ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 309 อาหารดำปี๋ของเหยียนหมิงต๋า + ตอนที่ 310 โทรหาลุงของลูก
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- ตอนที่ 309 อาหารดำปี๋ของเหยียนหมิงต๋า + ตอนที่ 310 โทรหาลุงของลูก
ตอนที่ 309 อาหารดำปี๋ของเหยียนหมิงต๋า
เหยียนหมิงต๋าเดินมาพร้อมกับถ้วยบะหมี่เละๆ ที่หน้าตาดูไม่น่ากิน ด้านบนมีไข่ไหม้ๆ วางโปะอยู่ กลิ่นหอมมาก แต่หน้าตาดูไม่น่ากินอย่างนี้ ไม่กล้าชมเชยจริงๆ
“เยวี่ยเยวี่ยรีบกินบะหมี่นะ พี่ใช้น้ำซุปไก่ทำ แล้วพี่ก็ทอดไข่ดาวด้วย ดูสิว่าเป็นยังไง”
เหยียนหมิงต๋าเอาบะหมี่วางตรงหน้าอู่เยวี่ย และยังรินน้ำให้เธอ ขาดแค่ป้อนเข้าไปในปากเท่านั้น
ตอนแรกอู่เยวี่ยรู้สึกหิวนิดหน่อย แต่ตอนนี้กลับไม่อยากกินเพราะอาหารดำปี๋ที่อยู่ตรงหน้านี้ ความอยากอาหารหายไปหมด เธอจึงพูดเพียงว่าตอนนี้ยังไม่หิว ให้เหยียนหมิงต๋ากินเอง
แต่เหยียนหมิงต๋าก็นิสัยตรงไปตรงมา เขาพูดเพียงว่าเขากินอิ่มแล้ว เขาบอกกับอู่เยวี่ยว่าไม่ต้องเกรงใจเขา
อู่เหมยเห็นแล้วชอบใจมาก เธอจงใจพูด “พี่หมิงต๋าคะ บะหมี่พี่น่ากินมาก กลิ่นหอมหวนสุดๆ พี่นี่เก่งจริงๆ!”
เธอยกนิ้วโป้งให้เหยียนหมิงต๋า เธอแกล้งชมผู้ชายคนนี้ด้วยท่าทางที่ดูจริงใจจนเขาแยกความจริงกับคำพูดโกหกไม่ออก อู่เหมยก็พูดกับอู่เยวี่ย “พี่คะ ทำไมพี่ไม่กินบะหมี่ล่ะ? อย่าบอกนะว่า พี่คิดว่าพี่หมิงต๋าทำบะหมี่ไม่อร่อย?”
“ไม่ใช่แน่นอน!” อู่เยวี่ยปฏิเสธเด็ดขาด
อู่เหมยแอบยิ้มเยาะอยู่ในใจ จงใจพูดว่า “งั้นทำไมพี่ไม่กินล่ะ? พี่ก็ยังไม่ได้กินข้าวเย็นไม่ใช่เหรอ? เมื่อครู่นี้ฉันก็กินบะหมี่ถ้วยใหญ่ไปนะ!”
เหยียนหมิงต๋ามองอู่เยวี่ยตาปริบๆ เห็นอู่เยวี่ยลังเลไม่ขยับตะเกียบ แววตาเขาเจ็บปวด ท่าทางไม่สบายใจ เยวี่ยเยวี่ยไม่กินบะหมี่ที่เขาทำ เยวี่ยเยวี่ยไม่ชอบเขาหรือเปล่า?
อู่เยวี่ยรู้สึกได้ว่าเหยียนหมิงต๋าหมดกำลังใจ เธอจิตใจสงบลง เหยียนหมิงต๋าเป็นทางหนีทีไล่ของเธอ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะขัดใจเขา บะหมี่ถ้วยนี้เธอไม่กินไม่ได้แล้ว!
นังอู่เหมยบ้า!
“ขอบคุณค่ะพี่หมิงต๋า ฉันจะกินเดี๋ยวนี้แหละ”
อู่เยวี่ยพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน รับตะเกียบมาอย่างไม่ลังเล มองดูไข่ไก่ดำปี๋ฟองนั้น ความรู้สึกคลื่นไส้พุ่งขึ้นมาทันที แต่เธอยังคงแสดงท่าทางการกินอย่างสบายใจอกสบายใจออกมา มันคือนรกบนดินดีๆ นี่เอง
จริงๆ แล้วก็เป็นเพราะอู่เยวี่ยเองที่หาเรื่องให้ตัวเอง ถ้าเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่นิสัยสดใส เธอก็สามารแนะนำได้ตรงๆ ว่าบะหมี่ไม่อร่อย หรืออาจจะให้เหยียนหมิงต๋าลองชิมเองสักคำ อร่อยหรือไม่อร่อยตัวเองกินแล้วก็จะรู้
แต่อู่เยวี่ยกลับมุ่งมั่นที่จะแสดงเป็นคนอ่อนโยน มีเมตตา ดังนั้นจึงได้แต่อยู่ในแผนการยั่วยุของอู่เหมย สมควรแล้วที่เธอจะได้รับความทุกข์ทรมาน!
อู่เยวี่ยกัดไข่หนึ่งคำ มีเสียงกร๊อบดังขึ้น เธอมุ่นคิ้ว คายเปลือกไข่ไก่ดำปิ๊ดปี๋ออกมาจากปาก
“พี่หมิงต๋า พี่ทอดไข่ไม่ได้เอาเปลือกไข่ออกเหรอ?” อู่เยวี่ยฝืนเก็บความรู้สึกคลื่นไส้ไว้
เหยียนหมิงต๋ายิ้มตาหยีกล่าว “เอาออกแล้ว แต่มีบางชิ้นตกลงไป เยวี่ยเยวี่ยหยิบออกเองได้เลยนะ”
อู่เหมยก็พูดอย่างยิ้มกริ่ม “ไม่เขี่ยออกก็ไม่เป็นไร เสริมแคลเซียมพอดีเลย!”
กินสิ กินสิ จะดีที่สุดถ้ายายสารเลวสำลักจนตาย!
อู่เหมยซ่อนความรู้สึกมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นเอาไว้ไม่อยู่เลยสักนิด เธอก็ไม่อยากจะปกปิดด้วย เธอมองอู่เยวี่ยกินบะหมี่ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส อู่เยวี่ยรู้สึกรันทดสุดใจแทบอยากตาย แต่อู่เหมยกลับสบายอกสบายใจมาก เธอจ้องตาไม่กะพริบ จะปล่อยให้อู่เยวี่ยฉวยโอกาสแอบคายทิ้งไม่ได้ บะหมี่ถ้วยนี้ต้องให้เธอกินให้หมดเกลี้ยง
เหยียนหมิงซุ่นเห็นแล้วรู้สึกขำมาก แต่ก็ไม่คิดห้ามอู่เยวี่ยให้หยุดกิน อย่างไรซะอย่างน้อยก็ต้มบะหมี่สุก แค่รสชาติแย่เล็กน้อย คงไม่ทำให้กระเพาะเสียหายได้
แต่เหยียนหมิงซุ่นกลับดูแคลนฝีมือการทำอาหารของน้องชายปัญญาอ่อนของตัวเอง และก็ดูแคลนพลังสังหารของบะหมี่ถ้วยนั้นเสียแล้ว
อู่เยวี่ยกินบะหมี่ไปคำหนึ่ง ก็ดื่มน้ำตามไปคำหนึ่ง ไม่รู้ว่าเหยียนหมิงต๋าใส่เกลือลงไปเท่าไหร่ กินบะหมี่เหมือนกับกินเกลือ เพิ่งกินไม่ถึงครึ่งชาม ท้องของอู่เยวี่ยก็เต็มไปด้วยน้ำ ฝืนต่อไปไม่ไหวแล้ว
“เยวี่ยเยวี่ย กินได้น้อยจริงๆ ที่บ้านผม อาฮวายังกินได้เยอะกว่าเธออีก!”
เหยียนหมิงต๋ารู้สึกเสียใจเล็กน้อย เตรียมเอาบะหมี่ที่เหลือไปให้อาฮวากิน จะทิ้งอาหารไม่ได้
เพียงแต่…
อาฮวาเดินวางมาด นวยนาดเข้ามา เขาค่อยๆ ดมบะหมี่ที่หน้าตาเละ ไม่น่ากิน แล้วร้องปฏิเสธ :
“โง่หรือเปล่าที่ไม่รู้ว่า บะหมี่ที่ตัวเองทำมันไม่อร่อย? ไม่นึกเลยว่าจะเอาของที่หมาก็ไม่กินมาให้ข้ากิน?”
………………………………………………………………….
ตอนที่ 310 โทรหาลุงของลูก
อู่เหมยเอามือกุมท้อง หัวเราะเอิ๊กอ๊าก “พี่หมิงต๋า บะหมี่ของพี่ แม้แต่อาฮวายังรังเกียจเลย!”
เหยียนหมิงต๋าถูกเหยียดหยามเกียรติ โก่งคอตะโกน “อาฮวาแค่ไม่ชอบกินบะหมี่เท่านั้นเอง แต่บะหมี่ที่ผมทำอร่อย เยวี่ยเยวี่ยกินไปตั้งครึ่งชามแล้ว!”
อู่เยวี่ยถือแก้วและเทน้ำกินไม่หยุด เธอรู้สึกเค็มจนพูดไม่ออก พอได้ยินคำพูดของอู่เหมยก็โกรธทันที แมวยังรังเกียจบะหมี่ แล้วปล่อยให้เธอกินไปแล้วครึ่งชาม ไม่ใช่ว่าคนอย่างเธอ แม้แต่สัตว์ก็ยังสู้ไม่ได้หรือ!
อาฮวากระโจนเข้าที่ไหล่เหยียนหมิงต๋าแล้วทำเสียงเหมียวหง่าว เหมียวหง่าว แววตาเต็มไปด้วยความโกรธ ข้าไม่ชอบกินบะหมี่ตั้งแต่เมื่อไหร่? ข้าอายุเยอะแล้ว แค่อร่อยนิดหน่อยก็พอใจแล้ว แต่ที่แกทำนี่มันคืออะไร? สำหรับแมวกินหรือ?
เหยียนหมิงต๋าจิตใจสับสนกับเสียงร้องที่เศร้าโศกของอาฮวา เขาเลียน้ำซุบบะหมี่ที่เหลืออยู่ในชามอย่างไม่น่าเชื่อ และหน้าเขาก็บูดเบี้ยวขึ้นมาทันที แล้วก็วิ่งออกไปทันที หลังจากกินน้ำแก้วใหญ่เสร็จ ก็วิ่งกลับมา
“เยวี่ยเยวี่ย เมื่อตะกี้ทำไมเธอไม่บอกว่าบะหมี่ไม่อร่อย? ขอโทษนะ พี่…”
เหยียนหมิงต๋า มองอู่เยวี่ยที่กำลังดื่มน้ำด้วยความรู้สึกผิดและอับอาย มิน่าเยวี่ยเยวี่ยกินบะหมี่คำ ดื่มน้ำตามอีกคำ ทำไมเขาถึงไม่ชิมมาก่อนสักคำนะ?
ความผิดของเขาเอง ทำให้เยวี่ยเยวี่ยกินเกลือไปหนึ่งถ้วย!
อู่เยวี่ยรู้สึกสับสน ฝืนยิ้มและพูด “พี่หมิงต๋า ทำบะหมี่ครั้งแรก แล้วอร่อยขนาดนี้ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว นอกจากเค็มนิดหน่อย รสชาติของบะหมี่ยังคงอร่อยมาก”
กินเกลือไปครึ่งชามแล้ว เธอจะล้มเหลวไม่ได้ ยังไงก็ต้องทำให้เหยียนหมิงต๋าเชื่อฟังให้ได้
เป็นไปอย่างที่คิดไว้
เหยียนหมิงต๋ารู้สึกซาบซึ้งมาก ในโลกนี้มีเพียงเยวี่ยเยวี่ยเท่านั้นที่เข้าใจเขาอย่างแท้จริง โอ้! เยวี่ยเยวี่ยทำไมถึงได้ดีขนาดนี้?
ในเวลานี้อู่เยวี่ยเป็นที่หนึ่งในใจของเหยียนหมิงต๋าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พ่อ แม่ ปู่ ย่า เอาไว้ข้างหลัง หากว่าจะให้เขาบุกน้ำลุยไฟเพื่ออู่เยวี่ย เขาก็ไม่กลัวสักนิด
โบราณว่า บุรุษยอมตายเพื่อเพื่อนที่รู้ใจ!
แต่โดยเฉพาะกับคนรู้ใจ จะตายกี่ครั้งก็ไม่เป็นไร
อู่เยวี่ยแอบภูมิใจเงียบๆ เธอพอใจกับความมั่นใจแน่วแน่ของเหยียนหมิงต๋ามาก ยั่วเย้าเพศตรงข้ามให้อยู่ในอุ้งมือได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าอู่เยวี่ยจะอายุยังน้อย แต่เล่ห์เหลี่ยมกลับไม่ธรรมดา
อู่เหมยรู้สึกอารมณ์ไม่ดี เดิมทีคิดจะถือโอกาสเล่นงานอู่เยวี่ย เหตุไฉนกลับกลายเป็นทำให้เหยียนหมิงต๋ายิ่งจงรักภักดีต่ออู่เยวี่ยไปได้ เธอโกรธมาก
“หมิงต๋า นายทำการบ้านเสร็จหรือยัง?” เหยียนหมิงซุ่นถามเสียงเบา เหยียนหมิงต๋าทำหน้าเหวอทันที ยิ้มแหยๆ ให้อู่เยวี่ย แล้วก็เดินคอตกกลับห้องไป
อู่เจิ้งซือตื่นนานแล้ว อู่เหมยถามด้วยความดีใจ “พ่อคะ พ่อตื่นแล้วเหรอ? ไม่สบายตรงไหนอีกหรือเปล่า?”
อู่เยวี่ยก็เอนตัวเข้ามา สีหน้าเป็นห่วง อู่เจิ้งซือปวดหัวมาก เพียงแค่ลืมตาครู่หนึ่งก็เวียนหัวแล้ว เขาพูดเสียงเบา “เหมยเหมย ลูกไปโทรศัพท์บอกลุง ให้เขามาที่นี่”
“อ้อ! หนูจะโทรเดี๋ยวนี้ค่ะ”
อู่เหมยงุนงง แต่ไม่นานก็เข้าใจแผนการของอู่เจิ้งซือ อดดีใจไม่ได้ จะแยกห้องกับเหอปี้อวิ๋นเหรอ?
ถ้าหย่าร้างได้ก็ยิ่งดี!
ครอบครัวเหยียนมีโทรศัพท์ เพียงแต่อู่เหมยจำเบอร์โทรศัพท์ของอู่เจิ้งต้าวไม่ได้ เธอไม่ได้โทรศัพท์มาแปดร้อยปีแล้ว ขณะที่อู่เยวี่ยเองก็จำได้ แต่เธอไม่อยากบอก เธอไม่อยากให้คุณลุงมาเลยสักนิด เพราะถ้าเป็นเช่นนี้เรื่องที่แม่ทำก็ปิดบังไว้ไม่ได้แล้ว
แต่เธอไม่ใช่คนเดียวที่รู้หมายเลขโทรศัพท์ ยังมีอู่เจิ้งซือ แม้ว่าเขาจะปวดหัวมาก เขายังคงฝืนทนบอกเบอร์โทรศัพท์ ไม่นานก็โทรติด อู่เจิ้งต้าวพอได้ยินว่าอู่เจิ้งซือได้รับบาดเจ็บ เขาก็รีบวางหู และจะมาหาในทันที
………………………………………………………….