ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 573 เรื่องสะเทือนใจตามมาติดๆ + ตอนที่ 574 ไม่มีสิทธิ์อาศัยที่บ้านพัก
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- ตอนที่ 573 เรื่องสะเทือนใจตามมาติดๆ + ตอนที่ 574 ไม่มีสิทธิ์อาศัยที่บ้านพัก
ตอนที่ 573 เรื่องสะเทือนใจตามมาติดๆ
หลังอู่เจิ้งซือถูกจับกุมตัวไป เขาก็ไม่ได้กลับมาอีกเลยหลายวัน อู่เจิ้งต้าวไหว้วานคนรู้จักไปทั่วแต่ไม่มีใครยอมช่วยเหลือ ใครจะกล้ามีเรื่องกับว่าที่นายกเทศมนตรีในอนาคตกันล่ะ!
พยานหลักฐานมีครบและผู้ต้องสงสัยเองก็ยอมรับทำให้คดีนี้ปิดลงได้อย่างรวดเร็ว อู่เจิ้งซือถูกตัดสินโทษหนึ่งปี ควบคุมความประพฤติหนึ่งปี และนี่ก็เป็นสิ่งที่จ้าวอิงหัวต้องการ
ในเมื่อเหมยเหมยถูกชุบเลี้ยงในตระกูลอู่ ต่อให้เหอปี้อวิ๋นกับอู่เจิ้งซือจะทำไม่ดีต่อเหมยเหมยขนาดไหนบุญคุณของการเลี้ยงดูก็ยังมี ฉะนั้นเขาจะใจร้ายเกินไปไม่ได้ และต้องป้องกันไม่ให้มีคนวิจารณ์ในเรื่องนี้
แต่จะให้เขาปล่อยอู่เจิ้งซือไปง่ายๆ ก็เป็นไม่ได้ ดังนั้นจ้าวอิงหัวจึงได้ตกลงกับทางสถานีตำรวจให้จับตัวอู่เจิ้งซือไปและลงโทษเขาเล็กน้อยก็พอ สำหรับคนทั่วไป ตัดสินโทษหนึ่งปีคุมพฤติกรรมหนึ่งปีไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
แต่ต่างจากอู่เจิ้งซือ เขาเป็นคนที่ทระนงตัวมากและเป็นคุณครูคนหนึ่ง ขอแค่เคยทำผิดกฎหมายมาก่อนไม่ว่าจะกี่ปีก็ต้องถูกบันทึกลงในประวัติ ไม่มีโรงเรียนใดกล้าจ้างคุณครูที่มีประวัติติดตัว ดังนั้นอู่เจิ้งซือไม่อาจทำอาชีพคุณครูได้อีกต่อไป สำหรับอู่เจิ้งซือผู้ที่รักในอาชีพคุณครู การไม่สามารถเป็นคุณครูได้อีกก็เพียงพอที่จะทำเขาปวดใจเจียนตายได้
อีกอย่างอู่เจิ้งซือที่เคยมีประวัติติดตัวคงยากที่จะหางานได้อีก เมื่อไม่มีงานก็จะไม่มีแหล่งรายได้ นับจากนี้ชีวิตของอู่เจิ้งซือไม่มีหลักประกันใดๆ อีก ชีวิตที่ยากลำบากของเขาเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น!
สิ่งที่ตามมาหลังการพังทลายของอู่เจิ้งซือ อู่เจิ้งต้าวเองก็ได้รับข่าววงในมาว่าตำแหน่งศาสตราจารย์ที่เขาพยายามไขว่คว้ามาตลอดหลายปี ทั้งที่ใกล้ได้มันมาแต่กลับถูกคู่อริของเขาแย่งชิงไป เป็นเรื่องที่ถูกตัดสินไว้แล้ว
เรื่องสะเทือนใจไม่พอเท่านี้ ผู้อำนวยการโรงเรียนที่ปกติสนิทกับอู่เจิ้งต้าวไม่น้อยนั้นแอบตักเตือนเขาลับๆ ว่าไม่ใช่เพียงแค่สูญเสียตำแหน่งศาสตราจารย์ไป บางทีอาจต้องเสียงานในมหาวิทยาลัยจินไปด้วย ใบแจ้งให้ย้ายตำแหน่งงานจะถูกส่งมาหลังวันหยุดช่วงปีใหม่ อู่เจิ้งต้าวจะถูกย้ายไปประจำตำแหน่งงานมหาวิทยาลัยแห่งอื่นในเมืองจิน
หากไม่มีเรื่องผิดพลาดก็น่าจะเป็นสถาบันวิชาชีพครูแห่งหนึ่ง เท่ากับว่าอู่เจิ้งต้าวจะกลายเป็นเพียงรองศาสตราจารย์สถาบันวิชาชีพครูที่ไร้ซึ่งศาสตร์แขนงอื่นๆ เฉพาะทาง จากที่เคยอยู่ในตำแหน่งรองศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดังที่มีหน้ามีตามาก่อน
แม้เป็นรองศาสตราจารย์เหมือนกันแต่ปริมาณรายได้กลับหดตัวลงมหาศาล เมื่อที่แห่งหนึ่งคือมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศหรือระดับโลก อีกแห่งคือสถาบันวิชาชีพครูที่แม้แต่คนเมืองจินยังไม่ให้ราคา
สองแห่งนี้ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะเปรียบเทียบใดๆ กันได้เลย!
ขณะที่อู่เจิ้งต้าวได้รับข่าวนี้นั้นก็แทบกลั้นใจตาย เขาจะมีกะจิตกะใจไปสนใจเรื่องคอขาดบาดตายของน้องชายอย่างไรไหว ตลอดช่วงวันหยุดต่างวิ่งวุ่นหาทางเพื่อได้อยู่มหาวิทยาลัยจินแต่กลับได้รับคำตอบเหมือนกัน ทุกคนพูดประโยคเดียวกันว่า…
ขอโทษที่ช่วยอะไรไม่ได้!
หลังจากอู่เจิ้งต้าวก็คืออู่เจิ้งหง เดิมทีเธอเป็นคุณครูซื่อจงของเมืองจิน แม้ซื่อจงจะเทียบอี้จงไม่ได้แต่ก็ดีมากแล้ว
แต่เธอกลับได้รับหมายแจ้งจากทางโรงเรียนเช่นกันว่าหลังเปิดเทอมให้เธอไปทำงานที่โรงเรียนระดับสิบห้าแถบชานเมืองแห่งหนึ่งได้เลย อย่างแรกคือ โรงเรียนแห่งนี้ไม่ใช่โรงเรียนมัธยมปลายแต่เป็นโรงเรียนมัธยมต้น อีกทั้งโรงเรียนระดับสิบห้านี้ต้องนั่งรถบัสประจำทางสามต่อจากเมือง หากอู่เจิ้งหงไม่พักที่โรงเรียน อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาสามชั่วโมงขึ้นไปกับการเดินทางไปทำงานและหลังเลิกงาน
หรือบอกได้ว่าหลังจากนี้อู่เจิ้งหงจะต้องใช้ชีวิตที่แสนลำบากอย่างแท้จริง นอกเสียจากว่าเธอจะไม่ทำงานอีกแล้ว
ต่อมาก็คือคุณปู่อู่ เขาเองก็ได้รับใบแจ้งจากทางโรงเรียนว่าให้เขาย้ายออกจากบ้านสไตล์ยุโรปหลังเก่าที่พักในตอนนี้ เพราะบ้านพวกนี้ต้องแบ่งให้เหล่าศาตราจารย์อาวุโสผู้มีคุณธรรมและบารมีได้พักอาศัย
อีกความหมายก็คือคุณปู่อู่แก่แล้วแต่กลับไม่มีคุณธรรมและบารมี ไม่มีสิทธิ์พักอาศัยอีกต่อไปแล้ว!
……………………
ตอนที่ 574 ไม่มีสิทธิ์อาศัยที่บ้านพัก
แต่ตระกูลอู่ยังโชคดีกว่าตระกูลเหออยู่บ้างไม่ถึงกับต้องเตร็ดเตร่ทนหนาวทนหิวกลางถนน มหาวิทยาลัยจินได้จัดที่พักแห่งใหม่แก่คุณปู่อู่ เป็นที่พักสำหรับบุคลากรมหาวิทยาลัยเช่นกันแต่เป็นอาคารสุดโทรมเก่าแก่
ในอาคารแบ่งสองห้องให้สองสามีภรรยาโดยที่มีห้องครัวอยู่ตรงระเบียงทางเดิน ห้องน้ำกับห้องกักเก็บน้ำใช้ร่วมกันทั้งชั้น ตึกสำหรับบุคลากรแบบนี้ปกติจะแบ่งให้อาจารย์วัยรุ่น คนอายุมากแล้วหรืออาจารย์ที่อยู่ระดับศาสตราจารย์ไม่มีทางถูกจัดให้มาอยู่ที่นี่เด็ดขาดเพราะจะเป็นการลดศักดิ์ศรี!
ทางมหาวิทยาลัยให้เวลาคุณปู่อู่ย้ายบ้านเป็นเวลาครึ่งเดือน คุณปู่อู่รู้สึกถูกเหยียดหยามได้แต่ทอดถอนหายใจตั้งแต่เช้ายันหัวค่ำ เขาไม่อยากย้ายไปอยู่ตึกทรุดโทรมแห่งนั้นสักนิด
พักอยู่บ้านเดี่ยวสไตล์ยุโรปแบบนี้นอกจากสะดวกสบายแล้วยังเป็นสัญลักษณ์ของสถานะ การที่สามารถอาศัยอยู่บ้านเดี่ยวสไตล์ยุโรปในพื้นที่ราคาแพงอย่างเมืองจินได้นับว่าเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจมาก!
แต่ตอนนี้เกียรติยศและความภาคภูมิใจนี้ใกล้หมดลงแล้ว เขาต้องย้ายไปอยู่ตึกแถวที่เปรียบดั่งรังหนู เป็นเพื่อนบ้านร่วมกับเด็กวัยรุ่นพวกนั้น จะให้เขาเอาหน้าแก่ๆ นี้ไปไว้ไหน?
แล้วยังมีนักเรียนเก่าของเขาที่จะมาเยี่ยมเยียนเขาทุกวันเทศกาล บ้านแบบนั้นจะต้อนรับแขกได้อย่างไร?
คุณปู่อู่ไปหาอธิการบดีมหาวิทยาลัยด้วยตัวเองด้วยใจที่หวังอยากให้อีกฝ่ายผ่อนปรน แต่อธิการบดีมหาวิทยาลัยจินใช่ว่าจะมายุ่งเรื่องวุ่นวายนี้ อีกอย่างเขาเองก็ไม่ชอบใจคุณปู่อู่ที่ได้ดิบได้ดีจากวาสนาเก่าคนนี้อยู่แล้ว ได้แต่ให้เลขานุการช่วยเป็นด่านหน้าให้เขา ไม่แม้แต่จะยอมไปพบ
แต่อธิการบดีได้ฝากข้อความไว้ให้เลขานุการด้วยเนื้อหาประมาณว่าหากคุณปู่อู่ไม่พอใจบ้านพักที่ทางมหาวิทยาลัยจัดหาให้ สามารถไปพักข้างนอกได้ ทางมหาวิทยาลัยกำลังติดขัดเรื่องนี้พอดีเพราะมีอาจารย์วัยรุ่นมากมายไม่มีบ้านพักอาศัย หวังว่าคุณปู่อู่จะยอมสละที่พักให้เด็กวัยรุ่นตามวิถีผู้อาวุโสที่ได้รับการศึกษามาอย่างดี
คุณปู่แทบเลือดขึ้นหน้าเพราะคำของเลขานุการก่อนจะกลับบ้านอย่างขุ่นเคือง ให้ภรรยาเอาสมุดบัญชีทั้งหมดของที่บ้านออกมานับเป็นสิบรอบ สองสามีภรรยามีเงินในบัญชีทั้งหมดสี่ร้อยแปดสิบห้าหยวนหกสิบสตางค์ เป็นจำนวนเงินที่รวมเงินยิบย่อยทั้งหมดของบ้าน
เงินพวกนี้ไม่เพียงพอที่จะซื้อบ้านสักหลังด้วยซ้ำ อย่างไรเสียคุณปู่อู่ก็ไม่คิดจะไปอาศัยที่ตึกแถวนั่น เขาให้ลูกชายคนโตช่วยตามหาบ้านที่มีราคาค่าเช่ารายเดือนสิบหยวน เป็นบ้านเดี่ยวสไตล์ยุโรปหลังเล็กที่มีสวนดอกไม้ในตัว สภาพแวดล้อมไม่เลวร้ายเท่าไร
แม้ค่าเช่ารายเดือนสิบหยวนจะแพงไปเสียหน่อยแต่เงินบำเหน็จบำนาญหลังเกษียณของเขากับภรรยามีหนึ่งร้อยกว่าหยวนต่อเดือน ก็ยังพอจะจ่ายค่าเช่าไหว
สิ่งสำคัญคือต้องอยู่บ้านแบบนี้ถึงจะมีหน้า อู่ชิงหาง คนอย่างเขาไม่มีวันเป็นตัวตลกของคนอื่นเด็ดขาด!
คุณปู่อู่กลับไม่รู้ว่าตระกูลอู่ของพวกเขาได้กลายเป็นเรื่องตลกของคนทั้งเมืองจินไปนานแล้ว เขากลับยังวุ่นวายกับเรื่องบ้านพักอาศัย ช่างน่าขันเสียจริง!
คนทั้งตระกูลอู่ไม่อาจรอดพ้นจากความโชคร้าย ยกเว้นเสียแต่เว่ยชิงเยวี่ยกับจี้เจี้ยนโปที่ยังมีความโชคดีอยู่บ้างที่ไม่ถูกย้ายงาน ยังทำงานเดิมไม่เปลี่ยน พวกเขาถึงพอจะยกภูเขาออกจากอก ลอบดีใจอยู่ลึกๆ
เป็นเหตุให้ตระกูลอู่ไม่มีอารมณ์ฉลองในวันเทศกาลหยวนเซียว เดิมทีเทศกาลหยวนเซียวเป็นเทศกาลสำหรับครอบครัวให้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา แต่อู่เจิ้งซือกลับถูกคุมขังอยู่ จะอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาได้อย่างไร?
อีกอย่างเมื่อยิ่งเข้าใกล้วันกำหนดย้ายบ้านที่ทางมหาวิทยาลัยมอบให้ พวกเขาก็มัววุ่นอยู่กับเรื่องย้ายบ้านนั่นแหละ!
วันเทศกาลสำหรับพวกเขาเป็นวันที่ฟุ่มเฟือยมากเกินไป!
เทียบกับความโชคร้ายของตระกูลอู่แล้วตระกูลจ้าวที่อยู่เมืองหลวงกลับรื่นรมย์ปรีดา จ้าวอิงหัวซื้อประทัดกลับมาจำนวนหนึ่ง เหมยเหมยกับสยงมู่มู่พวกเขาปล่อยประทัดกันในสวนถึงสองชั่วโมงเต็ม คืนนั้นเธอเหมือนเด็กน้อยคนหนึ่งอย่างแท้จริง ทั้งกระโดดโลดเต้น ทั้งหัวเราะ มีความสุขเหลือเกิน
ทว่าเวลาแสนสุขมักผ่านไปเร็วนัก หลังเทศกาลหยวนเซียวพวกจ้าวอิงหัวต้องเตรียมตัวกลับเมืองจินแล้ว พวกจ้าวอิงสยงกลับค่ายทหารทันทีหลังคืนก่อนปีใหม่ เมื่อจ้าวอิวหัวไปที่บ้านก็เหลือเพียงพวกจ้าวเสวียไห่อยู่เป็นเพื่อนท่านผู้เฒ่าจ้าวกับภรรยา
……………………