ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 437 พี่ชายแก้แค้นให้แทนเธอแล้ว + ตอนที่ 438 ผิดหวังเหลือเกิน
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- ตอนที่ 437 พี่ชายแก้แค้นให้แทนเธอแล้ว + ตอนที่ 438 ผิดหวังเหลือเกิน
ตอนที่ 437 พี่ชายแก้แค้นให้แทนเธอแล้ว
อาจารย์ใหญ่หยวนให้พวกอู่เหมยกลับห้องเรียนไปก่อน ห้องทำงานเหลือแค่เพียงเขาและอู่เจิ้งซือ ดูเหมือนว่าทั้งสองคนนี้ยังมีเรื่องต้องพูดคุยกันอีกสักพัก อู่เหมยและอู่เชาเพิ่งจะเดินออกจากห้องทำงาน อู่เชาที่ยังไม่ตื่นจากความตกใจกลัวก็จินตนาการไปไกลจนเปล่งเสียงดังขึ้นมา
“โอ้โห้ เฮ้ย สงสัยว่าปัญหาของอู่เยวี่ยจะเป็นเรื่องรุนแรงแล้วล่ะ วันหลังควรจะอยู่ให้ห่างๆ หน่อย……”
อู่เชาชะงักลงทันที เพราะเขาเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองได้ทำผิดลงไปแล้ว นึกถึงหน้าเคร่งขรึมก่อนหน้านั้นของอู่เจิ้งซือ เด็กอ้วนน้อยก็เสียใจอย่างถึงที่สุด ทำได้แค่เพียงตบปากตัวเองแรงๆ หลายที
เรื่องอับอายในบ้านห้ามเอาออกมาข้างนอก นายทำไมถึงลืมการอบรมสั่งสอนของคุณปู่คุณย่าได้ล่ะ!
อารองจะต้องเกลียดเขามากแน่นอน!
เด็กอ้วนน้อยกลับไม่รู้ว่าอู่เจิ้งซือเกลียดเขามาก แม้กระทั่งมีความคิดที่อยากจะบีบคอเขาให้ตาย
อู่เหมยหัวเราะในใจ เด็กอ้วนน้อยช่างยอดเยี่ยมจริงๆ ไม่ต้องให้เธอบอกเป็นนัยก็เข้าใจได้ขนาดนี้ เธอมองไปทางนักเรียนหญิงข้างๆ ที่เบิกตากว้างทำหน้าตาตกตะลึงและเจินหวานหว่านอยู่แวบหนึ่ง นักเรียนหญิงคนนั้นน่าจะไม่ป่าวประกาศเรื่องนี้ไปทั่ว แต่คนปากสว่างอย่างเจินหวานหว่าน กลัวว่าเอาเงินมาอุดปากก็เอาเธอไม่อยู่!
เชื่อเลยว่าไม่เกินหนึ่งวัน ชื่อเสียงเรื่องจิตไม่ปกติของอู่เยวี่ยก็จะเริ่มฉาวโฉ่เหมือนกับเรื่องกลิ่นตัวของเธอ ข่าวลือฆ่าคน ขอเพียงแค่พูดสามครั้งก็สามารถทำให้แม่แท้ๆ เชื่อว่าลูกฆ่าคนได้
ถ้าหากว่าต้องอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่คนอื่นมองคุณด้วยสายตาที่ว่า ‘แกมันเป็นโรคจิต’ ต่อให้เส้นประสาทของอู่เยวี่ยจะทำจากเส้นเหล็ก ก็กลัวว่าจะทนไม่ไหวจนขาดผึงไปน่ะสิ!
วันที่ประสาทของอู่เยวี่ยขาดผึง วันนั้นคงเป็นตอนที่เธอกลายเป็นโรคประสาทไปแล้วจริงๆ!
อู่เหมยเงยหน้ามองท้องฟ้าที่สวยงาม มุมปากเหยียดยิ้มกว้าง อู่เยวี่ยนะอู่เยวี่ย พยายามเสพสุขกับการนินทาของคนให้เต็มที่ไปเลยนะ!
ชำเลืองมองที่เด็กอ้วนน้อยข้างกายที่ทำหน้าสิ้นหวังอยากจะร้องไห้แต่กลับไม่มีน้ำตา อู่เหมยพูดข้างหูเขาอย่างหวังดีว่า “อย่ากลัว นายกลับไปก็ไปหาคุณป้าใหญ่และคุณย่าก่อน พวกเธอไม่มีทางให้คุณปู่และคุณลุงตีนายแน่นอน”
“จริงหรอ?” อู่เชาออกจะไม่เชื่ออยู่บ้าง
แม่ของเขาแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยสนใจเรื่องในบ้าน เมื่อก่อนทุกครั้งที่อู่เจิ้งเต้าสั่งสอนเขาและพี่ชาย เว่ยชิวเยวี่ยไม่เคยส่งเสียงอะไรเลยสักแอะ กลับเป็นคุณย่าที่พร่ำบ่นไม่หยุด แต่เขาไม่เชื่ออู่เหมยขนาดนั้น
อู่เหมยพยักหน้าอย่างมั่นใจ “วางใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าวันนี้นายโดนตี ฉันยอมไปใช้แซ่นายเลย!”
อู่เชาดวงตาเป็นประกายจากนั้นก็ทำหน้าสิ้นหวังอีกครั้ง บ่นพึมพำว่า “รู้หรอกว่าเธอหลอกฉัน เธอกับฉันไม่ใช่แซ่อู่หรอกหรือ?”
อู่เหมยขี้เกียจจะสนใจเขาแล้ว กรอกตามองบนใส่ด้วยความเอือม อย่ามองว่าปกติแล้วเว่ยชิวเยวี่ยไม่สนใจเรื่องในบ้าน แต่เธอน่ะเป็นพวกเอาจริง คำพูดที่พูดออกมาแม้กระทั่งคุณปู่ก็ยังไม่กล้าดูถูก ส่วนคุณย่านั้นไม่ต้องพูดถึง ถึงอู่เยวี่ยจะอยู่ในใจของเธอ แต่ท้ายที่สุดก็ยังสู้เจ้าเด็กน้อยคนนี้ไม่ได้หรอก
ตอนบ่ายเลิกเรียน อู่เชากลับบ้านไปอย่างกระวนกระวายใจ ถึงแม้จะพูดว่าไม่ค่อยเชื่อคำพูดเหลวไหลของอู่เหมยเท่าไร แต่ก็ไม่มีอะไรต้องเสียแล้ว เขาจะเอาวิธีของอู่เหมยมาลองสักตั้ง อาจจะมีผลลัพธ์ที่ดีได้ก็ดี ไม่ได้ก็ช่างมัน
อย่างมากก็โดนตีสักชุด ถึงอย่างไรคุณปู่แท้ๆ ของเขาคงไม่ตีเขาจนตายหรอก!
สยงมู่มู่มาที่ห้องเรียนตามปกติเพื่อมารับอู่เหมย เมื่ออู่เหมยขึ้นรถอู่เหมยก็เล่าเรื่องวันนี้ในห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่ สยงมู่มู่ส่งเสียงฮึอย่างเหยียดหยามและพูดว่า “ฉันรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเธอที่ทำ พี่ชายแก้แค้นแทนเธอตั้งแต่ตอนเช้าแล้ว!”
โดยไม่ต้องรอให้อู่เหมยถาม เขาก็อวดผลงานชิ้นโบว์แดงที่ทำในสองวันมานี้ด้วยตัวเอง ที่แท้สองวันมานี้ที่สยงมู่มู่ไม่ว่าง นักเรียนสยงที่โอหังและถือดีมาตลอดยอมอ่อนน้อมถ่อมตัวลง ร่วมมือร่วมใจกับเหล่าผองเพื่อนเอาเรื่องที่อู่เยวี่ยแอบใส่ตะปูเรื่องนั้นแพร่งพรายออกไปทั้งหมด
“พี่ชายก็จะให้เธอค่อยๆ จมน้ำลายตายไปเลย มีดอ่อนใช้ดีกว่ามีดจริงเยอะ!”
“พี่ชาย สุดยอดเยี่ยมจริงๆ!”
อู่เหมยชื่นชมไม่หยุด สยงมู่มู่ยืดหน้าอกอย่างชอบใจ ในที่สุดก็ได้ยินยัยเด็กบื่อนี่เรียกเขาว่าพี่ชายก่อนเสียที!
………………………………………….
ตอนที่ 438 ผิดหวังเหลือเกิน
กลิ่นหอมของซุปไก่สมุนไพรอบอวลไปทั่วทั้งระเบียงทางเดิน ถึงแม้ว่าปากของเหอปี้อวิ๋นจะพูดว่าไม่เชื่อเรื่องที่จิตของอู่เยวี่ยมีปัญหา แต่ช่วงนี้เธอกลับตุ๋นแต่ซุปไก่สมุนไพร ซุปไก่สมุนไพรจะช่วยให้ใจสงบ คิดดูแล้วในใจของเหอปี้อวิ๋นก็คงจะเชื่ออยู่บ้างแหละ
เพียงแต่ว่าเธอไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้าก็เท่านั้นแหละ!
อู่เยวี่ยกลับมาเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าเศร้าหมอง มองดูแล้วคงใช้ชีวิตอยู่ที่โรงเรียนไม่ค่อยมีความสุขสักเท่าไร อู่เจิ้งซือที่ตามอู่เหมยกลับบ้านมาติดๆ บนใบหน้าเต็มไปด้วยความโมโห
อู่เหมยแอบดีใจ พายุมรสุมใกล้เข้ามาแล้ว!
“คุณอู่กลับมาแล้ว เดี๋ยวก็จะได้กินข้าวแล้ว!”
เหอปี้อวิ๋นเรียกอย่างกระตือรือร้น วางซุปไก่ชามใหญ่ไว้บนโต๊ะก่อน แล้วก็ตักใส่ชามเล็กๆ มองไปที่อู่เยวี่ยอย่างรักใคร่ “เยวี่ยเยวี่ยดื่มซุปก่อนชามหนึ่ง ดื่มซุปแล้วจะทำให้นอนหลับได้สบาย!”
อู่เยวี่ยกำลังจะยื่นมือไปรับซุป จู่ๆ อู่เจิ้งซือก็สะบัดมือฟาดเสียงดังเพี๊ยะ ชามซุปตกลงไปที่พื้น ซุปไก่และชามแตกกระจายเต็มไปหมด
“คุณอู่ คุณเป็นบ้าอะไร?” เหอปี้อวิ๋นตวาดเสียงดังอย่างไม่พอใจ
อู่เจิ้งซือไม่สนใจเธอเลยสักนิด มองอู่เยวี่ยอย่างเย็นชา ในตามีแต่ความผิดหวัง หัวใจของอู่เยวี่ยหล่นวูบลงไปถึงตาตุ่ม
หรือว่าพ่อจะรู้แล้ว?
“เพี๊ยะ”
เสียงดังกังวานชัดขึ้นมาอีกครั้ง เป็นอู่เจิ้งซือฟาดลงไปอย่างเหี้ยมโหด อู่เยวี่ยยังนิ่งไม่มีการตอบสนองใดกลับมา ทั้งยังหมุนตรงที่เดิมอยู่สองรอบและล้มไปกองลงบนพื้น หน้าบวมไปครึ่งหนึ่ง มุมปากมีเลือดไหลซึมออกมา
“เยวี่ยเยวี่ย!”
เหอปี้อวิ๋นรีบพุ่งตัวเข้าไป ประคองอู่เยวี่ยมาโอบกอดไว้ด้วยความเจ็บปวดใจ หัวของอู่เยวี่ยมึนงง หันมองเหอปี้อวิ๋นอย่างสับสน ดวงตาเหม่อลอยเหมือนกับคนโง่ยังไงอย่างนั้น
“เยวี่ยเยวี่ยลูกอย่าทำให้แม่ตกใจ ลูกส่งเสียงหน่อยสิ!”
เหอปี้อวิ๋นเรียกอยู่หลายครั้ง อู่เยวี่ยก็ยังไม่สนใจเธอ ยังคงนิ่งเหมือนเดิม เหอปี้อวิ๋นทั้งกังวลทั้งกลัว เอาแต่คิดว่าลูกสาวสุดที่รักโดนอู่เจิ้งซือตบจนโง่ไปแล้ว
“อู่เจิ้งซือคุณเป็นบ้าไปแล้วหรือยังไง? เสือยังไม่กินลูกตัวเองเลย คุณทำไมถึงได้ลงมือกับอู่เยวี่ยโหดเหี้ยมขนาดนี้? ฉันว่าใจของคุณมันดำเกินไปแล้ว!”
เหอปี้อวิ๋นที่โอบอู่เยวี่ยไว้ ประณามออกไปอย่างเดือดดาล อู่เหมยที่กำลังดูการแสดงอยู่ก็ยิ้มเยาะ หากไม่ใช่ว่าในตอนนี้บรรยากาศไม่ดีล่ะก็ เธอจะเอาคำพูดพวกนี้สวนคืนกลับเหอปี้อวิ๋นไม่ให้ตกไปแม้แต่คำเดียวเลยจริงๆ!
เมื่อก่อนเหอปี้อวิ๋นลงมือกับเธอไม่ได้นุ่มนวลไปกว่าอู่เจิ้งซือสักเท่าไรเลย!
อู่เจิ้งซือมองหน้าตาของอู่เยวี่ย ใจก็เริ่มอ่อนลงโดยไม่รู้ตัว ถึงอย่างไรก็เป็นลูกสาวแท้ๆ ของเขา ทำไมเขาจะไม่ปวดใจล่ะ?
อู่เหมยถือคติรีบตีเหล็กตอนร้อนพูดว่า “แม่ แม่ก็อย่าโทษพ่อเลย ใครให้พี่สาวทำให้พ่อต้องขายหน้าไปทั้งโรงเรียนล่ะ ตอนนี้เรื่องที่พี่สาวทำไว้โดนทั้งโรงเรียนลือกันไปทั่วแล้ว พ่อตีพี่แค่ทีเดียว ยังถือว่าเบาไปด้วยซ้ำ!”
อู่เจิ้งซือที่เดิมทีใจเริ่มอ่อนลง ได้ยินคำพูดของอู่เหมย ก็ใจแข็งขึ้นมาอีกครั้ง
เพราะว่านังลูกเวรนี่ เขาทั้งพยายามอ้อนวอนทั้งขอร้องต่อหน้าอาจารย์ใหญ่หยวน ถึงจะทำให้อาจารย์ใหญ่หยวนละทิ้งความคิดบันทึกความผิดร้ายแรงที่จะลงโทษทางวินัย แต่เขายังไม่มีหนทางที่จะหยุดยั้งข่าวลือที่แพร่กระจายไปได้แล้ว
แต่นี่ก็เป็นบทสรุปที่ดีที่สุดแล้ว ไม่สนว่าข่าวลือจะร้ายแรงมากขนาดไหน อย่างน้อยประวัติของอู่เยวี่ยก็ขาวสะอาด เพราะเดี๋ยวข่าวลือก็จะหายไปในวันหนึ่ง แต่ประวัติถ้าถูกบันทึกจะถูกจดไว้ไปทั้งชีวิต อย่าคิดมันจะเป็นแค่จุดด่างพร้อยเล็กๆ มันก็จะติดตามไปทั้งชีวิต
ดังนั้นเขาถึงได้ติดหนี้บุญคุณอันใหญ่หลวงกับอาจารย์ใหญ่หยวน ช่วยปกป้องให้ประวัติของอู่เยวี่ยใสสะอาด ก็นับว่าไม่เป็นการเสียแรงเปล่า!
แต่อู่เจิ้งซือกลับรู้สึกผิดหวังในตัวอู่เยวี่ยจริงๆ เขาผิดหวังที่อู่เยวี่ยมีใจชั่วร้ายคิดทำร้ายคนอื่น อีกทั้งคนที่ทำร้ายก็ยังเป็นอู่เหมย และยังผิดหวังที่อู่เยวี่ยทำเรื่องชั่วทั้งทีก็ทำไม่รอบคอบ ทำให้คนมากมายจับเอาได้
ท้ายที่สุดแล้วไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมถึงผิดหวัง แม้กระทั่งตัวเขาเองก็ยังไม่รู้แน่ชัด มันเลยทำให้เขารู้สึกโมโหขนาดนี้!
………………………………………….