ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 487 หมาที่ถูกไล่ออกจากบ้าน + ตอนที่ 488 เลือกให้สอดคล้องกับความเป็นจริง
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- ตอนที่ 487 หมาที่ถูกไล่ออกจากบ้าน + ตอนที่ 488 เลือกให้สอดคล้องกับความเป็นจริง
ตอนที่ 487 หมาที่ถูกไล่ออกจากบ้าน
เหอปี้อวิ๋นวิ่งเข้ามาด้วยใจที่ปรารถนาเต็มเปี่ยม แต่กลับโดนคุณย่าอู่สาดน้ำเย็นใส่ไปหนึ่งกะละมัง แม้กระทั่งประตูก็ยังไม่ให้เธอเข้า ไม่ว่าเธอจะร้องไห้อ้อนวอนอย่างไร คนในตระกูลอู่แต่ละคนกลับใจแข็งเป็นหิน ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบเลยแม้แต่น้อย
เหอปี้อวิ๋นที่กำลังกลุ้มใจเห็นพวกอู่เหมย ในใจพลันแอบยิ้มดีใจ หวังพูดจาหว่านล้อมอู่เหมยเต็มที่เพื่อให้เธอพาตัวเองเข้าไป เหอปี้อวิ๋นก็ไม่ได้บื่อทึ่มขนาดนั้น ขอเพียงแค่ไม่ได้รับสิ่งยั่วยุสะเทือนใจ เธอก็ยังสามารถนึกคิดเรื่องราวได้อย่างชัดเจน
ตอนนี้อู่เหมยเป็นแก้วตาดวงใจของคุณปู่อู่และอู่เจิ้งซือ ฐานะที่ดูแคลนไม่ได้อีกต่อไป ถ้าหากอู่เหมยยอมช่วยพูดให้เธอดีๆ คุณปู่อู่กับอู่เจิ้งซือจะต้องให้เธอกลับมาแน่นอน
ส่วนอู่เหมยจะเห็นด้วยหรือไม่นั้น เหอปี้อวิ๋นไม่ได้พิจารณาเลยสักนิด สำหรับเธอแล้วอู่เหมยก็เหมือนกับเมื่อก่อน ขอเพียงแค่เธอทำสีหน้ายิ้มแย้มนิดหน่อย ยัยเด็กนี่ก็จะทำงานถวายชีวิตเลยทีเดียว ต่อให้เฉือนเนื้อของตนเองก็ยอมได้ทั้งนั้น
เพียงแต่เธอกลับไม่รู้ ว่าอู่เหมยในตอนนี้ไม่ใช่เด็กโง่ที่มีจิตใจซื่อสัตย์เหมือนเมื่อก่อนคนนั้นอีกต่อไปแล้ว!
แล้วก็ไม่สนใจความอ่อนโยนนุ่มนวลหลอกๆ ของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว!
อู่เหมยเผชิญหน้ากับเหอปี้อวิ๋นที่กำลังเดินเข้ามาอย่างเมินเฉย ทั้งร่างแผ่รังสีของความเย็นชาไร้อารมณ์ออกมา จนอู่เชาที่อยู่ข้างๆ รู้สึกหนาวสั่น!
นี่คือแม่ลูกกันซะที่ไหน?
นี่มันเป็นคู่อริที่เกลียดชังอย่างรุนแรงและฝังลึกเข้าเส้นเลือดชัดๆ!
“อาสะใภ้รอง!”
ถึงแม้ว่าอู่เชาจะไม่ชอบเหอปี้อวิ๋น แต่ก็ยังร้องทัก ถึงอย่างไรก็ถือว่าเป็นผู้อาวุโสกว่า
อู่เหมยกลับไม่ได้ส่งเสียงอะไร ไม่แม้กระทั่งจะสนใจเหอปี้อวิ๋น เดินอ้อมผ่านเธอเดินต่อไปข้างหน้า ตอนนี้เหอปี้อวิ๋นหน้าเสียราวกับไก่ขนร่วงที่ตกเข้าไปในโคลนตม เหตุด้วยตระกูลอู่ที่สร้างชื่อเสียงจอมปลอมและเห็นแก่ตัว พวกเขาจะใจดีปล่อยให้เหอปี้อวิ๋นที่เป็นพวกจิตไม่ปกติแบบนี้อยู่ต่อไปเพื่อทำลายวงศ์ตระกูลอู่ที่สืบทอดต่อกันมาช้านานได้อย่างไรกัน?
การหย่านั้นจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนอยู่แล้ว!
ถ้าเธอเดาไม่ผิดล่ะก็ อู่เจิ้งซือน่าจะวางแผนไว้ว่ารอให้ผ่านการฉลองตรุษจีนไปก่อนค่อยจัดการเรื่องนี้ เพียงแต่เหอปี้อวิ๋นที่ยังไร้เดียงสา เชื่อจากใจจริงๆ ว่าอู่เจิ้งซือจะไปรับเธอกลับมา?
โง่จนคนอื่นเทียบไม่ติดจริงๆ!
“เหมยเหมย แกเห็นฉันแล้วทำไมไม่เรียก?” เหอปี้อวิ๋กดความโมโหที่กำลังจะเดือดดาลเอาไว้ พยายามแย้มรอยยิ้มที่อ่อนโยนออกมา
“ทำไมต้องเรียก ลูกสาวสุดที่รักของคุณก็คืออู่เยวี่ย เธอยังไม่ยอมรับแม่ที่เป็นบ้าอย่างคุณเลย ฉันที่โดนเก็บมาเลี้ยงทำไมต้องเรียก?” อู่เหมยปากก็พูดว่าไม่สนใจ แต่ไหนแต่ไรมาความแค้นในใจของเธอไม่เคยจางหายไป จนยากที่จะควบคุมได้ในเวลานี้
“แกพูดไร้สาระอะไร? ฉันต้องคลอดแกออกมาอย่างทุกข์ทรมาน ทำให้ร่างกายของฉันย่ำแย่ แม้กระทั่งลูกชายยังไม่มีปัญญาจะมี ฉันรู้อยู่แล้วว่าแกมันเป็นเด็กเนรคุณเลี้ยงไม่เชื่อง แกมันใจดำอำมหิต……”
เหอปี้อวิ๋นแสดงสีหน้าไม่ชอบใจ สาดทอคำด่าออกมาอย่างเกรี้ยวกราด บางทีเธออาจจะเป็นบ้าจริงๆก็ได้ เรื่องที่กระหน่ำเข้ามาอย่างไม่ขาดสายยั่วอารมณ์โกรธเธอขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย และอีกอย่างเธอยังมีอาการเวียนหัว คำพูดคำจาไร้เหตุผลเข้าใจยากหรือทำเรื่องอะไรที่ไม่เหมาะกับตัวเอง
อู่เหมยยิ้มเยาะซ้ำแล้วซ้ำอีก พูดขัดขึ้นมาว่า “แม่คลอดลูกชายไม่ได้แล้วมันเป็นความผิดหนูหรือไง? ในเมื่อเกลียดหนูขนาดนี้ งั้นแม่ก็แค่เดินไป หนูไม่ได้ขอให้แม่มาหาหนูสักหน่อย!”
พูดจบเธอก็ไม่สนใจเหอปี้อวิ๋นที่กำลังพูดไปสบถคำด่าไป เดินตรงเข้าไปทางประตูใหญ่ของบ้านตระกูลอู่ เหอปี้อวิ๋นรีบดึงตัวเธอเอาไว้ วันนี้เธอจะต้องพบอู่เจิ้งซือให้ได้ ถ้าไม่อย่างนั้นแม่ของเธอจะต้องไล่เธอออกจากบ้านอย่างแน่นอน
“แกห้ามไป พาฉันไปหาพ่อแก แกหยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
เหอปี้อวิ๋นตะโกนร้องอย่างบ้าคลั่ง ใบหน้าบูดเบี้ยวบึ้งตึง จ้องเขม็งไปทางอู่เหมยที่เลี่ยงออกไปด้วยความว่องไวอย่างโหดเหี้ยม
อู่เหมยมองไปทางเธออย่างเหยียดหยาม ในใจมีแต่ความสะใจ ถือเป็นการทวงคืนความเป็นธรรมให้กับตัวเองในชาติก่อนก็แล้วกัน!
“เสี่ยวเชาพาอาสะใภ้รองเข้าไป เชื่อฉันสิ!” เหอปี้อวิ๋นเปลี่ยนเป้าหมายหันไปทางอู่เชา เด็กอ้วนน้อยผู้น่าสงสารอย่าให้พูดเลยว่าคิดไปไกลมากแค่ไหน กังวลแค่เพียงว่าเธอจะโดนเขกกบาลเอาได้
“อาสะใภ้รองอย่าเข้ามา แม่ คุณย่า ช่วยผมด้วย ผมแข้งขาอ่อนจนวิ่งไม่ไหวแล้ว!”
………………………………….
ตอนที่ 488 เลือกให้สอดคล้องกับความเป็นจริง
อู่เหมยดึงอู่เชาที่หอบหายใจแรงหน้าซีดอย่างคนไร้วิญญาณวิ่งมาถึงที่ลานบ้าน มือของอู่เชาที่เปิดประตูนั้นสั่นเทาเวลาผ่านไปหลายนาทีก็ยังเล็งกุญแจไม่ตรงช่องสักที อู่เหมยโมโหเลยคว้าแย่งเอามา แล้วเปิดประตูอย่างง่ายดาย อีกทั้งยังปิดประตูใส่เหอปี้อวิ๋นที่ตามมาอยู่ด้านหลัง
”โอ๊ยแม่คุณ ตกใจหมดเลย!”
อู่เชาพอหย่อนก้นนั่งลงบนพื้น หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อที่แตกพลั่กจนเสื้อกล้ามเปียกแฉะไปหมด
“เสี่ยวเชาหลานเป็นอะไร? ไม่สบายหรือเปล่า?” คุณย่าที่กำลังห่อเกี๊ยวอยู่ในห้องครัวเดินเข้ามาอย่างเป็นห่วง ลูบหน้าผากของอู่เชา
”คุณย่า อาสะใภ้รองเธออยู่ด้านนอก เธออยากจะจับผมกับเหมยเหมย น่ากลัวมากเลย!”
อู่เชาเล่าเรื่องที่ตัวเองพึ่งเจอมาอย่างน่าสงสาร คนที่เป็นโรคประสาทตอนที่แสดงอาการออกมาน่ากลัวมากจริงๆ เดี๋ยวจะต้องกินเกี๊ยวเข้าไปให้เยอะๆ เพื่อเป็นการปลอบขวัญสักหน่อย!
คุณย่าอู่พอได้ฟังว่าเหอปี้อวิ๋นทำให้หลานชายสุดที่รักของเธอเสียขวัญ จึงหยิบไม้นวดแป้งหมี่ออกมาจากในห้องครัว ตรงไปเปิดประตู เหอปี้อวิ๋นที่กำลังเลว่าจะรอต่อไปดีไหม เงยหน้าขึ้นมาอย่างดีใจ ยังไม่ทันสิ้นคำว่า’แม่’ ไม้นวดแป้งหมี่ก็ทุบลงมาที่หัวและหน้าดังโครม!
“เหอปี้อวิ๋นถ้าแกอยากจะเป็นบ้าก็ไปเป็นบ้าที่บ้านตัวเองนู่น อย่ามาขายขี้หน้าที่หน้าประตูตระกูลอู่ของพวกฉัน รีบไสหัวไปซะ!”
คุณย่าอู่ชูไม้นวดแป้งหมี่โบกไปมาอย่างป่าเถื่อน เหมือนผู้มีฝีมือแห่งยุคก็ไม่ปาน เหอปี้อวิ๋นอยู่ต่อหน้าเธอก็ไม่ได้โต้ตอบกลับไปเลยแม้แต่นิด โดยมีอู่เหมยยืนมองด้วยความคับแค้นใจ
เหอปี้อวิ๋นก็มีวันนี้เหมือนกัน!
“แม่อย่าตีอีกเลย ฉันไม่ได้เป็นบ้า ฉันก็แค่อยากจะมาดูเยวี่ยเยวี่ยกับพวกคุณ ฉันสำนึกผิดแล้ว ขอร้องพวกคุณให้โอกาสฉันได้แก้ไขเถอะนะ!”
เหอปี้อวิ๋นสูดปากร้องด้วยความเจ็บไม่หยุด คับแค้นอยู่ในใจ แม้กระทั่งแม่ของเธอยังไม่เคยตีเธอแบบนี้เลย แต่เธอรู้ดีว่าต่อให้วันนี้คุณย่าอู่หยิบมีดมาแทงเธอ เธอก็ต้องอดทน ไม่อย่างนั้นเธอก็จะไม่ได้กลับมา!
“เธอเรียกใครแม่? ฉันไม่มีลูกสะใภ้แบบนี้หรอกนะ เยวี่ยเยวี่ยดีมาก นับว่าเธอโชคดี ที่ไม่โดนแกทุบจนตายไป แกรีบไสหัวไปเลยนะ ไสหัวกลับตระกูลเหอของพวกแกไปนู่น!”
คุณย่าอู่มองเหอปี้อวิ๋นตรงหน้าที่น้ำหูน้ำตาไหลไม่หยุดโดยไม่สงสารสักนิด เธอก็เหมือนกับลูกสาวอู่เจิ้งหง ที่ไม่พอใจเหอปี้อวิ๋นเป็นอย่างมากมองแล้วขัดหูขัดตา แต่วันนี้มีข้ออ้างที่ดีขนาดนี้ ถ้าเธอปล่อยเหอปี้อวิ๋นไปสิถึงจะแปลก!
เพียงแต่ไม่ว่าคุณย่าอู่จะทำร้ายทุบตีอย่างไร เหอปี้อวิ๋นก็ไม่ยอมที่จะจากไป เธอค่อยๆ คุกเข่าลงไป โดนด่าเท่าไหร่ก็ไม่ด่ากลับ โดนตีก็ไม่โต้ตอบ ราวกับเด็กผู้หญิงที่ถูกนำมาเลี้ยงเพื่อให้แต่งเป็นสะใภ้บ้านอื่นยังไงอย่างนั้น
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตระกูลอู่ตอนนี้ ได้สร้างความรบกวนกับเพื่อนบ้านรอบข้าง เพื่อนบ้านพวกนี้ไม่ใช่แค่คนปกติธรรมดาทั่วไป ทุกๆ คนต่างก็เป็นพวกศาสตราจารย์ที่มีคุณธรรมและบารมีสูง จึงทำให้คุณปู่อู่ตัดสินใจในเวลานั้นทันที “เอาเหอปี้อวิ๋นเข้ามา”
ขื่อเสียงตระกูลอู่ของเขาจะไม่ให้ผู้หญิงคนนี้ทำลาย!
ในที่สุดเหอปี้อวิ๋นก็ได้เข้ามาในห้องตามความปรารถนา แต่ร่างกายกลับเต็มไปด้วยรอยแผล เจ็บจนต้องสูดปาก คิดอยู่ในใจว่าวันหลังมีโอกาสค่อยตอบแทนคืนคุณย่าอู่อย่างสาสม ตอนนี้ทำได้เพียงแค่อดทนไว้ก่อน
อู่เจิ้งซือไม่อยู่บ้าน ที่ปิดเทอมคือนักเรียน อาจารย์ยังมีงานอีกมากมายให้ทำ โดยทั่วไปก็จะยุ่งถึงวันที่ยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปด
แต่อู่เยวี่ยนั้นอยู่บ้าน เหอปี้อวิ๋นมองใบหน้าที่ซีดเซียวของลูกสาวสุดที่รักด้วยความเจ็บปวดใจ ไม่ได้เห็นหลายวัน เยวี่ยเยวี่ยผอมลงไปมาก จะต้องไม่ได้กินดีแน่นอน จะยังมีใครที่สามารถดูแลใส่ใจห่วงใยเยวี่ยเยวี่ยอย่างดีเหมือนเธอได้อีก!
“เยวี่ยเยวี่ย หัวของลูกยังเจ็บอยู่หรือเปล่า?”
อู่เยวี่ยเงยหน้ามองเหอปี้อวิ๋นอย่างเงียบๆ ในใจมีหลากหลายความรู้สึกผสมปนเปกันไปหมด ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าตัวเธอเองอีกแล้ว ว่าที่เธอได้รับบาดเจ็บนั้นเกิดขึ้นได้ยังไง และเธอก็จะไม่พูดความจริงออกมา
เพราะข้อเท็จจริงแบบนี้มีประโยชน์ต่อเธอมากกว่า!
ถึงอย่างไรแม่ก็ซวยโดนทำลายชื่อเสียงไปมากขนาดนั้นแล้ว จะเสียชื่อมากขึ้นอีกเรื่องก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร!
“ยังดีค่ะ ไม่ได้เจ็บอะไรมากแล้ว!” อู่เยวี่ยพูดเบาๆ บนหน้าไม่ได้แสดงออกถึงความรู้สึกอะไร
เหอปี้อวิ๋นใจเจ็บราวกับโดนมีดแทง เยวี่ยเยวี่ยยังโกรธเธออยู่แน่นอน!
วันนั้นเธอทำไมถึงได้พลาดพลั้งลงมือไป ทุบลงบนหัวของเยวี่ยเยวี่ยได้นะ?
…………………………………………..