ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 287 ต้องการคนสวยที่เล่นกู่เจิง + ตอนที่ 288 อู่เยวี่ยที่ท้อแท้ใจ
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- ตอนที่ 287 ต้องการคนสวยที่เล่นกู่เจิง + ตอนที่ 288 อู่เยวี่ยที่ท้อแท้ใจ
ตอนที่ 287 ต้องการคนสวยที่เล่นกู่เจิง
ได้ยินคำพูดของอู่เหมย เจียงซินเหมยถึงจะเชื่อ อดมองอู่เชาด้วยสายตาที่ทึ่งไม่ได้ จึงเอ่ยถาม “อู่เชา ในเมื่อเธอเล่นเป็นตั้งหลายอย่าง ทำไมเมื่อก่อนไม่สมัคร?”
“ก็เธอไม่ได้มาถามฉันนี่ ทำไมฉันต้องกระตือรือร้นขนาดนั้น?” อู่เชากลอกตาจนตาเข
เจียงซินเหมยก็ไม่โต้เถียงกับเขา พูดยิ้มกริ่ม “ฉันขาดการแสดงหนึ่งรายการพอดี ไม่อย่างนั้น อู่เชา เธอขึ้นเวที แสดงการเป่าปี่นะ!”
อู่เชาทำกระบิดกระบวนสักพัก พูดตะกุกตะกัก ไม่รับปากตรงไปตรงมา เจียงซินเหมยทนดูผู้ชายที่ทำกระบิดกระบวนไม่ได้ที่สุด สู้พวกสาวๆ ก็ไม่ได้ สีหน้าของเธอพลันรู้สึกหนักอึ้งขึ้นมาทันที
“อู่เชา เธอเป็นผู้ชายหรือเปล่า? จะไปหรือไม่ไป พูดมาคำเดียว”
“ไปสิ ใครไม่ไป คนนั้นเป็นตัวเมีย!”
เจ้าอ้วนทนยั่วยุไม่ไหว รับปากอย่างรวดเร็ว รอดูให้เจียงซินเหมยที่ดีใจอย่างที่สุดเดินจากไป แต่แล้วเขากลับรู้สึกเสียใจภายหลัง
อู่เหมยพูดอย่างอารมณ์เสีย “เธอไม่ได้เป่าปี่ไม่เป็นสักหน่อย จะกลัดกลุ้มอะไร? อย่าทำตัวไร้เหตุผลเกินไปหน่อยเลย!”
อู่เชาถมึงตาใส่เธอ พูดด้วยความโกรธ “ฉันไร้เหตุผลอะไร ฉันก็แค่คิดว่าหรือจะไม่ไป แต่ถ้าไปแล้วก็จะต้องทำให้ทุกคนตกตะลึงทันทีไงล่ะ”
“งั้นเธอก็เป่าสักเพลงที่ทำให้ทุกคนตกตะลึงเถอะ!” อู่เหมยไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนั้น
“เธอจะไปรู้อะไร? แม้ว่าเพลงจะดีขนาดไหน แค่ปี่เหมือนกันก็ยังน่าทึ่งไม่พอ มันจืดชืดเกินไป”
“งั้น ทำยังไง?”
สักพักอู่เชาก็มีความคึกคักขึ้นมา พูดเสียงเบา “ฉันคิดว่าอย่างนี้นะ บรรเลงเพลงหมู่ของปี่กับพิณสักชุด คนหนึ่งเป่าปี่ คนหนึ่งเล่นพิณ ถ้าจะให้ดีที่สุดต้องมีสาวสวยคนหนึ่งเล่น แต่งตัวเป็นสาวงามโบราณที่ใส่ชุดฮั่นสีขาวที่ปลิวพัดไหวดั่งกับเทพ แล้วเล่นเพลงเกาซานเหลียงสุ่ยที่มีทำนองโบราณ ทำให้มีหมอกเล็กน้อย โอ้! ไม่น่าทึ่งเกินไปหรอก ยังไงคราวนี้ก็ชนะรางวัลร้อยเปอร์เซ็นต์!”
อู่เหมยมองเจ้าอ้วนที่หน้าบานเป็นกระด้งด้วยความประหลาดใจ ขณะเดียวกันเธอก็แอบรู้สึกหดหู่ใจ มิน่าที่ชายอ้วนตัวเล็กคนนี้ถึงสามารถอยู่ในวงการบันเทิงดั่งปลาได้น้ำ และในเวลานี้ได้สะท้อนให้เห็นสายตาอันยาวไกลของเขาเมื่ออยู่บนเวที
สวมชุดฮั่นเล่นกู่เจิง ในรุ่นหลังได้รับความนิยมพักหนึ่ง แต่อย่างน้อยเมื่อสิบ ยี่สิบปีที่แล้ว ตอนนี้ทุกคนยังคงร้องเพลง ‘ดอกไม้แห่งมาตุภูมิ’!
“ความคิดของนายไม่เลว แต่เธอไม่ใช่ซุนหวู่คง คงจะไม่แปลงร่างไปเล่นกู่เจิงนะ? อีกอย่าง ถึงแม้ว่านายจะแปลงร่างใส่ชุดฮั่นแต่นายก็ไม่ใช่สาวสวยนะ!”
อู่เหมยชายตามองรูปร่างที่อ้วนป้อมของอู่เชาด้วยความรังเกียจ
รูปร่างแบบนี้คล้ายสาวงามราชวงศ์ถัง
อู่เชาหน้าเหยเกทันที ความคิดในอุดมคตินั้นน่าทึ่ง แต่ความเป็นจริงกลับใช้ไม่ได้ ไม่มีสาวสวยที่เล่นกู่เจิงเป็น ถึงจิตนาการจะดีขนาดไหนก็เป็นเรื่องไร้สาระ
อู่เหมยรู้สึกว่าการแสดงที่อู่เชาคิดนั้นยอดเยี่ยมมาก หากเขาได้ขึ้นเวทีต้องติดอันดับแน่นอน หากเป็นเช่นนี้ก็ไม่แน่อู่เชาอาจยังคงมีส่วนร่วมในการแสดงวันปีใหม่ของเมืองด้วย!
โรงเรียนทดสอบก็เป็นเช่นนี้ตั้งแต่แต่ไรมาแล้ว การแสดงที่ดีที่ติดสามอันดับแรกจากการแสดงของโรงเรียน ทั้งหมดจะถูกเสนอให้เข้าร่วมในการแสดงของทั้งเมือง และการแสดงยอดเยี่ยมที่ถูกจัดอันดับที่ดีของเมืองได้นั้น ก็ยิ่งมีความเป็นได้ที่จะได้เข้าร่วมงานกลางคืนในเทศกาลตรุษจีนของเมืองจินด้วย!
เพราะความเป็นไปได้ที่จะได้เข้าร่วมงานกลางคืนในเทศกาลตรุษจีนของเมืองจินนั้นน้อยมาก อู่เหมยไม่แม้แต่จะคิด เธอรู้สึกว่าโอกาสการเข้าร่วมการแสดงของเมืองนั้นมีมากกกว่า แต่ว่าก่อนอื่นต้องหาสาวสวยที่เล่นกู่เจิงเป็นก่อนถึงจะมีโอกาส
ในหัวก็มีภาพคนๆ หนึ่งแวบขึ้นมา อู่เหมยร้องออกมาด้วยความดีใจ ก้มตัวลงไปพูดข้างหูอู่เชา “ฉันนึกถึงคนหนึ่ง คนนั้นต้องเล่นกู่เจิงเป็นแน่นอน และก็เป็นคนสวยด้วย”
“ใคร?”
อู่เชาแววตาเป็นประกาย มองดูเหมยอย่างเฝ้าปรารถนา
“สยงมู่มู่ เขาเล่นกู่เจิงเป็นอย่างแน่นอน และเขาก็สวยกว่าผู้หญิงอีก!”
แววตาของอู่เชาหมองลง เหลือบมองเธออย่างเหยียดๆ แวบหนึ่ง กล่าวอย่างอารมณ์เสีย “เธอปัญญาอ่อนเหรอ? สยงมู่มู่อยู่ชั้นมัธยมต้น หากเขาต้องการเข้าร่วมการแสดงก็ต้องเป็นการแสดงของมัธยมต้น จะมาโรงเรียนประถมได้อย่างไร?”
………………………………………………….
ตอนที่ 288 อู่เยวี่ยที่ท้อแท้ใจ
อู่เหมยกลับรู้สึกว่าเรื่องนี้ยังมีความเป็นไปได้ ทางโรงเรียนไม่ได้กำหนดว่าขอความช่วยเหลือจากข้างนอกไม่ได้ อู่เชาพอได้ฟังความคิดของเธอ ก็รู้สึกตื่นเต้น ยิ่งคิดตายิ่งเป็นประกาย
“เหมยเหมย เธอไปลองถามสยงมู่มู่ก่อน ดูว่าเขาดีดกู่เจิงเป็นหรือเปล่า? อย่าให้ฉันพูดเกลี้ยกล่อมครูแล้ว แต่สยงมู่มู่กลับทำพลาดเสียเองล่ะ” อู่เชาพูดเร่ง
อู่เหมยดูแล้วรู้สึกประหลาดใจ ทำไมเจ้าอ้วนถึงได้กระตือรืนร้นกับการแสดงปุบปับอย่างนี้?
“ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่เข้าร่วมการแสดง หากเข้าร่วมการแสดงทั่วทั้งฮอลล์ต้องทึ่งแน่นอน และพวกเราตระกูลอู่จะขายหน้าไม่ได้!” อู่เชาคุยโวตบหน้าอกที่อวบอ้วน
อู่เหมยหัวเราะเยาะ ได้ยินคำว่าตระกูลอู่ก็ไม่มีอารมณ์แล้ว ขี้เกียจสนใจเจ้าอ้วน
อู่เยวี่ยที่อยู่มัธยมต้นกลับอารมณ์ไม่ดี ฝืนทำหน้ายิ้มแย้ม
กรรมการศิลปวรรณคดีในชั้นเรียนของเธอก็เริ่มรวบรวมรายการแสดงต่างๆ แล้ว เมื่อก่อนเธอร่วมคลาสการเต้นทุกปี มีนักเรียนหญิงสิบคนเต้นด้วยกัน ไม่ได้มีเทคนิคอะไร แต่งตัวดีนิดหน่อย ทาแก้มเหมือนตูดลิง เคลื่อนไหวพร้อมกันเล็กน้อย ผลที่ออกมาก็ยังถือว่าไม่เลวทีเดียว
ทว่าเธอรอมาหนึ่งวันแล้ว ก็ไม่มีกรรมการศิลปวรรณคดีมาหาเธอ ตอนแรกเธอเข้าใจว่ายังไม่เริ่มรวบรวม แต่ตอนที่เธอไปเข้าห้องน้ำ เธอได้ยินเพื่อนนักเรียนหญิงสองคนคุยกันโดยบังเอิญ อู่เยวี่ยก็อารมณ์เสียขึ้นมาทันที
“ปีนี้คงไม่ให้อู่เยวี่ยร่วมการแสดงล่ะสิ?”
“ก็ไม่มีน่ะสิ พวกเราเต้นจนเหงื่อท่วม เธอนั่งอยู่ไม่ขยับก็เหม็นแทบตายแล้ว พอเต้นก็เต้นได้ทุเรศมาก พวกเราได้รับความไม่เป็นธรรมก็ยังไม่เป็นอะไร แต่อย่าทำให้ครูที่อยู่ด้านล่างเวทีต้องเป็นลมเลย!’
“ใช่ อีกอย่างอู่เยวี่ยเต้นก็ไม่เป็น บิดแขน เตะขายังแข็งกว่าคนแก่ เมื่อก่อนเป็นเพราะครูเห็นว่าเธอผลการเรียนดีหรอกนะ ถึงได้ให้เข้ามาเต้นด้วย แล้วเธอยังคิดว่าตัวเองมีความสามารถด้านศิลปะมาก ไม่ดูตัวเองเอาซะเลย”
“ก็ใช่น่ะสิ ปีนี้เธอคงจะไม่มีหน้าไปพูดกับครูหรอกนะ? แป๊บเดียวก็แย่ลงไปเยอะขนาดนี้ ถ้าเป็นฉันก็คงจะไม่มีหน้ามาเรียนแล้ว”
……
อู่เยวี่ยได้ยินคำพูดของเพื่อนนักเรียนหญิงสองคนนี้ชัดเจน ใจของเธอเหมือนถูกมีดกรีด โดยปกติเพื่อนนักเรียนหญิงสองคนนี้ยังมีคุยเล่นสนุกกับเธอ อย่าว่าแต่สนิทกันแค่ไหนเลย คิดไม่ถึงว่าลับหลังจะพูดถึงเธออย่างนี้!
ใจคนยากแท้หยั่งถึงอย่างไม่น่าเชื่อ!
เห็นๆ อยู่ว่าเธอก็ไม่ได้กลิ่นตัวแรง ทำไมคนพวกนี้ต้องใส่ร้ายเธอ?
การแสดงเมื่อก่อนก็ไม่ใช่เธอที่ไปขอร้องกับครูประจำชั้น เธอไม่เคยไปบอกด้วยซ้ำ
อีกอย่างเธอเต้นไม่ดีตรงไหน?
อย่างน้อยก็ยังดีกว่านังสารเลวสองคนนั้นตั้งหลายเท่า!
คนพวกนี้พอเห็นว่าเธอไม่ได้ที่หนึ่งแล้ว ถึงได้เหยียบย่ำเธอทุกทาง รอให้เธอกลับมาได้ที่หนึ่งอีกครั้ง เธอก็จะไม่สนใจคนเลวที่คอยประจบสอพลอตีสองหน้าพวกนี้อีก
ตอนพักกลางวัน ครูประจำตั้งใจเรียกอู่เยวี่ยไปที่ห้องพักครูโดยเฉพาะ ในสายตามีความผิดหวังเล็กน้อย เธอพูดอ้อมค้อมเกี่ยวกับเรื่องการแสดง ให้อู่เยวี่ยเก็บแรงไว้สำหรับการเรียนเป็นหลัก การสอบประจำเดือนครั้งถัดไปพยายามสอบให้ได้ที่หนึ่ง อย่าให้เรื่องที่ไร้สาระมากวนใจ
สรุปก็คือให้อู่เยวี่ยตั้งใจเรียน ไม่ต้องไปคิดเรื่องการแสดง
จริงๆ แล้ว ครูประจำชั้นมีเจตนาดี อู่เยวี่ยคือหน้าตาของโรงเรียน ตกอันดับไปสิบกว่าอันดับอย่างไม่คาดคิด แม้แต่ผู้อำนวยการก็ยังตกใจ ทำไมเธอจะไม่ร้อนใจเล่า?
อู่เยวี่ยเมื่อก่อนผลการเรียนดี ครองอันดับหนึ่งมาตลอด เรื่องเต้นก็เป็นการเสริมส่งให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น แต่ตอนนี้แย่ขนาดนี้ ยังจะเต้นอะไรอีก?
รีบเรียนให้อันดับสูงขึ้นถึงจะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง!
อู่เยวี่ยกลับคิดมาก เข้าใจว่าครูประจำชั้นก็เหมือนกับคนอื่นๆ รังเกียจเธอแล้ว แค่คิดก็รู้สึกแย่แล้ว กับครูประจำชั้นก็ยังตำหนิกันได้
เธอรู้สึกว่าคนในโลกทุกคนล้วนทรยศเธอ ไม่จริงใจสักคน
เดิมอู่เยวี่ยที่จิตใจคับแคบเพราะเหตุนี้ยิ่งเป็นคนดื้อรั้น นิสัยก็เปลี่ยนเป็นเย็นชามากขึ้น ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่สนุกสนาน สุภาพเรียบร้อย
……………………………………………………………………..