ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 427 ความรู้สึกที่ได้ป้อนก็ไม่เลวเลย + ตอนที่ 428 มาอีกแล้ว น่ารำคาญจริงๆ
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- ตอนที่ 427 ความรู้สึกที่ได้ป้อนก็ไม่เลวเลย + ตอนที่ 428 มาอีกแล้ว น่ารำคาญจริงๆ
ตอนที่ 427 ความรู้สึกที่ได้ป้อนก็ไม่เลวเลย
เดิมทีอู่เหมยยังคิดจะฟ้องและระบายถึงความไม่เป็นธรรมที่เธอได้เจอ แต่ใครจะคิดว่าตาคนนี้จะไม่มีแม้แต่คำปลอบใจเลยสักคำ กลับโดนพูดจาแดกดันกลับมาอีกต่างหาก เหมือนกับเอามีดมาแทงเข้ากลางใจเธอเลยจริงๆ!
แถมยังตั้งใจปีนต้นไม้ กระโดดขึ้นมาชั้นสองเพื่อพูดแทงใจดำ โหดเหี้ยมกว่าอู่เจิ้งซือเสียอีก อู่เหมยยิ่งคิดก็ยิ่งน้อยใจ น้ำตาก็ยิ่งไหลพราก หยุดก็หยุดไม่อยู่
“เต้นทำไมจะไม่เจ็บ ฉันเจ็บจะตายอยู่แล้ว แต่ฉันขึ้นเวทีไปแล้ว ถ้าหากถอนตัวกลางคันล่ะก็อู่เยวี่ยจะต้องมองแล้วก็หัวเราะเยาะฉันแน่นอน อีกทั้งฉันก็ไม่อยากให้อาจารย์เฮ่อแล้วก็พวกสยงมู่มู่เสียแรงกำลังทั้งใจและกายที่ทำไปโดยไร้ประโยชน์ พี่พูดสิว่าทำไมฉันถึงโง่ไปได้? ฉันโง่ตรงไหน?”
อู่เหมยร้องไห้สะอื้นไปพูดไป อย่าให้พูดเลยว่าน้อยใจมากแค่ไหน แม้กระทั่งคุณปู่ของสยงมู่มู่ยังชื่นชมเธอเลย บอกว่าเธอมีจิตวิญญาณมีความเป็นมืออาชีพของนักแสดง แต่เหยียนหมิงซุ่นกลับยังว่าเธอ!
เหยียนหมิงซุ่นที่มองเด็กน้อยร้องไห้จนดูไม่ได้ก็รู้สึกปวดใจขึ้นมาอีกครั้งแถมยังรู้สึกขำอีกด้วย แต่ความรู้สึกที่มีมากที่สุดนั่นคือความปลื้มใจ
อันที่จริงที่เขาพูดไปแบบนั้นก็ไม่ถูก ทุกๆ คนต่างก็ต้องมีจิตวิญญาณในการทำงานของตัวเอง ก็เหมือนกับทหารที่ยืนยาม ต่อให้มีมีดตกลงมาจากฟากฟ้า ป้อมที่ควรจะยืนก็ต้องยืนให้จบ
ทหารก็มีหน้าที่ของทหารที่ต้องรับผิดชอบ อาจารย์ก็มีหน้าที่ของอาจารย์ที่ต้องรับผิดชอบ นักแสดงก็มีหน้าที่ของนักแสดงที่ต้องรับผิดชอบ ทุกๆ คนต่างก็มีหน้าที่ของพวกเขาที่ต้องรับผิดชอบ เมื่อคุณอยู่ในตำแหน่งบางตำแหน่ง ตำแหน่งงานนั้นก็เป็นหน้าที่ที่คุณต้องรับผิดชอบ
อู่เหมยเธอเหยียบโดนตะปูก็ยังอยากจะเต้นให้จบ ความเข้มแข็งและทรหดพวกนี้เขาขื่นชมมากจริงๆ แต่ก็ปวดใจไม่น้อย
“หยุดร้องได้แล้ว พี่พูดผิดเอง เหมยเหมยทำได้ดีมาก พี่ชื่นชมเธอนะ!”
เหยียนหมิงซุ่นหยิบผ้าเช็ดหน้าสะอาดออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ซับน้ำตาบนใบหน้าให้อู่เหมยอย่างเสียไม่ได้ ทั้งตาทั้งจมูกร้องจนแดงไปหมดแล้ว ช่างเป็นเด็กน้อยขี้แยเสียจริง
อู่เหมยหัวเราะทั้งน้ำตา แย่งเอาผ้าเช็ดหน้าของเหยียนหมิงซุ่นมา สั่งน้ำมูกอย่างแรงราวกับระบายความอัดอั้นในใจออกมา เพื่อให้เขาตำหนิตัวเองว่าโง่เขลานัก!
หลังจากสั่งน้ำมูกเสร็จก็กลับมาเสียใจอีกครั้ง คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเป็นถึงผู้นำระดับสูงในอนาคต ทำไมเธอถึงกล้าสั่งน้ำมูกใส่ผ้าเช็ดหน้าต่อหน้าผู้ยิ่งใหญ่ได้นะ?
“ฉัน…ฉัน…เดี๋ยวฉันจะซักผ้าเช็ดหน้าให้สะอาดนะ ไม่ใช่สิ พรุ่งนี้ฉันจะไปซื้อผืนใหม่ให้เลย!”
อู่เหมยพูดตะกุกตะกัก ก้มหน้างุดลงต่ำ ไม่กล้าเงยหน้ามองเหยียนหมิงซุ่น ผ้าเช็ดหน้าที่เปียกชุ่มก็โดนเธอบีบไว้ในมือแน่น ใบหน้าแดงก่ำไปหมด
เหยียหมิงซุ่นขำโดยไม่รู้ตัว มีความกล้าทำเรื่องไม่ดี แต่กลับไม่มีความกล้าที่จะมองเขา ช่างเป็นเด็กซื่อบื่อที่ย้อนแย้งจริงๆ
“ผ้าเช็ดหน้าก็ให้เธอไปนี่แหละ เอาไว้ค่อยๆ สั่งน้ำมูกเถอะ!”
เหยียนหมิงซุ่นตั้งใจเน้นน้ำเสียงหนักไปที่คำว่า ‘สั่งน้ำมูก’ สามคำนี้ อู่เหมยก็ยิ่งเขินอายกว่าเดิม หัวก็ยิ่งก้มต่ำลงไปอีก
“เงยหน้าอ้าปาก อา!”
อู่เหมยทำตามคำพูดของเหยียนหมิงซุ่น เพิ่งจะอ้าปาก ก็มีลูกอมนมถั่วที่ทั้งหวานทั้งหอมหนึ่งเม็ดป้อนเข้าปากมา อู่เหมยปิดปากอย่างไม่รู้ตัว อมไว้ในปากค่อยๆ ลิ้มรส หันไปยิ้มเอาใจให้เหยียนหมิงซุ่น
“ลูกอมอร่อยมากเลย”
เหยียนหมิงซุ่นมองเด็กน้อยที่หรี่ตากินลูกอมอย่างพอใจ ถ้าหากไม่กังวลว่าจะทำให้ฟันเล็กๆ ของใครบ้างคนผุ เขาก็อยากจะมาป้อนตอนเย็นทุกๆ วันเลยทีเดียว
ความรู้สึกที่ได้ป้อนก็ไม่เลวเลยจริงๆ ทำเอาใจของเขามีความสุขมากๆ
“คนที่โปรยตะปูคนนั้นหาตัวได้หรือยัง?” เหยียนหมิงซุ่นถาม
อู่เหมยส่ายหัว พูดอย่างไม่พอใจว่า “ฉันสงสัยอู่เยวี่ย นอกจากเธอแล้วก็ไม่มีใครอยากจะทำร้ายฉัน อีกทั้งเมื่อครู่ฉันลองหยั่งเชิงเธอแล้ว ดูหวาดผวาอย่างเห็นได้ชัด”
เหยียนหมิงซุ่นคิ้วกระตุก เขารู้สึกว่าอู่เยวี่ยมีความเป็นไปได้สูงมาก ใจที่อิจฉาริษยาของผู้หญิงคนนี้นั้นแรงกล้ามาก ทั้งโรงเรียนคนที่ไม่หวังจะให้อู่เหมยได้ดีที่สุด แน่นอนว่าจะต้องมีอู่เยวี่ยรวมอยู่ด้วย
“เรื่องพวกนี้อย่าพูดต่อหน้าพ่อของเธอนะ อาจารย์อู่ได้ยินเข้าจะต้องไม่ชอบใจแน่นอน” เหยียนหมิงซุ่นพูดปลอบใจเสียงเบา
อู่เหมยพยักหน้า “ฉันไม่ได้พูด ตอนนี้ฉันก็ไม่มีหลักฐานที่เชื่อถือได้มาพิสูจน์ พูดไปคนอื่นก็ไม่เชื่อหรอก ถึงอย่างไรฉันก็จะคิดหาวิธีแก้แค้นกลับไปอยู่แล้ว”
………………………………………….
ตอนที่ 428 มาอีกแล้ว น่ารำคาญจริงๆ
อู่เหมยพูดจบก็มองไปทางเหยียนหมิงซุ่น เธออยากเห็นปฏิกิริยาของเหยียนหมิงซุ่นว่าจะเหมือนกับสยงมู่มู่หรือไม่ ที่คอยพยายามชี้นำเธอไม่ให้ใช้วิธีการชั่วร้าย และยังหาเหตุผลมาหว่านล้อมให้เธอใช้ความสามารถที่แท้จริงเอาชนะอู่เยวี่ยจะดีกว่า
สยงมู่มู่พูดแบบนี้ได้ แต่เหยียนหมิงซุ่นห้ามพูดเช่นนี้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเธอคงรู้สึกไม่ดีเท่าไรนัก เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร?
ถึงอย่างไรเหยียนหมิงซุ่นก็ห้ามพูดแบบนี้!
โชคดีที่เหยียนหมิงซุ่นไม่ทำให้อู่เหมยผิดหวัง ทำแค่เพียงส่งยิ้ม แต่ไม่ได้มีท่าทีเหมือนสยงมู่มู่ ที่ทำท่าทางโบกไม้โบกมือสั่งสอน อู่เหมยอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
เหยียนหมิงซุ่นไม่รู้สึกเลยสักนิดว่าคำพูดของอู่เหมยมันจะผิดตรงไหน ยามลำบากน้ำหยดเดียวก็นับเป็นบุญคุณอันใหญ่หลวง แต่ความแค้นถึงแม้แค่ทิ่มแทงด้วยปลายเข็ม ก็ต้องแทงกลับด้วยมีดดาบ หนามยอกเอาหนามบ่งถึงจะถูก
คนอื่นตบคุณ คุณก็หันหน้าอีกข้างให้เขาตบ นอกจากพระพุทธเจ้าแล้ว ก็มีแต่พวกคนโง่นั่นแหละที่จะยอม!
เขาทั้งไม่ใช่พระพุทธเจ้าแล้วก็ไม่ใช่ทั้งคนโง่ แน่นอนว่าจะไม่ยืนโง่ให้ถูกเอาเปรียบแน่นอน จะพูดอย่างไรก็ต้องแก้แค้นคืน อู่เหมยพูดแบบนี้ก็ตรงใจเขาพอดี!
“ไม่เป็นไร ปีหน้าก็ยังมีโอกาส รักษาแผลให้หายก่อน” เหยียนหมิงซุ่นพูดปลอบใจ
สำหรับงานการแสดงกลางคืนวันตรุษจีนนั้น ความคิดของเขาก็เหมือนกับของอู่เหมย ความเป็นไปได้มีเพียงน้อยนิด ไม่ต้องไปเพ้อฝันหวังมากไปจะดีกว่า
“อืม ปีหน้าฉันจะต้องเอาที่หนึ่งมาอีกให้ได้ ให้อู่เยวี่ยโมโหจนตายไปเลย” อู่เหมยพูดอย่างโมโห เดิมทีเธอคิดว่าหลังจากที่จบการแสดงในปีนี้แล้วก็จะตั้งใจมุ่งมั่นเรียนวาดรูปอย่างเดียวเลย
แต่โดนอู่เยวี่ยแกล้งครั้งนี้ ใจที่มุ่งมั่นของอู่เหมยก็เหมือนโดนแทงไปด้วย อะไรที่อู่เยวี่ยไม่อยากเห็นที่สุด เธอก็จะทำให้ได้ ให้นังสารเลวนั้นโมโหจนกระอักเลือดตาย
เหยียนหมิงซุ่นแกะเปลือกลูกอมป้อนให้อู่เหมยหนึ่งเม็ด พูดให้กำลังใจเธออยู่หลายประโยค อู่เหมยก็มีความเชื่อมั่นว่าจะต้องทำได้ในทันที
“เหมยเหมย นี่พี่เหมยซูหาน เปิดประตูหน่อย”
มีคนเคาะประตู อู่เหมยตัวสั่น เหมยซูหานทำไมถึงมาได้ล่ะ?
เหยียนหมิงซุ่นขมวดคิ้วแน่น เจ้านี่มาทำไม ช่างเป็นคนที่น่ารำคาญเสียจริงๆ เขาหันไปพูดกับอู่เหมยอย่างไม่มีเสียงว่า “พี่กลับก่อนนะ ลูกอมนี้พี่เหลือไว้ให้ หนึ่งวันกินได้แค่สามเม็ดนะ”
พูดจบเขาก็หันหลังกระโดดออกไปนอกหน้าต่าง ทำเอาอู่เหมยตกใจยกใหญ่ รีบพุ่งตัวไปตรงหน้าต่างทอดมองลงไปก็เห็นเหยียนหมิงซุ่นลงไปถึงพื้นเรียบร้อยแล้ว หันมาโบกไม้โบกมือให้เธอแล้วรีบสาวเท้าเดินออกไป
อู่เหมยหัวเราะอย่างอดไม่ได้ คาดไม่ถึงว่าผู้นำระดับสูงในอนาคตจะปีนกำแพงเป็นตั้งแต่เด็ก!
ไม่สิ คำพูดประโยคนี้ทำไมฟังดูแล้วถึงรู้สึกว่ามันคลุมเครือแบบนี้ล่ะ?
อู่เหมยหน้าร้อนผ่าวอย่างไม่ตั้งใจ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกอับอายขายหน้า ด่าตัวเองที่ไม่รู้จักยางอาย ทำไมถึงได้คิดมโนในเชิงชู้สาวกับผู้นำระดับสูงในอนาคตได้!
ท่องคาถาอยู่ในใจเพื่อสงบสติไปสามรอบ อู่เหมยถึงค่อยๆ ดึงสงบสติกลับมาได้ เพียงแต่ว่าในหัวสมองกลับมีรูปลูกกระเดือกอันเซ็กซี่วนเวียนไปมา ขยับขึ้นลงอย่างยั่วยวน ภาพนั้นจะทำให้หลงใหลเกินไปแล้ว!
อู่เหมยโมโหจนตบตัวเองอย่างแรง ไปทีหนึ่ง ในที่สุดก็เอาความหลงใหลที่มีอยู่เต็มหัวออกไปจนหมด
“เหมยเหมยเปิดประตูลูก เหมยซูหานเขามาเยี่ยมลูกน่ะ” อู่เจิ้งซือก็เคาะประตูแล้ว
อู่เหมยขมวดคิ้ว เดิมทีเธอจะแสร้งทำเป็นหลับไปแล้ว แต่อู่เจิ้งซือดันมาเคาะประตูด้วยตนเอง เธอก็เลยไม่สามารถแกล้งหลับต่อไปได้ จึงได้แต่แสร้งทำเป็นเพิ่งตื่นแล้วตอบกลับไปว่า “รอสักครู่ค่ะ”
………………………………………….