู่เจิ้งซือก็ไม่พอใจต่อการกระทำของอู่เหมย เดาว่าเหอปี้อวิ๋นไม่มีอะไร อย่างไรก็เป็นคนตระกูลเหอ ความมีคุณธรรมเป็นสิ่งที่ตระกูลเหออาจจะอบรมสั่งสอนไม่ได้ แต่อู่เยวี่ยนามสกุลอู่ เป็นคนตระกูลอู่ จะไปขโมยได้อย่างไร?
………………………………………………………………..