ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 457 ที่พวกเราพูดก็คือความประพฤติ + ตอนที่ 458 เหอปี้อวิ๋นทำผิดพลาดโง่ๆ อีกครั้ง
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- ตอนที่ 457 ที่พวกเราพูดก็คือความประพฤติ + ตอนที่ 458 เหอปี้อวิ๋นทำผิดพลาดโง่ๆ อีกครั้ง
ตอนที่ 457 ที่พวกเราพูดก็คือความประพฤติ
ถานซูฟางค่อยๆ สงบลง การมาของเหยียนโฮ่วเต๋อทำให้เธอนึกถึงสถานภาพทางสังคมของตัวเองขึ้นมาได้ เธอรู้สึกเสียใจอยู่บ้างที่ทะเลาะกับผู้หญิงปากร้ายอย่างเหอปี้อวิ๋น ช่างเป็นการลดค่าของตัวเองจริงๆ
เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ขี้เกียจจะพูดจาไร้สาระกับเหอปี้อวิ๋น เปลี่ยนไปพูดกับอู่เจิ้งซือแทนว่า “อาจารย์อู่ ฉันพูดกับภรรยาของคุณไม่รู้เรื่อง ก็พูดกับคุณแทนแล้วกัน รบกวนอาจารย์วันหลังอบรมลูกสาวของคุณให้ดีๆ ตอนนี้ภาระหน้าที่สำคัญของเด็กๆก็คือการเรียน ลูกสาวของคุณโตไวไปหน่อย อีกอย่างอาจารย์อู่ คุณเองก็เป็นอาจารย์ตัวอย่าง หลักการเหตุผลเหล่านั้นคุณเข้าใจเสียยิ่งกว่าฉัน คิดๆ ไปแล้วคุณน่าจะเข้าใจความหมายของฉันนะ!”
สีหน้าของอู่เจิ้งซือดูไม่ได้เป็นอย่างมาก แน่นอนว่าเขาเข้าใจความหมายของถานซูฟาง ไม่ใช่อยากจะพูดว่าอู่เยวี่ยส่งผลกระทบต่อเหยียนหมิงต๋าหรอกหรือ!
โดนคนมาชี้หน้าสั่งสอนถึงบ้าน อย่างไรในใจของอู่เจิ้งซือก็รู้สึกไม่พอใจมาก พลันยิ่งรู้สึกไม่พอใจถานซูฟางมากยิ่งขึ้นไปอีก ถ้าไม่ใช่ว่าเห็นแก่หน้าของเหยียนโฮ่วเต๋อ เขาจะต้องสั่งสอนฝ่ายตรงข้ามสักชุดแน่นอน
เวลานี้เขารู้สึกเสียใจที่ออกมา หากรู้ก่อนว่าถานซูฟางคนนี้เป็นพวกเข้าใจเอาเองว่าตนไม่เบาเช่นนี้ เขาก็แสร้งทำเป็นไม่รับรู้หลบอยู่ในห้อง ให้เหอปี้อวิ๋นทะเลาะกับเธอเอาเอง
ถึงอย่างไรเหยียนโฮ่วเต๋อก็เป็นถึงอธิบดีไม่ต้องกลัวขายหน้า แต่เขามีอะไรให้คำนึงบ้าง?
อู่เจิ้งซือพยายามที่จะข่มกลั้นความโมโหอย่างสุดความสามารถ ยิ้มแล้วยิ้มอีกพูดว่า “เยวี่ยเยวี่ยของผมตลอดเวลาที่ผ่านมาคะแนนการเรียนก็ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก ไม่ต้องให้ผู้ใหญ่อย่างพวกผมทุกข์ใจ อีกทั้งเยวี่ยเยวี่ยแต่ไหนแต่ไรมาก็เป็นคนมีน้ำใจมองโลกในแง่ดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ในโรงเรียนก็สนิทสนมกับเพื่อนๆ นักเรียน พูดจริงๆ แล้ว สำหรับเยวี่ยเยวี่ยผมค่อนข้างที่จะพอใจอยู่ สำหรับลูกชายของคุณเหยียนหมิงต๋า เรื่องการเรียนของเขาผมไม่ค่อยเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ขอถามหน่อยเขาได้ลำดับที่เท่าไรในโรงเรียน?”
การพูดครั้งนี้ช่างพูดได้อย่างปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ แฝงไว้ด้วยความประชดประชันเป็นอย่างมาก บ้านคุณมีนักเรียนเรียนบ๊วยแม้กระทั่งอันดับที่สองร้อยของโรงเรียนก็ยังเข้าไปไม่ได้ แต่เยวี่ยเยวี่ยของเขาต่อให้คะแนนถดถอยลดลงก็ยังเป็นนักเรียนเรียนเก่งที่อยู่ในอันดับห้าสิบแรกของทั้งโรงเรียน!
ขอถามหน่อย ท้ายที่สุดแล้วใครส่งผลกระทบต่อใครกันแน่?
เหอปี้อวิ๋นมีความมั่นใจกลับคืนมา นี่เป็นครั้งแรกที่สามีช่วยเธอพูดตอนอยู่ข้างนอกเลยนะ!
“แล้วไม่ใช่หรือยังไง ไม่เคยเห็นคนที่หน้าหนาขนาดนี้มาก่อน ลูกชายของตัวเองไม่พยายามเอง นึกไม่ถึงเลยว่ายังจะมีหน้ามาโทษคนอื่นว่าพาลูกของเธอเสีย ยังจะมีหน้าอีกไหม?”
เหยียนโฮ่วเต๋อฟังเข้าใจในที่สุด ถ้าคิดแบบนี้ ต้นตอของการทะเลาะกันคงจะเป็นเพราะภรรยาเป็นคนมายั่วยุด้วยตัวเอง เขารู้สึกไม่พอใจถานซูฟางเป็นอย่างมาก ระยะนี้ภรรยาค่อนข้างที่จะเหลิงแล้ว กลับไปเดี๋ยวต้องพูดคุยกับถานซูฟางดีๆ ตอนนี้เขายังเป็นแค่รองอธิบดีอยู่!
ยังไม่ใช่สถานภาพที่จะชักสีหน้าได้!
“อาจารย์อู่ ต้องขอโทษจากใจจริงๆ ผมจะเรียกซูฟางกลับบ้าน เยวี่ยเยวี่ยของคุณแต่ไหนแต่ไรมาก็เป็นนักเรียนที่ยอดเยี่ยม จุดนี้คือเห็นชัดแจ้งเหมือนกันทุกคน ไม่เหมือนหมิงต๋าของผม คะแนนแย่ ผมไม่มีหน้าที่จะพูดแล้ว”
เหยียนโฮ่วเต๋อทำหน้ายิ้มพูดจาด้วยดี ยกยออู่เยวี่ยเต็มที่อีกด้วย แถมยังตำหนิลูกชายของตัวเองอีกหนึ่งที อู่เจิ้งซือถึงจะมีรอยยิ้มขึ้นมาหน่อย ด้วยคำพูดที่เกรงอกเกรงใจไม่กี่ประโยค บรรยากาศก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลง
แต่ถานซูฟางกลับไม่พอใจ ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างเธอกับเหยียนโฮ่วเต๋อก็คือทัศนคติของทั้งสองคนที่มีต่อลูกชาย เหยียนโฮ่วแต่ไหนแต่ไรมามักจะชมเชยเหยียนหมิงซุ่นอยู่เสมอ ไม่เห็นลูกชายคนเล็กอยู่ในสายตา
แน่นอนว่าเธอจะต้องรักและห่วงใยลูกแท้ๆ ของตัวเองมากกว่า แต่ไหนแต่ไรมาก็คิดอยู่เสมอว่า ลูกชายสุดที่รักของเธอในภายภาคหน้าจะต้องมีอนาคตมากกว่าลูกนอกคอกที่นังสารเลวนั้นคลอดออกมาแน่นอน!
โดยเฉพาะในโอกาสนี้ ถานซูฟางยังมาได้ยินคำพูดแบบนี้ อารมณ์โมโหก็พลุ่งพล่านขึ้นมาทันที สติปัญญาและการมีเหตุผลก็หายไปในทันที
“คุณอู่ คุณต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนสิ หมิงต๋าเพียงแค่คะแนนแย่ไปหน่อย แต่ความประพฤติของเขาดีมาก จิตใจดีมีเมตตา เทียบกับพวกมือเท้าสกปรก จิตใจดุร้ายแม้กระทั่งน้องสาวแท้ๆ ของตัวเองยังทำร้ายได้ ยังไงก็ดีกว่าร้อยเท่าพันเท่า!”
…………………………………………..
ตอนที่ 458 เหอปี้อวิ๋นทำผิดพลาดโง่ๆ อีกครั้ง
เหอปี้อวิ๋นที่เดิมทีที่สงบลงมาแล้ว ได้ยินถานซูฟางใส่ร้ายป้ายสีลูกสาวสุดที่รักของเธอต่อหน้า ความโกรธที่เพิ่งจะควบคุมไว้ได้ ก็ค่อยๆ ขยับขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาของเธอกลายเป็นสีแดงก่ำ ใบหน้าบิดเบี้ยวไปหมด สาวเท้าพุ่งขึ้นไปข้างหน้า ไม่คิดอะไรทั้งนั้นตบหน้าถานซูฟางไปฉาดใหญ่
“ถุย! ถานซูฟาง นังสารเลวหน้าไม่อาย ตูดของตัวเองยังล้างไม่สะอาด ยังจะมีหน้ามาว่าเยวี่ยเยวี่ยถึงบ้านของฉัน? เธอคิดว่าเรื่องโสมมในปีนั้นใครไม่รู้บ้างฮะ? ทำให้ภรรยาหลวงคนอื่นโมโหจนตาย สมคบคิดกันอย่างไม่สะอาด แกมันเป็นพวกนังสารเลวหน้าไม่อาย นังคนใจง่าย ควรจะถอดเสื้อผ้าแกออกให้หมดแล้วแห่ขึ้นขบวนไปให้ทั่วถนนใหญ่เลย!”
เหอปี้อวิ๋นที่กำลังโมโหเดือดดาลเป็นอย่างมาก ท้ายที่สุดก็ไม่ไว้หน้ากันเลยแม้แต่นิดเดียว ฉีกหน้าถานซูฟางอย่างไม่ยอมปรานีเลยแม้แต่น้อย
อันที่จริงเรื่องอื้อฉาวของถานซูฟางและเหยียนโฮ่วเต๋อ พวกอาจารย์ทั้งหมดต่างก็พอจะรู้อยู่บ้าง เพียงแต่ว่าต้องการไว้หน้าเหยียนโฮ่วเต๋อ ไม่ว่าใครก็จะไม่พูดออกมาต่อหน้า ก็เป็นเพียงการพูดลับหลังไม่กี่ประโยคก็เท่านั้น
มหาชนมากมายที่กำลังดูความวุ่นวายก็ตกใจยกใหญ่ โอ้โห! นี่มันเลยเถิดไปกันใหญ่แล้ว!
มีบางคนที่ฉลาดหน่อยเห็นสีหน้าที่ดูไม่ได้ของเหยียนโฮ่วเต๋อ ก็ไม่กล้าพากันล้อมชมอีก ค่อยๆ ทยอยกลับบ้านไป
พวกเขาไม่โง่ขนาดนั้น แต่เหอปี้อวิ๋นเป็นคนโง่ มันไม่คุ้มที่จะล่วงเกินเหยียนโฮ่วเต๋อ ถึงแม้ว่าถานซูฟางจะไร้ยางอาย แต่คนที่ไร้ยางอายมากกว่าก็คือเหยียนโฮ่วเต๋อ
สุภาษิตบอกว่า ตีคนห้ามตีหน้า ด่าคนห้ามเปิดเผยจุดอ่อน เหอปี้อวิ๋นเป็นคนโง่และทึ่มมากจนไม่มียาอะไรรักษาได้แล้วจริงๆ เดิมทียังเป็นแค่เรื่องเล็กๆ ระหว่างเธอกับเหอปี้อวิ๋น แต่นี้กลับกันแล้ว แม้กระทั่งเหยียนโฮ่วเต๋อก็โดนด่ารวมเข้าไปด้วยแล้ว
ตอนนี้อู่เจิ้งซือคงจะมีก้นให้เช็ด[1]แล้วล่ะ!
มิน่าล่ะเขาถึงพูดกันว่า แต่งภรรยาต้องแต่งกับคนที่มีคุณธรรมมีเกียรติ คำพูดของบรรพบุรุษช่างเป็นสัจธรรมจริงๆ!
ผู้คนที่มุงดูค่อยๆ ทยอยออกไปกันแล้ว เหลือเพียงแค่พวกไม่กลัวตายกับพวกอยากดูความวุ่นวาย อู่เจิ้งซือหน้าคล้ำเขียว สีหน้าดีกว่าของเหยียนโฮ่วเต๋อกันไม่มาก เดิมทีพวกเขายังเป็นฝ่ายที่มีเหตุผลอยู่ แต่ตอนนี้โดนเหอปี้อวิ๋นก่อเรื่องวุ่นวายขนาดนี้ พวกเขาจึงกลับกลายเป็นคนไม่มีเหตุผลอีกต่อไป!
เหอปี้อวิ๋นเห็นถานซูฟางโดนตัวเธอพูดใส่จนเงียบกริบพูดไม่ออก อย่าให้พูดเลยว่าลำพองใจมากแค่ไหน ตอนนี้ยิ่งรู้สึกสุขใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้!
แท้จริงแล้วการปลดปล่อยอารมณ์ก็เป็นอะไรที่สบายใจมากเลยทีเดียว เมื่อก่อนเธอคิดแค่อยากจะเป็นแม่ที่ดีและภรรยาที่ดีอยู่เสมอ นิสัยเดิมที่กดเอาไว้ลึกๆ อย่าให้พูดเลยว่าอัดอั้นตันใจมากขนาดไหน
แต่ที่ยิ่งทำให้เธอรู้สึกอัดอั้นตันใจมากสุดๆ ก็คือ การที่เธอต้องกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมมากมายขนาดนี้ อู่เจิ้งซือไม่เพียงแต่ไม่ซาบซึ้ง แต่กลับทำตัวพูดจาเย็นชากับเธอ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เธอทำไมจะต้องข่มกลั้นตัวเองเอาไว้ล่ะ!
แค่เพียงว่าความลำพองใจของเธอมันไม่ได้คงอยู่นานเท่าไร!
“เพี้ยะ”
เสียงตบกระทบบนใบหน้าของเหอปี้อวิ๋นดังขึ้น ดังกว่าเมื่อกี้ที่ถานซูฟางโดนอีก ทุกคนหันไปมองเหอปี้อวิ๋นอย่างพร้อมเพรียงกัน ใบหน้าของเธอบวมเป่งออกมาอีกทั้งยังมีรอยนิ้วมือห้านิ้วประทับอย่างชัดเจนอยู่อีกด้วย
“อธิบดีเหยียน ภรรยาผมโง่เขลาขาดความรู้ ชอบพูดจาไร้สาระหาความไม่ได้อยู่บ่อยๆ คุณอย่าเอาคำพูดของเธอไปใส่ใจเลยนะ คิดซะว่าเธอกำลังผายลมอยู่ก็แล้วกัน”
อู่เจิ้งซือสั่งสอนเหอปี้อวิ๋นแล้วก็ยังหันมาขอขมาขอโทษเหยียนโฮ่วเต๋ออีก เหยียนโฮ่วเต๋อต่อให้ยังโมโหแค่ไหน ก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว คนผู้นั้นตีภรรยาต่อหน้าทุกคนไปแล้ว เขายังจะสามารถพูดอะไรได้อีก?
แต่ในใจของเขาก็ยังคงรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก ในชีวิตนี้เรื่องที่เขาทำผิดมีเพียงเรื่องเดียวก็คือ เรื่องที่ภรรยาคนก่อนตายไปยังไม่ถึงครึ่งปีก็แต่งกับถานซูฟาง เพราะว่าตอนนั้นถานซูฟางโกหกว่าเธอตั้งท้อง ดังนั้นเขาเลยไม่พิจารณาท่าทีต่อต้านคัดค้านของพ่อแม่แล้วก็แต่งถานซูฟางเข้ามา
เรื่องนี้เป็นราคีเดียวในชีวิตของเขา แม้กระทั่งตัวเขาเองยังไม่อยากจะไปนึกถึง แต่เหอปี้อวิ๋นกลับเปิดเผยจุดอ่อนของเขาต่อหน้าคนมากมาย เหยียนโฮ่วเต๋อไหนเลยจะไม่โมโห?
อีกทั้ง เดิมทีเขายังไม่ใช่คนที่ใจกว้างอะไร ความแค้นนี้เขาจำเอาไว้แล้ว เหอปี้อวิ๋นไม่ใช่ว่าคิดอยากจะย้ายไปทำงานในเมืองหรอกหรือ?
เหอะ! ชั่วชีวิตนี้อย่าได้คิดอีกเลย!
…………………………………………..
[1] มีก้นให้เช็ด หมายถึง มีปัญหาต้องไปจัดการ