ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 407 ฉันตั้งใจ + ตอนที่ 408 เหอปี้อวิ๋นที่คิดเอาเองว่าตัวเองฉลาด
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- ตอนที่ 407 ฉันตั้งใจ + ตอนที่ 408 เหอปี้อวิ๋นที่คิดเอาเองว่าตัวเองฉลาด
ตอนที่ 407 ฉันตั้งใจ
อู่เจิ้งซือพูดเบาๆ “ก็แค่เพื่อนธรรมดาคนหนึ่งน่ะ เหมยเหมยลูกไม่เคยเจอมาก่อน”
อู่เหมยมุ่ยปาก ทำท่าทางกระเง้ากระงอดนิดหน่อย แถมยังพูดบ่นอีกว่า “ทำไมพ่อถึงได้พาแค่พี่สาวไปพบคุณลุงล่ะ? วันหลังพ่อก็พาหนูไปด้วยสิ!”
เหอปี้อวิ๋นตำหนิอย่างไม่พอใจ “แกทำไมอะไรก็ต้องเปรียบเทียบกับพี่สาวแก? เก็บจานไปล้างซะ นานแค่ไหนแล้วที่แกไม่ได้ทำงานบ้านน่ะ!”
“ล้างจานเป็นหน้าที่ของพี่สาว พ่อกำหนดไว้แล้ว หนูจะไปทำการบ้านแล้ว ตอนบ่ายยังต้องไปห้องเรียนเยาวชนซ้อมเต้นอีก!”
อู่เหมยไม่สนใจเธอ เดินกระโดดโลดเต้นกลับห้องไป รับไม่ได้กับความโง่เขลาเบาปัญญาของเหอปี้อวิ๋นจริงๆ ตัวเองยังจะเอาตัวเองไม่รอดเลย นึกไม่ถึงเลยว่ายังจะกล้าบงการให้เธอทำงานบ้านได้?
ช่างไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรเลยจริงๆ!
เหอปี้อวิ๋นโดนอู่เหมยทำให้โมโหจนสีหน้าเปลี่ยน เดิมคิดจะทำเหมือนแต่ก่อน ที่พูดว่าอู่เหมยต่อหน้าอู่เจิ้งซือหลายๆประโยค แต่เธอก็คิดถึงสถานการณ์ที่ไม่ดีของตัวเองในขณะนี้ และเห็นถึงสีหน้าท่าทางที่เย็นชาของอู่เจิ้งซือ ใจก็อดที่จะเย็นวาบขึ้นมาไม่ได้ ราวกับแผ่นหลังมีลมเย็นพัดผ่าน
อู่เยวี่ยกินข้าวคำสุดท้ายในชามเสร็จ ลุกขึ้นพร้อมพูดยิ้มๆ ว่า “แม่ หนูล้างจานเป็น”
พูดเสร็จเธอก็เริ่มเก็บกวาดจานชามบนโต๊ะ ถึงแม้ว่าท่าทางจะดูเก้งก้างไม่คล่องแคล่ว แต่กลับทำอย่างตั้งใจมาก อู่เจิ้งซือรู้สึกพอใจต่อการกระทำของอู่เยวี่ยเป็นอย่างมาก หมอที่เพื่อนเก่าแนะนำมานั้นมีความสามารถจริงๆ พูดคุยกับแค่แปปเดียวก็ได้ผลลัพธ์ดีขนาดนี้ วันหลังพูดคุยให้มากครั้งหน่อย เยวี่ยเยวี่ยจะต้องกลับมาเป็นเหมือนเมื่อก่อนได้อย่างแน่นอน
อู่เหมยอยู่ที่ช่องประตูเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดในห้องรับแขกอย่างชัดเจน เธอขมวดคิ้วแน่น ไม่มีความสุขเป็นอย่างมากกับการเปลี่ยนแปลงของอู่เยวี่ย แต่ก็ไม่เป็นไร เธอค่อยๆ เหยียบอู่เยวี่ยลงไปอีกครั้งได้
ชาตินี้อู่เยวี่ยอย่าได้คิดมีวันที่จะได้มีหน้ามีตาไปอีกเลยตลอดชีวิต!
ถึงแม้ว่าเหอปี้อวิ๋นจะปวดใจกับลูกสาวสุดที่รัก แต่เธอก็ไม่กล้าให้ความช่วยเหลืออย่างโจ่งแจ้งต่อหน้าอู่เจิ้งซือ ทำได้แค่เพียงกำชับอย่างเป็นห่วงว่า “เยวี่ยเยวี่ยเทน้ำร้อนให้เยอะๆ หน่อย อากาศมันหนาว ระวังมือเปื่อยเพราะความเย็นนะ”
อู่เยวี่ยหัวใจบีบแน่น ในสมองปรากฏภาพมือที่บวมแดงเหมือนหัวไชเท้าก็ไม่ปานของเพื่อนร่วมชั้นเรียน แถมยังปริแตก มีเลือดซิบๆไหลออกมาอีกด้วย มองดูแล้วช่างน่าสะอิดสะเอียน
“รู้แล้วค่ะแม่!”
อู่เยวี่ยตอบรับทันควัน เธอไม่อยากมีมือเหมือนหมูหรอกนะ อีกเดี๋ยวจะต้องเทน้ำร้อนให้เยอะๆ หน่อย หลังล้างจานเสร็จยังต้องทาครีมให้เยอะๆ ด้วย แบบนี้มือของเธอจะได้ไม่กลายเป็นมือที่น่าเกลียดแบบนั้น
อู่เหมยที่อยู่ใกล้กับประตูยิ้มเยาะไม่หยุด แค่อู่เยวี่ยล้างจานยังต้องกำชับเสียเยอะแยะว่าให้เทน้ำร้อนเยอะๆ เมื่อก่อนเธอไม่เคยได้ยินแม่กำชับแบบนี้สักครั้ง มีครั้งไหนบ้างที่ไม่ใช้น้ำเย็นที่เย็นถึงกระดูก?
การปฏิบัติอย่างแตกต่างอีกครั้งของเหอปี้อวิ๋น ทำให้อู่เหมยยิ่งตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะแก้แค้น ดวงตาของเธอกรอกไปรอบๆ มองไปด้านนอกแวบหนึ่ง อู่เจิ้งซือกลับห้องไปแล้ว ก็อดที่จะคิดวางแผนในใจไม่ได้
เธอเปิดประตูรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ตรงไปคว้ากาต้มน้ำก่อนที่อู่เยวี่ยจะมาหยิบ แต่ไหนแต่ไรมาเหอปี้อวิ๋นนั้นเป็นคนประหยัดมัธยัสถ์ ในหนึ่งวันกำหนดไว้เพียงแค่ตอนบ่ายที่จะต้มน้ำร้อน เธอมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าตอนนี้น้ำร้อนจะต้องเหลือแค่ครึ่งกาอย่างแน่นอน
เป็นดังที่คาดไว้อู่เหมยยกขึ้นดูน้ำ ร้อนเหลือเพียงหนึ่งส่วนหกของกาน้ำ เธอดึงกาน้ำร้อนมาอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด พลางพูดกับตัวเองว่า “วันนี้เดินเมื่อยมากเลย ฉันจะแช่เท้า”
พูดจบอู่เหมยก็เทน้ำร้อนออกมาจนหมด ตอนนี้อู่เยวี่ยถึงดึงสติกลับมา ตำหนิเสียงต่ำว่า “เธอใช้น้ำร้อนไปหมดแล้ว ฉันจะใช้อะไร?”
“ในท่อน้ำยังมีน้ำอีกตั้งเยอะ พี่ก็ค่อยๆ ล้างนะ!”
อู่เหมยยกกะละมังใส่น้ำขึ้นยิ้มอย่างลำพองใจ สายตาเต็มไปด้วยการยั่วยุ เปิดเผยออกมาอย่างหมดเปลือกว่า : ฉันตั้งใจ เธอมาด่าฉันสิ!
อู่เยวี่ยโมโหปรี๊ดขึ้นมา แต่ก็ต้องกดมันลงไป
ห้ามโมโห อย่าให้พ่อมองว่าเธอไม่รู้จักคิดอีกแล้ว อู่เยวี่ยเตือนสติตัวเองในใจ
…………………………………………..
ตอนที่ 408 เหอปี้อวิ๋นที่คิดเอาเองว่าตัวเองฉลาด
อู่เยวี่ยจ้องอู่เหมยเขม็ง เตรียมจะไปต้มน้ำเพื่อล้างจาน อู่เหมยก็ส่งเสียงอีกครั้งขึ้นมาว่า “พี่คะ ทำไมพี่ยังไม่ล้างจานอีก?”
“แค่ก”
อู่เจิ้งซือที่อยู่ในห้องส่งเสียงไอออกมา อู่เยวี่ยสะดุ้งตกใจ นึกไปแล้วว่าอู่เจิ้งซือไม่พอใจ ไหนเลยจะสนใจต้มน้ำอีก รีบร้อนเติมน้ำเย็นมาล้างจาน น้ำนั้นเย็นจนทิ่มแทงไปถึงกระดูก ทั้งร่างไม่มีตรงไหนที่ไม่หนาวเหน็บ
แต่ใจเธอกลับเหน็บหนาวยิ่งกว่า!
เหอปี้อวิ๋นปวดใจเป็นอย่างยิ่ง เข้ามาช่วยอู่เยวี่ยล้างจานอย่างไม่ต้องคิด ตอนนี้เป็นหน้าหนาวเดือนสิบสอง เยวี่ยเยวี่ยไหนเลยจะล้างด้วยน้ำเย็นไหว ยัยเด็กสมควรตายยิ่งนานวันยิ่งใจดำอำมหิต อาศัยว่ามีอู่เจิ้งซือปกป้อง ถึงได้กล้ารังแกเยวี่ยเยวี่ยอย่างเอาเป็นเอาตาย
เธอจ้องเขม็งอย่างดุเดือด อู่เหมยก็มองเธอกลับมาอย่างสงบ ดวงตาดำขลับดูสงบเหมือนกับน้ำลึก ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกเลยแม้แต่นิดเดียว เหอปี้อวิ๋นอดใจสั่นไหวขึ้นมาไม่ได้ ยัยเด็กสมควรตายนี่ยิ่งนานวันก็ยิ่งเหมือนนังสารเลวนั้น!
แน่นอนว่านังสารเลวนั้นจะต้องมีชีวิตที่ไม่ดี ไม่แน่ว่าอาจจะตายไปแล้วก็ได้ ต่อให้ไม่ตายก็เป็นไปได้ว่าจะมีสภาพเหมือนขอทาน ใส่เสื้อผ้าขาดๆ ของหลายปีก่อน ผมก็คงขาวหมดแล้ว เมื่อมองดูแล้วแน่นอนว่าจะต้องดูแก่กว่าเธอ เพราะเธอบำรุงร่างกายรักษาสุขภาพอย่างดีที่สุดทุกวัน
เงินก็คือหน้าของผู้หญิง ต่อให้เหยียนซินหย่าเธอจะสวยธรรมชาติแค่ไหน แต่ไม่มีเงินก็เปลี่ยนเป็นยายแก่ได้เช่นกัน เชอะ หัวเราะทีหลังถึงจะเป็นคนชนะที่แท้จริง
เหอปี้อวิ๋นอดลำพองใจขึ้นมาไม่ได้ เวลานี้เธอหวังว่าเหยียนซินหย่าจะปรากฏตัวออกมา กลับมาเหมือนกับขอทาน แบบนั้นเธอถึงจะมีโอกาสแต่งหน้าแต่งตัวอย่างสวยสง่า แล้วเดินไปเยาะเย้ยตรงหน้านังสารเลวที่ตอนนั้นเคยรังแกเธอ
อู่เหมยมองเหอปี้อวิ๋นที่เหมือนกำลังฝันอยู่อย่างงงงวย ใบหน้าเดี๋ยวโกรธเกลียด เดี๋ยวหัวเราะ เดี๋ยวก็ไม่พอใจ เดี๋ยวก็ลำพองใจ ราวกับคนบ้าก็ไม่ปาน แปลกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก
ไม่รู้ว่ามีเล่ห์อุบายอะไรอีก?
อู่เหมยหมดความสนใจในทันที กลับไปที่โต๊ะหนังสือเริ่มทำการบ้าน ตอนบ่ายยังต้องไปซ้อมเต้นอีก เธอควรจะรีบหาเวลาทำการบ้านให้เสร็จ ส่วนอู่เยวี่ยนั้นไม่ต้องรีบร้อนไป
มีเวลาจัดการเธอเหลือเฟือ!
อู่เยวี่ยปฏิเสธเหอปี้อวิ๋น ถึงแม้ว่าในใจจะยินดีเป็นอย่างมาก แต่เธอไม่กล้า ตอนนี้เธอก็เหมือนเหยียบอยู่บนแผ่นน้ำแข็ง ไม่สามารถจู้จี้จับผิดความคิดของอู่เจิ้งซือได้ง่ายๆ เธอลองเช่นนั้นไม่ไหวแล้ว
หลังจากล้างจานเสร็จ มือของอู่เยวี่ยก็แข็งเหมือนกับหัวไชเท้าก็ไม่ปาน แดงๆ บวมๆ แถมยังเจ็บไปหมด ด้านเหอปี้อวิ๋นก็รีบร้อนไปต้มน้ำร้อนจนเสร็จ ยังไม่วายนึกเสียดายถ่านอยู่อีก แต่ก็รีบเผาต้มน้ำอย่างไว!
“เยวี่ยเยวี่ยรีบแช่มือ มือแข็งหมดแล้วมั้ง!”
เหอปี้อวิ๋นเทน้ำร้อนลงอ่าง จับมืออู่เยวี่ยแช่ลงไปอย่างปวดใจ ช่างเป็นความรักที่มาจากหัวใจของคนเป็นแม่จริงๆ
อู่เหมยที่ทนไม่ไหวมาเกาะอยู่หลังประตูดูความวุ่นวายอีกครั้งก็มีความสุขอย่างถึงที่สุด ปิดปากกลั้นหัวเราะไม่มีเสียง เหอปี้อวิ๋นช่างเป็นคนที่คิดว่าตัวเองฉลาดเสียจริงๆ มือเพิ่งจะล้างน้ำเย็นจัดๆ มาไม่สามารถไปแช่น้ำร้อนได้เลยในทันที เดี๋ยวเย็นเดี๋ยวร้อนจะทำให้ระคายเคือง มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะกลายเป็นโรคผิวหนังได้อย่างรวดเร็ว
เวลาที่คนทางเหนือจัดการกับบาดแผลที่เกิดจากความเย็น แต่ไหนแต่ไรมาจะไม่ใช้น้ำร้อน แต่ใช้หิมะทาบาดแผลของผู้ป่วยที่เกิดจากความเย็นอย่างต่อเนื่อง ทาเอาไว้จนกว่าหิมะจะละลาย แบบนี้แผลที่เกิดจากความเย็นถึงจะมีการไหลเวียนของเลือด แล้วก็จะมีอาการที่ดีขึ้น
เหอปี้อวิ๋นคงรังเกียจที่มือของอู่เยวี่ยสะอาดเกินไป อยากจะเอาแผลที่โดนความเย็นกัดมาตกแต่งบนมือเธอสักหน่อยล่ะมั้ง!
เหตุผลที่อู่เหมยรู้นั้น เป็นเพราะเมื่อก่อนเธอได้ลิ้มรสความเจ็บปวดมาก่อน แล้วก็ผ่านการล้างด้วยน้ำเย็นหลังจากนั้นก็แช่ด้วยน้ำร้อน ผลลัพธ์ก็คือตกกลางคืนมือก็บวม โชคดีที่ผิวของเธอดีโดยกำเนิดไม่ได้ทายาอะไรก็กลับมาดีเหมือนเดิม แต่อู่เยวี่ยไม่เหมือนกัน ผิวของเธอไม่ได้ดีเท่าตัวเอง หน้าร้อนโดนยุงกัดหนึ่งที ก็เป็นแผลบวมเละไปหมด!
“แม่ มือของหนูทำไมถึงได้คันๆ ล่ะ?” อู่เยวี่ยขมวดคิ้วแน่น อดทนต่ออาการแสบๆ คันๆ บนมือ เหมือนกำลังมีมดกัดยังไงอย่างนั้น
เหอปี้อวิ๋นพูดอย่างร้อนใจว่า “เป็นเพราะน้ำเย็นเกินไปแน่นอน แม่ใส่น้ำร้อนเพิ่มให้ลูกอีกดีกว่า เยวี่ยเยวี่ยอดทนหน่อยนะลูก!”
อู่เหมยจับท้องหัวเราะไม่มีเสียงยกใหญ่ โอ๊ย ไม่กลัวคู่ต่อสู้ที่ชาญฉลาด แต่กลัวเพื่อนร่วมทีมที่โง่!
พรุ่งนี้มือของอู่เยวี่ยไม่กลายเป็นมือหมู เธอจะตัดหัวของเธอไปให้สยงมู่มู่เตะเป็นลูกบอลเลย!
…………………………………………..