ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 505 เหอปี้อวิ๋น ระวังกรรมจะตามสนองล่ะ + ตอนที่ 506 เห็นได้ชัดอย่างผิวเผิน
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- ตอนที่ 505 เหอปี้อวิ๋น ระวังกรรมจะตามสนองล่ะ + ตอนที่ 506 เห็นได้ชัดอย่างผิวเผิน
ตอนที่ 505 เหอปี้อวิ๋น ระวังกรรมจะตามสนองล่ะ
จ้าวอิงหัวพูดคุยกับหัวหน้าเลขานุการไปไม่กี่ประโยค เขาพูดเพียงแค่ว่าต้องการมาดูการแสดงของลูกหลานในตระกูล จึงไม่ได้ต้องการให้ทุกคนแตกตื่นแต่อย่างใด
“เลขาธิการหูเชิญให้คุณจ้าวไปพูดคุยด้วย คุณจะว่ายังไงครับ?” หัวหน้าเลขานุการยิ้มตาหยีและพูดขึ้น
จ้าวอิงหัวรู้สึกลำบากใจ เขามองไปยังหลังเวทีแวบหนึ่ง จากนั้นหันกลับไปยังเก้าอี้โซนวีไอพีอีกครั้ง เลขาธิการประจำเมืองจินหันมายิ้มให้เขาและพยักหน้าเพื่อเป็นการให้เกียรติ การที่เขามาร่วมดูการแสดงแล้วไม่เข้าไปทักทาย ถือเป็นการเสียมารยาทมากพอแล้ว ในตอนนี้ท่านได้ส่งเลขามาเชิญเขาถึงที่ หากว่าเขาเลือกที่จะไม่เข้าไปพบ เกรงว่าเลขาธิการหูคงมองเขาเปลี่ยนไปแน่
เหยียนซินหย่าพูดขึ้นอย่างอ้อมค้อมและอ่อนโยน “อิงหัว คุณรีบเข้าไปพบท่านเถอะค่ะ ทางนี้ยังมีฉันกับอิงหนานอยู่!”
จ้าวอิงหนานเองก็ได้บอกให้เขาเข้าไป เพราะเขาไม่ควรจะเสียมารยาท จ้าวอิงหัวจึงทำได้เพียงกำชับให้จ้าวอิงหนานดูแลเหยียนซินหย่าให้ดี ตัวเขาถึงได้เดินตามหัวหน้าเลขาเข้าไปด้านใน ใจของหัวหน้าเลขานั้นรู้สึกดีขึ้นมากว่าเดิม เขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าจ้าวอิงหัวมีท่าทีไม่เต็มใจนัก คิดว่าคงเป็นเพราะเขาไม่อยากห่างจากภรรยาอันเป็นที่รัก จึงอดที่จะขำไม่ได้
เขาได้ยินมานานแล้วว่าจ้าวอิงหัวเป็นสามีแบบอย่างที่ได้มาตรฐาน เขารักภรรยาเท่าชีวิต ผู้นำคนอื่นๆ ต่อให้ไม่ชอบการสังสรรค์หรือคบค้าสมาคมมากนัก แต่อย่างน้อยก็ยังมีเข้าร่วมบ้าง แต่จ้าวอิงหัวไม่ใช่เลย นอกเสียจากจะเป็นคำสั่งจากเบื้องบนที่ปฏิเสธไม่ได้เขาถึงจะเข้าร่วม มิฉะนั้นเขาจะกลับบ้านทันทีเพื่อกลับไปดูแลภรรยาหลังจากเลิกงาน
อีกทั้งเขายังได้ยินมาอีกว่าภรรยาของจ้าวอิงหัวคือผู้ป่วยรูปงามดั่งนางสวรรค์ราวกับหลินเหม่ยเหม่ย [1] ไม่แปลกเลยที่คนแข็งกระด้างราวกับเหล็กอย่างจ้าวอิงหัวจะถูกหลอมละลายกลายเป็นน้ำไปได้!
คุณปู่อู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังของเหอปี้อวิ๋นสายตาวาววับ เขาแก่และช่างสังเกตมากพอจนถึงขั้นดูออกทุกอย่าง เพียงแค่เห็นว่าเลขานุการประจำเมืองทำตัวเกรงอกเกรงใจ และไม่กล้าดูแคลนต่อจ้าวอิงหัวขนาดนี้ ก็รู้ได้ทันทีว่าฐานะของจ้าวอิงหัวไม่ธรรมดา
“สะใภ้รองไม่คิดจะแนะนำเพื่อนของเธอให้พวกเรารู้จักบ้างล่ะ?” คุณปู่พูดขึ้น
เหอปี้อวิ๋นตัวหดเล็กลงอย่างฉับพลัน และพูดออกไปอย่างไม่เต็มใจนัก “เธอคืออาจารย์จ้าว เป็นแม่บุญธรรมของเหมยเหมยค่ะ”
ส่วนเหยียนซินหย่านั้นเธอไม่ได้อยากแนะนำเลยสักนิด ยายชั่วนี่ไม่ใช่เพื่อนของเธอเลยต่างหาก ทำไมเธอจะต้องแนะนำด้วย?
คุณปู่ดวงตาเป็นประกายแพรวพราว ดูเหมือนว่าแม่บุญธรรมของหลานสาวคนเล็กจะมีฐานะที่สูงกว่าที่เขาคิดไว้มาก!
หลานคนเล็กช่างเป็นเด็กที่โชคดีเสียจริง!
“อาจารย์จ้าวรักใคร่ต่อเหมยเหมยของเรา ช่างถือเป็นเกียรติยิ่งนัก ต่อไปนี้เหมยเหมยมีอาจารย์คอยอบรมสั่งสอน คนเป็นปู่อย่างผมก็วางใจแล้วล่ะ!” คุณปู่พูดขึ้นอย่างนอบน้อมเพื่อจะสมานความสัมพันธ์
จ้าวอิงหนานไม่ได้รู้สึกดีอะไรต่อตระกูลอู่เลย แต่ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็มีอายุมากกว่า เธอเองก็ไม่ควรจะทำตัวเสียมารยาทเกินไป เธอหันไปขยิบตาให้เหอปี้อวิ๋นทีหนึ่งก่อนจะพูดขึ้น “อู่เหมยเป็นเด็กที่ใครเห็นต่างก็หลงรัก แต่น่าสงสาร ตั้งแต่เล็กๆ กลับไม่มีชีวิตที่ดีเลย ฉันเห็นยังรู้สึกเจ็บปวดเลย ตอนนี้อู่เหมยเป็นลูกบุญธรรมของฉันแล้ว แน่นอนว่าฉันจะต้องเอ็นดูเธอให้มาก”
คุณปู่มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป เขาไม่สามารถเก็บอาการทางสีหน้าได้อีก เมื่อก่อนคนที่ปฏิบัติตัวแย่ๆ ต่ออู่เหมยไม่ได้มีเพียงแค่เหอปี้อวิ๋น เขาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
คำพูดของจ้าวอิงหนานได้พัดเข้าหูเขาอย่างหนัก เขาจึงทำได้เพียงอดทนและยอมรับ!
ทั้งหมดเป็นความผิดของสะใภ้หน้าโง่อย่างเหอปี้อวิ๋น!
คุณปู่จ้องมองไปยังเหอปี้อวิ๋นอย่างโกรธจัด ทว่าเธอกลับไม่รู้ตัว จากนั้นได้หันกลับมาพูดคุยกับจ้าวอิงหนาน และได้พูดกับเหยียนซินหย่าไปอีกไม่กี่ประโยค เหยียนซินหย่าจะเอาอารมณ์ที่ไหนมาคุยเล่นกับคนตระกูลนี้ได้ล่ะ ใจของเธอในตอนนี้คือหวังเพียงแค่ให้ได้เจออู่เหมยโดยเร็ว
ขอแค่ให้ได้เจอเด็กคนนี้ เธอก็จะสามารถรู้เรื่องราวทุกอย่างได้!
หากว่าอู่เหมยเป็นลูกสาวของเธอจริงๆ เธอไม่มีทางให้อภัยคนพวกนี้ที่ขโมยลูกสาวของเธอไปแน่!
ไหนจะเหอปี้อวิ๋น ยายชั่วนี่ที่มีแต่ความใจดำอำมหิต บัญชีเก่าและบัญชีใหม่ที่มีในตอนนี้ เธอจะต้องเรียกเก็บคืนมาให้ครบทุกบาททุกสตางค์!
“เหอปี้อวิ๋น คนเราทำอะไรไว้ฟ้าดินเห็นหมด ระวังสักวันกรรมจะตามสนองล่ะ!” เหยียนซินหย่าพูดประโยคนี้ด้วยความเย็นชา จากนั้นจึงปลีกตัวเดินออกไปหลังเวที ไม่แม้แต่จะหันกลับมามองพวกแปลกประหลาดอย่างคนตระกูลอู่อีก
…………………………………………………………………………………………..
ตอนที่ 506 เห็นได้ชัดอย่างผิวเผิน
เหอปี้อวิ๋นมีสีหน้าเปลี่ยนไปจากเดิมมาก หันไปตะโกนด่าตามหลังเหยียนซินหย่า “เหยียนซินหย่า แกมีสิทธิ์อะไรถึงได้พูดจาแบบนี้ แกมันเป็นหญิงกาลกิณี หากใครแต่งงานด้วยจะต้องโชคร้ายไปตลอดชีวิต!”
เหยียนซินหย่าตัวสั่นเทา ใบหน้าซีดขาว เธอกัดฟันแน่น มือที่คอยจับจ้าวอิงหนานไว้สั่นเครือไม่หยุด
จ้าวเสวียหลินรีบประคองตัวเธอเอาไว้ และจ้องมองเหอปี้อวิ๋นอย่างโกรธจัด ผู้หญิงคนนี้สมควรตายนัก อยากจะใช้พัดฟาดเข้าที่ใบหน้าของเธอแรงๆ สักที!
เหอปี้อวิ๋นรู้สึกพึงพอใจขึ้นมาทันที แต่ก่อนที่เธอและเหยียนซินหย่าทะเลาะกันมักจะใช้คำพูดแบบนี้เสมอ ยายชั่วนั่นไม่เคยจะเถียงชนะเธอได้เลย ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม!
ยายคนชั่วนี่จะต้องก้มหัวต่อหน้าเธอทุกครั้งไป!
จ้าวอิงหนานโกรธมากเสียยิ่งกว่าเดิม เธอไม่เคยเห็นลูกพี่ลูกน้องคนไหนที่ใช้คำพูดแหลมคมราวกับคมมีดต่อหน้าผู้เป็นพี่แบบนี้มาก่อน เมื่อวานได้ฟังที่เหยียนซินหย่าบอก ตระกูลของเธอไม่ได้หวังให้มีบาปบุญคุณโทษใดต่อตระกูลอู่ แต่หากเป็นใบบุญนั้นมีแน่ พวกเขาช่างเป็นดั่งหมาป่าจอมเขลาที่กล้าบังอาจเหิมเกริม!
“เหอปี้อวิ๋นหากว่าอาการป่วยจะกำเริบ ก็ควรจะกลับไปกำเริบที่บ้านนะ พี่สะใภ้เล็กของฉันเป็นคนใจกว้างพอที่ไม่มานั่งคิดเล็กคิดน้อยอะไรกับเธอ แต่ตัวฉันเองไม่ได้ใจดีขนาดนั้น แต่หากจะให้พูดถึงพี่สะใภ้เล็กของฉันละก็ มีคนอย่างเธอเป็นลูกพี่ลูกน้องต่างหาก ถึงเรียกได้ว่าเป็นความโชคร้ายแปดชั่วโคตร!”
จ้าวอิงหนานจ้องเหอปี้อวิ๋นอย่างเย็นชา เธอคิดไว้แล้วว่าหากยายผู้หญิงน่าโง่คนนี้พูดอะไรออกมาอีก เธอจะเดินเข้าไปและใช้พัดฟาดใบหน้าของเธอแรงๆ สักครั้ง!
“เพี้ยะ!”
แต่ในตอนนี้ไม่จำเป็นต้องพึ่งพัดแล้วล่ะ ตี๋ชิวเยวี่ยถือโอกาสก่อนที่เหอปี้อวิ๋นจะอ้าปากพูด เธอเขย่งปลายเท้าแล้วออกแรงตบอย่างแรง ต้องลำบากตัวเธอจริงๆ เพราะตัวเธอนั้นเตี้ยกว่าเหอปี้อวิ๋นไปแทบครึ่งหัว!
“แกหุบปากไปซะ!”
ตี๋ชิวเยวี่ยไม่เคยมีสีหน้าท่าทีเย็นชาแบบนี้มาก่อน เหอปี้อวิ๋นตกใจและนิ่งเงียบไปสักพัก จนกว่าจะเรียกสติคืนกลับมาได้ ไฟร้อนในใจและกายปะทุขึ้นมาราวกับจะระเบิดเสียให้ได้
“สะใภ้รอง!”
แม้ว่าเสียงของคุณปู่จะไม่ได้ดังมาก แต่ก็หนักแน่นเสียยิ่งกว่าน้ำหนักพันกิโล ทำให้เหอปี้อวิ๋นรีบสงบเสงี่ยมเจียมตัว ไม่แม้แต่จะปริปากพูดอีก
“ขอโทษด้วย ที่ฉันดูแลคนในบ้านได้ไม่ดีพอ ทำเรื่องหน้าอายต่อหน้าพวกคุณ!”
คุณปู่อู่โค้งตัวไปด้านหน้าที่มีจ้าวอิงหนานและเหยียนซินหย่าอยู่ ราวกับเป็นการขอโทษด้วยกริยาท่าทางอ่อนน้อม จ้าวอิงหนานก็ไม่อาจที่จะระเบิดอารมณ์โกรธขุ่นมัวได้อีก เธอหันไปจ้องมองหน้าเหอปี้อวิ๋นอีกครั้ง จากนั้นพูดด้วยความเย็นชา “ศาสตราจารย์อู่คะ ต่อไปเรามีเรื่องที่จะต้องคุยกันนะ!”
“พี่สะใภ้เล็ก ไปกันเถอะ!”
จ้าวอิงหนานพยุงตัวเหยียนซินหย่าเดินไปหลังเวที หากไม่เกินความคาดหมาย มีเปอร์เซ็นต์มากถึงแปดสิบและเก้าสิบที่บ่งบอกว่าอู่เหมยต้องเป็นหลานสาวของเธอ ไม่รู้เลยว่าเมื่อสิบสองปีก่อนเกิดเรื่องอะไรขึ้น ถึงได้ทำให้เหยียนซินหย่าคิดว่าตัวเองคลอดเด็กที่ตายแล้วออกมา แต่ลูกสาวแท้ๆ ของเธอกลับไปอยู่ที่บ้านตระกูลอู่เสียได้
ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุหรือเป็นเพราะความตั้งใจของใครก็ตาม แต่กุญแจสำคัญจะต้องเป็นอู่เจิ้งซือหรือพวกเขาคนใดคนหนึ่ง!
พวกเขาต้องรู้ความจริงทุกอย่างแน่!
แต่ในตอนนี้เธอทำให้หลานสาวรู้ความจริงให้ได้ก่อน หากพบว่าอู่เจิ้งซือหรือแม้แต่พวกเขาคนใดคนหนึ่งคิดไม่ซื่อละก็ เหอะ! ตระกูลอู่จะไม่มีทางปัดความรับผิดชอบใดๆ ได้อีก!
คุณปู่อู่ที่ได้ฟังก็รู้สึกแปลกใจ คำพูดคำจาของจ้าวอิงหนานดูท่าจะไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่!
“ชิวเยวี่ย ที่แม่บุญธรรมของอู่เหมยพูดหมายความว่าไง?”
ตี๋ชิวเยวี่ยหัวคิ้วผูกกันแน่น ลางสังหรณ์ของผู้หญิงมักจะไม่เคยพลาด เธอรู้สึกได้ว่าจะต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น และอาจจะเป็นเรื่องใหญ่ที่มีผลร้ายต่อตระกูลอู่เสียด้วย!
เธอหันไปมองหญิงผู้ไร้ซึ่งความยินดีอย่างเหอปี้อวิ๋นอีกครั้งด้วยสายตารังเกียจ และพูดขึ้น “พ่อคะ เรื่องอื่นเราอย่าเพิ่งใส่ใจเลย รีบพาน้องสะใภ้รองกลับบ้านก่อนดีกว่า ดูจากท่าทีของเธอแล้ว หากว่าแม่บุญธรรมของอู่เหมยเจอเข้าอีกครั้ง เกรงว่าเรื่องมันจะแย่เข้าไปใหญ่!”
“นั่นสิ เจิ้งหง เจี้ยนโป พวกแกพาสิ่งของน่าอับอายขายขี้หน้านี่กลับไปซะ เยวี่ยเยวี่ยเองก็กลับไปเถอะ” ตอนนี้สำหรับคุณปู่อู่แล้วการเห็นหน้าเหอปี้อวิ๋น มีแต่จะทำให้รู้สึกถึงความน่ารำคาญ เมื่อครู่หากไม่เป็นเพราะปฏิกิริยาอันรวดเร็วของสะใภ้ใหญ่ ตระกูลอู่คงจะได้พังพินาศแน่!
แต่ถึงอย่างไรเขาก็คาดไม่ถึงว่าสะใภ้รองจะเป็นลูกพี่ลูกน้องกับสะใภ้เล็กของจ้าวอิงหนาน?
มิน่าล่ะอู่เหมยถึงได้มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับผู้หญิงคนนั้น!
เหอะ! ช่างเป็นสะใภ้ที่โง่เง่าเสียจริง หากว่าเธอสามารถมีความสัมพันธ์อันดีกับเหยียนซินหย่าได้ ตัวเขาเองก็จะยอมเกลี้ยกล่อมให้ลูกรองใช้ชีวิตสามีภรรยากันให้ดีขึ้น!
เพียงแต่ในตอนนี้…
คงต้องรีบตัดขาดความสัมพันธ์ของสามีภรรยาคู่นี้ให้ได้โดยเร็ว!
…………………………………………………………………………………………..
[1] นางเอกในเรื่องหงโหลวเมิ่ง (ความฝันในหอแดง) เป็นวรรณคดีจีนที่มีชื่อเสียง เธอฉลาดและมีความสามารถในด้านการประพันธ์ ถือเป็นแบบอย่างของนักกวีจีน