ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 618 พ่อแม่ที่พึ่งไม่ได้ + ตอนที่ 619 มีนัดกับพี่หมิงซุ่น
ตอนที่ 618 พ่อแม่ที่พึ่งไม่ได้
นับตั้งแต่รับรู้ว่าลูกสาวตนไม่ได้เรียนแย่แต่เป็นเด็กเรียนเก่ง สองสามีภรรยาจ้าวอิงหัวก็เริ่มตื่นตัวอีกครั้ง เริ่มกลับเข้าสู่สภาวะเคร่งเครียดอีกครั้ง จู้จี้จุกจิกตลอดเวลา อย่างเช่น
“เหมยเหมยลงมือดูทีวีสิ มีเทพธิดาดอกไม้ที่ลูกชอบดูนะ!” จ้าวอิงหัวตะโกนเสียงดัง
“เหมยเหมย แม่ตุ๋นซุปดอกบัวให้ลูก รีบมาทานเร็ว!” เหยียนซินหย่าขานเรียกอย่างอ่อนโยน
“เหมยเหมย อากาศข้างนอกดี ให้พี่ไปเล่นชิงช้าเป็นเพื่อนนะ!” จ้าวเสวี่ยหลินตะเบ็งเสียงขึ้น
หรืออย่างเช่น
“เหมยเหมย อย่าหมกตัวอยู่แต่ในบ้าน มันไม่ดีต่อสายตา เราต้องดูแลสุขภาพด้วย ลูกรักออกไปผ่อนคลายหน่อยสิ!” ทั้งที่ครึ่งชั่วโมงก่อนเหมยเหมยเพิ่งกลับมาจากการผ่อนคลายข้างนอกแท้ๆ
“ลูกรัก เราต้องเรียนอย่างมีความสุข พ่อแม่ตั้งเกณฑ์ไว้ให้ลูกที่หกสิบคะแนน ลดระดับลงอย่างเหมาะสมสักหน่อยก็ได้ ลูกเกินเกณฑ์ไปมากแล้ว เราจะได้เล่นกันเต็มที่ไปเลยไง!”
……
สองสามีภรรยาคู่นี้มัวแต่กังวลว่าลูกสาวของตนจะสอบได้คะแนนดีเกินไป พยายามหาทางให้เหมยเหมยสอบได้คะแนนแย่ลงอยู่เรื่อยและกำลังพยายามให้ถึงเป้าหมายนี้อยู่ทุกวัน!
“พ่อแม่อยากให้หนูสอบได้ศูนย์คะแนนมากเลยสินะคะ?”
เหมยเหมยที่ทนเสียงรังควานอยู่ข้างหูไม่ไหวก็ตะโกนใส่สองสามีภรรยากลับคืนไปอย่างหมดความอดทน ตั้งแต่ตื่นเช้ามาถึงตอนนี้ผ่านไปครึ่งค่อนวันแล้วแท้ๆ แต่เธอกลับอ่านหนังสือไม่เข้าหัวสักตัว ทุกอย่างก็เพราะพ่อแม่ที่พึ่งพาไม่ได้ของเธอ
เหยียนซินหย่าหลุดปากอย่างไม่ทันคิด “ถึงจะสอบได้ศูนย์คะแนนก็ไม่เป็นไรนะ!”
จ้าวอิงหัวรีบกระทุ้งศอกใส่ภรรยาที่เผลอหลุดความในใจออกมา รีบยิ้มตาหยีช่วยกอบกู้ขึ้นว่า “ได้ยังไงล่ะ พ่อแม่เป็นห่วงลูกเรียนหนักเกินไป ยังไงเหมยเหมยลูกต้องจำไว้นะว่าบ้านเราไม่ยกยอคนเป็นฮีโร่จากคะแนนสอบ ต่อให้ลูกสอบได้ศูนย์คะแนนจริงๆ ลูกยังเป็นลูกรักของเราเหมือนเดิม!”
แม้ถ้อยคำเหล่านี้สร้างความซาบซึ้งแก่ใจเธอมากนัก แต่ตอนนี้เธอเอาชนะอุปสรรคด้านการเรียนได้แล้ว ต่อให้หลับตาสอบก็ไม่มีทางสอบได้ศูนย์คะแนน แล้วพวกเขาพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?
“ไม่มีทางสอบได้ศูนย์คะแนนหรอกค่ะ เป้าหมายของหนูไม่ได้อยู่ที่หกสิบคะแนนแต่อยู่ที่แปดสิบคะแนนเป็นอย่างต่ำและพยายามให้ไปถึงเก้าสิบคะแนน!”
เหมยเหมยกล่าวคำประกาศิตดังกึกก้อง พวงแก้มอูมเสียยิ่งกว่าคุณลุงฉิวที่กำลังนั่งแทะลูกวอลนัทอยู่ด้านข้าง
เธอโมโหมาก ดูถูกกันเก่งเหลือเกิน!
“หนูไม่ใช่คนการเรียนแย่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เปลี่ยนไปแล้วเข้าใจมั้ยคะ? ถ้าคราวหลังพ่อแม่ยังรบกวนหนูอ่านหนังสืออีกล่ะก็ หนู…หนู…หนูจะหนีออกจากบ้าน!”
สองสามีภรรยาจ้างอิงหัวมองลูกสาวที่โกรธจนแก้มพองก็รีบสำนึกผิด
ราวกับ—ว่า—พวกเขาจะใจร้อนเกินไปหน่อย!
“ลูกสาวของพ่อมีความปณิธานแรงกล้า พ่อสนับสนุนลูกเต็มที่ ลูกรักอ่านหนังสือต่อไปนะ พ่อแม่ไม่รบกวนลูกแล้ว!”
จ้าวอิงหัวพูดชมไม่ขาดปาก ฉุดแขนภรรยาให้ออกมาจากห้องของเหมยเหมย
“เราต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ไม่เห็นหรือไงว่าเหมยเหมยโมโหแล้ว หลังจากนี้ต้องวางแผนดีๆ จะใจร้อนไม่ได้!”
จ้าวอิงหัวเดินปลอบภรรยาขณะที่กำลังเดินลงบันได พร้อมสอนยุทธศาสตร์การวางแผน สองสามีภรรยาใจรวมเป็นหนึ่งใจเดียวกัน พุ่งเป้าหมายไปที่ทำอย่างไรจะขัดขวางไม่ให้ลูกสาวเรียนหนังสือได้เก่ง !
เหมยเหมยที่อยู่ชั้นบนปิดหนังสือ แบกกระเป๋าเป้เตรียมตัวออกจากบ้าน
“เหมยเหมยไปไหนเหรอ?” จ้าวอิงหัวรีบถามขึ้น
“หนูนัดกับพี่หมิงซุ่นไว้ว่าจะออกไปเที่ยวตอนบ่าย นี่ก็ใกล้ได้เวลาแล้ว!” เหมยเหมยก้มลงใส่รองเท้าและไม่กังวลเลยว่าสองสามีภรรยาจ้าวอิงหัวจะไม่อนุญาตเธอออกไป
สองสามีภรรยาคู่นี้หวังอยากให้เธอออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้านอยู่ทุกวี่วัน!
ไม่ต่างจากที่คาดไว้…
จ้าวอิงหัวออกจะลังเลสักนิดเพราะอีกฝ่ายคือเหยียนหมิงซุ่น แต่เหยียนซินหย่ากลับใจป้ำและดีใจอย่างปิดไม่อยู่“ไปสิไ ปสิ แม่ให้เงินสองหยวนนะ ไม่ต้องรีบกลับบ้านนะ!”
……………………
ตอนที่ 619 มีนัดกับพี่หมิงซุ่น
เหมยเหมยเบะปาก รู้อยู่แล้วว่าแม่ของเธอต้องพูดแบบนี้ ไม่เคยเห็นพ่อแม่ที่ไหนไม่น่าพึ่งเท่าพ่อแม่ของเธอมาก่อนเลย!
ไม่รู้เหมือนว่ากันว่าพ่อของเธอปกครองเมืองใหญ่แบบนี้ได้อย่างไร?
ทั้งที่พึ่งไม่ได้ขนาดนั้น!
“หนูยังมีเงินอยู่ พ่อคะแม่คะ หนูไปนะ บ๊ายบาย!”
เหมยเหมยโบกมือลาอย่างร่าเริงและวิ่งไปข้างนอกอย่างไวดั่งนกจาบฝน ติดแค่ว่าจ้าวเสวียหลินไปเล่นบาสเกตบอลแล้วไม่อย่างนั้นเขาต้องตามไปอีกคนด้วยแน่ๆ น่ารำคาญชะมัด !
จ้าวอิงหัวมุ่นคิ้วเอ่ยถาม “เหมยเหมยสนิทกับเหยียนหมิงซุ่นเกินไปหรือเปล่า?”
เหยียนซินหย่าตอบอย่างไม่คิดมาก “พวกเขาเป็นเพื่อนกันไง จะสนิทกันก็ปกติ!”
“คุณไม่กลัวว่าเจ้าหมอนั่นจะแย่งลูกรักของเราไปเหรอ!” จ้าวอิงหัวตักเตือนภรรยาด้วยใจที่หวงลูกสาว เขาไม่อยากคิดเรื่องแบบนี้เลย แค่คิดว่าลูกรักของเขาจะต้องถูกผู้ชายอื่นแย่งไป
หัวใจของเขา—ก็เหมือนโดนมีดกรีดแทง!
เหยียนซินหย่าฟังแล้วนึกขำ กลอกตาใส่สามีทีหนึ่ง “เหมยเหมยของเราเพิ่งอายุเท่าไหร่เอง คุณนี่กังวลมากเกินไปจริง ๆ อีกอย่างหมิงซุ่นก็ดีนี่นา ถ้าวันหน้าเหมยเหมยคบกับเขาขึ้นมาจริงๆ ฉันก็หมดห่วงแล้ว!”
รู้จักหัวนอนปลายเท้าของเหยียนหมิงซุ่นเป็นอย่างดี ทั้งหน้าตา นิสัยใจคอ และความสามารถล้วนครบครันไร้ที่ติ ที่สำคัญหมอนี่ซื่อสัตย์จริงใจกับลูกสาวตน เธอมีอะไรให้ต้องกังวลใจอีก!
“คุณนี่ยอมง่ายจริงๆ ลูกสาวของผมจะถูกใครที่ไหนไม่รู้มาแย่งไปง่ายๆ ไม่ได้ อย่างไรเสียวันหน้าถ้าเหมยเหมยจะแต่งงานก็ต้องผ่านด่านผมก่อน ไม่เข้าตาผมก็ไม่มีวันเห็นด้วยเด็ดขาด!”
จ้าวอิงหัวพูดอย่างไม่สบอารมณ์ อย่างมากเขาจะเลี้ยงลูกสาวไปตลอดชีวิตเอง!
เหยียนซินหย่าคร้านจะสนใจเขา ลูกชายพอโตขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องของพ่อแม่อีกต่อไป หากลูกสาวอยากใช้ชีวิตกับคนอื่น พ่อแม่จะห้ามได้ที่ไหน?
สิ่งที่พ่อแม่อย่างพวกเขาทำได้มีแค่พยายามปกป้องลูกสาวให้มากที่สุดเพื่อไม่ให้เธอถูกคนปองร้ายหลอกเอาได้ !
เหยียนหมิงซุ่นมายืนรอที่หน้าประตูแล้ว เห็นเด็กสาวที่วิ่งมาอย่างร่าเริงเหมือนลูกกวางตัวน้อยแต่ไกลก็อดยิ้มไม่ได้
“วิ่งช้าๆ หน่อย มีเวลาเหลือเฟือ ไม่ต้องรีบ!”
เหยียนหมิงซุ่นรับกระเป๋ามาวางไว้หน้าตะกร้าจักรยาน อมยิ้มมองเหมยเหมยที่หายใจหอบเล็กน้อย
“พี่หมิงซุ่นไม่รู้สินะว่าพ่อแม่ฉันน่ารำคาญขนาดไหน ตั้งแต่เช้ามาก็…”
เหมยเหมยเล่าเรื่องผิดศีลธรรมที่สองสามีภรรยาจ้าวอิงหัวทำกันในวันนี้ด้วยเสียงเจื้อยแจ้วไม่หยุด ไฟโทสะที่เธอสั่งสมมาทั้งหมดจำต้องหาที่ระบายให้ได้ ไม่อย่างนั้นเธอต้องอัดอั้นจนตายแน่ๆ
“ถูกพวกเขากวนจนฉันไม่ได้อ่านหนังสือสักหน้า การบ้านก็ไม่ได้ทำ พี่หมิงซุ่นว่าทำไมถึงมีพ่อแม่ที่พึ่งพาไม่ได้อย่างพวกเขาได้ขนาดนี้ หวังจะให้ฉันสอบได้ศูนย์คะแนนด้วยซ้ำ”
เหยียนหมิงซุ่นคอยฟังเสียงพร่ำบ่นของสาวน้อยที่นั่งเบาะหลัง รอยยิ้มที่มุมปากฉีกกว้างขึ้นเรื่อยๆ พฤติกรรมของสองสามีภรรยาจ้าวอิงหัวนับว่าอยู่เหนือความคาดหมายของเขาเสียจริง!
“ลุงจ้าวกับน้าเหยียนน่าจะกังวลว่าเธอเรียนหนักเกินไปหรือเปล่า เหมยเหมยอย่าโกรธไปเลย”
“ฉันไม่ได้โกรธ ฉันแค่เอือมระอา เฮ้อ…มีพ่อแม่แบบนี้มันน่าเหนื่อยใจจริงๆ นะ!”
เหมยเหมยถอนหายใจยาวทำหน้ากลัดกลุ้มเหมือนผู้ใหญ่ตัวเล็กๆ จนทำให้เหยียนหมิงซุ่นขบขันได้สำเร็จ เขาดีใจแทนยายหนูมาก พวกเขาสองสามีภรรยาดูรักใคร่ลูกสาวเหลือเกิน หวังเพียงลูกสาวมีความสุข แม้แต่คะแนนสอบที่ผู้ปกครองมักให้ความสำคัญยังมองข้ามไปได้
พวกเขาไปแวะพบทันตแพทย์ก่อน ซึ่งคุณหมอได้ทำการตรวจให้เหมยเหมยอย่างละเอียดหนหนึ่งและได้อุดฟันผุให้เธอไปสองซี่ พร้อมสั่งให้เธอทานขนมหวานให้น้อยลง เช่นนี้แล้วจะได้ไม่ส่งผลต่อช่วงที่ผลัดเปลี่ยนฟัน
หลังออกจากโรงพยาบาลเหมยเหมยได้หาก๊อกน้ำหนึ่งบ้วนปาก เพราะรู้สึกมีรสชาติแปลกๆ ในปาก อีกอย่างเศษเนื้อฟันที่ถูกขัดออกยังติดปากอยู่เลย ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกกระอักกระอ่วน
เหยียนหมิงซุ่นมองเหมยเหมยที่ทำหน้าเหมือนคนขับถ่ายไม่ออกอย่างขบขัน ขี้กลัวจริงๆ แค่พบทันตแพทย์แค่นี้แต่ทำอย่างกับออกศึกไปได้
“เยวี่ยเยวี่ย ลูกเอาเงินที่ไหนมาตรวจหูเหรอ ?” เสียงคุ้นเคยดังแว่วมา
…………………..