ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 299 หนูจะลงโทษพี่สาวแทนแม่เอง + ตอนที่ 300 ตีพี่ คนที่ไม่พยายาม
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- ตอนที่ 299 หนูจะลงโทษพี่สาวแทนแม่เอง + ตอนที่ 300 ตีพี่ คนที่ไม่พยายาม
ตอนที่ 299 หนูจะลงโทษพี่สาวแทนแม่เอง
อู่เยวี่ยไม่ได้พูดอะไรเลยมาโดยตลอด เธอจิตใจว้าวุ่น เหมือนกับว่าโลกที่เธออยู่ได้เปลี่ยนไปในช่วงเวลาสั้นๆ พ่อไม่ก็รักเธอแล้ว และพ่อก็ไม่รักแม่อีก คนโง่กลับไม่โง่และก็ไม่ขี้เหร่แล้ว ทั้งยังค่อยๆ เปล่งประกายแสงสว่างอันรุ่งโรจน์ที่เจิดจ้าจนแสบตา
ในทางกลับกัน เธอโชคร้ายเหลือเกิน ถูกคนว่าเป็นโรคประสาท แล้วยังมีกลิ่นตัว ที่แย่ที่สุดคือ ผลการเรียนของเธอกลับตกต่ำที่สุด ครูและเพื่อนร่วมชั้นก็ไม่รักเธออีกต่อไปแล้ว ผู้คนรอบตัวเต็มไปด้วยเจตนาร้ายตลอดเวลา
มีเพียงแม่เท่านั้นที่ยังรักเธอ!
แต่แม่ก็โง่เกินไป แม้แต่อู่เหมยก็ยังรับมือไม่ไหว ยิ่งตอนนี้ไม่มีตำแหน่งอะไรเลยในบ้าน อำนาจบริหารเงินทองก็ไม่มีแล้ว ที่ส่งผลกระทบโดยตรงที่สุดคือ เงินค่าขนมของเธอลดลงมาอย่างรวดเร็ว แม้ตอนนี้เธอยังไม่รู้สึกอะไรกับพวก เสื้อผ้าใหม่ รองเท้าใหม่ อาหารเสริม แต่เธอก็สามารถคาคการณ์ถึงชีวิตมืดมนในอนาคตได้
ชีวิตที่ดี คือ ชีวิตที่มีเงินมากมาย ไม่มีเงินก็ทำได้เพียงใช้ชีวิตอย่างอึดอัดใจ
แต่เธอไม่เคยนึกถึงชีวิตที่ต่ำต้อยด้อยค่า เธอต้องการแต่งตัวสวยงามทุกวันเพื่อให้เพื่อนร่วมชั้นของเธออิจฉา เธอยังต้องการที่จะสอบได้ที่หนึ่งไปตลอด สายตาอิจฉาของพวกเพื่อนร่วมชั้นเหล่านั้นทำให้เธอมีความสุขมาก
เธอขาดเครื่องประดับเหล่านี้ในชีวิตไม่ได้ มันสำคัญเหมือนกับอากาศและน้ำ
หากไม่มีสายตาที่อิจฉาเหล่านี้ เธอจะเหมือนปลาที่ขาดน้ำ ไม่สามารถหายใจได้ ในที่สุดก็ตาย
ดังนั้น…
เธอต้องกลับไปเหมือนเมื่อก่อน!
อันดับแรกต้องให้เหอปี้อวิ๋นกลับไปเอาอำนาจการบริหารเงินทองคืน หากมีเงินแล้วถึงจะทำเรื่องอื่นได้
อู่เยวี่ยค่อยๆ ใจเย็นลง เธอหันไปส่ายหน้าเบาให้เหอปี้อวิ๋นที่โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ยังพูดกับอู่เหมย “เหมยเหมย เธอพูดอย่างนี้ไม่ได้ แม่ตีเธอ ก็เพราะว่ารักเธอมาก ถึงได้ดุด่าเธอ ถึงอย่างไรเสียผลการเรียนของเธอเมื่อก่อนแย่จริงๆ ที่ตีไปก็เพราะแม่หวังดีกับเธอ เธอจะมาเกลียดแม่ได้ยังไง?”
อู่เจิ้งซือมีสีหน้าผ่อนคลายลง อู่เยวี่ยยังคงสำคัญอยู่ในใจเขา และคำพูดของอู่เยวี่ยก็มีเหตุผล ผลการเรียนของลูกสาวคนเล็กนั้นแย่มากจนหน้าอับอายจริงๆ อย่าว่าเหอปี้อวิ๋นเลย แม้กระทั่งเขาเห็นแล้วก็อยากจะตี
อู่เหมยจ้องอู่เยวี่ยอย่างเฉยเมย หัวเราะขึ้นมาทันที “ในเมื่อแม่รักอย่างสุดซึ้ง ถึงได้ดุด่า ถ้าอย่างนั้น เดือนนี้พี่สอบได้แย่ลงขนาดนี้ แล้วแม่ทำไมถึงไม่ลงโทษพี่ล่ะ? อีกอย่างเมื่อก่อนแม่ก็รักพี่มากแค่ไหน ถ้าถึงเวลาลงโทษก็ควรจะลงโทษให้หนักถึงจะถูกสิ!”
อู่เยวี่ยสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย ฝีปากของยายโง่นี่ร้ายกาจตั้งแต่เมื่อไร?
เธอถึงกับไม่มีคำพูดมาโต้ตอบ
อู่เหมยหัวเราะเยาะอีกครั้ง
เธอพูดต่อ “พี่พูดไม่ถูกนะ สำหรับหนูมันคือเกลียดอย่างยิ่งถึงได้ดุด่า แต่สำหรับพี่กลับเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน จะลงโทษลงได้ซะที่ไหนกันล่ะ?”
เหอปี้อวิ๋นก่นด่า “ผลการเรียนของแกไม่ดี แล้วตีไม่ได้เหรอ? ฝึกฝีปากจนฝีปากคมคายได้ขนาดนี้ ทำไมไม่เอาเวลาไปคิดเรื่องเรียนบ้าง?”
“หนูเรียนดีกว่าเดิม แม่ไม่เห็นเหรอ? ผลการเรียนไม่ดีต้องตี ดังนั้นเมื่อก่อนแม่ตีหนู หนูก็ไม่ได้โวยวาย แต่ตอนนี้พี่เรียนแย่ลง จากอันดับหนึ่งตกอับดับลงมาอยู่อันดับที่สิบสอง แม้กระทั่งนักเรียนประถมอย่างพวกเราก็ยังรู้เลย ชื่อเสียงก็เหม็นฉาวโฉ่ไปไกลด้วย”
อู่เหมยมองหน้าเผือดสีของอู่เยวี่ยด้วยความยิ้มเยาะ ยังมีเหอปี้อวิ๋นที่โกรธหน้าเขียวปัด ไม่มีอะไรที่ทำให้เธอสบายอกสบายใจเท่าเหตุการณ์ตรงหน้าอีกแล้ว
“ผลการเรียนพี่แย่ลงขนาดนี้ แล้วพี่ยังขโมยของ พูดโกหก พยายามทำเรื่องผิดศีลอย่างที่สุด ทำไมแม้แต่นิ้วโป้งแม่ก็ไม่ขยับล่ะ? แม่คงจะไม่มีแรงละสิ? งั้นหนูลงมือแทน แม่จะได้ไม่ต้องเปลืองแรง!”
เซลล์ในร่างกายของอู่เหมยกำลังร้องเอะอะโวยวาย สายตาเปล่งประกาย เธอรอมานานแล้ว สิ่งที่เธออยากทำที่สุดก็คือต่อยอู่เยวี่ยอย่างแรง!
……………………………………………………………….
ตอนที่ 300 ตีพี่ คนที่ไม่พยายาม
อู่เจิ้งซือกับเหอปี้อวิ๋นล้วนไม่เข้าใจความหมายของอู่เหมย มองด้วยความงงงวย จนกระทั่งอู่เหมยแย่งไม้ขนไก่ในมือเหอปี้อวิ๋นไป พวกเขาถึงได้รู้ว่าสถานการณ์ไม่ชอบมาพากล แต่ก็สายไปเสียแล้ว
อู่เหมยพุ่งไปอยู่หน้าอู่เยวี่ย ใช้กำลังที่กินนมไป ฟาดร่างอู่เยวี่ยอย่างแรง เหมือนกับที่เหอปี้อวิ๋นฟาดเธอเมื่อก่อน
“ใครบอกให้ไม่ตั้งใจเรียน สอบออกมาผลการเรียนแย่ขนาดนี้ พี่ไม่ละอายใจต่อพ่อแม่เหรอ? พี่ละอายใจต่อแม่ที่ซื้อเสื้อผ้าใหม่ รองเท้าใหม่ นมผงผสมมอลต์ น้ำมันตับปลาให้พี่บ้างไหม?
แม่ยังตื่นเช้ามืดเตรียมอาหารกลางวันให้พี่ทุกวัน ตุ๋นซุปบำรุงร่างกายให้บ่อยๆ และแอบให้เงินค่าขนมพี่ แต่พี่สอบได้ลำดับแย่อย่างนี้เป็นวันแรก ยังไงก็ต้องขอโทษแม่ผู้มีพระคุณ!
แต่พี่ยังไม่ตั้งใจเรียน แล้วยังขโมยของ พูดโกหกเป็นนิสัย ตอนนี้ความมีน้ำใจกว้างขวาง เปิดเผยตรงไปตรงมาชั่วชีวิตของคุณปู่ คุณพ่อ และยังจะชื่อเสียงอีก ทั้งหมดนี่ถูกพี่ทำลายหมดแล้ว!…”
อู่เหมยด่า มือกลับฟาดไม่หยุด เธอฟาดเร็วมาก เธอรู้ว่าอีกไม่นานอู่เจิ้งซือจะโต้ตอบเธอ เธอต้องคว้าโอกาสนี้เอาไว้ ระบายความคับแค้นในใจออกมาก่อนค่อยว่ากันอีกที
อู่เยวี่ยยถูกตีหลายครั้งก็สะดุ้งขึ้นมา ตะโกนอย่างโกรธเคือง “อู่เหมยเธอเป็นบ้าอะไร เธอมีสิทธิ์อะไรมาตีพี่? หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
“นี่ฉันเห็นใจแม่ของเราที่เหน็ดเหนื่อย ฉันออกแรงช่วยแม่ไงล่ะ!”
อู่เหม่ยพูดอย่างเฉยเมย แต่เธอก็ไม่หยุดฟาด ใช้ไม้ขนไก่เป็นอาวุธร้ายแรง อู่เยวี่ยสะดุ้งอีกหลายครั้ง เธอรู้สึกเจ็บจนยากที่จะทน
“ตอนนี้พี่เข้าใจรสชาติของการโดนตีว่ามันเป็นยังไงแล้วสินะ? เมื่อก่อนแม่ก็ตีฉันอย่างนี้ แต่แม่ตีแรงกว่าที่ฉันตีอีก นี่ฉันช่วยพี่นะ พี่สาว!”
อู่เหมยหัวเราะฮิๆ แต่ไม่มีรอยยิ้มในแววตา เย็นชาดั่งน้ำแข็งเดือนสิบสอง อู่เยวี่ยเจอสายตาเช่นก็รู้สึกตกตะลึงหวาดกลัว ใจเธอหล่นไปอยู่ตาตุ่ม
อู่เหมยเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
เปลี่ยนไปจนแข็งแกร่งมาก และยังเปลี่ยนเป็นคนใจร้าย
เหอปี้อวิ๋นกับอู่เจิ้งซือทั้งสองพอตั้งสติได้ ก็พุ่งเข้าไป เหอปี้อวิ๋นพุ่งเข้าไปเร็วที่สุด “ยายตัวดี แกบ้าไปแล้วเหรอ? พี่สาวของแกก็ยังกล้าตี? หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
อู่เจิ้งซือใจเย็นกว่าเล็กน้อย ที่อู่เหมยพูดเมื่อครู่ เขาได้ยินชัดเจน เขารู้ว่าอู่เหมยกำลังพูดความหมายที่ตรงกันข้าม และมีบางเรื่องที่ตอนนี้เขาเพิ่งจะรู้
ควรจะกล่าวว่าตอนนี้ถึงเวลาที่เขาได้เผชิญหน้ากับมันจริงๆ ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน ที่พอเห็นแล้วก็ทำเหมือนไม่เห็น ขอเพียงในบ้านสงบก็พอแล้ว
แม่คนเดียวกันแต่ได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างกันอย่างยิ่ง ระดับความแตกต่างเช่นนี้แม้แต่ทุกคนก็ยังทนไม่ไหว อย่าว่าแต่อู่เหมยที่เป็นลูกเลย!
ในเวลานี้เขาก็มีความโชคดีบ้างเล็กน้อยที่อู่เหมยไม่ท้อใจเศร้าซึมเพราะเหตุนี้ และกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ที่ทุกคนรังเกียจ แต่เธอเลือกที่จะระเบิดออกมา!
แม้วิธีการระบายออกมาจะรุนแรงไปบ้าง แต่อย่างน้อยก็ได้ระบายออกมา ดีกว่าตายไปโดยไม่พูด!
ถึงอย่างไรก็อู่เหมยเป็นลูกของเขา แม้ว่าเขาจะแค้นใจที่เธอไร้ความปรานี แต่เขาก็ไม่ต้องการให้ลูกของเขากลายเป็นขยะที่ไร้ประโยชน์!
อู่เหม่ยโต้ตอบอย่างรวดเร็ว ตอนที่เหอปี้อวิ๋นพุ่งเข้ามา เธอก็กระโดดหลบอัตโนมัติ เธอเป็นเด็กและบอบบาง ตอนนี้เธออายุน้อยและไม่แข็งแรง ถ้าฝืนปะทะกับเหอปี้อวิ้นก็มีแต่จะเสียเปรียบ ซึ่งเธอก็ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น
ในสายตาและในหัวใจของเหอปี้อวิ๋นมีเพียงอู่เยวี่ย และก็ไม่มีเวลาดูแลอู่เหมย เธอถกแขนเสื้อของอู่เยวี่ยขึ้นมา รอยแผลยาวเป็นแนวขวางสลับไปมาเหมือนกับใยแมงมุม และแขนอีกข้างก็เหมือนกัน ตามเนื้อตัวยังมีอีกเท่าไหร่ก็ยังไม่รู้!
“แม่ หนูเจ็บ!”
อู่เยวี่ยเจ็บจนน้ำตานองหน้า ตั้งแต่ออกมาจากท้องแม่ เธอก็ไม่เคยถูกตีแม้แต่ปลายนิ้วก้อยเลย กระทั่งความเจ็บปวดตอนที่ฟันแท้งอกขึ้นมา ก็ล้วนทำให้เหอปี้อวิ๋นเจ็บปวดมาก ตอนนี้รอยแผลเป็นที่สยดสยองเหล่านี้ ทำให้เหอปี้อวิ๋นสติแตก เธออยากจะฆ่าอู่เหมย เพื่อแก้แค้นให้กับลูกสุดที่รักของเธอ!
…………………………………………………