ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 293 มองเห็นหรือไม่ + ตอนที่ 294 ฉันจะเข้าร่วมการแสดงในวันปีใหม่
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- ตอนที่ 293 มองเห็นหรือไม่ + ตอนที่ 294 ฉันจะเข้าร่วมการแสดงในวันปีใหม่
ตอนที่ 293 มองเห็นหรือไม่
จี้เจี้ยนโปกับเฮ่อเหวินจิ้งกอดกันร้องไห้อยู่ในห้อง เป็นเพราะความรักระหว่างพวกเขา ทั้งยังเป็นรักที่ลึกซึ้งมาก ดังนั้นพวกเขาถึงได้ทุกข์ใจอย่างแสนสาหัส
“เจี้ยนโป คุณกับภรรยาของคุณใช้ชีวิตให้มีความสุขเถอะ ฉัน…ฉันเตรียมตัวจะกลับบ้านเกิดแล้ว ต่อไปพวกเราก็ไม่ต้องติดต่อกันอีก!”
เฮ่อเหวินจิ้งพูดปนสะอื้น ถึงแม้วันนี้จี้เจี้ยนโปไม่มา เธอก็กำลังจะไปหาเขาเพื่อพูดให้เคลียร์ ช่วงก่อนหน้านี้แม่โทรศัพท์มาหา ขอให้เธอกลับเมืองหลวงปีหน้า บอกว่าใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกนานแล้ว ถึงเวลาที่ควรจะกลับมาบ้านได้แล้ว
แม่โทรศัพท์มาหานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว เฮ่อเหวินจิ้งไม่ได้ปฏิเสธเหมือนกับครั้งก่อน ๆ แต่เธอรับปากแม่แล้ว อู่เหมยพูดถูก เธอไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับจี้เจี้ยนโปอีกต่อไป สำนึกได้ตอนนี้ก็ยังทัน
หัวใจของจี้เจี้ยนโปถูกดึงหายไปทันที เขามองเฮ่อเหวินจิ้งด้วยความตกใจ พูดโดยไม่แม้แต่จะคิด “เหวินจิ้ง คุณอย่าไปนะ ผมจะกลับบ้านไปหย่าเดี๋ยวนี้ ตำแหน่งรองศาตราจารย์ผมไม่ต้องการแล้ว ผมไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ผมต้องการแค่คุณ!”
เฮ่อเหวินจิ้งส่ายหน้าอย่างฝืนยิ้ม เธอไม่ได้คาดหวังการหย่าของจี้เจี้ยนโปเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว เมื่อก่อนเธอโง่เขลาถึงได้เชื่อ เรื่องนี้ตอนนี้เธอเห็นชัดเจนแล้ว จี้เจี้ยนโปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย และยังเป็นสมาชิกพรรค จะหย่าได้อย่างง่ายดายได้อย่างไร?
“เจี้ยนโป คุณอย่าหลอกตัวเองเลย ภรรยาของคุณจะตกลงหรือไม่ตกลงก็ยังบอกไม่ได้ คุณจะยอมทิ้งงานในปัจจุบันได้เชียวเหรอ?” เฮ่อเหวินจิ้งถามอย่างจงใจ
จี้เจี้ยนโปสีหน้านิ่งไป ในแววตามีความลังเล เฮ่อเหวินจิ้งหัวเราะทั้งที่เจ็บปวดรวดร้าวไปทั่วทั้งตัวและหัวใจ
เธอรู้อยู่แล้ว ไม่ว่าอย่างไรผู้ชายคนนี้ก็ให้ความสำคัญกับอาชีพการงานของเขาที่สุด เพื่อความก้าวหน้า เขายอมสละได้ทุกอย่าง รวมทั้งตัวเธอด้วย!
บรรยากาศในห้องอึมครึมรุนแรงดั่งกระแสคลื่นถะโถม จี้เหวินฮุ่ยที่อยู่นอกหน้าต่างถมึงตาจ้อง โมโหจนเส้นเลือดปูดขึ้นมา เธอจ้องเขม็งภาพสองคนที่แนบชิดกันอยู่ในห้องด้วยความเกลียดชัง
ชายชั่ว หญิงโฉด!
คำพูดที่อู่เจิ้งหงพูดติดปากเป็นประจำปรากฏขึ้นมาในหัวของเธอ ใช้ได้กับพ่อของเธอเองและนังแพศยานั่นพอดี
จี้เหวินฮุ่ยอดกลั้นไม่หุนหันพลันแล่นบุกเข้าไปในห้อง กัดฟันกรอดด้วยความโมโห สีหน้าเคร่งเครียด แล้วเธอก็หมุนตัวเดินจากไป
เธอเดินเร็วมากจนแทบจะวิ่ง อู่เหมยกับอู่เชาลงมาจากอาคาร ด้วยสายตาเฉียบแหลม ก็ได้เห็นจี้เหวินฮุ่นรีบวิ่งไปทางข้างนอกในทันใด
“จี้เหวินฮุ่นมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” อู่เชาก็เห็นเช่นกัน รู้สึกประหลาดใจมาก
อู่เหมยนึกถึงจี้เจี้ยนโปกับเฮ่อเหวินจิ้ง แอบคิดในใจว่าแย่แล้ว จะอธิบายให้อู่เชาฟังก็ไม่ทัน ต้องรีบวิ่งไปที่ห้องทำงานของเฮ่อเหวินจิ้ง ไม่รู้ว่าจี้เหวินฮุ่นเห็นหรือเปล่า?
จี้เจี้ยนโปกำลังจะกลับ
เขากับเฮ่อเหวินจิ้งต่างตาแดงเพราะร้องไห้ เขาเห็นอู่เหมยก็ผงกหัวให้ ไม่ยิ้มแย้มเหมือนดั่งเวลาปกติ
“อาเขย อาเห็นพี่เหวินฮุ่ยหรือเปล่าคะ?” อู่เหมยถามออกไปตรงๆ
จี้เจี้ยนโปอึ้งไป ส่ายหัวอย่างงงงัน “เหวินฮุ่ยมาที่นี่ทำไม? เธอเลิกเรียนก็ตรงกลับบ้านเลย”
“เมื่อครู่หนูเห็นพี่เหวินฮุ่ย วิ่งออกไปจากที่นี่”
จี้เจี้ยนโปหน้าถอดสี เหวินฮุ่ยมาห้องเรียนเยาวชนทำไม?
เธอเห็นเหวินจิ้งอยู่ด้วยกันกับเขาเมื่อครู่หรือเปล่า?
จี้เจี้ยนโปแอบภาวนาในใจว่าจี้เหวินฮุ่นจะไม่เห็น หวังว่าเธอแค่มาเล่นที่นี่เท่านั้น เขาคาดการณ์และจากไปด้วยความหงุดหงิดใจ
สยงมู่มู่กับอู่เชาเดินมา อู่เชาไม่ค่อยชอบเฮ่อเหวินจิ้งนัก ไม่ว่าเขาจะไม่ชอบอู่เจิ้งหงแค่ไหน แต่เธอก็เป็นอาของเขา เป็นคนของบ้านตัวเอง ผู้หญิงคนนี้คือคนนอก แล้วยังเป็นหญิงเลวที่ทำลายชีวิตการแต่งงานของอา ถ้าเขาชอบก็แปลกแล้ว!
“อาเฮ่อ อาเป็นอะไร?” ผู้ชายคนนั้นคือใคร?” สยงมู่มู่มองเฮ่อเหวินจิ้งด้วยความเป็นห่วง
…………………………………………………………………
ตอนที่ 294 ฉันจะเข้าร่วมการแสดงในวันปีใหม่
จริงๆ แล้วเฮ่อเหวินจิ้งเป็นเพื่อนของจ้าวอิงหนาน ที่ถูกต้องควรจะเป็นลูกสาวของลูกน้องเก่าของท่านผู้เฒ่าจ้าว แน่นอนว่าลูกน้องเก่าคนนั้นหาเลี้ยงชีพด้วยตัวคนเดียวนานแล้ว แต่เคารพนับถือท่านผู้เฒ่าจ้าวมาโดยตลอด มาเยี่ยมตระกูลจ้าวอยู่เสมอ
แม้ว่าจ้าวอิงหนานจะอายุมากกว่าเฮ่อเหวินจิ้งสิบกว่าปี แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนกลับดีมาก ไม่อย่างนั้นพอเฮ่อเหวินจิ้งออกมาจากบ้าน ก็คงไม่ไปที่บ้านจ้าวอิงหนานหรอก
ดังนั้นก็ควรจะนับได้ว่าเฮ่อเหวินจิ้งเป็นอาของสยงมู่มู่ ความสัมพันธ์ซับซ้อนมาก
เฮ่อเหวินจิ้งก้มหน้าด้วยความรู้สึกอับอาย จ้าวอิงหนานรู้เพียงว่าเธอกำลังคบกับผู้ชายคนหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าเป็นจี้เจี้ยนโปที่แต่งงานแล้ว เธอไม่กล้าบอก มิเช่นนั้นด้วยนิสัยขี้โมโหของจ้าวอิงหนานแล้ว ต้องต่อว่าเธออย่างรุนแรงแน่นอน
แต่ตอนนี้มู่มู่ เด็กคนนี้เห็นความเลวของเธอแล้ว เฮ่อเหวินจิ้งอยากแทรกแผ่นดินหนีไปมาก เธอรู้สึกอับอายขายหน้า
สยงมู่มู่เห็นว่าผิดปกติ เขาไม่ได้ถามเรื่องจี้เจี้ยนโปอีกต่อไป แต่ขอลากลับอย่างเป็นห่วง อู่เหมยน่าจะรู้เรื่องดี เดี๋ยวเขาถามอู่เหมยก็ได้
ตอนที่กำลังจะกลับ อู่เหมยพูดกับเฮ่อเหวินจิ้งเสียงเบา “ครูเฮ่อคะ ตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าลูกพี่ลูกน้องของหนูจะรู้เรื่องของครูกับอาเขย ยังไงครูต้องระวังหน่อยนะคะ อาของหนูนั้นเป็นคนที่ไม่มีเหตุผลจริงๆ เวลาโมโหขึ้นมาจะน่ากลัวมาก”
เฮ่อเหวินจิ้งก็กังวล เธอเองก็เป็นคนที่รักหน้าตาคนหนึ่ง หากภรรยาของจี้เจี้ยนโปมาหา เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
สายตาแปลกๆ เหล่านั้น แล้วไหนจะยังข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่ไม่น่าฟังอีก ทั้งหมดจะทำให้เธอเป็นบ้า!
“เหมยเหมย ขอบใจเธอมากนะ ครูจะระวัง” เฮ่อเหวินจิ้งกล่าวขอบคุณ
เธอคิดจะลางานหลายวันเพื่อหนีจากเรื่องบ้าๆ นี่ไปก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที อย่างไรก็ตามงานที่ห้องเรียนเยาวชนเป็นแค่งานชั่วคราวเท่านั้น สามารถไปมาได้ทุกเวลา
ตอนนี้เรื่องเต้นพวกเขาทำได้แค่พักไว้ก่อน อู่เชากลับบ้านก่อนแล้ว อู่เหมยกับสยงมู่มู่เดินไปด้วยกัน ตลอดทางที่เดินไปเธอก็เล่าเรื่องของเฮ่อเหวินจิ้งกับจี้เจี้ยนโป ในเมื่อจ้าวอิงหนานกับเฮ่อเหวินจิ้งสนิทกัน ก็ให้จ้าวอิงหนานแนะนำตักเตือนเฮ่อเหวินจิ้ง เธอไม่อยากให้เฮ่อเหวินจิ้งเป็นเหมือนกับชาติก่อนอีก จุดจบที่นำความเสื่อมเสียมาสู่ตัวเองอย่างตกต่ำ
สยงมู่มู่โมโหอย่างยิ่ง โกรธเฮ่อเหวินจิ้งที่โง่เขลา และยิ่งโกรธจี้เจี้ยนโปที่ไม่มีความรับผิดชอบ
“อาเขยของเธอคนนั้น ไม่ดีเอาเสียเลย มีภรรยาแล้วยังไปคบกับอาเฮ่อของฉันทำไม?” สยงมู่มู่พูดอย่างโกรธเคือง
อู่เหมยตอบกลับอย่างประชดประชันเสียดสี “ความเป็นจริงแล้วอาเขยของฉันไม่ได้ดีอะไรหรอกนะ แต่เรื่องนี้ตบมือข้างเดียวไม่ดัง ครูเฮ่อเองก็ต้องรับผิดชอบ เธอรู้อยู่แล้วว่าอาเขยของฉันมีภรรยาแล้ว แต่ทำไมยังยอมล่ะ? ปฏิเสธไปก็หมดเรื่อง”
ไม่ว่าเฮ่อเหวินจิ้งจะไม่รู้หรือใจอ่อน
ในเรื่องนี้เธอไม่มีความมั่นใจเพราะว่าตัวเธอเองนั้นทำผิด ไม่ว่าอู่เจิ้งหงจะโวยวายอย่างไร ก็ล้วนแล้วมีเหตุผล คนนอกก็จะอยู่ข้างเธอ ช่วยอู่เจิ้งหงจัดการเฮ่อเหวินจิ้ง
ไม่ว่าเวลาใด เมียน้อยล้วนแล้วก็เป็นศัตรูของผู้หญิงเสมอ
สยงมู่มู่โดนอู่เหมยเอ็ดจนพูดไม่ออก จริงๆ แล้วเขารู้ว่าอู่เหมยพูดถูก ตบมือข้างเดียวไม่ดัง จี้เจี้ยนโปไม่ใช่คนดี เฮ่อเหวินจิ้งก็ไม่ดีไปกว่ากันเท่าไหร่
สยงมู่มู่โกรธจนปวดท้อง เพิ่งจะถึงบ้าน ก็ลงรถรีบวิ่งขึ้นไป เขาไปบอกเรื่องนี้กับแม่ทันที จะปล่อยให้เฮ่อเหวินจิ้งทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่ได้
อู่เหมยจอดจักรยานเสร็จ ตัวเองก็กลับบ้าน เหอปี้อวิ๋นกำลังทำกับข้าว อู่เยวี่ยอยู่ด้านข้างเป็นลูกมือช่วยล้างผักจนมือเท้าและเท้ายุ่งเป็นพัลวัน เนื้อตัวเปียกเพราะน้ำกระเด็น
อู่เหมยเห็นแล้วแอบโล่งใจ เมื่อก่อนล้วนเป็นเธอที่ทำ เหอปี้อวิ๋นไม่ยอมโดนน้ำ ในหน้าหนาวการล้างผัก ล้างจานเธอเป็นคนทำทั้งหมด ยังโชคดีที่ผิวเธอดี ถึงมือจะแช่น้ำทุกวันก็ยังดีที่ผื่นไม่ขึ้น
เธอไม่สนใจผู้หญิงสองคนนี้ ไม่แลตามองเดินเข้าห้องไป ทักทายแค่อู่เจิ้งซือ “พ่อคะ หนูสมัครเข้าร่วมแสดงงานปีใหม่ หนูจะแสดงกับมู่มู่และอู่เชาค่ะ”
…………………………………………………….