ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 429 วันเกิดช้าไปแค่หนึ่งวัน + ตอนที่ 430 ข้าวเหนียวปั้นที่สวยงาม
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- ตอนที่ 429 วันเกิดช้าไปแค่หนึ่งวัน + ตอนที่ 430 ข้าวเหนียวปั้นที่สวยงาม
ตอนที่ 429 วันเกิดช้าไปแค่หนึ่งวัน
เหมยซูหานได้ยินเสียงงัวเงียของอู่เหมย ถ้าหากว่าเป็นตอนปกติ เขาจะไม่รบกวนต่ออีกแน่นอน แต่วันนี้ไม่เหมือนกัน วันนี้เป็นวันเกิดของเขา เขาอยากจะร่วมแบ่งปันวันพิเศษกับอู่เหมย ไหนเลยจะกลัวว่าจะเป็นการเสียมารยาท
อู่เหมยทำได้แค่เพียงทำผมให้ยุ่งเหยิง บนเตียงก็ทำให้ยุ่งๆ เหมือนกัน หาวอีกหลายครั้ง แล้วก็กระโดดไปเปิดประตู ส่งเสียงว่า “พ่อ พี่ซูหาน มีเรื่องอะไรหรอคะ?”
อู่เจิ้งซือถามอย่างเป็นห่วงว่า “เท้ายังเจ็บอยู่ไหม?”
“ยังเจ็บอยู่นิดหน่อยค่ะ แต่ดีกว่าตอนบ่ายเยอะแล้ว” อู่เหมยตอบ
เหมยซูหานสีหน้าเปลี่ยน ถามอย่างร้อนใจว่า “เท้าของเหมยเหมยเกิดอะไรขึ้น? หกล้มหรอ?”
อู่เจิ้งซืออธิบายว่า “ก็แค่ตอนเต้นไม่ทันระวังทำให้ได้รับบาดเจ็บน่ะ ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร ซูหานคุยกับเหมยเหมยไปเถอะ ใช่แล้ว วันเกิดของนายใกล้จะถึงแล้วใช่ไหม?”
เหมยซูหานตอบกลับอย่างเคารพนบน้อมว่า “วันเกิดของผมคือวันนี้ครับ ฉลองกับแม่ที่บ้านไปแล้วครับ นี่เป็นขนมที่แม่ผมทำด้วยตัวเอง แม่ให้ผมแบ่งมาบางส่วนให้อาจารย์และภรรยาของอาจารย์ครับ”
อู่เหมยในใจบีบขึ้นมาเล็กน้อย ตอนนี้ถึงนึกขึ้นมาได้ว่าวันเกิดของเหมยซูหานคือวันนี้จริงๆ เพราะว่าเกิดตอนที่หนาวที่สุดของปี ดังนั้นถึงได้ตั้งชื่อว่าซูหาน
ที่ทำให้เธอตกใจก็คือ เวลาที่เหมยซูหานเกิดคือช้ากว่าเหยียนหมิงซุ่นแค่วันเดียว แบบนี้คิดขึ้นมาแล้ว พวกเขาเกิดปีเดียวกันเดือนเดียวกันเลย เพียงแค่ไม่ใช่วันเดียวกันเท่านั้นเอง
อู่เจิ้งซือตบหัวตัวเองอย่างขัดเคือง “ไอหยา ช่วงนี้มีเรื่องเยอะเกิน ทำให้ลืมวันเกิดของนายไปเลย ซูหานพรุ่งนี้หลังเลิกเรียนก็มากินข้าวที่บ้านอาจารย์นะ!”
ปีที่แล้วๆ มาวันเกิดเหมยซูหานนั้น อู่เจิ้งซือจะให้เหอปี้อวิ๋นทำกับข้าวมาโต๊ะใหญ่ เรียกเหมยซูหานมาที่บ้านเพื่อกินข้าว ก็นับไปว่าเป็นการฉลองวันเกิดให้กับเขาแล้ว แต่ปีนี้บ้านตระกูลอู่ไม่ค่อยสงบร่มเย็นมากเท่าไร อู่เจิ้งซือก็ลืมเรื่องนี้ไปเลย
เหมยซูหานเห็นชอบอย่างยินดี “ได้ครับ ต้องรบกวนภรรยาของอาจารย์แล้ว”
เหอปี้อวิ๋นที่อยู่ห้องรับแขก ได้ยินก็ยิ้มพลางพูดว่า “เหมยซูหานเธอก็เกรงใจแบบนี้ตลอด แค่ข้าวมื้อเดียวเอง พรุ่งนี้ฉันจะทำหมูผัดผักดองที่เธอชอบให้กิน”
“งั้นก็ลาภปากผมแล้ว” เหมยซูหานตอบอย่างเคารพนบน้อม เพียงแต่ในตากลับไม่มีความเคารพนับถือเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว
อู่เหมยยืนขาเดียวจนเมื่อยจะตายอยู่แล้ว เห็นคนพวกนี้พูดคุยกันไม่จบไม่สิ้น ก็อดหงุดหงิดไม่ได้ เลยกระโดดกลับไปนั่งเสียเลย
ในใจของเธออดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบระหว่างเหยียนหมิงซุ่นกับเหมยซูหาน คนหนึ่งก็เย็นชาเฉยเมยตลอด มองแล้วไม่ค่อยน่าคบหาสมาคมด้วยเท่าไร อีกคนกลับมีรอยยิ้มอยู่บนหน้าทั้งวัน อบอุ่นเหมือนลมในฤดูใบไม้ผลิก็ไม่ปาน
แต่เธอกลับชอบที่จะอยู่กับเหยียนหมิงซุ่นมากกว่า ความจริงเหมยซูหานดูแล้วน่าคบหาด้วยและคงสนิทสนมด้วยได้อย่างง่ายดาย แต่อู่เหมยกลับรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ไม่น่าคบหาด้วยมากที่สุด เหมือนบนตัวเขามีบางอย่างกั้นขวางไว้อยู่ คงไม่เผยความจริงใจให้คนอื่นได้เห็น
ชาติที่แล้วก็เช่นกัน เธอและเหมยซูหานใช้ชีวิตร่วมกันมาสิบกว่าปี จนถึงตอนนี้เธอยังก็ไม่เข้าใจคนนี้เลยจริงๆ
ไม่เหมือนเหยียนหมิงซุ่น ถึงแม้ว่าจะดูเย็นชา แต่เขาก็จริงใจ อีกทั้งพอได้คบหากันมานานแล้ว เธอก็ค้นพบว่าเหยียนหมิงซุ่นไม่ได้เย็นชาเลยสักนิด แต่กลับมีน้ำใจเสียด้วยซ้ำ เขาน่าจะเป็นพวกจริงใจกับเพื่อน ถึงแม้ว่าเขาจะมีเพื่อนไม่เยอะ แต่ถ้าหากสามารถเป็นเพื่อนกับเขาได้ จะเป็นเรื่องที่มีความสุขมากๆ เรื่องหนึ่งแน่นอน
อู่เหมยนึกถึงการกระทำเมื่อกี้ที่เหยียนหมิงซุ่นปีนต้นไม้ข้ามกำแพง อันที่จริงในใจก็ชอบที่เหยียนหมิงซุ่นทำแบบนี้ มันแปลได้ว่าเขานับเธอเป็นเพื่อนแล้วใช่ไหมนะ?
“เหมยเหมย เท้ายังเจ็บมากอยู่ใช่ไหม?”
เสียงของเหมยซูหานดังขึ้นข้างหูของอู่เหมย อู่เหมยรีบเงยหน้า ถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว เพราะไม่อยากจะอยู่ใกล้เหมยซูหานมากนัก
………………………………………….
ตอนที่ 430 ข้าวเหนียวปั้นที่สวยงาม
อู่เหมยพูดเสียงเบา “ไม่เจ็บแล้ว”
สายตาของเหมยซูหานเต็มไปด้วยความปวดใจ เขาหยิบถุงกระดาษออกมาจากกระเป๋าส่งให้อู่เหมย “นี่เป็นของเยี่ยมที่แม่ทำไว้ให้ ข้าวเหนียวปั้นที่เธอชอบกินที่สุด”
เขาพูดไปก็เปิดถุงกระดาษไปด้วย ก็ปรากฏภาพข้าวเหนียวปั้นสองลูกที่เหมือนไข่มุกขาวราวกับหิมะและมีสีเขียวโรยอยู่ ไข่มุกก็คือข้าวเหนียวสุกร้อนๆ ใสแวววาว ตกแต่งด้วยขนมอี๋สีเขียวเข้ม สวยงามมากจริงๆ
ถึงแม้ว่าจินซื่อจะมีประเพณีห่อขนม แต่วิธีทำข้าวเหนียวปั้นแบบนี้กลับไม่ใช่ประเพณีของจินซื่อ แต่เป็นขนมชนิดหนึ่งของเมืองไคว่จี ทุกๆ วันเชงเม้งคนพื้นที่จะทำผลไม้ดองเค็มและผลไม้หวานสองแบบกิน และนำมาใช้เซ่นไหว้บรรพบุรุษ
แต่ตอนนี้ผลไม้ไม่ใช่แค่นำมาเซ่นไหว้อย่างเดียวแล้ว แต่วิวัฒนาการเปลี่ยนเป็นพวกของว่าง ไว้ฉลองปีใหม่และฉลองตามเทศกาลต่างๆ ทั้งแต่งงานหรือทำบุญวันเกิดต่างก็จะห่อเป็นขนมเพื่อเฉลิมฉลอง มีร้านอาหารบางร้านก็จัดทำมาขายโดยเฉพาะ และมีคนมากมายไปซื้อ
แต่สิ่งที่ทำให้อู่เหมยสงสัยก็คือ ในพื้นที่ยังไม่มีวิธีทำข้าวเหนียวปั้น ธรรมดาทั่วไปหน้าตาจะเหมือนกับเกี๊ยวหรือขนมอี้ มีน้อยคนมากที่จะทำข้าวเหนียวปั้น ตระกูลเหอและตระกูลอู่ต่างก็เป็นคนพื้นที่ เพราะฉะนั้นอู่เหมยก็เลยกินแบบที่คนในพื้นที่ทำมาโดยตลอด
จนกระทั่งหลังจากที่แต่งงานกับเหมยซูหาน เธอถึงได้รู้ว่าผลไม้ยังสามารถทำให้มีหน้าตาสวยงามขนาดนี้ได้อีกด้วย แถมยังมีชื่อที่ไม่ธรรมดาอีกต่างหาก ครั้งแรกที่ได้กินข้าวเหนียวปั้นที่แม่เหมยทำ อู่เหมยก็ตกหลุมรักมันทันที หลังจากนั้นเธอก็ไปศึกษาวิธีทำด้วยตัวเองเหมือนกัน
แต่ปัญหาสำคัญก็คือ เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อชาติที่แล้ว เวลานี้ตอนนี้แม้กระทั่งข้าวเหนียวปั้นคืออะไรเธอยังไม่เคยพบเห็นมาก่อน แม้กระทั่งได้ยินก็ยังไม่เคยได้ยินมาก่อน เหมยซูหานทำไมถึงรู้ว่าเธอชอบกินข้าวเหนียวปั้น?
ยังมีก่อนหน้านั้นเรื่องลูกอมนมถั่วและบัวลอยเหล้าหมัก เหมยซูหานทำไมถึงได้รู้เรื่องพวกนี้อีก?
อู่เหมยเงยหน้ามองไปทางเหมยซูหาน ตั้งใจพูดขึ้นมาว่า “ของสิ่งนี้เรียกว่าข้าวเหนียวปั้นหรอ? พี่ซูหานพี่จำผิดหรือเปล่า? ฉันยังไม่เคยเห็นข้าวเหนียวปั้นมาก่อนเลย”
เหมยซูหานมีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เวลานี้เขาถึงคิดขึ้นมาได้ เมื่อก่อนเพราะว่าสุขภาพร่างกายของแม่ไม่ดี แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยทำข้าวเหนียวปั้นมาก่อน ครั้งแรกที่อู่เหมยกินข้าวเหนียวปั้นก็เป็นเรื่องหลังจากที่แต่งงานกับเขาไปแล้ว อู่เหมยในตอนนี้จะชอบกินข้าวเหนียวปั้นได้ยังไง?
เขาทำพลาดไปแล้ว!
เหมยซูหานยิ้มน้อยๆ พูดว่า “แต่ไหนแต่ไรมาเหมยเหมยชอบกินของหวาน พี่ก็แค่รู้สึกว่าเธอจะต้องชอบกินข้าวเหนียวปั้นแน่ๆ เหมยเหมยลองชิมดูสิ ข้างในเป็นไส้ถั่วแดงนึ่ง เธอชอบกินซาลาเปาไส้ถั่วแดงมากที่สุดเลยไม่ใช่หรอ?”
อู่เหมยไม่ได้มองข้ามท่าทางการแสดงออกที่เปลี่ยนไปเมื่อกี้ของเหมยซูหาน เกิดความงงงวยภายในใจอย่างมาก ยิ่งนึกถึงท่าทางที่เปลี่ยนไปในชาตินี้ของเหมยซูหาน เธอก็ยิ่งรู้สึกแปลกใจ
“เหมยเหมยรีบชิมเร็วว่ารสชาติเป็นยังไงบ้าง?” เหมยซูหานมองอย่างตั้งหน้าตั้งตารอคอย
“ขอบคุณค่ะพี่ซูหาน แต่ฉันกินอิ่มแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันเก็บไว้กินเป็นข้าวเช้าก็แล้วกัน”
อันที่จริงอู่เหมยก็อยากกินข้าวเหนียวปั้นมาก ฝีมือของแม่เหมยอร่อยสุดยอด เธอทำแป้งถั่วแดงนึ่งก็อร่อย ข้าวเหนียวปั้นสองลูกนี้จะต้องอร่อยร้อยเปอร์เซ็นต์ เสียดายที่ข้าวเหนียวปั้นเป็นเหมยซูหานที่เป็นคนเอามา!
ต่อให้เป็นตับมังกรหรือสมองของหงส์ เธอก็ไม่ชิมแน่นอน
เหมยซูหานถอนหายใจอย่างผิดหวังเบาๆ ท่าทางดูหงอยเหงาลง เขาฝืนยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นเหมยเหมยก็เอาไว้กินเป็นข้าวเช้าแล้วกัน แค่อุ่นหน่อยก็กินได้แล้ว”
อู่เหมยพยักหน้า “รู้แล้วค่ะ พี่ซูหานฝากขอบคุณคุณป้าแทนฉันด้วย”
เหมยซูหานดีใจขึ้นมาอีกครั้ง เหมยเหมยน่าจะกินอิ่มแล้วจริงๆ เด็กผู้หญิงความอยากอาหารค่อนข้างต่ำ แม่ทำขนมหิมะอันหนึ่งก็ใหญ่จะตาย เหมยเหมยกินไม่ลงก็เป็นเรื่องธรรมดา
”ได้ พี่จะบอกให้แน่ เหมยเหมยรีบไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวพี่ประคองไปที่เตียงนะ”
เหมยซูหานพูดเสร็จก็จะเข้ามาประคอง อู่เหมยรีบเบี่ยงตัวหลบเขา กระโดดไปที่เตียงด้วยตัวเอง มือของเหมยซูหานก็ลอยค้างกลางอากาศไปแบบนั้น ดูแล้วท่าทางเก้อเขินมากทีเดียว
“พี่ซูหานพี่มาแล้ว? เอ๊ะ นี่คืออะไร? สวยจังเลย กินได้ไหม?”
อู่เยวี่ยที่มีรอยยิ้มทั่วหน้าเดินเข้ามา เพียงครู่เดียวก็โดนข้าวเหนียวปั้นดึงดูดเข้าให้แล้ว
………………………………………….