ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 397 ฟ้าดินยังมีสถานที่ดีๆอยู่ + ตอนที่ 398 ซื้อเตียงเก่าแก่มา
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- ตอนที่ 397 ฟ้าดินยังมีสถานที่ดีๆอยู่ + ตอนที่ 398 ซื้อเตียงเก่าแก่มา
ตอนที่ 397 ฟ้าดินยังมีสถานที่ดีๆอยู่
อู่เหมยเดินตามหลังเหยียนหมิงซุ่นเข้าไปอย่างว่านอนสอนง่าย เหยียนหมิงซุ่นจับมือของเธอเอาไว้แน่น มองดูราวกับพี่ชายพาน้องสาวออกมาเดินเที่ยวเล่น
“เสี่ยวเหยียนพาน้องสาวมาเที่ยวเล่นสินะ!”
มีคนส่งเสียงพูดทักทายเหยียนหมิงซุ่น เขาเป็นชายแก่อ้วนท้วมที่มีผมขาวประปราย ใบหน้ามีสีแดงของเลือดฝาด อีกทั้งยังดูมีท่าทีกระฉับกระเฉง
“ใช่ครับ คุณหวังดูดีขึ้นเรื่อยๆ เลยนะครับ เหมยเหมย นี่คือคุณตาหวัง”
เหยียนหมิงซุ่นวางตัวด้วยความนอบน้อม อู่เหมยเองก็ไม่กล้าที่จะเสียมารยาท จึงรีบตอบรับอย่างนอบน้อม วันนี้เธอสวมเสื้อปุยฝ้ายสีชมพูตัวใหม่ที่จ้าวอิงหนานซื้อให้ และยังถักเปียสองข้างไว้ด้านหลัง ดูสดใสงดงามราวตุ๊กตา เพียงแค่ชายแก่อ้วนท้วมได้เห็นก็รู้สึกชอบใจ
“ลูกหลานตระกูลนายนี่ช่างหน้าตาดีเสียจริง อีกหน่อยหากน้องสาวนายโตขึ้น เกรงว่าหัวกระไดบ้านจะไม่แห้งเอา!”
คุณตาหวังยิ้มจนตาหยีทั้งพูดขึ้นอย่างสนุก จากนั้นเขาได้ควักเอาเหรียญกษาปณ์ออกมาจากกระเป๋าหนึ่งเหรียญ และยื่นให้อู่เหมยเพื่อเป็นของขวัญสำหรับการเจอกัน
อู่เหมยจ้องเหรียญนั่นตาเขม็ง มันคือเหรียญกษาปณ์เฉียนหลงทงเป่า นั่นจึงทำให้เธอตกใจอยู่ไม่น้อย พอได้สติจึงหันไปหาเหยียนหมิงซุ่น
“เหมยเหมยยังไม่รีบขอบคุณคุณตาหวังอีก!”
เหยียนหมิงซุ่นมองเหรียญกษาปณ์แค่แวบเดียวก็ดูออกและเขาไม่คิดจะปฏิเสธแต่อย่างใด เขารู้ดีว่าปู่หวังไม่ได้ขาดแคลนเงิน เหรียญกษาปณ์เฉียนหลงทงเป่าแค่เหรียญเดียว สำหรับเขาแล้วไม่ต่างอะไรกับเศษเหรียญทองแดงธรรมดา อีกอย่างคุณตาหวังก็เป็นคนรักหน้าตาและศักดิ์ศรีมาก ของที่ให้ไปแล้วไม่เคยคิดที่จะขอคืน เป็นธรรมดาที่เขาเองก็ไม่ควรจะหักหน้าคุณตาหวัง
นั่นจึงทำให้อู่เหมยรับมันมาไว้ด้วยความสบายใจ และยิ้มหวานๆ ส่งให้คุณตาหวัง
“ขอบคุณค่ะคุณตาหวัง ขอให้คุณตาสุขภาพแข็งแรง อายุยืนหมื่นๆ ปีนะคะ!”
คุณตาหวังหัวเราะชอบใจ ที่ได้รับการหยอกล้อจากอู่เหมย หัวเราะจนกระทั่งน้ำตาเล็ด บ่งบอกได้ว่าเขาอารมณ์ดีมากแค่ไหน
“ปากเล็กๆ นี่หวานกว่าพี่ชายเยอะเลย ไปเดินเล่นดูเถอะ เจอของดีอะไรก็มาบอกตาจะให้รางวัลชิ้นใหญ่ ที่นี่ไม่มีใครกล้ามาหลอกหนูได้หรอก!”
คุณตาหวังใช้ฝ่ามืออ้วนๆ ของเขาวางบนหัวอู่เหมยและลูบเบาๆ เขาหัวเราะคิกคักแล้วเดินจากไป
เหยียนหมิงซุ่นก้มหน้ามองท่าทีซื่อบื้อของอู่เหมย ที่แท้ก็เป็นความสุขของคนซื่อบื้อ เขารู้จักกับคุณตาหวังมานานหลายปี แต่ยังไม่เคยได้รับคำพูดนี้จากเขาเลย อู่เหมยที่เพิ่งเคยเจอกันกลับได้รับความเอ็นดูจากเขา
“ปากเล็กๆ นี่หวานจริงๆ”
เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะเบาๆ และพูดขึ้นอย่างสนุก นั่นทำให้ใบหน้าของอู่เหมยขึ้นสีแดงระเรื่อ อันที่จริงที่เธอพูดไปเมื่อครู่ เธอเองก็รู้สึกฝืนใจอยู่ไม่น้อย แต่เธอก็ตัดสินใจแล้วว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง อย่างน้อยก็ต้องฝึกให้หน้าหนาขึ้นมาหน่อย!
“พี่หมิงซุ่น คุณตาหวังไม่ธรรมดาเลยใช่ไหม?” อู่เหมยถามขึ้น
“อืม ถือว่าเป็นรุ่นใหญ่ของที่นี่ มีเขาที่เป็นคนคุ้มครองพวกเราแบบนี้ ต่อไปก็ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกใครหลอกได้” เหยียนหมิงซุ่นอธิบาย
อู่เหมยตกใจเป็นอย่างมาก นึกไม่ถึงว่าชายแก่ที่ดูไม่ค่อยถูกชะตานักกลับมีฐานะที่ไม่ธรรมดา โชคดีที่เมื่อครู่เธอไม่ได้พูดจาอะไรไม่ดีออกไป
“ไปกันเถอะ เราต้องทำเวลาหน่อย เพราะตอนเที่ยงที่นี่ก็ปิดแล้ว”
เหยียนหมิงซุ่นจับมืออู่เหมยแน่น เดินดูแผงขายทีละแผงทีละแผงไปเรื่อยๆ
ตัวอาคารมีขนาดใหญ่มาก แต่แผงขายกลับมีอยู่ไม่มากเท่าที่ตลาดหนานสุ่ย หากนับรวมทั้งหมดที่มีก็แค่ยี่สิบกว่าร้าน เพียงแต่แผงลอยแต่ละร้านมีขนาดใหญ่ มีทั้งเหรียญกษาปณ์ ขวดโหลต่างๆ ภาพวาด โต๊ะบ้างเก้าอี้บ้าง มีแม้กระทั่งเตียงนอนแกะสลักสมัยโบราณ
อู่เหมยไม่ได้อุ้มฉิวฉิวออกมา แต่มันซ่อนอยู่ในกระเป๋า เหยียนหมิงซุ่นไม่ยอมให้เธออุ้มออกมา เพราะเกรงว่าจะดึงดูดสายตาคนอื่นๆ เกินไป
ฉิวฉิวอยู่ในกระเป๋าอย่างตื่นเต้น มันใช้เท้าเคาะที่หนังกระเป๋าไม่หยุดเพื่อเป็นการสะกิดอู่เหมย เธอเองก็รู้ว่าฉิวฉิวมองเห็นของมีค่าอีกแล้ว!
ภายใต้คำแนะนำของฉิวฉิว ทำให้อู่เหมยซื้อของกลับไปหลายอย่าง เธอใช้เงินจำนวนเกือบพันที่ได้มาจากที่เหยียนหมิงซุ่นช่วยขายของในครั้งก่อน จ่ายไปเกือบทั้งหมดเพื่อแลกของเก่าๆ เยินๆ กลับมา
…………………………………………………………………………………………..
ตอนที่ 398 ซื้อเตียงเก่าแก่มา
เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้ซื้อของอะไรมาก เขาซื้อของลายครามมาเพียงแค่สองสามชิ้น พอยัดใส่กระเป๋าไว้ก็ไม่ได้ดูโดดเด่นอะไร แต่อู่เหมยกลับซื้อทั้งชิ้นเล็กชิ้นน้อย อีกทั้งยังเป็นของเก่าๆ ผุพัง
ของอย่างอื่นไม่เท่าไหร่ แต่ที่ทำให้อู่เหมยรู้สึกอับอายนั่นก็คือเตียงเก่าแก่นั้น ตัวของเตียงมีสีดำสนิท หากออกแรงเขย่าก็จะมีเสียงดังเอียดอาด หากโยนทิ้งไว้ข้างทางคงเป็นเพียงแค่ของเก่าๆ ที่ไม่มีแม้แต่คนจะเก็บ แต่ฉิวฉิวกลับถูกใจมันเข้า และยังคะยั้นคะยอให้อู่เหมยซื้อกลับไปให้ได้
ผลลัพธ์คืออู่เหมยใช้เงินหนึ่งร้อยหยวนในการซื้อเตียงหลังนี้มา เธอเจ็บปวดใจอย่างมาก
“โอ้โห! เสี่ยวเหยียนตั้งใจจะซื้อกลับไปเป็นฟืนก่อไฟรึ!”
คุณตาหวังยิ้มตาหยีและเดินเข้ามาหา เมื่อเห็นว่าเหยียนหมิงซุ่นซื้อเตียงหลังนี้มาจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างขำขัน ใบหน้าแสดงออกถึงความยินดีในความโชคร้าย
“คุณตาหวังก็พูดเป็นเล่นไป ผมแค่เห็นว่าถูกชะตากับเตียงหลังนี้ รู้สึกว่ามันคงไม่ใช่ของธรรมดาทั่วไป ซื้อกลับไปไว้ก่อน ไม่แน่ว่าวันข้างหน้าอาจจะได้ราคาดี!”
เหยียนหมิงซุ่นพูดอย่างนิ่งเฉย แน่นอนว่าเขารู้ดีว่าเตียงหลังนี้ไม่ได้เป็นของธรรมดาแน่ มิเช่นนั้นฉิวฉิวคงไม่ยอมให้อู่เหมยซื้อกลับ และเมื่อครู่ตัวเขาเองก็ได้สำรวจเตียงหลังนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ด้านบนมีรูปแกะสลัก ซึ่งเป็นถึงลายสลักมังกร
นี่เป็นสิ่งที่ทำให้เหยียนหมิงซุ่นตกใจอยู่ไม่น้อย ในสมัยโบราณตระกูลไหนที่สามารถแกะสลักลวดลายมังกรได้ มีเพียงแค่ตระกูลชนชั้นฮ่องเต้ ส่วนตระกูลอื่นไม่มีใครกล้าพอที่จะสลักลายลายมังกร
ชัดเจนมากที่เตียงเก่าแก่หลังนี้ที่ไม่ค่อยเข้าตาใครจะมาจากตระกูลของชนชั้นฮ่องเต้ อีกทั้งยังมีโอกาสเป็นไปได้มากที่ว่าจะต้องมีฮ่องเต้โชคร้ายสักพระองค์ได้เคยนอนมาก่อน
เห็นดังนี้แล้ว เตียงหลังนี้ไม่ได้ทำมาจากไม้ธรรมดา ต่อให้เป็นฮ่องเต้ผู้น่าผิดหวัง ก็ไม่อาจเหมือนกับสามัญชนทั่วไปที่ตัดต้นไม้บนภูเขามาใช้ได้อย่างตามใจตน!
คุณตาหวังเหลือบมองเตียงหลังนี้อีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก เตียงหลังนี้เขาเคยเห็นมันมาก่อน ไม่ได้มีจุดน่าสนใจอะไร เขาจึงไม่ได้สนใจจะดูให้ละเอียดอีก หากว่าเป็นเตียงที่ฮ่องเต้โชคร้ายสักพระองค์ได้เคยนอนมาก่อน จะได้ราคาสักเท่าไหร่กัน?
ในตอนนี้สิ่งที่ขายดีบนท้องตลาดก็คือเครื่องลายคราม ภาพวาด และจำพวกเครื่องหยก ยิ่งถ้าเป็นของใช้ภายในบ้านขนาดใหญ่แบบนี้ยิ่งไม่มีใครให้ความสนใจ ไม่อย่างนั้นเจ้าของร้านคงไม่ตั้งไว้นานเป็นปีๆ จนไม่มีคนมาถามราคาหรอก?
เจ้าแสบเสี่ยวเหยียนนี่ปกติแล้วถือว่ามีไหวพริบไม่น้อย แต่ทำไมครั้งนี้ถึงได้สับสนไปได้ ที่แท้ก็เป็นเพราะยังอ่อนหัด!
คุณตาหวังเองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แม้ว่าเขาจะคุมที่นี่ แต่ในเรื่องธุรกิจแล้วเขาแทบจะไม่เข้าไปก้าวก่าย ขอแค่ต่างฝ่ายต่างยอมซื้อและยอมขาย นั่นก็เป็นไปตามกฏเกณฑ์ของเขาแล้ว และต่อให้เตียงหลังนี้ขายออกไปได้ในราคาหนึ่งพันหยวน เขาเองก็ไม่สามารถเข้าไปขวางได้
“ลุงจะให้เสียวหลี่เอาเตียงหลังนี้ไปส่งให้ จะให้ไปส่งที่ไหน?”
เหยียนหมิงซุ่นบอกกล่าวขอบคุณเขา และบอกที่อยู่บ้านหลังใหม่ของอู่เหมยไป คุณตาหวังคิ้วกระตุกพลันหัวเราะและพูดขึ้น “ห้องตรงตึกนั้นถูกเอ็งซื้อไปนี่เอง ลุงก็คิดอยู่ว่าใครหน้าไหนที่มือเท้าไวขนาดนั้น เพียงแค่ครึ่งค่อนชั่วโมง ก็ถูกตัวแสบอย่างเอ็งเก็บได้ในราคาถูกมากๆ ด้วย”
เหยียนหมิงซุ่นพูดอย่างถ่อมตัว “ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ คงเป็นเพราะคุณตาหวังมองว่าผมอายุน้อย เลยยอมหลีกให้ผมเท่านั้นเอง”
คุณตาหวังหัวเราะฮ่าๆ อย่างชอบใจต่อคำพูดชื่นชมจากเหยียนหมิงซุ่น เขาจึงกวักมือเรียกเด็กผู้ชายที่มีท่าทีซื่อๆ อายุราวๆ สิบสองปีมาหา เพื่อบอกให้เอาเตียงหลังนี้ไปส่งยังที่อยู่ที่เหยียนหมิงซุ่นบอกไว้ ส่วนของชิ้นอื่นๆ คุณตาหวังไม่ได้ถามถึงแต่อย่างใด
หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น พวกเขาได้มาถึงบ้านที่อยู่ในเขตถนนฮวายไห่ ซึ่งเสียวหลี่ได้นำเตียงมาส่งไว้ เหยียนหมิงซุ่นจึงได้ให้เงินแก่เขาไปสองหยวน นั่นทำให้เขาดีใจจนแทบเสียสติ ถึงขั้นที่แทบจะหุบยิ้มไม่ได้ และได้เดินจากไปด้วยความดีใจ
พอถึงบ้านฉิวฉิวก็ได้มุดออกจากกระเป๋า แล้วขึ้นไปนอนคว่ำอยู่บนเตียงเก่าๆ หลังนั้น ดวงตาปิดลงราวกับกำลังหลับไหล
ใจของอู่เหมยเต้นขึ้นเบาๆ ครั้งก่อนที่ฉิวฉิวนอนคว่ำหน้าหลับบนกระป๋องเก่าๆ นั้นก็มีลักษณะเฉกเช่นตอนนี้ หลังจากนั้นไม่นานตัวมันก็มีถุงหน้าท้องขึ้นมา ดูเหมือนว่าเตียงหลังนี้ก็ไม่ต่างไปจากกระป๋องเก่าในครั้งนั้นเลย และนี่นับเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของฉิวฉิวเลยก็ว่าได้!
…………………………………………………………………………………………..