ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 337 หวังว่าแม่เหมยมีอายุยืนยาวถึงร้อยปี + ตอนที่ 338 เกลียดไม่ลงจริง ๆ
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- ตอนที่ 337 หวังว่าแม่เหมยมีอายุยืนยาวถึงร้อยปี + ตอนที่ 338 เกลียดไม่ลงจริง ๆ
ตอนที่ 337 หวังว่าแม่เหมยมีอายุยืนยาวถึงร้อยปี
ช่วงหลายวันมานี้เหมยซูหานก็ไม่เห็นอู่เจิ้งซือไปสอน พอทราบข่าวถึงได้รู้ว่าครอบครัวอู่เกิดเรื่อง และยังรู้เรื่องเคราะห์ร้ายที่อู่เหมยประสบในช่วงนี้อีกด้วย เขารู้สึกสลดใจอย่างยิ่ง ดังนั้นเขารู้ดีว่าอู่เจิ้งซือไม่อยู่บ้าน แต่เขาก็ยังมา เพราะมาดูอู่เหมย ดูว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง!
บาดแผลบนใบหน้าของอู่เหมยใกล้หายแล้ว ยังมีรอยแผลจางๆ เล็กน้อย หากมองไม่ละเอียดก็มองไม่เห็น แต่เหมยซูหานสายตาไม่เลว แค่มองก็ดูออกแล้ว เขายิ่งรู้สึกเจ็บปวดและยิ่งรู้สึกมีอคติต่อเหอปี้อวิ๋นมากขึ้น
เหมยซูหานเคารพเหอปี้อวิ๋นบนพื้นฐานที่เขาเคารพอู่เจิ้งซือ เพราะว่าเขาเคารพนับถืออู่เจิ้งซือ ดังนั้นจึงมีความเคารพต่อเหอปี้อวิ๋น แต่ว่าตอนนี้เหอปี้อวิ๋นทำร้ายอู่เจิ้งซือที่เขาเคารพนับถือมากที่สุด แล้วยังปฏิบัติอย่างโหดเหี้ยมกับอู่เหมยที่เขาอยากจะปกป้องมากที่สุด ความเคารพนับถือที่เขามีต่อเหอปี้อวิ๋นก็อันตรธานไปหมด
ทว่าเขาคิดอย่างล้ำลึก และไม่แสดงออกสิ่งที่เขาคิดอยู่ในใจออกมา เขายังคงเคารพนับถือเหอปี้อวิ๋น และไม่สามารถแสดงสิ่งที่ไม่ใช่ออกมาได้
“เหมยเหมยรินน้ำชาให้พี่ซูหานสิ”
เหอปี้อวิ๋นสั่งอู่เหมย มองเหมยซูหานอย่างยิ้มแย้ม เธอชอบเหมยซูหานจริงๆ เขาหน้าตาดี แถมยังมีความรู้ และยังมีความเคารพเธอเป็นพิเศษ น่ามองกว่าเหยียนหมิงซุ่นเป็นไหนๆ
อู่เหมยเดินไปถึงหน้าประตูห้องนอนแล้ว ก็ต้องเดินกลับมา เธอรินน้ำชายื่นให้เหมยซูหาน แต่เธอได้ยินเหอปี้อวิ๋นถามเรื่องแม่ของเหมยซูหาน เธออดไม่ได้ที่จะหยุดก้าวขานั่งฟังอยู่ข้างๆ
ท่านแม่เฒ่าที่อ่อนโยนและมีเมตตากรุณา เมื่อชาติที่แล้วเป็นคนเดียวที่ดีกับเธอมากที่สุด เดิมทียังมีเหมยซูหาน แต่เขาทรยศเธอแล้ว!
“เมื่อไม่นานมานี้ผมพาแม่ไปโรงพยาบาลมา หมอบอกว่าทำงานหนักเป็นเวลานานจนมีโรคติดตัว แต่ไม่มีปัญหาอะไร ทำได้แค่ค่อยๆ ดูแล รักษากันไป ยังไงก็ต้องขอบคุณมากครับที่ห่วงอาจารย์แม่” เหมยซูหานพูดด้วยความนอบน้อม
พอเพิ่งจะหาเงินได้ เขาก็พาแม่ไปตรวจที่โรงพยาบาลในเมืองจิน พวกเพื่อนบ้านบอกว่าแม่เป็นโรคเรื้อรัง ไปหาแพทย์แผนจีนจะเหมาะสมกว่า จริงๆ แล้ว ผลการรักษาของแพทย์แผนจีนก็ไม่เลว เพิ่งกินยาได้ห้าแผ่น อาการไอของแม่ก็ลดน้อยลงไปมาก ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ไอช่วงกลางคืน ไม่ได้นอนรวดเดียวตลอดทั้งคืน
แต่หมอยังบอกว่า หากสามารถมีโสมดีๆ มาเสริม ร่างกายของแม่จะฟื้นตัวเร็วขึ้น แต่เสียดายที่ตอนนี้โสมดีๆ ก็ให้ผู้มีอิทธิพลเก็บสะสมหมด ส่วนใหญ่ที่มีขายอยู่ในตลาดเป็นแบบที่คุณภาพรองลงมา ดีขึ้นมาหน่อยก็ขึ้นราคาสูงหลายพัน ตอนนี้เขาซื้อไม่ไหว ต้องหาเงินให้มากกว่านี้ถึงจะซื้อได้
อู่เหมยอดถามไม่ได้ “พี่ซูหานคะ แม่พี่เป็นโรคอะไรเหรอคะ?”
เหมยซูหานตะลึงเล็กน้อยที่ได้รับความสนใจอย่างไม่คาดคิด ไม่นึกเลยว่าอู่เหมยจะพูดกับเขาก่อน เขายิ้มร่า เหมยซูหานพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ก็ไม่ใช่โรคร้ายแรงอะไร คือว่าเมื่อก่อนแม่พี่ลำบากเกินไป ร่างกายเลยไม่ไหว”
อู่เหมยนิ่วหน้า ใบหน้าที่เมตตาและอ่อนโยนของท่านแม่เฒ่าตอนนี้ปรากฏอยู่ในหัว
ผมหงอกขาว หลังงอเป็นประจำ ไอไม่หยุด แต่ท่านแม่เฒ่ายิ้มออกมาจะอ่อนโยนและเมตตาเป็นพิเศษ อบอุ่นไปถึงก้นบึ้งหัวใจของเธอ
ถึงแม้เธอจะอยู่กับแม่เหมยไม่ถึงสองปี แต่เธอก็รักแม่ของเหมยซูหานมาก และหวังว่าชีวิตที่ไม่เรียบง่ายของผู้หญิงที่จิตใจดีคนนี้ จะมีสุขภาพที่แข็งแรง ใช้ชีวิตสงบสุข อายุยืนถึงร้อยปีในชาตินี้
“ฉันได้ยินว่ายาบำรุงกำลังก็สู้อาหารเสริมไม่ได้ ยากินเยอะแค่ไหนก็ไม่สู้กินอาหารดีๆ ไม่อย่างนั้นพี่ซูหานตุ๋นพวกซุปปลา ซุปไก่ให้คุณป้าดื่มสิคะ ไม่แน่คุณป้าก็อาจจะอาการดีขึ้นมา” อู่เหมยแนะนำ
เหอปี้อวิ๋นกล่าวตำหนิ “แกรู้ดีกว่าหมอรู้อีกเหรอ? กลับห้องแกไปเลย ซูหาน เธออย่าไปเชื่ออู่เหมยพูดไร้สาระเลยนะ เด็กน้อยจะไปเข้าใจอะไร!”
อู่เหมยไม่อยากจะเถียงกับเหอปี้อวิ๋น เธอลุกขึ้นกลับห้องไป เหมยซูหานหันไปยิ้มให้เธอ ปากพูดโดยไม่ออกเสียง “ขอบใจนะ เหมยเหมย!”
อู่เหมยยิ้มตามมารยาท จริงๆ แล้วริมฝีปากเธอแค่ขยับเล็กน้อยและผ่านไปทันที แต่เหมยซูหานก็พึงพอใจมากแล้ว
เหมยเหมยพูดกับเขาก่อน แถมยังยิ้มให้เขา หมายความว่าความหวาดระแวงของอู่เหมยที่มีต่อเขาค่อยๆ หายไปแล้วใช่หรือไม่?
…………………………………………………………………………………
ตอนที่ 338 เกลียดไม่ลงจริงๆ
หลังจากอู่เหยมกลับห้องไปได้ไม่นาน เหมยซูหานก็ขอตัวกลับ ขณะที่กำลังจะไป เขาเคาะประตูห้องของอู่เหมย เหอปี้อวิ๋นก็ไม่ได้คิดมาก เธอคิดว่าเหมยซูหานขอตัวกลับกับอู่เหมยเพื่อเป็นการแสดงมารยาท เธอจึงไปห้องน้ำเพื่อซักผ้า สองวันก่อนเธอจิตใจว้าวุ่น ก็เลยไม่มีอารมณ์ทำงานบ้าน เสื้อผ้าสกปรกที่เปลี่ยนใส่สะสมไว้จนได้หนึ่งถัง
“เหมยเหมย ลูกอมรสนมผสมถั่วลิสงถุงนี้เธอเก็บไว้กินนะ”
เหมยซูหานหยิบลูกอมรสนมผสมถั่วลิสงหนึ่งถุงออกมาจากกระเป๋านักเรียน ขนาดมีกระดาษคราฟต์ห่ออยู่ก็ยังได้กลิ่นหอมของนม อู่เหมยกำลังจะเอ่ยปากปฏิเสธ เหมยซูหานก็ยิ้มพลางพูด “หากเหมยเหมยไม่กินลูกอมนี้ พี่ก็คงจะต้องทิ้ง เพราะพี่กับแม่ไม่กินขนม”
คำพูดนี้เป็นความจริง เหมยซูหานไม่ชอบกินขนม ส่วนแม่เหมยเพราะปัญหาสุขภาพจึงกินขนมไม่ได้ ขนมที่วางอยู่ในบ้านเธอเป็นคนกินทั้งหมด
อู่เหมยไม่อยากรับสิ่งของของเหมยซูหานจริงๆ เธอไม่คิดจะเกี่ยวข้องกับคนนี้ เหมยซูหานเห็นเธอลังเล ก็เลยเอาลูกอมยัดใส่มือเธอเสียเลย อู่เหมยต้องรับเอาไว้อย่างจนใจ เธอไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไรจริงๆ
“ตอนนี้ฉันไม่ชอบกินขนม พี่ซูหานเก็บเงินไว้ซื้อของดีๆ ให้คุณป้ากินเถอะค่ะ” อู่เหมยพูดอย่างจริงใจ ครอบครัวเหมยซูหานไม่ได้มีเงินทอง ขนมเหล่านี้เธอกินแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจ
‘อู่เหมย ก็ไม่รู้ว่าเธอคิดยังไง ทั้งๆ ที่เธอควรจะเกลียดเหมยซูหานถึงจะถูก แต่ทำไมกลับเกลียดเขาไม่ลง?’
มีความแค้นใจ ความรู้สึกอยากต่อว่า และความเจ็บปวด แต่ก็ไม่เกลียด!
อาจจะเป็นเพราะว่าเหมยซูหานในชาติก่อนดีกับเธอมากเกินไปมั้ง!
เหมยซูหานดีกับเธอมากจริงๆ ตามใจเธอทุกอย่าง ขอเพียงเธอร้องขอ เหมยซูหานก็จะหาทางทำให้เธอพอใจ การใช้ชีวิตอยู่กับเหยซูหานในตอนนั้น อู่เหมยรู้สึกว่าเธอเหมือนกับเป็นเจ้าหญิงจริงๆ ใช้ชีวิตอยู่ในปราสาทที่เหมยซูหานสร้างเพื่อเธอ ไม่รู้ความยากลำบากของโลกภายนอก และก็ไม่รู้ว่าจิตใจของคนนั้นไม่อาจคาดเดาได้
ช่วงนี้อู่เหมยก็คิดมาตลอด ปีนั้นเพราะเหมยซูหานเชื่อคำพูดของอู่เยวี่ย จึงได้ขอเธอแต่งงาน คนที่เขารักคืออู่เยวี่ย ดังนั้นอู่เยวี่ยให้เขาทำอะไร เขาก็ทำตามทุกอย่าง ดังนั้นเธอจึงกลายเป็นคุณนายเหมย
เพราะว่าความรักทั้งหมดของเหมยซูหานมอบให้อู่เยวี่ยจนหมด ดังนั้นเขาสามารถให้เธอได้ทุกอย่าง นอกจากความรัก
หากชาติที่แล้วไม่ใช่ความมึนเมาที่เป็นอุบัติเหตุในครั้งนั้น ระหว่างเธอกับเหมยซูหานก็ไม่มีอะไรบริสุทธิ์ใจไปกว่านี้แล้ว แทนที่จะบอกว่าชาติที่แล้วพวกเขาเป็นสามีภรรยากัน สู้บอกว่าพวกเขาเป็นพี่น้องต่างนามสกุลที่อยู่ด้วยกันจะดีกว่า
เหมยซูหานรับรู้ได้ถึงความห่วงใยของอู่เหมย เขารู้สึกอบอุ่นในใจ เขาอดไม่ได้ก็เล่าประวัติการเริ่มทำธุรกิจของเขากับเธอ
“เหมยเหมยไม่ต้องกังวลนะ ตอนนี้พี่กำลังรับซื้อกระดาษใช้แล้ว ทำเงินได้มากทุกเดือนเลย การใช้ชีวิตไม่มีปัญหาเลย ดีกว่าไปทำงานเสียอีก มีเงินให้เธอไปซื้อขนมไม่ขาดแคลนเลยล่ะ”
อู่เหมยมองเหมยซูหานอย่างประหลาดใจ ไม่นึกเลยว่าเขากำลังรับซื้อกระดาษใช้แล้ว?
ทั้งๆ ที่ ชาติที่แล้วเหมยซูหานไม่เคยทำเรื่องเหล่านี้ เหมยซูหานในเวลานี้ยากจนมาก บ้านไม่มีอะไรเลย ยากจนข้นแค้นแม้กระทั่งค่าใช้จ่ายเข้ามหาวิทยาลัยก็ได้รับการสนับสนุนจากอู่เจิ้งซือจนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัย ทุกเดือนเขาได้รับเงินช่วยเหลือเป็นค่าเลี้ยงชีพยี่สิบหยวน เหมยซูหานจึงมีเงินเหลือนิดหน่อย ทุกเดือนเขาประหยัดเงินเพื่อส่งเงินกลับมายังครอบครัว ทุกวันตัวเขาเองใช้กินอย่างประหยัด
กระเพาะของเหมยซูหานในชาติที่แล้วเลยไม่ค่อยดีนัก สาเหตุมาจากการทานอาหารสามมื้อที่ไม่แน่นอนทำให้เขาปวดท้อง ซึ่งก็เป็นเพราะการใช้ชีวิตที่อัตคัดขัดสนในชาติที่แล้ว แต่ตอนนี้ เขาเพิ่งอยู่ชั้นม.5 มีเงินได้อย่างไร?
“เหมยเหมยเป็นอะไรหรือเปล่า?” เสียงเหมยซูหานดังขึ้น
อู่เหมยส่ายหน้าทันที เธอไม่พูดอะไร จนกระทั่งเหมยซูหานกลับไป เธอก็ยังไม่เข้าใจ เหมือนกับว่าในชาตินี้กับชาติที่แล้วไม่เหมือนกันเลยน่ะสิ!
………………………………………………………………………….