ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 445 แบ่งปันฝันหวาน + ตอนที่ 446 สถานที่ใหญ่มาก
ตอนที่ 445 แบ่งปันฝันหวาน
อู่เหมยแหงนคอขึ้น จ้องมองไปที่ดวงจันทร์แบบตาไม่กะพริบ พลางโยกหัวเคลื่อนไหวไปพร้อมกับดวงจันทร์ มองอย่างเพลิดเพลินใจ
ปกติเธอก็ไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไร นึกไม่ถึงว่าดวงจันทร์ตอนกลางคืนนั้นจะสวยงามเช่นนี้ อู่เหมยมองนิ่งไปชั่วขณะ ไม่รู้เลยแม้แต่น้อยว่าฝั่งตรงข้ามมีอีกคนมองมาจากบนต้นการบูรเก่า
เหยียนหมิงซุ่นมองเด็กบื้อนั่งใจลอยก็รู้สึกว่าตลกดี เขาคนเป็นๆ ที่ตัวใหญ่ขนาดนี้และยังอยู่ใกล้ขนาดนี้ แต่นึกไม่ถึงว่าเด็กบื้อยังมองไม่เห็น นี่ต้องโง่มากขนาดไหนเนี่ย!
เป็นคนโง่แต่ยังมีความกล้า สูงขนาดนี้ก็ยังไม่กลัวจะตกลงมา!
หัวของอู่เหมยโดนอะไรก็ไม่รู้กระเด็นมาใส่ กลิ้งตกลงมาบนมือของเธอ เป็นผลสีดำๆ หนึ่งลูกที่มาจากต้นการบูร เธออดที่จะหันไปมองที่ต้นการบูรไม่ได้ เหยียนหมิงซุ่นหันมายิ้มให้เธอ
“พี่หมิง…”
อู่เหมยรีบปิดปาก หันไปยิ้มโง่ๆ ให้เหยียนหมิงซุ่น เพิ่งจะกลุ้มใจว่าไม่มีคนที่จะพูดคุยเรื่องที่อยู่ในใจ ก็มีคนตัวใหญ่ตัวเป็นๆ โผล่ออกมา อีกทั้งยังเป็นเหยียนหมิงซุ่นอีก
ไม่รู้เพราะเหตุใด เธอถึงสามารถเห็นเหยียนหมิงซุ่นได้ในช่วงเวลานี้ อู่เหมยดีใจจนพูดไม่ออก อีกทั้งยังมีร่องรอยของความรู้สึกหวานชื่น
เหยียนหมิงซุ่นมองไปรอบๆ กระโดดทะยานมาทั้งร่างเหมือนกับครั้งที่แล้ว โผไปบนท่อระบายน้ำ อู่เหมยรีบถอยกลับไป เพื่อให้ที่ว่างแก่เหยียนหมิงซุ่น
“ดึกขนาดนี้แล้วทำไมยังไม่นอนอีก?”
เหยียนหมิงซุ่นนั่งอยู่ถัดจากอู่เหมย ถามเสียงเบา ลมหายใจร้อนของเขาพ่นรดบนใบหูของอู่เหมย ทั้งอุ่นและร้อน อู่เหมยรู้สึกคันยุบยิบจั๊กจี้
พลันใบหน้าแดงอย่างไม่มีเหตุผล!
เธอท่องคาถาสงบใจอยู่ในใจสามรอบ แอบเตือนสติตัวเอง ตัวเองประจำเดือนยังไม่มาเลย จะคิดมากไปทำไมเนี่ย?
“คิดอะไรอยู่?”
ไม่ตอบรับเป็นเวลานาน เหยียนหมิงซุ่นเห็นแค่เด็กน้อยคนนี้พูดเองเออเองอย่างปัญญาอ่อน แล้วก็ไม่รู้ว่ากำลังกระซิบอะไร จึงถามอีกครั้ง
“ไม่มีอะไร ก็แค่คิดไปเรื่อย คิดเรื่องนั้นเรื่องนี้นิดหน่อยค่ะ เหอๆ!” อู่เหมยพูดอย่างหวาดๆ
ลมหนาวพัดผ่านเข้ามาวูบหนึ่ง อู่เหมยตัวสั่นอย่างห้ามไม่ได้ เหยียนหมิงซุ่นขมวดคิ้ว จับมืออู่เหมยขึ้นมาถู มือเย็นเฉียบของเธอ ทำให้เขายิ่งขมวดคิ้วเข้าไปใหญ่
“ลงไปเถอะ กลางดึกมานั่งบนหน้าต่างให้ลมหนาวพัดเล่น เธอโง่ใช่ไหมเนี่ย?”
เหยียนหมิงซุ่นไม่พอใจและไม่ปล่อยให้เธอมีโอกาสอธิบายใดๆ เขาดึงตัวอู่เหมยลงมา แล้วก็ปิดหน้าต่างสนิทเช่นกัน บอกให้อู่เหมยกลับเข้าไปซุกอยู่ในผ้านวม
“ดึกขนาดนี้ไม่นอน ออกไปตากลมหนาวทำอะไร?” เหยียนหมิงซุ่นถามอีกครั้ง
อู่เหมยหดตัวอยู่ในผ้านวมอย่างเชื่อฟังแต่โดยดี สูดจมูกพูดเสียงเบาว่า “ฉันฝันน่ะก็เลยนอนไม่หลับ”
“ฝันร้าย?”
เหยียนหมิงซุ่นคิดว่าเด็กน้อยฝันร้าย จึงพูดปลอบใจ “ฝันน่ะมักจะกลับกัน บ่อยครั้งที่ฝันร้ายมักจะหมายถึงข่าวดี ไม่อะไรน่ากลัวหรอก”
อู่เหมยส่ายหัวอย่างแรง “ไม่ใช่ฝันร้าย แต่ฝันดีมากเลยต่างหาก!”
เธออดไม่ได้ที่จะเล่าแบ่งปันฝันสองครั้งนั้นให้เหยียนหมิงซุ่นฟัง อีกทั้งยังมีเรื่องราวของผู้หญิงที่สวยๆ คนนั้น
“พี่หมิงซุ่น พี่ว่าทำไมฉันฝันถึงสองครั้งก็ฝันเห็นผู้หญิงคนนั้นติดต่อกัน? พี่ดู เธอหน้าตาแบบนี้ เหมือนฉันมากเลยใช่หรือเปล่า?”
อู่เหมยเปิดลิ้นชักหยิบภาพเหมือนที่เธอวาดไว้เมื่อตอนฝันครั้งแรกและส่งให้เหยียนหมิงซุ่น มองดูเขาอย่างกระสับกระส่าย
เหยียนหมิงซุ่นคลี่รูปออก มองผู้หญิงบนนั้นด้วยความประหลาดใจ เหมือนอู่เหมยอยู่เจ็ดแปดส่วน วาดได้เหมือนจริงมาก ไม่เหมือนกับเป็นคนในฝันเลย
“เธอปรากฏตัวในความฝันของเธอจริงๆ เหรอ? หรือว่าเธอเคยเห็นผู้หญิงคนนี้มาก่อน?” เหยียนหมิงซุ่นถามอย่างสงสัย
คนที่ปรากฏในฝันส่วนใหญ่มักจะมีหน้าตาเลือนราง จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะชัดเจนเช่นนี้ เขารู้สึกว่าบางทีอู่เหมยอาจจะเคยเห็นรูปภาพผู้หญิงคนนี้ หรือเจอตัวคนจริงๆ ที่ไหนมาก่อน
“เธอมาปรากฏในความฝันของฉัน แต่ว่าสยงมู่มู่กับฉันพูดคุยกันบางเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่ง บางทีอาจจะมีผลก็ได้”
อู่เหมยชี้ไปที่ไฝสีแดงชาดที่อยู่ระหว่างคิ้วเยื้องไปทางซ้ายของผู้หญิงบนภาพเหมือนและพูดว่า “สยงมู่มู่บอกว่าหน้าตาฉันเหมือนกับคุณป้าเล็กของเขามาก ไฝสีแดงชาดของเธอก็เป็นสิ่งที่เขาพูดกับฉัน”
…………………………………………..
ตอนที่ 446 สถานที่ใหญ่มาก
เรื่องที่อู่เหมยเหมือนคุณป้าเล็กของสยงมู่มู่ เขาเคยได้ยินอู่เหมยพูดถึงมาก่อน ตอนนั้นเขายังรู้สึกว่าแปลกมาก คนสองคนที่ไม่มีสายเลือดเดียวกันเลยแม้แต่น้อย จะหน้าตาเหมือนกันขนาดนั้นได้อย่างไร?
นี่มันไม่สอดคล้องกันหลักพันธุศาสตร์!
“เหมยเหมย เมื่อก่อนไม่ใช่ว่าเธอก็เคยพูดเหรอว่า เธอหน้าตาคล้ายกับน้าเธอ?” เหยียนหมิงซุ่นถาม
อู่เหมยผงกหัว “น้าของฉันเอง เป็นศัตรูคู่อาฆาตของแม่ฉัน เหมือนแม่จะเรียกเธอว่า ‘เหยียนซินหย่า’ บอกว่าฉันหน้าตาเหมือนเธอมาก อีกทั้งคุณน้าคนนั้นก็มีไฝสีชาด แปลกมากจริงๆ ทำไมถึงได้มีคนเหมือนฉันเยอะขนาดนี้?”
เหยียนหมิงซุ่นก็รู้สึกว่าแปลกมากเหมือนกัน อู่เหมยหน้าตาไม่หมือนอู่เจิ้งซือแล้วก็ไม่เหมือนเหอปี้อวิ๋นด้วย แต่กลับเหมือนคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักไม่เคยพบกันมาก่อน ช่างน่าสนใจจริงๆ
“ไม่ต้องคิดแล้ว เป็นเพราะเธอคิดมากจนเกินไปถึงได้เก็บเอาไปฝัน ครุ่นคิดแต่เรื่องนี้ทั้งวัน ตอนกลางคืนถึงได้เก็บเอาไปฝันไง”
เหยียนหมิงซุ่นตบหัวอู่เหมยเบาๆ บอกให้เธออย่าคิดนู่นคิดนี่เยอะแยะ อู่เหมยพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ไม่อยากบอกเลยว่าเชื่อฟังมากขนาดไหน
เหยียนหมิงซุ่นอดไม่ได้ที่จะลูบผมที่นุ่มลื่นของอู่เหมย เด็กน้อยไม่เพียงแต่สูงขึ้น ผมก็เปลี่ยนกลายเป็นสีดำเงางาม ไม่เหมือนเมื่อก่อนผมเหลืองๆ ฟูๆ ทั้งหัว เป็นเด็กหัวฟูที่แท้จริง
“พี่หมิงซุ่น ดึกขนาดนี้ทำไมก็ยังไม่นอนล่ะ? หรือว่าพี่ก็ฝันเหมือนกัน?” อู่เหมยถามอย่างแปลกใจ
เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะ “แน่นอนว่าไม่ใช่ พี่ออกมาคิดอะไรนิดหน่อยน่ะ”
อู่เหมยกะพริบตาปริบๆ และอดไม่ได้ที่จะถามว่า “เรื่องสำคัญมากไหม”
เหยียนหมิงซุ่นพยักหน้า “ใช่ สำคัญมากๆ”
อู่เหมยมองออกถึงความลังเลใจบนหน้าของเขา จึงพูดขึ้นมาว่า “สะดวกที่จะพูดกับฉันไหม? ไม่แน่ว่าฉันอาจจะช่วยได้นะ เหมือนสุภาษิตที่ว่า คนเขลาสามคนเทียบเท่าหนึ่งจูกัดเหลียง[1]ไม่ใช่เหรอ!”
แน่นอนว่าเหยียนหมิงซุ่นไม่ได้คาดหวังว่าอู่เหมยจะออกความคิดอะไร แต่ใจเขาในเวลานี้ค่อนข้างจะสับสน หาใครสักคนพูดด้วยก็ดีเหมือนกัน ดังนั้นเขาจึงพูดเรื่องที่เขาจะซื้อบ้านออกมา
อู่เหมยหัวใจเต้นรัว โอ๊ยตายแล้ว! สามหมื่นหยวน!
บ้านหลังนี้ต้องใหญ่ขนาดไหนกันนะ?
“ทำเลไม่ใช่ว่าดีมาก ฉันแค่เห็นว่าที่ตรงนั้นใหญ่ น่าจะประมาณยี่สิบหมู่ได้ วันหลังต่อให้อยากจะมีพื้นที่ใหญ่ขนาดนี้ก็คงยากมาก” เหยียนหมิงซุ่นอธิบาย
อู่เหมยพยักหน้ารัวๆ ก็ยากน่ะสิ ไม่สิ ต้องพูดว่าหาได้ยากมากๆ ยี่สิบปีข้างหน้าทุกพื้นที่ทุกนิ้วในเมืองจินเป็นทองทั้งนั้น อย่าพูดถึงพื้นที่ยี่สิบหมู่เลย แม้แต่หนึ่งหมู่ยังหายากเลย!
สามหมื่นหยวนซื้อสถานที่ใหญ่ขนาดนี้ ช่างคุ้มค่ามากจริงๆ!
“พี่หมิงซุ่น บ้านหลังนั้นอยู่ที่ไหนเหรอ?”
“อยู่หลังสถานีรถไฟทางใต้ อยู่ค่อนข้างจะไกลเลยล่ะ”
อู่เหมยใจเต้นรัวอีกครั้ง สถานีรถไฟทางใต้?
พระเจ้า! ที่ตรงนั้นอีกยี่สิบปีข้างหน้าคือทำเลทองเลยนะ!
“พี่หมิงซุ่น พี่อย่าลังเลเลย รีบไปซื้อบ้านหลังนั้นไว้เถอะ!”
อู่เหมยตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เร่งรัดเหยียนหมิงซุ่นไม่หยุด แทบอยากจะให้เขาไปซื้อเลยตอนนี้ เหยียนหมิงซุ่นมองอย่างแปลกใจ เด็กน้อยคนนี้จะตื่นเต้นอะไรขนาดนี้!
อู่เหมยเห็นเขามีลักษณะท่าทางเฉยๆ ดูแล้วไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไร จึงรีบถามว่า “พี่หมิงซุ่น พี่มีเงินไม่พอใช่ไหม?”
“พอน่ะพอ แต่ว่านี่เป็นทั้งหมดที่พี่มีทั้งตัว”
เหยียนหมิงซุ่นไม่ปิดบัง เขารู้สึกเหมือนกับอู่เหมย รู้สึกว่าระหว่างเขากับอู่เหมยไม่ต้องปิดบังอะไร
“งั้นพี่รีบไปซื้อเลย ยังไงก็ต้องห้ามให้คนอื่นมาแย่งไปได้นะ!”
อู่เหมยเร่งรัดอีกครั้ง ทำเลทองที่ใหญ่ขนาดนั้น ในอนาคตแค่พึ่งที่ตรงนั้นเก็บค่าเช่า ก็มีกินมีใช้ทั้งชาติแล้ว ไม่รู้จริงๆ ว่าเหยียนหมิงซุ่นกำลังลังเลอะไร?
เหยียนหมิงซุ่นมองดูอู่เหมยที่กำลังวิ่งพล่านกระโดดไปทั่วอย่างมีความสุข “เธอรีบร้อนขนาดนี้ไปทำไม? ที่ตรงนั้นถ้าฉันไม่ซื้อ ก็ไม่มีใครยินดีที่จะซื้อแล้ว”
…………………………………………..
[1] มีความหมายว่า แม้จะเป็นคนเขลาก็ตาม แต่หากมีความร่วมแรงร่วมใจกันเปิดกว้างรับความคิดเห็นของกันและกัน ก็จะสามารถคิดวิธีดีๆ ได้เช่นเดียวกับผู้มีปัญญา