ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 411 แมวไม่อยู่ หนูร่าเริง + ตอนที่ 412 พี่หมิงซุ่น สุขสันต์วันเกิด
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- ตอนที่ 411 แมวไม่อยู่ หนูร่าเริง + ตอนที่ 412 พี่หมิงซุ่น สุขสันต์วันเกิด
ตอนที่ 411 แมวไม่อยู่ หนูร่าเริง
เวลาผ่านไปถึงสิ้นเดือนอย่างรวดเร็ว วันต่อมาก็ถึงงานแสดงปีใหม่ของโรงเรียน ถึงแม้ว่าเฮ่อเหวินจิ้งจะพูดว่าการแสดงของพวกเขานั้นดีเลิศแล้วก็ตาม แต่อู่เหมยยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่บ้าง กลัวว่าพรุ่งนี้จะเต้นผิดบนเวที ทำให้อู่เยวี่ยและคนอื่น ๆ หัวเราะเยาะเอาได้
ตอนเย็นอู่เจิ้งซือไม่ได้กินข้าวเย็นที่บ้าน เดิมทีอู่เหมยเกิดอาการแปลกใจอยู่บ้าง แต่พอได้ยินเหอปี้อวิ๋นพูดกับอู่เยวี่ยในห้องรับแขกว่า “ตระกูลเหยียนนี่ก็แปลก วันเกิดของหลานชายคนโตจัดเสียยิ่งใหญ่คึกคักทุกปี แต่หมิงต๋ากลับไม่เคยจัดให้แม้แต่ครั้งเดียว แม่ว่าผู้เฒ่าของตระกูลเหยียนก็ลำเอียงอยู่มากเหมือนกันนะ”
อู่เหมยอดยิ้มเยาะไม่ได้ เหอปี้อวิ๋นยังมีหน้าไปว่าคนอื่นว่าลำเอียงอีก? ช่างหน้าไม่อายจริง ๆ หากถกเถียงกันเรื่องลำเอียง บนโลกใบนี้ยังจะมีใครสามารถสู้เธอได้!
แต่ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเหยียนหมิงซุ่นเหรอ?
มิน่าล่ะเย็นวันนี้ถึงไม่เห็นเขาซ้อมบาร์เดี่ยว เมื่อก่อนทุก ๆ วันจะต้องเห็นเขาซ้อมอยู่หลังสนามกีฬาครึ่งชั่วโมง
อู่เหมยคิดแล้วคิดอีก เปิดลิ้นชัก ดึงกริชออกมาเล่มหนึ่ง ซื้อเมื่ออาทิตย์ที่แล้วที่ไปโรงงานเก่ากับเหยียนหมิงซุ่น ตอนนั้นตัวกริชเต็มไปด้วยสนิม มองแล้วเหมือนกับเหล็กทองแดงแตก ๆ ก็ไม่ปาน อู่เหมยจ่ายไปห้าหยวนซื้อเอาไว้
แต่ฉิวฉิวเพียงแค่กลืนกริชลงไปครู่หนึ่ง แล้วก็คายออกมา กริชเล่มนี้ก็เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก มีกระแสความเย็นที่ทำให้คนเหน็บหนาว อู่เหมยชักออกมาวางบนผม ยังไม่ทันได้โดนคมมีด ผมก็ขาดแล้ว!
เป็นดาบล้ำค่าที่ตัดเหล็กได้!
อู่เหมยซ่อนของล้ำค่าอื่น ๆ ไว้ที่ฉิวฉิว ยกเว้นกริชเล่มนี้เล่มเดียวที่เธอพกเอากลับมาด้วย เดิมยังคิดจะรอให้ตอนที่เหยียนหมิงซุ่นไปเป็นทหาร แต่ในเมื่อวันนี้เป็นวันเกิดของเขา…
“แกจะไปไหน? ไปล้างจานเดี๋ยวนี้!”
เหอปี้อวิ๋นเรียกอู่เหมยให้หยุด ออกคำสั่งเสียงเย็นชา อู่เยวี่ยที่เดิมยังคิดจะเก็บกวาดจาน ได้ยินเสียงก็เลยวางมือ เตรียมจะกลับห้อง
บาดแผลบนมือของเธอยิ่งนานยิ่งรุนแรง ทาขี้ผึ้งไปแล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไร เดิมทียังเป็นมือที่ค่อนข้างดูดี ตอนนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ทำเอาเธอกลัวจนไม่กล้าถอดถุงมือ
แต่พอใส่ถุงมือนาน ๆ เข้า มือก็จะเจ็บเป็นอย่างมาก เหมือนโดนมดเป็นหมื่น ๆ ตัวเจาะก็ไม่ปาน เจ็บจนเธออยากจะตัดมือทิ้งไป
ต้องโทษอู่เหมยนังสารเลวคนนี้ ถ้าหากไม่ใช่ว่าเธอตั้งใจตะโกนส่งเสียงร้อง มีหรอเธอจะใช้น้ำเย็นล้างจาน?
ถึงอย่างไรพ่อก็ไม่อยู่บ้าน พ่อก็จะไม่รู้อะไรทั้งนั้น!
อู่เยวี่ยมองอู่เหมยอย่างเย็นชา ในใจภาวนาเป็นอย่างยิ่งให้เหอปี้อวิ๋นจัดการอู่เหมยเหมือนเมื่อก่อนแบบนั้น ตอนนี้เธอพอจะมองออกแล้ว พ่อจะไม่หย่ากับแม่อย่างแน่นอน
ต่อให้ทั้งวันจะไม่พูดจากันเลยแม้แต่ประโยคเดียวเหมือนกับคนแปลกหน้า อู่เจิ้งซือก็ยังจะเป็นสามีภรรยากับเหอปี้อวิ๋น แต่ก็เป็นสามีภรรยาแปลกหน้าที่นอนเตียงเดียวกันแต่ฝันไม่เหมือนกัน
แต่เธอไม่สนใจ เธอแค่เพียงอยากได้ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ที่ไม่ให้คนอื่นหัวเราะเยาะเธอได้ก็พอ ส่วนความสัมพันธ์ของพ่อแม่จะรักกันหรือไม่ ตอนกลางคืนจะนอนด้วยกันหรือไม่ ทั้งหมดนั้นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอ
อู่เหมยเหลือบมองท่าทางของพวกเธอแวบหนึ่ง ก็รู้เลยว่าอู่เจิ้งซือไม่อยู่บ้าน สองแม่ลูกก็เลยคิดจะเป็นหนูร่าเริงที่แมวไม่อยู่
“ล้างจานเป็นงานของอู่เยวี่ย มีสิทธิ์อะไรมาให้ฉันล้าง?” หลังจากที่อู่เหมยโต้ตอบ ก็รีบวิ่งออกไปด้านนอกประตู
กิจวัตรประจำวันที่คุ้นเคยกลับมาอีกครั้ง ในมือเหอปี้อวิ๋นมีไม้ขนไก่ ใบหน้าดุร้าย อู่เหมยพูดด้วยน้ำเสียงยิ้มเยาะว่า “ถ้าแม่กล้าตีหนู หนูก็จะวิ่งร้องตะโกนให้ทั้งโรงเรียนรับรู้ให้หมด พ่อยังไม่น่าจะเดินไปไกล เชื่อหรือไม่ว่าพ่อจะต้องหย่ากับแม่จริงๆ!”
การหย่าเป็นจุดอ่อนของเหอปี้อวิ๋น มือก็ชะงักช้าลงในทันที ลังเลไม่กล้าขึ้นมา
อู่เหมยตะโกนเสียงดัง “เหมยเหมยทำไมเธอถึงได้พูดจากับแม่แบบนี้? ถ้าพ่อรู้ว่าเธอไม่เคารพผู้หลักผู้ใหญ่แบบนี้ จะต้องไม่ปล่อยเธอไปอย่างแน่นอน!”
ฉับพลันเหอปี้อวิ๋นก็มีเหตุผลพอเพียงที่จะกระทำขึ้นมา เธอเป็นผู้อาวุโสกว่า สั่งสอนลูกตัวเองที่ไม่เชื่อฟังมันจะทำไม?
ใครจะกล้าพูดแม้แต่ครึ่งคำ!
อู่เหมยฉวยโอกาสตอนที่เหอปี้อวิ๋นพุ่งเข้ามา เปิดประตูออก หันไปทำหน้าหลอกใส่อู่เยวี่ย “พวกคุณสิถึงจะเป็นแม่ลูกกันแท้ ๆ ฉันไม่รบกวนพวกคุณที่รักใคร่ซึ้งกันและกันอย่างสุดซึ้งแล้ว บาย ๆ!”
…………………………………………..
ตอนที่ 412 พี่หมิงซุ่น สุขสันต์วันเกิด
ชั่วพริบตาเดียวอู่เหมยก็วิ่งไปถึงระเบียงทางเดิน เหอปี้อวิ๋นที่รีบพุ่งมาเกือนโดนประตูกระแทกจมูก อู่เหมยเดินไปตามระเบียงทางเดินขยิบตาส่งให้อาจารย์แม่จางที่ยืนอยู่ วิ่งออกไปไกลอย่างมีความสุข
อาจารย์แม่จางมองไปทางเหอปี้อวิ๋นที่โมโหจนพูดไม่ออกแวบหนึ่ง มองอย่างเหยียดหยามโดยไม่ปิดบังเลยสักนิด เหอปี้อวิ๋นในขณะนี้มีชื่อเสียงเสีย ๆ หาย ๆ ในอีจงเรียบร้อยแล้ว ใครพูดถึงเธอต่างก็ทำเสียงจุ๊ปากส่ายหัว แล้วก็มีเพียงแค่เธอที่ยังโง่งมอยู่ ยังคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงมีคลาสงดงามมีความรู้อยู่อีก!
เหอปี้อวิ๋นเก็บสีหน้าโมโห หันไปส่งยิ้มน้อย ๆ ทำตัวสำรวมสงบเสงี่ยมให้อาจารย์แม่จาง หันหลังกลับเข้าห้อง ใบหน้าท่าทางก็เปลี่ยนเป็นผู้หญิงดุร้ายในทันที
“ยัยเด็กบ้าคอยดูนะว่ากลับมาฉันจะจัดการกับแกยังไง!” เหอปี้อวิ๋นด่าแช่งอย่างโมโห ทำได้แค่เพียงไปเก็บกวาดจานชามตะเกียบด้วยตัวเอง
สายตาของอู่เยวี่ยแสดงความรังเกียจส่งผ่านออกมาชั่วประเดี๋ยวเท่านั้น แม่ของเธอคนนี้ช่างไม่มีประโยชน์เสียจริง ๆ สู้กับอู่เหมยตั้งหลายครั้งขนาดนั้น ไม่ชนะสักครั้ง กลับกันยังจะเดือดร้อนถึงชื่อเสียงของเธออีกต่างหาก
“ขนาดแม่พูดแบบนี้ทุกครั้ง แต่เหมยเหมยตอนนี้ยิ่งนานวันกลับยิ่งกำเริบเสิบสาน”
อู่เยวี่ยอดพูดประชดไปหนึ่งประโยคไม่ได้ กลับห้องไปอย่างเมินเฉย ขอเพียงแค่เหอปี้อวิ๋นฉลาดสักหน่อย ในบ้านจะกลายเป็นแบบตอนนี้ได้ยังไงกัน?
เหอปี้อวิ๋นสีหน้าเปลี่ยน รู้สึกอับอายขายหน้าอย่างที่สุด ทั้งหมดเป็นเพราะเธอไม่เอาไหน ทำให้เยวี่ยเยวี่ยต้องกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรม
“เยวี่ยเยวี่ย อีกเดี๋ยวแม่จะต้องสั่งสอนนังเหมยเหมยแน่นอน ลูกอย่าโมโหเลยนะ!”
อู่เยวี่ยใบหน้าไร้อารมณ์หันตัวมา พูดเสียงเย็นชาลอยมาว่า “หนูมีอะไรที่ต้องโมโห หนูก็แค่โมโหแทนแม่ ตอนนี้เหมยเหมยไม่เห็นแม่อยู่ในสายตาเลยแม้แต่นิดเดียว”
อารมณ์โมโหของเหอปี้อวิ๋นปะทุขึ้นอีกครั้ง เยวี่ยเยวี่ยพูดไม่ผิด ยัยเด็กสมควรตายนั้นตอนนี้กำเริบเสิบสานเป็นอย่างมาก ไม่ให้ความเคารพเธอเลยแม้แต่น้อย แถมยังทำร้ายเยวี่ยเยวี่ยให้ต้องกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมมากมายขนาดนั้น มีอย่างนี้ที่ไหนกัน!
ไม่สนว่าคุณอู่จะพูดยังไง อีกเดี๋ยวเธอจะต้องสั่งสอนยัยเด็กสมควรตายนี้ให้สาสมอย่างแน่นอน!
ถ้าไม่จัดการอีกล่ะก็ ยัยเด็กสมควรตายนี่จะกำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว!
บ้านตระกูลเหยียนวันนี้ครึกครื้นเป็นอย่างมาก เหยียนโฮ่วเต๋อสามีภรรยาต่างก็อยู่กันครบ ยังมีอธิการบดี หัวหน้าฝ่ายต่าง ๆ กล่าวได้ว่าต่างก็เป็นคนใหญ่คนโตของโรงเรียน อู่เจิ้งซือก็รวมอยู่ด้วย อาจารย์แบบอย่างของเขานั้นถูกกำหนดเอาไว้
เรียบร้อยแล้ว ได้รับพิจารณาและคัดเลือกเป็นอาจารย์แบบอย่างเจ็ดปีติดต่อกัน ก็นับว่ามีหน้ามีตาอยู่แน่นอน
“เป็นเกียรติของหมิงซุ่นจริง ๆ ที่มีอาจารย์อู่คอยลำบากชี้แนะ ผมขอเคารพอาจารย์อู่หนึ่งแก้ว ผมหมดแก้ว ส่วนอาจารย์อู่ก็ตามสบาย”
เหยียนโฮ่วเต๋อชูแก้วเหล้าขึ้น ยิ้มน้อย ๆ อู่เจิ้งซือรีบลุกขึ้น “ไม่หรอกครับ ไม่ลำบากเลย ชี้แนะนักเรียนเป็นหน้าที่ที่ผมต้องรับผิดชอบอยู่แล้วครับ โดยเฉพาะนักเรียนอย่างหมิงซุ่น ผมยังอยากให้มีมาหลาย ๆ คนเลยครับ!”
ถึงแม้ว่าบนใบหน้าของถานซูฟางจะมีรอยยิ้ม แต่ในใจกลับรู้สึกหงุดหงิดไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก ทุก ๆ ปีก็จะจัดวันเกิดให้ไอสารเลวนี่ หมิงต๋าของเธอแม้แต่ครั้งเดียวก็ไม่เคยจะจัดให้ ใจลำเอียงจนไปถึงแม่น้ำหวงผู่แล้ว
เชอะ ต่างก็แก่จะลงโลงอยู่ละ กระโดดโลดเต้นได้อีกแค่ไม่กี่ปีหรอก ดูสิว่าพวกแกยังจะสามารถปกป้องไอสารเลวนี่ได้อีกนานเท่าไร?
วันนี้ที่บ้านตระกูลเหยียนกินหม้อไฟกัน กินหม้อไฟในวันที่หนาวที่สุดของปี ไม่มีอะไรเหมาะสมไปมากกว่านี้อีกแล้ว อีกทั้งคุณยายหยางก็เตรียมวัตถุดิบไว้เต็มที่ เนื้อก็ดีเหล้าก็ดีผักก็ดี ทุกคนต่างก็มีใบหน้าเปล่งปลั่งกินกันอย่างมีความสุข พูดคุยกันอย่างคึกคัก
ตรงข้ามกับเจ้าของวันเกิดวันนี้อย่างเหยียนหมิฃซุ่นที่นั่งเงียบมาโดยตลอด กินโดยพูดอะไรสักคำ รอจนกินไปได้พอสมควร เขาก็ออกมาอย่างเงียบเชียบ พวกเหยียนโฮ่วเต๋อกำลังพูดคุยกันอย่างวุ่นวาย ไม่ได้แม้แต่สนใจเขา
เหยียนหมิงซุ่นพูดกับคุณยายหยาง แล้วก็กลับห้องของตัวเอง ผู้หญิงที่ชั่วร้ายอย่างถานซูฟางเดิมทีก็ไม่ได้มีคุณสมบัติที่จะมาฉลองวันเกิดของเขาเสียด้วยซ้ำ เขาไม่ยินดีที่จะอยู่ด้วยแม้แต่นาทีเดียว
พอกลับถึงห้อง เหยียนหมิงซุ่นวิ่งไปทางหน้าต่างอย่างระวังตัว เปิดหน้าต่างออก “ใคร?”
“พี่หมิงซุ่น สุขสันต์วันเกิด!”
ใบหน้าเล็กแดง ๆ หันมายิ้มให้เขา เหมือนกับแอปเปิ้ลก็ไม่ปาน ทั้งกรอบทั้งหวาน
…………………………………………..