ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 335 ไม่อยากเต้นรำ + ตอนที่ 336 เหมยซูหานมาถึงบ้าน
ตอนที่ 335 ไม่อยากเต้นรำ
ในชาตินี้หรือชาติที่แล้วอู่เหมยไม่เคยเรียนเต้นรำเลย ด้วยการแนะนำของเฮ่อเหวินจิ้ง เธอบิดเอวอย่างไม่ตั้งใจ มือโบกไปมา ไม่นึกเลยว่าจะให้เธอทำท่าฉีกขามาตรฐานแบบสบายๆ ไม่ได้อีกแล้ว
สยงมู่มู่จ้องด้วยความประหลาดใจ ต้องบอกได้เลยว่าอู่เหมยทำบุญมาดี จึงบอกให้เธอฉีกขาอีกครั้ง
อู่เหมยทำเสียงฮึดฮัด ลากเท้าฉีกขาออกไป เหยียดตรงสวยงาม ยังเหยียดขาสวยกว่านักเต้นมืออาชีพอีก
“โอ้โห! อดทนอีกนิดเดียวเองก็จะได้แล้ว ถ้าเธอทำสะพานโค้งเก้าสิบองศาได้นะ ฉันก็จะยอมรับเธอ!”
สยงมู่มู่มองจ้องเขม็งอู่เหมยด้วยความอิจฉา ยายตัวดีตัวอ่อนขนาดนี้ เวลาปกติก็ไม่เคยฝึกฝน ไม่คิดเลยว่าจะฉีกขาได้สบายๆ คิดว่าปีก่อนนั้นเขาฝึกฉีกขาอยู่หนึ่งเดือนเต็ม ขาแทบหักจนรู้สึกปวดมาก!
ตอนนั้นเขาร้องไห้ราวกับน้ำตาเป็นแม่น้ำเลย!
อู่เหมยรู้สึกไม่มั่นใจ เธอไม่เคยทำท่าสะพานโค้งเช่นกัน แม้แต่วิธีพื้นฐานของท่าสะพานโค้งก็ยังไม่รู้ เฮ่อเหวินจิ้งสาธิตให้เธอดู อู่เหมยก็รู้สึกมีความมั่นใจ
เธอรู้สึกว่าการทำท่าสะพานโค้งไม่ยากเลยสักนิด เธอคงจะทำได้ ไม่รู้ว่าทำไม เธอถึงมีความมั่นใจขนาดนี้
อู่เหมยสูดหายใจลึก เธอค่อยๆ โน้มตัวไปทางด้านล่าง ท่ามกลางเสียงร้องอุทานของทุกคน เธอยกสะโพก แอ่นเอวจนเป็นสะพานโค้งได้อย่างง่ายดาย เอวโค้งเก้าสิบองศา ตัวอ่อนอย่างไม่น่าเชื่อ เหมือนกับไม่มีกระดูกเลย
อู่เหมยยกตัวขึ้นช้าๆ จู่ๆ ก็โดนจ้าวอิงหนานกอด แล้วหอมที่หน้าเธอหลายครั้ง
“โอ้โห เหมยเหมยเธอนี่มีพรสวรรค์ในการเต้นรำ เห็นท่าทางตัวเล็กๆ อย่างนี้ ยืนอยู่บนเวทีก็คือทายาทที่จะสืบสานการเต้นคลาสสิกที่เหมาะสม อยู่ในทัศนียภาพอันงดงามสดใส”
แม้ว่าจ้าวอิงหนานไม่เคยเรียนเต้น แต่เธอกลับมีสายตาเฉียบแหลม มองแวบเดียวก็มองเห็นพรสวรรค์ของอู่เหมย
หัวใจดวงเล็กๆ ของอู่เหมยเต้นตุบๆ หรือว่าเธอมีพรสวรรค์ในการเต้นจริง ?”
ก่อนหน้านี้ครูเฮ่อยังบอกว่าเธอมีพรสวรรค์ในการวาดรูป ความประหลาดใจและดีใจที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้อู่เหมยไม่อยากจะเชื่ออยู่บ้าง เหมือนกับอยู่ในความฝัน
เฮ่อเหวินจิ้งตื่นเต้นกว่าจ้าวอิงหนาน เพราะเธอศึกษาการเต้นมาโดยเฉพาะ จึงมีสายตาเฉียบแหลมยิ่งกว่า เธอตะโกนบอกอู่เหมย “เหมยเหมย เธอเป็นคนโปรดของพระเจ้าจริงๆ โอ้สวรรค์! ฉันไม่เคยเห็นเด็กผู้หญิงคนไหนที่ตัวอ่อนกว่าเธอเลย”
แม้ว่าสยงมู่มู่ก็ดีใจกับอู่เหมยมาก แต่รู้สึกไม่สบายใจ ยายตัวดีนี่มีพรสวรรค์จริงๆ แถมดันมีหน้าตาสวยอีก น่าอิจฉา!
สองพี่น้องเฮ่อเหวินจิ้งกับจ้าวอิงหนานเหมือนกับได้กินยาบำรุงหัวใจ ลองให้อู่เหมยเต้นท่าพื้นฐานหลายท่า
เห็นๆ อยู่ว่าเป็นแค่ท่าเต้นคลาสสิกพื้นฐานที่สุด
แต่อู่เหมยเต้นออกมาให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป อาจจะเป็นเพราะใส่ชุดอยู่บ้าน หากเปลี่ยนเป็นชุดเต้นรำ ต้องน่าตื่นตาตื่นใจกว่านี้อีก
เด็กผู้หญิงคนนี้เกิดมาเพื่อแสดงบนเวที
“แต่หนูยังชอบวาดรูปอยู่ดีค่ะ เต้นมันเหนื่อยเกินไป!” อู่เหมยพูดตามความจริง สยงมู่มู่อารมณ์เสีย จ้องอู่เหมยด้วยสีหน้าจริงจังเพราะอยากให้เต้น
เขาชอบเต้นรำ แต่ไม่มีพรสวรรค์ ตัวแข็ง ความสมดุลก็ไม่ดี ทำได้แค่ทิ้งการเต้นไป ยายตัวดีโชคดี มีพรสวรรค์ขนาดนี้ยังไม่รักษาให้ดี ไม่คิดเลยว่าจะกล้าบ่นว่าเหนื่อย!
แล้วทำไมเธอไม่บ่นว่ากินข้าวก็เหนื่อยล่ะ?
“นายเองก็เหมือนกัน รู้ทั้งรู้ว่าสามารถสอบได้ที่หนึ่งสบายๆ ดันไม่สอบซะงั้น นายมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน?” อู่เหมยตะโกนออกไป
สยงมู่มู่เงียบกริบทันที ในเวลานี้เขาเข้าใจอารมณ์ก่อนหน้านี้ของอู่เหมยทันที ให้ตายเถอะ ครั้งนี้ถึงตาเขาแล้ว
จ้าวอิงหนานยังรู้สึกเสียดายเล็กน้อย แต่เห็นอู่เหมยโกรธลูกชายเช่นนี้ เธออารมณ์ดีขึ้นมาทันที ส่วนอู่เหมยจะยอมเต้นหรือไม่ยอมเต้นนั้น ก็แล้วแต่ตัวเธอเองจะตัดสินใจเถอะ!
ไม่ว่าพรสวรรค์ดีแค่ไหน แต่ถ้าเจ้าตัวไม่ชอบก็ไม่มีประโยชน์ สุดท้ายแล้วสิ่งสำคัญคือความสนใจ หากไม่สนใจแล้วเรื่องอื่นก็ไร้ประโยชน์
…………………………………………………………………….
ตอนที่ 336 เหมยซูหานมาถึงบ้าน
แม้ว่าเฮ่อเหวินจิ้งก็รู้สึกเสียดาย แต่เธอรู้ว่าจะจับปลาสองมือไม่ได้ อู่เหมยเรียนวาดรูปอยู่แล้ว หากไปเรียนเต้นรำอีก กลับกลายเป็นว่าจะได้ไม่คุ้มเสีย สู้รวบรวมสมาธิเรียนสาขาเดียวจะดีกว่า
“คิดว่าการแข่งขันครั้งนี้มั่นใจว่าเหมยเหมยจะชนะไหม?” จ้าวอิงหนานถามเฮ่อเหวินจิ้ง
เฮ่อเหวินจิ้งยังมีความมั่นใจมาก เธอพยักหน้า “ขอเพียงการแข่งขันในวันนั้นเหมยเหมยแสดงตามปกติ หากเป็นไปตามคาดก็สามารถติดสามอันดับแรก”
จ้าวอิงหนานก็เข้ามากอดอู่เหมยและหอมหลายครั้ง ใบหน้ารูปไข่ที่ทั้งขาว ทั้งอ่อนนุ่มของยายตัวดี นิ่มเด้งมาก เด้งกว่าพุดดิ้งเสียอีก จ้าวอิงหนานทนไม่ไหวจึงหยิกแล้วหยิกอีก หน้ารูปไข่ของอู่เหมยโดนหยิกจนแดงไปหมด
สยงมู่มู่มองด้วยความรู้สึกคันไม้คันมืออยากจะหยิก เขาอาศัยจังหวะที่คนไม่ได้สังเกตก็ยื่นแขนออกไป เขาหยิกแก้มป่องๆ ของอู่เหมย เขารู้สึกพอใจมาก ไม่แปลกใจเลยที่แม่ไม่เลิกหยิก รู้สึกดีจริงๆ!
เพื่อนนักเรียนสยงที่หยิกจนสมใจ ก็หยิกแรงโดยไม่รู้ตัว “โอ๊ย”!
อู่เหมยเจ็บจนร้องขึ้นมา พอหันหน้าไปมอง ไม่คิดว่าจะเป็นเจ้าตัวแสบสยงมู่มู่ที่ฉวยโอกาสช่วงที่คนไม่ได้สังเกตรังแกเธอ อู่เหมยโกรธก็ดึงมือสยงมู่มู่ขึ้นมากัด ทิ้งรอยฟันแหลมเล็กที่สวยงามอยู่บนมือของสยงมู่มู่
สยงมู่มู่สูดปากด้วยความเจ็บ แต่ก็ไม่กล้าด่าอู่เหมย ใครให้เขาไปรังแกเธอล่ะ!
จ้าวอิงหนานและพ่อสยงต่างมองหน้ากันด้วยความยิ้มกริ่ม หน้าตาดูสนุก ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดกับมือของลูกชายตัวเองเลยสักนิดเดียว
หลังจากเฮ่อเหวินจิ้งฟังเค้าโครงการแสดงของสยงมู่มู่ เธอก็คิดท่าเต้นออกมาหนึ่งชุดทันที ไม่ยากมาก ถึงอย่างไรอู่เหมยเพิ่งจะเรียนเต้นรำ ถึงแม้จะมีพรสวรรค์แค่ไหน ก็มีบางท่าไม่ใช่เรียนแค่ประเดี๋ยวเดียวก็เต้นได้
ยังดีที่หน้าตาของอู่เหมยพอที่จะเสริมสิ่งอื่นๆ ที่เขาขาดไปได้ เฮ่อเหวินจิ้งสนใจการแสดงนี้มาก สนใจยิ่งกว่าพวกอู่เหมยเอง จึงบอกให้อู่เหมยไปฝึกซ้อมเต้นที่บ้านเธอทุกวันหลังจากเลิกเรียน เพื่อจะสามารถเต้นรำชุดนี้ได้คล่องแคล่วได้ภายในหนึ่งเดือน และก็แสดงในงานปีใหม่ของโรงเรียนให้ทุกคนตกตะลึง
พออู่เหมยกลับมาถึงบ้าน ก็เห็นเหมยซูหาน เธอประหลาดใจ รู้สึกเหมือนกับว่านานมากแล้วที่ไม่ได้เจอเหมยซูหาน ดึกปานนี้แล้วเขามาทำอะไร?
เหมยซูหานยังคงท่าทางเหมือนเดิม สวมยูนิฟอร์มที่ขาดซีดของโรงเรียน รอยยิ้มอบอุ่นบนใบหน้ายังคงเหมือนเดิม หากกล่าวถึงบุรุษผู้งามดั่งหยกก็คือเขานี่แหละ
แต่อู่เหมยไม่อยากเห็นหยกชิ้นนี้แม้แต่นิดเดียว เธอรู้สึกเสียใจที่กลับมาบ้านเร็วเกินไป ถ้ารู้ว่าเหมยซูหานมาที่บ้าน เธอก็จะกลับช้ากว่านี้
“เหมยเหมยกลับมาแล้วเหรอ!”
เหมยซูหานมองอู่เหมยพลางยิ้ม ในแววตามีความอ่อนโยนและเอ็นดู ทำให้อู่เหมยรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง
อู่เหมยไม่กล้าเงยหน้ามองเหมยซูหาน
เธอขานรับเสียงเบา กำลังจะกลับห้องของตัวเอง
เหมยซูหานเห็นอู่เหมยยังคงเย็นชาเหมือนปกติ เขารู้สึกรันทดใจเล็กน้อย เขาอยากจะบอกความจริงกับอู่เหมยจริงๆ ว่าชาติที่แล้วพวกเขาเป็นคู่รักกัน!
แต่เขาก็กลัวว่าจะทำให้อู่เหมยตกใจ ถึงอย่างไรตอนนี้ยายตัวดียังเด็ก แม้กระทั่งเรื่องราวความรักก็ยังไม่รู้เลย!
แต่ทุกครั้งที่อู่เหมยเย็นชาแบบนี้ เหมยซูหานรู้สึกปวดใจมาก ว่ากันว่าระยะทางที่ไกลที่สุดในโลกคือการห่างกันระหว่างความเป็นและความตาย แต่เขากลับไม่คิดอย่างนั้น ยังจะมีอะไรที่ทำให้เขายิ่งห่างจากอู่เหมยในตอนนี้ได้อีกหรือ?
เหมยซูหานมาเยี่ยมอู่เจิ้งซือ ช่วงนี้เขายุ่งกับการรับซื้อกระดาษใช้แล้ว แม้แต่บาสเกตบอลก็ไม่ได้เล่น ทุกวันยุ่งจนไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้ แต่ผลลัพธ์ที่ได้มาก็น่ายินดี แค่พยายามมุมานะไม่ถึงครึ่งเดือน เขาก็หาเงินได้สองร้อยหยวน ยังมากกว่าเงินเดือนที่ไปทำงานอีก
โรงเรียนของเมืองจินมีเยอะแยะมากมาย จำนวนกระดาษข้อสอบและเอกสารที่ทิ้งทุกวันก็มีนับไม่ถ้วน ในเวลานี้ไม่มีใครอยากจะไปรับซื้อกระดาษใช้แล้วสักนิด
เหมยซูหนานขอร้องให้อู่เจิ้งซือช่วยพูดให้ ขอเหมารับซื้อกระดาษใช้แล้วของหลายโรงเรียน ธุรกิจของเขาเฟื่องฟูมาก ทุกวันพอเลิกเรียนก็รีบไปทำงาน จนเขาไม่ได้รู้เลยว่าตระกูลอู่เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น
…………………………………………………………………