ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 443 คำกำชับของคุณปู่ + ตอนที่ 444 คนสองคนที่นอนไม่หลับตอนดึก
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- ตอนที่ 443 คำกำชับของคุณปู่ + ตอนที่ 444 คนสองคนที่นอนไม่หลับตอนดึก
ตอนที่ 443 คำกำชับของคุณปู่
คุณปู่อู่ก็ได้รับรู้เรื่องนี้อย่างรวดเร็วเช่นกัน จี้เหวินฮุ่ยเองที่เป็นคนบอกเขา เรื่องใดเกี่ยวกับอู่เยวี่ยที่สามารถกดขี่อู่เยวี่ยได้ เธอจะกระตือรือร้นมากว่าใครเสมอ เพราะว่าเรื่องที่มีอู่เยวี่ยมาเกี่ยวข้อง ในโรงเรียนก็จะแพร่กระจายไปทั่วเหมือนลมฝนเต็มท้องฟ้า จี้เหวินฮุ่ยจะไม่รู้ได้อย่างไรกัน?
แน่นอนว่าคุณปู่โมโหเป็นอย่างมาก โทรศัพท์เรียกให้อู่เจิ้งซือไปหา พวกเขาพูดคุยอะไรกันบ้างไม่มีใครรู้ รู้เพียงแต่ว่าหลังจากที่อู่เจิ้งซือกลับมา ก็มีท่าทีที่เย็นชาไม่สนใจอู่เยวี่ยมากยิ่งขึ้นไปอีก
ที่จริงแล้วคุณปู่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแค่กำชับให้ต่อไปอู่เจิ้งซือเอาความใส่ใจตั้งไปที่อู่เหมยให้มาก สำหรับอู่เยวี่ยนั้น แค่ให้เธอมีกินมีใช้ก็พอแล้ว
“หน้าแก่ๆ ของฉันโดนนังมารผจญนี่ทำให้ขายหน้าไปหมดแล้ว ฉันเคยพูดมานานแล้วว่า จะแต่งภรรยาก็ควรแต่งกับคนที่มีคุณธรรม พี่ชายใหญ่ของแกน่ะทำได้ดี แต่ดูแกสิ แต่งอะไรมาก็ไม่รู้ ทั้งยังจะคลอดนังมารผจญอย่างอู่เยวี่ยออกมาอีก ธาตุแท้สันดานเลวไม่ช้าเร็วก็ต้องเปิดเผยออกมาทั้งหมด!”
คุณปู่ยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห พอถึงคราวอู่เยวี่ยกลายเป็นแบบนี้ เขารู้สึกว่าเป็นเพราะสายเลือดคุณภาพต่ำของคนแซ่เหอเป็นเหตุ ตอนเด็กไม่แสดงออกมา พอถึงชั้นมัธยมต้นก็เริ่มแสดงออกมา
มิเช่นนั้น ก็ไม่รู้จะอธิบายได้อย่างไรว่าจากเด็กสาวที่แสนดี แต่ตอนนี้กลายเป็นผีบ้าแบบนี้ไปแล้ว!
อันที่แล้วอู่เจิ้งซือก็คิดคล้ายๆ กับพ่อของเขา คิดว่าเหอปี้อวิ๋นเป็นหายนะของลูกสาวคนโต แต่ว่าเขาก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะทำเป็นไม่สนใจอู่เยวี่ยเลยได้ ถึงอย่างไรก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา เขายังคงหวังว่าอู่เยวี่ยจะสามารถมีอนาคตที่ดีได้
“เหมยเหมยเด็กคนนี้ไม่เลว ที่สุดแล้วก็เป็นประเภทเดียวกับตระกูลอู่ของพวกเรา มีความสามารถ ลูกรอง วันหลังลูกก็เอาใจใส่เหมยเหมยให้มากๆ หลังจากนี้จะต้องสามารถนำเกียรติยศมาให้ตระกูลอู่ของพวกเราเป็นแน่!”
อู่เจิ้งซือได้แต่รับปาก ไม่กล้ามองคุณพ่อ หวาดผวาเป็นอย่างมาก
สำหรับอู่เหมย เขารู้สึกซับซ้อนมาก
อันที่จริงแล้วเขายังคาดหวังไว้ว่า คนที่จะเป็นเกียรติให้แก่บรรพบุรุษก็คืออู่เยวี่ย ไม่ใช่อู่เหมย
ไม่ใช่แค่คุณปู่ที่กำชับอู่เจิ้งซือ คุณย่าก็กำชับเจาะจงเป็นพิเศษ เธอเตือนว่าตอนปีใหม่ต้องระวังใส่ใจกับคำพูด และอย่าให้เป็นเหมือนเมื่อก่อน ที่สนใจแค่อู่เยวี่ยและไม่เหลียวแลไม่สนใจอู่เหมย
ถึงแม้ว่าคุณย่าจะไม่สมัครใจ แต่ว่าแต่ไหนแต่ไรมาเธอคิดว่าสามีใหญ่ที่สุด เป็นธรรมดาที่จะไม่กล้าต่อต้านเขา แต่ในใจกลับรักและทะนุถนอมหลานสาวคนโตมาก วางแผนไว้ว่าหากอยู่ลับหลังสามีจะดูแลอู่เยวี่ยให้มากขึ้น
หลานสาวรวมทั้งหมดสองคน คนเล็กนั้นรู้สึกไม่เข้าตา หากเธอไม่รักใคร่หลานสาวคนโตจะให้ไปรักใคร่ใครที่ไหน?
อู่เหมยพอใจกับสถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างมาก ทุกอย่างอยู่ในแผนของเธอ หากไม่มีอะไรที่เกินความคาดหมาย อู่เยวี่ยก็ลุกขึ้นไม่ได้อีก ตอนนี้อู่เยวี่ยเกือบจะโดนเพื่อนๆ ทั้งโรงเรียนเมินแล้ว ไม่มีใครอยากจะสนใจเธอ ยกเว้นเหยียนหมิงต๋า
ที่ทุกวันจะติดตามอยู่เป็นเพื่อนข้างกายอู่เยวี่ย แม้แต่พายุฝนก็ไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ก็ต้องทำแบบลับๆ ล่อๆ
คุณปู่เหยียนได้ยินเรื่องที่อู่เยวี่ยโรยเข็มหมุด ก็ยิ่งเกลียดชังอู่เยวี่ยขึ้นไปอีก ออกคำสั่งเข้มงวดห้ามเหยียนหมิงต๋าไปมาหาสู่อู่เยวี่ย เหยียนหมิงต๋าไม่กล้าต้อต้านคุณตาต่อหน้า แต่กลับเฝ้าปกปักรักษาคนในใจอยู่ลับหลัง
แต่ว่าอู่เหมยก็ยังไม่ค่อยพอใจ ถึงแม้ว่าอู่เยวี่ยในตอนนี้จะเป็นคนที่ใครเห็นใครก็เกลียด แต่เรื่องโรคประสาทของเธอกลับไม่เป็นไปตามแผน ทุกคนยังคงไม่ค่อยยอมเชื่อเรื่องที่อู่เยวี่ยเป็นโรคประสาท
ทว่าอู่เหมยก็ไม่ได้รีบร้อน เธอกำลังรอโอกาส วันที่จะสามารถเหยียบอู่เยวี่ยไว้ใต้เท้าได้ในที่สุด
นิสัยของอู่เยวี่ยยิ่งนานไป ก็ยิ่งหม่นหมองระทมทุกข์ ทุกวันนี้ เวลากลับถึงบ้านก็ไม่พูดไม่จากับใคร เอาแต่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ ในโรงเรียนก็เป็นเช่นนี้ พวกอาจารย์ก็ผิดหวังกับเธออย่างยิ่ง สอนเธอแบบเรื่อยๆ และไม่ได้ให้ความสนใจเธอเหมือนเมื่อก่อน
มัธยมต้นเดิมทีนั้นเป็นเส้นแบ่งเขต เพื่อนนักเรียนหลายคนที่ปกติคะแนนไม่ได้ดี มีแนวโน้มที่จะกลายม้ามืดในทันที ฝ่าฟันขึ้นมาอยู่ระดับบนของทั้งโรงเรียน หากคุณก้าวถอยหลัง คนอื่นก็จะขึ้นมา มีนักเรียนดีเด่นปรากฏตัวขึ้นมามากมายไม่ขาด อาจารย์จะให้ความสนใจคุณคนเดียวไปตลอดได้อย่างไร?
แผลที่เท้าของอู่เหมยค่อยๆ ดีขึ้นแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้สยงมู่มู่มารับส่งทุกวันแล้ว แต่ว่าสยงมู่มู่ก็ยังคงไปเรียนกับเธอเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน อากาศค่อยๆ เย็นลง ปิดเทอมฤดูหนาวกำลังจะมาถึงในเร็วๆ นี้แล้ว
“ปิดเทอมฤดูหนาวเธอจะอยู่ที่ไหน? ฉันนะ พอปิมเทอมฤดูหนาวปุ๊บ ก็จะกลับไปเมืองหลวงกับพ่อและแม่ คุณลุงเล็กของฉันก็จะอยู่ที่นั่นเหมือนกัน!” มีอยู่วันหนึ่ง ตอนเลิกเรียนสยงมู่มู่ได้พูดคุยกับอู่เหมยเกี่ยวกับแผนการในช่วงปิดเทอมฤดูหนาวของเขา
…………………………………………..
ตอนที่ 444 คนสองคนที่นอนไม่หลับตอนดึก
อู่เหมยใจเต้น เธอจำได้ว่าเมื่อก่อนเคยได้ยินสยงมู่มู่พูดมาก่อนว่าป้าของเขาเหมือนกับตัวเธอมาก จึงอดไม่ได้ที่จะถามว่า “ป้าของเธอกับฉันตกลงว่าเหมือนกันมากขนาดไหน?”
สยงมู่มู่พินิจพิจารณาเธออยู่หลายรอบ พูดว่า “ไม่ว่ายังไงก็เหมือนมาก น่าเสียดายที่ฉันไม่มีรูปของป้าฉันเลย ไม่อย่างนั้นก็จะเอารูปให้เธอดูแล้ว!”
เขาเห็นว่าอู่เหมยผิดหวังเล็กน้อย จึงพูดว่า “เอาอย่างนี้แล้วกัน ตอนปีใหม่ฉันถ่ายรูปคุณป้าเล็กสักสองสามรูป เอากลับมาให้เธอดู”
“ไม่ต้องยุ่งยากขนาดนั้นหรอก ฉันแค่รู้สึกแปลกใจ ทำไมที่ไหนๆ ก็มีแต่คนเหมือนกับฉัน!” อู่เหมยรู้สึกเกรงใจอยู่บ้าง
“เธอยังเหมือนใครอีกเหรอ?” สยงมู่มู่รู้สึกประหลาดใจ
อู่เหมยขมวดคิ้ว “คุณน้าของฉันน่ะ แต่ว่าฉันไม่เคยพบเธอมาก่อน แล้วก็ไม่เคยได้ยินแม่พูดถึงเธอมาก่อน มีครั้งที่แล้วที่แม่ทะเลาะกับพ่อฉัน แม่พูดถึงสองสามคำ พูดว่าฉันกับเธอรูปร่างหน้าตาคล้ายกันมาก แถมยังพูดอีกว่า…”
คำพูดประโยคหลังอู่เหมยไม่ได้พูดออกมา ถึงอย่างไรก็เป็นเรื่องราวความรักความสัมพันธ์ของผู้ใหญ่ พูดออกมาคงไม่ค่อยน่าฟังเท่าไร
สยงมู่มู่ซักไซ้ไล่เรียงว่า “ยังพูดว่าอะไรอีก?”
“ไม่มีอะไร!”
อู่เหมยปิดปากไม่พูดอะไร สยงมู่มู่อยากรู้จนใจคันยิบๆ แต่ไม่ว่าเขาจะซักไซ้ไล่เรียงอย่างไร อู่เหมยก็ไม่พูดอะไรซักคำอีกเลย จึงได้โมโหจนวิ่งพล่านกระโดดไปมา
“พูดก็พูดแค่ครึ่งเดียว อู่เหมยเธอจริงใจใช่ไหมเนี่ย? เธอรอฉันเลยนะ วันหลังถ้ามีเรื่องอะไร เธอจะต้องเอาแต่ขอร้องพี่ชายคนนี้!” สยงมู่มู่กระหืดกระหอบ
อู่เหมยมองบนใส่เขาหนึ่งที ส่งเสียงเบาๆ “เจ้าเด็กอมมือ!”
แต่ว่าเธอรู้สึกแปลกใจกับคุณป้าเล็กคนนั้นจริงๆ เธอรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไรกันแน่?
อยู่ดีๆ เธอก็นึกถึงสาวงามคนนั้นที่ปรากฏอยู่ในฝันของเธอ จะเป็นไปได้ไหมที่จะมีหน้าตาแบบนั้น?
ตอนเย็น อู่เหมยก็ฝันอีกแล้ว ยังคงเป็นสาวงามคนนั้นเหมือนเดิม ครั้งนี้ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นยิ่งชัดเจนขึ้นไปอีก โบกมือมาทางเธอไม่หยุด อีกทั้งยังเรียกไม่หยุดว่า “เหมยเหมย!”
เสียงนั้นเธอได้ยินอย่างชัดเจนมาก เธอพูดคำว่าเหมยเหมย แต่อู่เหมยไม่แน่ใจเลยว่าที่เธอพูดคือคำว่า ‘เหมยเหมย’ ที่แปลว่าน้องสาว หรือว่า ’เหมยเหมย’ ที่แปลว่าสวย หรือว่าอย่างอื่น
แต่อู่เหมยรู้สึกว่าเหมยเหมยที่ผู้หญิงคนนี้เรียก ก็คือเหมยเหมยชื่อของเธอ นี่เป็นสิ่งที่เธอรู้สึก
ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่นะ?
ทำไมถึงได้เข้าฝันของเธอซ้ำแล้วซ้ำอีก?
นึกถึงทั้งวัน ตอนดึกก็ฝันถึง หรือว่าเป็นเพราะตอนกลางวันสยงมู่มู่พูดถึงคุณป้าเล็กของเขา ดังนั้นเธอถึงฝันเห็นผู้หญิงคนนี้?
อู่เหมยไม่ยินดีให้เป็นเหตุผลนี้ เธอหวังยิ่งขึ้นไปอีกว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนที่มีความเกี่ยวข้องกับเธอ บางทีเธออาจจะรู้สึกอยู่ลึกๆ มาตลอด คิดว่าตัวเธอเองไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของเหอปี้อวิ๋น
หรือบางทีเธอยิ่งหวังว่าตัวเองจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของเหอปี้อวิ๋นล่ะมั้ง!
อู่เหมยนอนไม่หลับอีกต่อไป ลุกขึ้นจากเตียงไปเปิดหน้าต่าง มองไปที่พระจันทร์สว่างเหนือท้องฟ้ายามค่ำคืน จิตใจห่อเหี่ยว น่าเสียดายที่ฉิวฉิวยังไม่กลับมา ไม่มีใครให้พูดด้วยเลย
เวลาประมาณเที่ยงคืน สนามเด็กเล่นด้านหลังเงียบมาก มีลมหนาวพัดเข้ามา อู่เหมยอดหนาวสั่นไม่ได้ สมองแจ่มใสขึ้นมาบ้าง เธอสวมเสื้อโค้ตหนากันหนาว ถือโอกาสนั่งบนขอบหน้าต่างเพื่อชมจันทร์ ถึงอย่างไรก็นอนไม่หลับแล้ว
คนที่นอนไม่หลับตอนกลางคืนเหมือนกันยังมีเหยียนหมิงซุ่น เขาจ้องมองดูบ้านเก่าอยู่หนึ่งหลัง ทำเลที่ตั้งไม่ได้ดีมาก ค่อนข้างห่างไกลจากตัวเมือง แต่บ้านนั้นใหญ่มาก มีห้องยี่สิบกว่าห้อง อีกทั้งยังมีพื้นที่โล่งขนาดใหญ่อีก
เขาประเมินคร่าวๆ ห้องรวมกับพื้นที่ว่างน่าจะประมาณยี่สิบหมู่[1] เจ้าของตั้งราคาเริ่มอยู่ที่สามหมื่นหยวน ไม่ยอมลดราคาแม้แต่นิดเดียว
สามหมื่นเป็นเงินทั้งหมดที่เขามี ถ้าหากเขาซื้อบ้านหลังนี้ เขาก็จะมีเงินติดตัวไม่มากเลยจริงๆ เมื่อไม่มีเงินก็จะไม่มีความรู้สึกปลอดภัย นี่เป็นครั้งแรกที่เหยียนหมิงซุ่นลังเล
เหยียนหมิงซุ่นที่จิตใจเต็มไปด้วยเรื่องกังวลเพิ่งจะเดินมาถึงสนามเด็กเล่น สายตาของเขามองไปที่ห้องของอู่เหมยอย่างไม่รู้ตัว ทันใดนั้นก็เห็นสาวน้อยนั่งห้อยขาอยู่บนขอบหน้าต่าง จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
…………………………………………..
[1] หน่วยวัดขนาดพื้นที่ของจีน 1หมู่=666.67 ตารางเมตร