ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 431 มือของเธอเป็นอะไรไป + ตอนที่ 432 ชายหญิงที่เล่นมาด้วยกันตั้งแต่เด็กห่างเหินแล้ว
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- ตอนที่ 431 มือของเธอเป็นอะไรไป + ตอนที่ 432 ชายหญิงที่เล่นมาด้วยกันตั้งแต่เด็กห่างเหินแล้ว
ตอนที่ 431 มือของเธอเป็นอะไรไป
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ชอบอู่เยวี่ยมากสักเท่าไร แต่เวลานี้อู่เหมยกลับรู้สึกขอบคุณเธอที่ออกมาได้ถูกจังหวะ ทำให้เธอไม่ต้องเผชิญหน้าความอึดอัดกับเหมยซูหานตามลำพัง
“ข้าวเหนียวปั้น เป็นขนมหวานที่แม่ของพี่ซูหานทำน่ะ อร่อยมากเลยนะ”
อู่เหมยรีบชิงตอบก่อน อารมณ์ดีไม่เลว ดวงตามักจะมองไปทางมือหมูของอู่เยวี่ย ทั้งแดงทั้งบวม ยังมีบาดแผลบางส่วนเริ่มปริแตกบ้าง จนมองเห็นเนื้อสีแดงข้างใน บาดแผลจากความเย็นพัฒนาไปเร็วมาก แม้กระทั่งอู่เหมยก็นึกไม่ถึง
อู่เยวี่ยมองไปทางอู่เหมยแวบหนึ่ง เธอก็พลันอารมณ์ดีขึ้นมาเช่นกัน โดยเฉพาะตอนที่มองเท้าที่พันเป็นมัมมี่ของอู่เหมย ความอัดอั้นที่เก็บมาหลายเดือน ก็นับว่าได้ระบายอารมณ์ออกไปบางแล้ว สุขใจขึ้นมาเยอะเลย
“พี่ซูหาน ช่วงนี้ทำไมพี่ถึงไม่มาบ้านฉันเลยล่ะ?” อู่เยวี่ยถามอย่างใส่ใจ
เหมยซูหานยิ้มนิดๆ พูดว่า “ช่วงนี้ยุ่งนิดหน่อยน่ะ”
“พี่ซูหานยุ่งอะไรหรอ ยุ่งกับการเรียนหรอ?” อู่เยวี่ยยิ้มหวาน ใบหน้าที่กลัดกลุ้มมองดูแล้วสวยขึ้นมาเป็นกอง
เหมยซูหานพยักหน้า รอยยิ้มบนใบหน้าทั้งมีมารยาทและเหินห่าง ไม่ใกล้ชิดสนิทสนมเหมือนตอนที่พูดคุยกับอู่เหมยเมื่อครู่เลยแม้แต่นิดเดียว
อู่เยวี่ยกลับมองข้ามจุดนี้ไป นานแล้วที่ไม่ได้เห็นเหมยซูหาน แต่จู่ๆ วันนี้ก็ได้เห็น อย่าให้พูดเลยว่าเธอดีใจมากแค่ไหน บวกกับอู่เหมยได้รับบาดเจ็บและไม่สามารถเข้าร่วมงานการแสดงของเมืองได้ ความดีใจสองชั้นแบบนี้ทำให้นิสัยระแวดระวังเมื่อก่อนของอู่เยวี่ยลดต่ำลง
ในตอนนี้เธอคิดอยากจะพูดคุยกับเหมยซูหานมากๆ พูดถึงความน้อยใจในหลายวันมานี้ และยังมีเรื่องความจองหองของอู่เหมยอีกด้วย
“พี่ซูหาน ฉันมีวิชาเลขหนึ่งข้อที่ไม่ค่อยเข้าใจ พี่ช่วยฉันดูหน่อยได้ไหม?” อู่เยวี่ยเชื้อเชิญเหมยซูหานไปที่ห้องของเธอ ในตาเต็มไปด้วยความหวัง
เหมยซูหานขมวดคิ้ว เขาไม่ค่อยอยากไปห้องของอู่เยวี่ยเท่าไร เขาแค่อยากจะอยู่ที่ตรงนี้พูดคุยดีๆ กับอู่เหมยมากกว่า ทำไมเมื่อก่อนเขาถึงไม่เคยสังเกตเลยว่าอู่เยวี่ยจะมองสีหน้าคนไม่เป็นขนาดนี้!
เขาลืมไปแล้วว่าเขาและอู่เยวี่ยเคยสนิทชิดเชื้อกันมาก่อน เรื่องที่ช่วยชี้แนะเธอเรื่องการบ้านก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปกติ พูดได้ว่าเป็นเพียงแค่เด็กชายเด็กหญิงที่เล่นกันมาแต่เด็กๆ แค่นั้นจริงๆ
“เยวี่ยเยวี่ย ไม่อย่างนั้นเธอก็ไปเอาการบ้านมาสิ พี่ไม่ต้องไปห้องของเธอหรอก” เหมยซูหานคิดออกถึงแผนที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายพึงพอใจ
อู่เยวี่ยสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย นึกไม่ถึงว่าเหมยซูหานจะปฏิเสธเธอ อีกทั้งยังปฏิเสธต่อหน้าของอู่เหมยอีก นั่นทำให้เธอรู้สึกอับอายขายหน้าไม่น้อย
“พี่ซูหาน ห้องเหมยเหมยเล็กเกินไป พวกเราสามคนจะเบียดกันเข้าไปได้ยังไง?” อู่เยวี่ยพูดพลางยิ้มมองเหมยซูหานอย่างอ้อนวอน
เหมยซูหานก็ใจอ่อนอย่างช่วยไม่ได้ ตอบรับว่าจะไปช่วยสวนให้ อู่เยวี่ยยิ้มอย่างชอบใจ เหล่มองอู่เหมยอย่างลำพองใจ ซึ่งไม่รู้เลยว่าอู่เหมยกำลังเฝ้าภาวนาขอให้เหมยซูหานออกไป!
“ข้าวเหนียวปั้นนี่ดูดีมากจริงๆ รสชาติน่าจะดีมากเลยทีเดียว ฉันกำลังหิวพอดี เหมยเหมย ข้าวเหนียวปั้นให้ฉันกินได้ไหม?” อู่เยวี่ยพูดไปมือก็ยื่นไปหยิบข้าวเหนียวปั้นไปด้วย
อู่เหมยทำใจกว้างขึ้นมาทันที “พี่หิวก็เอาไปกินเถอะ ยังร้อนๆ อยู่เลย!”
อู่เยวี่ยคาดไม่ถึงว่าวันนี้อู่เหมยจะว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ จึงไม่ได้คิดอะไรมาก นึกว่าอู่เหมยเพียงแค่แสดงละครต่อหน้าเหมยซูหานก็เท่านั้น
“งั้นฉันไม่เกรงใจล่ะนะ ขอบใจนะเหมยเหมย”
อู่เยวี่ยหยิบข้าวเหนียวปั้นมาไว้ในมือ เหมยซูหานอดขมวดคิ้วไม่ได้ รู้สึกไม่เต็มใจอยู่บ้างที่อู่เยวี่ยหยิบเอาข้าวเหนียวปั้นไป เหมยเหมยยังไม่ได้กินสักคำเลย!
เดิมยังคิดจะบอกให้อู่เยวี่ยหยิบข้าวเหนียวปั้นไปแค่ชิ้นเดียว แต่เหมยซูหานกลับโดนมือหมูของอู่เยวี่ยทำให้ตกใจไปเสียก่อน พูดเสียงหลงว่า “เยวี่ยเยวี่ย มือของเธอทำไมกลายเป็นแบบนี้?”
อู่เยวี่ยหน้าซีดขาวในทันที ในตาปรากฏความเจ็บปวดขึ้นแวบหนึ่ง อู่เหมยรีบก้มหน้าลงก็ดีใจอย่างหยุดไม่อยู่
คำพูดของเหมยซูหานโหดเหี้ยมกว่าใครทั้งหมด!
ใครให้อู่เยวี่ยเวลานี้ยังเป็นสาวน้อยมีรักกันล่ะ เธอชอบเหมยซูหานมากจริงๆ!
………………………………………….
ตอนที่ 432 ชายหญิงที่เล่นมาด้วยกันตั้งแต่เด็กห่างเหินแล้ว
หลังจากที่เหมยซูหานพูดจบก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองไม่ควรพลั้งปากพูดออกไป รู้สึกผิดอยู่ในใจ คำพูดที่แต่เดิมอยากจะพูดก็กลืนลงคอไป ได้แต่มองอู่เยวี่ยหยิบข้าวเหนียวปั้นทั้งสองอันไปตาปริบๆ
รอจนเหมยซูหานและอู่เยวี่ยออกจากห้องไป อู่เหมยก็รีบร้อนไปปิดประตู แล้วก็ขึ้นเตียงเอนตัวลงนอน ในหัวสมองกำลังคิดคำนวณว่าจะแก้แค้นอู่เยวี่ยเรื่องตะปูพวกนี้อย่างไรดี!
ไม่นานอู่เหมยก็ได้ความคิดดีๆ สุภาษิตเขาว่ากันว่า ตาต่อตา ฟันต่อฟัน หนามยอกให้เอาหนามบ่ง นังอู่เยวี่ยเอาตะปูมาแทงเท้าเธอ ถ้าอย่างนั้นเธอก็จะเอาคืนเป็นเท่าทวีคูณ
จะพูดยังไงก็แล้วแต่ก็จะต้องทำให้อู่เยวี่ยได้รับบาดเจ็บหนักกว่าหลายเท่าถึงจะระบายความแค้นได้!
ส่วนเรื่องที่อู่เจิ้งซือพูด อู่เหมยจะถือว่าเขาผายลม ลมพัดผ่านหน่อยก็หายไปแล้ว ถึงอย่างไรเธอก็ไม่ถึงขั้นเอาเป็นเอาตาย
อู่เยวี่ยพาเหมยซูหานมาที่ห้องของเธออย่างมีความสุข อันที่จริงแล้วเธอก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แค่เพียงคิดอยากจะหาโอกาสอยู่ใกล้ชิดกับคนที่หมายปองก็เท่านั้นเอง
“พี่ซูหาน ห้องฉันไม่มีแม้กระทั่งม้านั่ง ไม่อย่างนั้นพี่นั่งบนเตียงฉันแล้วกัน!”
อู่เยวี่ยเรียกเข้ามาอย่างกระตือรือร้น ความทุกข์บนใบหน้าหายไปแล้ว ดูสดใสร่าเริงขึ้นไม่น้อย
เหมยซูหานมองเตียงที่สะอาดเรียบร้อยและมีกลิ่นอายของสาวน้อย ลังเลใจอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ไม่ได้นั่งลงไป เพียงแต่ยืนพูดคุยกับอู่เยวี่ยอยู่แบบนั้น
“พี่ซูหาน พี่นั่งสิ ยืนทำไม?” อู่เยวี่ยมองเหมยซูหานอย่างไม่พอใจ รู้สึกว่าคนที่หมายปองกลายเป็นคนอื่นคนไกลดูแปลกหน้ามากขึ้นเยอะ เมื่อก่อนเหมยซูหานมาห้องเธอก็บ่อยไม่น้อย สนิทสนมกันมากโดยไม่ต้องทักทายอะไรด้วยซ้ำ
เหมยซูหานยิ้มเบาๆ “ยืนเอาก็ได้ เยวี่ยเยวี่ยเธอเอาข้อที่ไม่เข้าใจออกมาให้พี่ดูสิ”
รอยยิ้มบนใบหน้าของอู่เยวี่ยเริ่มหุบลง หัวใจปั่นป่วน เธอเงยหน้ามองเหมยซูหาน พูดออดอ้อนว่า “พี่ซูหาน ฉันแค่อยากพูดคุยกับพี่ ช่วงนี้ฉันแย่มากๆ”
พูดถึงตอนท้าย เสียงของอู่เยวี่ยก็มีเสียงสะอื้นเบาๆ ขอบตาแดงก่ำ ต่อหน้าคนที่ชอบแล้วเธอก็ทนไม่ไหวอยากระบายความในใจออกมาถึงความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง
ตอนนี้ในใจของพ่อก็มีแต่อู่เหมย แม่ก็เอาแต่คิดเพียงแค่อยากให้เธอสอบได้ที่หนึ่ง อู่เหมยก็แทบอยากจะให้เธอตายไปเสีย อู่เยวี่ยรู้สึกว่าตอนนี้เธอเป็นเรือลำเล็กกลางทะเลเวิ้งว้างที่โดดเดี่ยวและไม่มีใครช่วยเหลือ!
และเหมยซูหานก็คือคนที่จะมากอบกู้ช่วยเหลือของเธอ!
เหมยซูหานมองอู่เยวี่ยที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างหมดหนทาง ไม่รู้จะพูดอะไรดี อันที่จริงช่วงนี้เขาพอจะได้ยินมาบ้างว่าอู่เยวี่ยเป็นพวกปลิ้นปล้อน โดยเฉพาะเรื่องพวกนั้นที่เธอทำกับอู่เหมยถูกเล่าลือไปทั่วทั้งอีจงตั้งนานแล้ว
อันที่จริงเขามีความคิดที่ไม่ค่อยพอใจอู่เยวี่ยเท่าไร เหมยเหมยทั้งน่ารักทั้งใจดีมีเมตตา ทำไมอู่เยวี่ยถึงได้ทำไม่ดีกับเหมยเหมยล่ะ?
ทำไมถึงได้เฝ้าดูอย่างนิ่งดูดายตอนที่เหอปี้อวิ๋นปฏิบัติต่อเหมยเหมยอย่างโหดร้ายได้ล่ะ?
ที่เหมยซูหานไม่รู้ก็คือสิ่งที่อู่เยวี่ยทำนั้นไม่ใช่แค่เพียงเมินเฉยนิ่งดูดาย พูดให้ถูกน่าจะเป็นคนที่คอยกระตุ้นเสียมากกว่า หรือเรียกว่าเป็นคนคอยราดน้ำลงบนกองไฟ หากไม่ใช่ว่าอู่เยวี่ยคอยพูดเสี้ยมอยู่ข้างหูของเหอปี้อวิ๋น อย่างมากเหอปี้อวิ๋นก็แค่คงไม่ชอบอู่เหมย คงจะไม่รังเกียจเหมือนตอนนี้
เหอปี้อวิ๋นมองอู่เหมยเป็นแค่คู่อริธรรมดา แต่สำหรับอู่เยวี่ยก็คือคนชั่วที่สุด!
“เยวี่ยเยวี่ย เรื่องของเธอพี่ก็ได้ยินมาอยู่บ้าง ก็แค่คะแนนถดถอยไปบ้างเท่านั้น มีถอยถึงจะก้าวหน้า ด้วยความฉลาดและพื้นฐานของเธอ ในไม่ช้าเธอก็จะไล่ตามทันเชื่อพี่สิ”
อู่เยวี่ยยิ้มอย่างดีใจ นี่เป็นคำพูดที่เข้าหูที่สุดน่าฟังที่สุดในช่วงนี้ที่เคยได้ยินมาแล้ว เหมยซูหานเป็นคนที่เข้าใจเธอที่สุดจริงๆ รู้ว่าเธออยากจะฟังอะไรที่สุด
เหมยซูหานหยุดแล้วก็พูดอีกว่า “ส่วนเรื่องร่างกายของเธอก็ไม่ได้มีปัญหาใหญ่อะไร ตอนนี้การแพทย์พัฒนาไปไกลแล้ว ปัญหาเล็กๆ ของเธอน่าจะรักษาได้ไม่ยากหรอก ไม่ต้องไปใส่ใจมาก”
………………………………………….