ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1002 ขุดหลุมให้อู่เยวี่ย + ตอนที่ 1003 ช่วยคนมีเหตุผลไม่ช่วยญาติ
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1002 ขุดหลุมให้อู่เยวี่ย + ตอนที่ 1003 ช่วยคนมีเหตุผลไม่ช่วยญาติ
ตอนที่ 1002 ขุดหลุมให้อู่เยวี่ย
เจ้าของแผงอื่น ๆ ต่างทำหน้าเย้ยหยัน เมื่อก่อนเหอปี้อวิ๋นชอบพูดอวดกลางตลาดว่าลูกสาวของเธอเป็นนักเรียนดีเด่นของโรงเรียนอีจง ทั้งยังหน้าตาสวยแล้วคะแนนเรียนก็ยังดี แถมยังได้ที่หนึ่งทุกปี
พวกเขาก็เชื่อแบบนั้นเพราะปกติอู่เยวี่ยมาที่ตลาดไม่บ่อยนัก อย่างมากก็อยู่แค่หนึ่งถึงสองนาที ดูเผิน ๆ อู่เยวี่ยก็เหมือนนักเรียนดีเด่นจริง ๆ
สงบเรียบร้อยหน้าตาน่ารักและดูสะอาดสดใส ดูไม่น่าใช่ลูกสาวของป้าขายปลาอย่างเหอปี้อวิ๋นเลยสักนิดเดียว
ตอนนั้นพวกเขายังนึกอิจฉาเหอปี้อวิ๋นที่โชคดีมีลูกสาวยอดเยี่ยมขนาดนี้
แต่ตอนนี้…
“โอ้ ที่แท้ก็ที่โหล่ ยังมีหน้ามาพูดโม้ ว่าที่หนึ่งของชั้น? ถุย!”
“นั่นสิ โม้เก่งจริง ๆ !”
……
เหอปี้อวิ๋นคำรามด้วยความโกรธจนคนที่เห็นต่างผวารีบหุบปาก กลัวจะไปกระตุ้นความโกรธของยัยบ้านี่เข้า พวกเขาต้องงานเข้าแน่!
ตำรวจก็มาที่นี่ด้วย นั่นเพราะคุณนายและลูกสาวของผู้ว่าถูกคนบ้าจู่โจม เรื่องนี้สะเทือนไปถึงสารวัตร พวกเขาจึงเปิดสัญญาณไซเรนมาตลอดทาง
ไม่ต้องให้เหยียนซินหย่ากับเหมยเหมยเอ่ยปาก ชาวบ้านผู้กระตือรือร้นคนอื่น ๆ ต่างก็ช่วยพูดกันคนละประโยคสองประโยคจนเสร็จสรรพ
เจตนาทำร้ายนั้นเป็นเรื่องจริง ตำรวจจึงตรงเข้าไปจับเหอปี้อวิ๋นใส่กุญแจมือโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง บอกแค่ว่าจะพากลับไปคุมขัง สามีของเธอนิ่งชะงักไปทันที
เหอปี้อวิ๋นถูกจับแล้วใครจะช่วยเขาฆ่าปลาขายปลา?
ชายคนนั้นขอร้องตำรวจไม่หยุด ขอให้พวกเขาช่วยอนุโลมสักครั้งพร้อมรับปากว่าหลังจากนี้จะช่วยจับตาดูเหอปี้อวิ๋นให้ดี…
เหมยเหมยตะโกนเสียงดัง “คุณยังอยากให้เมียสติไม่ดีของคุณมาทำร้ายคนอื่นกลางตลาดอีกเหรอ? แม่คะ หลังจากนี้เราไม่ต้องมาซื้อกับข้าวที่ตลาดนี้อีก เมื่อกี้หนูตกใจมากเลย!”
คนอื่นเองก็พากันตำหนิไม่หยุดจนผู้ชายคนนั้นหน้าชาไม่กล้าตอบโต้แม้แต่ประโยคเดียว
เหมยเหมยนึกอะไรดีๆ ขึ้นมาได้อีกจึงบอกชายผู้นั้นอย่างหวังดี “คุณยังมีลูกสาวอีกคนไม่ใช่หรือไง ก็ให้เธอมาช่วยคุณขายปลาสิ!”
ตาของชายผู้นั้นเป็นประกาย นั่นสิ นังบ้าคนนั้นทำงานไม่ได้ก็ให้ลูกติดมาทำแทน
คิดได้เช่นนี้ชายผู้นั้นก็สนเหอปี้อวิ๋นอีก เพราะเขาก็เบื่อหน่ายยัยบ้าคนนี้มานานจนไปมีผู้หญิงคนอื่นแล้ว เหตุผลที่ไม่ยอมหย่าเพราะเขาแค่ต้องการทาสมาคอยทำงานให้ฟรีสักคน อีกทั้งยังเป็นกระสอบทรายที่คอยรองรับอารมณ์ของเขา
สิ่งที่สำคัญที่สุดค่าสินสอดสำหรับลูกติดอย่างอู่เยวี่ยเขายังไม่ได้มาเลย!
เหอปี้อวิ๋นที่กำลังเดือดพล่านถูกตำรวจพาตัวไป แผงขายปลาอยู่ในสภาพที่ยุ่งเหยิงของกระจัดกระจายเกลื่อน เหยียนซินหย่าเก็บกระเป๋าสตางค์แล้วไปซื้อปลาที่ร้านอื่น แถมยังซื้อปูม้าตัวอวบสองตัว แล้วกลับบ้านพร้อมเหมยเหมย
“แม่คะ รอจนกว่าคุณพ่อกลับมา แม่ช่วยบอกเขาให้ที่ว่าช่วยขังเหอปี้อวิ๋นอีกสักสองสามวัน!” เหมยเหมยเสนอความเห็นร้าย ๆ
การได้เห็นอู่เยวี่ยที่โรงเรียนมันรู้สึกรำคาญใจ งั้นก็ปล่อยให้ชายคนนั้นจัดการกับนางแพศยาคนนี้โดยให้เธอไปขายปลาแทน!
ปกติอู่เยวี่ยทำตัวสูงส่ง รอเธอต้องไปขายปลา ดูสิว่าเธอจะทำตัวสูงส่งอย่างไรอีก?
ถึงเวลานั้นเธอจะไปซื้อปลาที่ตลาดทุกวัน เพื่อยั่วโมโหอู่เยวี่ย!
เพียงแวบเดียวเหยียนซินหย่าก็รู้ทันความคิดเหมยเหมยเลยยิ้มพยักหน้า สำหรับสองแม่ลูกเหอปี้อวิ๋น เธอไม่คิดจะออมมือหรอก!
ตกดึกจ้าวอิงหัวกลับมาได้ยินภรรยาและลูกสาวพูดถึงเรื่องตลาดก็โกรธจัด ไม่ต้องรอเหยียนซินหย่าพูดก็โทรไปหาสารวัตร ใช้อำนาจเหนือกว่าในการออกคำสั่ง จากนั้น–
เหอปี้อวิ๋นจึงถูกบังคับพาเข้าโรงพยาบาลประสาท!
ทำเอาเหมยเหมยดีใจเป็นที่สุด กอดพ่อตัวเองหอมไปสองฟอดใหญ่และไม่ลืมพูดชม “พ่อ พ่อสุดยอดไปเลย!”
………………………
ตอนที่ 1003 ช่วยคนมีเหตุผลไม่ช่วยญาติ
จ้าวอิงหัวมองลูกสาวอย่างรักใคร่แต่ก็มีความรู้สึกผิดในใจ เพราะสิ่งที่เหมยเหมยต้องเจอที่เมืองหลวงเมื่อสามปีก่อนหลังจากเขากลับมาจ้าวเสวียหลินก็บอกกับเขาทั้งหมด เขาทั้งปวดใจทั้งแค้นใจที่ตัวเองไร้ความสามารถเกินไป
ช่วงสามปีที่ผ่านมาเขาไม่ได้กลับเมืองหลวงโดยอ้างว่างานเยอะ แต่ความจริงแล้วเขาไม่อยากกลับไปเผชิญหน้ากับพ่อแม่ตัวเอง โดยเฉพาะแม่ที่สติเลอะเลือนของเขาคนนั้น
ความน้อยใจของลูกสาวเขาเกิดจากแม่ที่สติเลอะเลือนผู้นี้ ในฐานะลูกชายไม่อาจปะทะกับแม่ตัวเองได้ เขาจำต้องใช้วิธีนี้ในการแสดงความไม่พอใจของตัวเองเท่านั้น!
อีกทั้งช่วงสามปีที่ผ่านมานี้ความคิดของเขาเองก็เปลี่ยนไปจากอดีตที่คิดเพียงว่าขอแค่ตระกูลจ้าวแข็งแกร่งขึ้นเขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องใดอีก แต่เหยียนหมิงซุ่นได้เตือนเขาไว้–
พึ่งพ่อพึ่งแม่พึ่งบรรพบุรุษไม่สู้พึ่งตัวเอง!
คุณปู่จ้าวคิดถึงแต่ตระกูลจ้าวมากกว่า ไม่ว่าเรื่องใดต้องเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนรวม แต่ไม่ใช่ครอบครัวเล็กๆ ของเขา
แต่เขาไม่เหมือนกัน เขาสนใจแค่ครอบครัวเล็ก ๆ ของเขา ฉะนั้นเขาต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อเป็นโล่กำบังที่เข้มแข็งให้แก่ภรรยาและลูกสาว!
สิ่งที่สร้างความประหลาดใจแก่เขามากที่สุดนั่นคือเหยียนหมิงซุ่นที่ไม่รู้ว่าผ่านอะไรมาถึงได้ดูเป็นคนซับซ้อนมากขึ้น ความสามารถที่แม้แต่เขายังดูไม่ออก
และเพราะความช่วยเหลือของเหยียนหมิงซุ่น จึงทำให้ในช่วงสามปีที่ผ่านมาเขาได้ฝึกฝนและพัฒนาความแข็งแกร่งของเขามากขึ้น และต่อให้ตระกูลจ้าวล้มเขาเองก็ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
หลังจากทั้งสามคนทานอาหารค่ำที่แสนอร่อยเสร็จ เหมยเหมยจึงขอตัวกลับเข้าห้อง ไม่อยู่เป็นก้างขวางคอพ่อแม่ตัวเองอีก
เธออารมณ์ดีมาก โรงพยาบาลประสาทไม่ใช่สถานที่ที่ดีอะไร เหอปี้อวิ๋นเข้าไปคงต้องเจอเรื่องลำบากแน่ ๆ !
เสียดายที่ตอนนี้ไม่สามารถติดต่อเหยียนหมิงซุ่นได้เพราะเขาไปปฏิบัติภารกิจที่แถบชายแดน อีกเกือบครึ่งเดือนถึงจะกลับมา เหมยเหมยลอบถอนหายใจ ทำได้แค่แบ่งปันความสุขกับชายผู้เป็นที่รักในฝันตามที่ปรารถนา!
เพียงแต่คืนนี้เธอไม่ได้ฝันถึงเหยียนหมิงซุ่นแต่กลับฝันถึงเหอปี้อวิ๋น
ในฝันเหอปี้อวิ๋นถูกคนในเสื้อกาวน์สีขาวกลุ่มหนึ่งจับตรึงไว้ด้วยเชือกเส้นใหญ่ แถมยังฉีดยากล่อมประสาทให้เธอเหมือนหมูที่กำลังจะถูกฆ่า ทำให้เธอที่มองอยู่รู้สึกสะใจเสียจริง
ตื่นเช้ามาเหมยเหมยหวนนึกถึงฉากในฝันอารมณ์ก็ดีขึ้นอีกไม่น้อย
ถ้าวันไหนว่าง ๆ จะไปเยี่ยมเหอปี้อวิ๋นที่โรงพยาบาลประสาทหน่อยแล้วกัน!
อย่างไรอีกฝ่ายก็เลี้ยงเธอมาตั้งสิบสองปีนี่นา!
แล้วก็อู่เยวี่ย…
หวังว่าวันนี้จะไม่เจอนางแพศยาคนนี้!
แต่เหมยเหมยก็ต้องผิดหวังเพราะอู่เยวี่ยยังอยู่ แถมยังเดินมาหาถึงที่ด้วย…
“จ้าวเหมยเธอมันร้ายกาจ ยังไงแม่ฉันก็เลี้ยงเธอมาตั้งสิบสองปี เธอทำแบบนี้กับท่านได้ยังไง?”
เวลาอาหารเที่ยงทุกคนต่างไปรับประทานอาหารที่โรงอาหาร อู่เยวี่ยเลือกที่จะมาหาเรื่องในเวลานี้ช่างทุ่มเทเสียเหลือเกิน!
เสียงของเธอดึงดูดความสนใจของนักเรียนได้มากตามคาด พอทุกคนเห็นว่าเป็นดาวโรงเรียนคนใหม่ล่าสุดกับนักเรียนคะแนนแย่ที่สุดในโรงเรียนกำลังทะเลาะวิวาทกันเลยเกิดความอยากรู้อยากเห็น ยกถ้วยชามล้อมวงเข้ามา
พอโรงเรียนเปิดเทอมเหมยเหมยก็ถูกเรียกว่าดาวโรงเรียน ส่วนโอหยางซานซานผู้เป็นอดีตดาวโรงเรียนก็ต้องพ้นจากตำแหน่งไปเป็นธรรมดา!
อู่เชาได้ฟังเหมยเหมยเล่าเรื่องเมื่อวานเขาก็ตำหนิอย่างไม่พอใจ “อู่เยวี่ยเธอยังขายหน้าไม่พอเหรอ? เมื่อวานแม่เธอจะฆ่าคนอยู่แล้ว หรือเธอไม่พอใจที่เหมยเหมยขัดขืน? ต้องให้ยืนรอความตายเหรอ?”
อู่เยวี่ยมองอู่เชาด้วยความแค้นใจ “อู่เชา นายคือลูกพี่ลูกน้องของฉัน นายไม่ช่วยฉันแต่กลับไปช่วยคนนอก นายยังมีหัวใจอยู่หรือเปล่า?”
“ฉันช่วยคนมีเหตุผลไม่ช่วยคนกันเอง ใครถูกก็ช่วยคนนั้น!”
อู่เชาพูดอย่างตรงไปตรงมา เขาไม่ชอบอู่เยวี่ยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ต่อให้เหมยเหมยทำผิดเขาก็จะช่วยเหมยเหมย จะไปช่วยอู่เยวี่ยได้อย่างไร?
นับประสาอะไรกับญาติแบบนี้!
เรื่องตอนนั้นที่แม่ของเขาขอยืมเงินอู่เจิ้งซือเพื่อซื้อบ้าน อู่เจิ้งซือไม่ให้ยืมแม้แต่หยวนเดียว แต่กลับเป็นเหมยเหมยที่ให้เขายืมเงิน!
อีกอย่างพ่อแม่เขาหย่ากันแล้ว เขากับพี่ชายเลือกอยู่กับแม่ ไม่ค่อยได้ไปบ้านตระกูลอู่อยู่แล้วด้วย
อู่เยวี่ยโกรธจนหน้าดำหน้าแดง ตวาดด้วยความเสียใจปนแค้น “จ้าวเหมยทำให้ฉันไม่ได้เรียนหนังสือแล้ว!”
…………………………