ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 419 อู่เยวี่ยผู้ลำพองใจ + ตอนที่ 420 จะต้องตรวจหาฆาตกร
ตอนที่ 419 อู่เยวี่ยผู้ลำพองใจ
ชุดเต้นที่อู่เหมยใส่นั้นยาวมาก สามารถบังเท้าได้จนมิด ถ้าหากไม่ใช่เพราะเจียงซินเหมยเห็นเข้า กลัวว่าเวลาผ่านไปนานพวกจ้าวอิงหนานก็ยังไม่ค้นหาสาเหตุที่อู่เหมยเป็นลมได้
“ไอหยา ทำไมเลือดถึงได้ไหลเยอะขนาดนี้?”
อาจารย์อู๋เปิดชุดให้แยกออก กลับเห็นรองเท้าสีเขียวข้างเท้าซ้ายของอู่เหมยครึ่งหนึ่งกลายเป็นสีแดงไปแล้วเรียบร้อย สยดสยองน่าตกตะลึงเป็นอย่างมาก
“เท้าทำไมถึงได้มีเลือดไหล? เท้าของเหมยเหมยได้รับบาดเจ็บหรอ?”
จ้าวอิงหนานถึงแม้ว่าจะปวดใจที่อู่เหมยเลือดไหลเยอะขนาดนี้ แต่ก็ยังผ่อนลมหายใจ เลือดไหลแสดงว่าบาดเจ็บแค่ผิวหนัง ใส่ยาหน่อยก็ได้แล้ว ที่กลัวคือกลัวการบาดเจ็บภายใน ถ้าเป็นอย่างนั้นคงน่ากังวลมากจริงๆ
พวกสยงมู่มู่ความคิดแรกที่นึกถึงคือตะปูก่อนหน้านั้น อาจารย์อู๋รีบถอดรองเท้าของอู่เหมยออก ถุงเท้าสีขาวถูกย้อมกลายเป็นถุงเท้าสีแดง ฝ่าเท้าด้านหน้ามีตะปูตัวใหญ่แทงอยู่ แทงเข้าเนื้อไปแล้วครึ่งหนึ่ง
“ผิดที่ฉันเอง ตอนนั้นฉันควรจะตรวจสอบให้รอบคอบกว่านี้”
เจียงซินเหมยโทษตัวเองเป็นอย่างมาก เป็นเพราะเธอประมาทเลินเล่อเกินไป ถึงได้ทำให้เพื่อนได้รับบาดเจ็บขนาดนี้ เจียงซินเหมยที่ยิ่งคิดก็ยิ่งทุกข์ใจจนน้ำตาไหลออกมา อาจารย์อู๋จึงรีบปลอบใจเธอ
“เป็นความรับผิดชอบอาจารย์เอง ไม่เกี่ยวกับหนูหรอก อย่าร้องเลย!”
ในใจของอาจารย์อู๋ก็ทุกข์ใจเช่นกัน นักเรียนเกิดเรื่องขึ้น แน่นอนว่าเป็นเพราะอาจารย์อย่างเธอไม่ได้พยายามทำหน้าที่ให้ดีพอ อีกทั้งตอนนั้นถ้าหากไม่ใช่เพราะเธอรีบร้อนเร่งพวกเขา เจียงซินเหมยก็คงจะไม่ตรวจสอบอย่างรีบร้อน อู่เหมยก็จะไม่ได้รับบาดเจ็บแบบนี้แล้ว
สยงมู่มู่โมโหเป็นอย่างมาก “หากฉันรู้นะว่าใครเป็นคนวางตะปูไว้ จะไม่ปล่อยมันไว้แน่!”
จ้าวอิงหนานได้ยินก็งุนงงสงสัยเป็นอย่างมาก บอกให้สยงมู่มู่เล่าเรื่องนี้ให้ชัดเจน สยงมู่มู่เอาเรื่องที่ก่อนการแสดงจะเริ่มก็มีตะปูอยู่ในรองเท้าเล่าออกมาจนหมด เจียงซินเหมยหยิบตะปูที่อยู่บนพื้นขึ้นมา พูดว่า “คืออันนี้แหละ หนูเทออกมาก็มีอยู่หลายอัน แต่นึกไม่ถึงว่าจะยังมีเหลืออีกอันอยู่ในรองเท้า”
ทางด้านอู่เยวี่ยการแสดงของห้องเธอเริ่มไปแล้ว อู่เยวี่ยส่งเพื่อนนักเรียนที่จะแสดงขึ้นเวทีไป ใจเธอแย่เป็นอย่างมาก นึกไม่ถึงว่าอู่เหมยนังโง่นี่จะสามารถอดทนยืนหยัดจนเต้นจบ?
หรือว่าเธอไม่เจ็บ?
แต่ตอนนั้นเธอตั้งใจปักตะปูอันหนึ่งไว้ในรองเท้า เดิมยังคิดจะปักเอาไว้ทั้งสองข้าง แต่พวกสยงมู่มู่เข้ามาเสียก่อน เลยปักได้แค่ข้างเดียว แต่ข้างเดียวก็เกินพอแล้ว
สิบนิ้วเจ็บก็เจ็บไปถึงใจ เต้นโดยที่มีตะปูปักอยู่ที่ฝ่าเท้า ก็ไม่ต่างกับการกลิ้งขึ้นภูเขา อู่เยวี่ยมั่นใจว่าอู่เหมยจะต้องรับไม่ได้กับความเจ็บปวดแบบนี้ เต้นไปไม่ถึงครึ่งก็จะต้องปล่อยไก่หน้าแตกแน่นอน
แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม อู่เหมยไม่เพียงแต่อดทนยืนหยัดจนเต้นจบ แต่ยังเต้นได้ดีมากอีกด้วย ถึงแม้ว่าเธอไม่ได้เห็น แต่เสียงปรบมือของผู้ชมก็อธิบายได้ทั้งหมด
ใจของอู่เยวี่ยหล่นไปถึงระดับต่ำสุดๆ ถ้าไม่เกินความคาดหมาย การแสดงของอู่เหมยจะต้องได้รับคัดเลือกแน่นอน การแสดงก่อนหน้ายกเว้นการแสดงชายคู่นั้นแล้ว การแสดงของเธอได้รับเสียงปรบมือมากขนาดนี้ ส่วนการแสดงอื่นๆ ก็ธรรมดาๆ
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้สนใจการเข้าร่วมการแสดง แต่เธอสนใจหากอู่เหมยจะได้รับเลือก
ช่วงระยะเวลาสั้นๆ นี้อู่เหมยได้รับชื่อเสียงเกียรติยศมากมายพอแล้ว เธอควรจะหาวิธีมาทำลายอำนาจของนังโง่นี่ซะ!
อู่เยวี่ยหน้าอึมครึมมองไปทางอู่เหมยที่โดนล้อมเอาไว้ สายตามีความลำพองใจ ถ้าหากว่าแกได้รับแล้วมันจะยังไง?
เท้าได้รับบาดเจ็บจนกลายเป็นแบบนี้ ภายในระยะเวลาสั้นๆ ไม่มีทางหายแน่นอน การเข้าร่วมการแสดงของทั้งเมืองในอีกสองวันให้หลังนั้นคงไม่มีปัญญาไปแน่นอน ตำแหน่งที่ได้มานั้นมีหรือไม่มีผลลัพธ์ก็ไม่ต่างกัน
อู่เยวี่ยปรับเปลี่ยนอารมณ์เป็นรีบร้อนและใส่ใจอย่างรวดเร็ว วิ่งมาทางอู่เหมย ถามอย่างเป็นห่วงอย่างถึงที่สุดว่า “เหมยเหมยทำไมเธอถึงได้เป็นลมไปล่ะ? ไอหยา ทำไมเท้าของเธอถึงได้เลือดออกเยอะขนาดนี้?”
เท้าซ้ายที่น่าสงสารของอู่เหมยโดนอู่เยวี่ยจ้องมองอย่างชัดเจนถี่ถ้วน รุนแรงกว่าที่เธอคิดเอาไว้หลายเท่า อย่างน้อยก็ไม่มีทางรักษาให้หายภายในก็สิบวันหรือครึ่งเดือน อู่เยวี่ยพยายามเก็บกดความดีใจที่ถาโถมเข้ามา ใบหน้าแสดงออกถึงความเป็นห่วง แสดงภาพลักษณ์เป็นพี่สาวที่ห่วงน้องสาวได้อย่างยอดเยี่ยม
……………………………………………
ตอนที่ 420 จะต้องตรวจหาฆาตกร
อู่เหมยก็ฟื้นขึ้นมาในไม่ช้า เจ็บจนต้องตื่นขึ้นมา พ่อสยงกำลังแบกเธออยู่ เตรียมที่จะพาเธอไปส่งห้องพยาบาลของโรงเรียน ด้านหลังตามกันมาเป็นพรวน ยิ่งใหญ่ตระการตามาก
“เหมยเหมยฟื้นแล้วหรอ? ยังเจ็บอยู่หรือไม่?” จ้าวอิงหนานถามอย่างห่วงใย
อู่เหมยส่ายหัว เสียงอ่อนแรงเป็นอย่างมาก “ไม่เจ็บแล้วค่ะ หนูไม่ได้เต้นแย่ใช่ไหมคะ?”
“ไม่เลย ดูดีมากๆ ลูกนี่มันจริงๆ เลย เท้ามีตะปูแทงเข้าไปก็ไม่รู้จักเรียกให้คนช่วย ยังจะซื่อบื้อทนเต้นต่อไปอีก ลูกไม่เจ็บหรือไง!” จ้าวอิงหนานพูดอย่างโมโห ทั้งโมโหทั้งรักอู่เหมย ไม่เคยพบเห็นเด็กที่ซื่อสัตย์จริงใจแบบนี้มาก่อน
อู่เหมยยิ้มอย่างน่ารักไร้เดียงสา “หนูไม่อยากยอมแพ้กลางคัน อีกทั้งอาจารย์เฮ่อและสยงมู่มู่ลูกพี่ลูกน้องพวกเขาต่างก็ลำบากมาตั้งเดือนกว่าแล้ว ไม่อยากให้มันพังทลายลงเพราะหนูแค่คนเดียว”
สยงมู่มู่ร้องเสียงต่ำ “โง่!”
ท่าทางของเขาไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ ลำคอตีบตันดวงตาแดง ในใจก็ทุกข์ใจอยู่เหมือนกัน รู้สึกไม่พอใจหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก แต่ว่าเขาก็ไม่กล้าที่จะดูหมิ่นดูแคลนผู้หญิงอีกแล้ว มิน่าล่ะแม่ของเขามักจะพูดอยู่เสมอว่า บนโลกใบนี้ผู้หญิงเป็นพวกที่เหนียวทนทานที่สุดแล้ว
เขานึกไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าอู่เหมยจะยืนหยัดอดทนจนเต้นจบ เหยียบตะปูไปเต้นไป อีกทั้งยังมีท่ากระโจนหมุนรอบที่เป็นท่าที่ยากมากๆ อีกด้วย เขาไม่กล้าคิดเลยว่าตอนนั้นจะเจ็บขนาดไหน
หากเปลี่ยนเป็นเขา คงจะไม่สามารถยืนหยัดต่อไปได้!
อู่เหมยไม่มีแรงโต้เถียงกับสยงมู่มู่ ทำได้แค่เพียงส่งเสียงฮึหนึ่งที แล้วสลบไสลไปอีกครั้ง
ทางด้านการแสดงก็ยังดำเนินต่อไป รองอาจารย์ใหญ่เข้าไปพูดใกล้ๆ หูของอาจารย์ใหญ่หยวนอยู่ครู่หนึ่ง อาจารย์ใหญ่หยวนสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย สั่งกำชับรองอาจารย์ใหญ่อยู่หลายประโยค รองอาจารย์ใหญ่รีบจากมา
“อาจารย์ใหญ่หยวนหากมีเรื่องอะไรก็ไปจัดการได้นะครับ” เหยียนโฮ่วเต๋อพูดยิ้มๆ
“รองอาจารย์ใหญ่ไปจัดการแล้ว แล้วก็ไม่ได้มีเรื่องใหญ่อะไร ก็แค่อู่เหมยได้รับบาดเจ็บนิดหน่อย”
อาจารย์ใหญ่หยวนไม่ได้บอกว่าอู่เหมยโดนตะปูแทง พูดแค่ว่าส้นเท้าได้รับบาดเจ็บ เขาอยู่ในวงการข้าราชการมาช้านาน พอได้ยินรองอาจารย์ใหญ่พูดว่ารองเท้ามีตะปูอยู่ ก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นการวางแผนร้าย ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า โรงเรียนทดลองที่อยู่ภายใต้การชี้แนะของคนฉลาดอย่างเขา แน่นอนว่าในแต่ละวันล้วนเต็มไปด้วยอนาคตอันสดใส เต็มไปด้วยความเจริญก้าวหน้าสดใส จะมีคนไม่ดีเอาตะปูไปใส่ในรองเท้าได้ยังไงกัน?
มันเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!
เหยียนโฮ่วเต๋อพูดทันทีว่า “มิน่าล่ะถึงได้เห็นเด็กน้อยนั่นเหงื่อแตกพลั่ก เหตุผลก็เพราะเท้าเคล็ดบนเวทีนี่เอง เด็กคนนี้อึดถึกไม่เบาเลย”
อาจารย์ใหญ่หยวนผงกหัวอย่างเห็นด้วย “ไม่ผิด ลูกสาวคนเล็กของอาจารย์อู่ดูมีอนาคตเป็นอย่างยิ่ง หน้าตาก็เรียกได้ว่างดงาม เต้นรำวาดภาพทำได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งยังไม่กลัวเจ็บไม่กลัวความลำบาก และยังมีแม่บุญธรรมอย่างจ้าวอิงหนานอีก จุ๊ๆ วันหลังอนาคตจะต้องรุ่งโรจน์อย่างหยุดไม่อยู่!”
เหยียนโฮ่วเต๋อกับอาจารย์ใหญ่หยวนนั้นมีความคิดเหมือนกัน ทั้งสองคนแลกเปลี่ยนกันอย่างมีความเข้าใจชัดเจน ยิ้มอย่างมีเลศนัย
เท้าของอู่เหมยบาดเจ็บรุนแรงมาก อันที่จริงก็เป็นแผลแค่รูที่โดนตะปูตำ อาจารย์ห้องพยาบาลของโรงเรียนได้จัดการทำแผลให้กับเธอ พันด้วยผ้าพันแผล แนะนำด้วยความหวังดี “เพราะว่าโดนโลหะทิ่ม เพื่อความปลอดภัยไปโรงพยาบาลฉีดยาทำแผลจะดีกว่า”
อันที่จริงอู่เหมยรู้สึกว่าไม่จำเป็นอะไร ตะปูอันนั้นไม่ได้ขึ้นสนิม น่าจะไม่เป็นอะไร แต่จ้าวอิงหนานไม่วางใจ ให้พ่อสยงแบกไปโรงพยาบาลประชาชนที่อยู่ใกล้ ๆ นี้ ฉีดวัคซีนกันบาดทะยักให้กับอู่เหมย นี่ถึงจะยกพรรคพวกพาเธอกลับบ้านอย่างคึกคัก
แต่ว่าจ้าวอิงหนานไม่ได้เป็นคนพูดง่ายขนาดนั้น จึงพูดกับอาจารย์อู๋เพื่อเรียกชำระบัญชีเอาความว่า
“อาจารย์อู๋ ตะปูคงไม่สามารถโผล่ขึ้นมาได้เองหรอกนะ อีกทั้งโผล่ขึ้นมาเยอะแยะขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่ามีคนตั้งใจคิดอยากจะทำร้ายเหมยเหมยของฉันแน่นอน เรื่องนี้ฉันอยากจะขอให้อาจารย์อู๋สืบหาให้แน่ชัด ไม่สามารถให้เหมยเหมยของฉันต้องมาเคราะห์ร้ายขนาดที่ว่าคนร้ายเป็นใครมาจากไหนก็ยังไม่รู้ไม่ได้หรอกนะ!”
…………………………………………..