ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1004 เรียนหนังสือไปเปล่าประโยชน์ + ตอนที่ 1005 นักเรียนคะแนนยอดแย่อย่างเธอรีบไสหัวไป
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1004 เรียนหนังสือไปเปล่าประโยชน์ + ตอนที่ 1005 นักเรียนคะแนนยอดแย่อย่างเธอรีบไสหัวไป
ตอนที่ 1004 เรียนหนังสือไปเปล่าประโยชน์
อู่เชาชะงักหันมองไปทางเหมยเหมยด้วยความสงสัย ใช้สายตาถามว่าเกิดอะไรขึ้น
เหมยเหมยลอบยิ้มในใจแสร้งพูดเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร “น่าขำ เธอไม่ได้เรียนหนังสือแล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน? ฉันไม่ใช่พ่อแม่เธอสักหน่อย อู่เยวี่ยเธอเป็นบ้าอะไร?”
อู่เชาพยักหน้าตามแรง ๆ “นั่นสิ เธอไม่ได้เรียนหนังสือแล้วเกี่ยวอะไรกับเหมยเหมย เธออย่าเอะอะก็โยนความผิดให้เหมยเหมยซิ!”
อู่เยวี่ยชี้ไปที่เหมยเหมยด้วยความแค้นปนโกรธพร้อมพูดร้องเรียน “เพราะเธอเป็นคนเสนอความคิดให้พ่อเลี้ยงฉันไม่ให้ฉันเรียนหนังสือต่อ ไหนจะให้ฉันไปขายปลาอีก จ้าวเหมย เธอต้องการอะไร?”
เหมยเหมยยักไหล่ “น่าขำ ฉันไม่รู้จักพ่อเลี้ยงเธอด้วยซ้ำ แล้วทำไมเขาต้องเชื่อฟังคำของฉัน อู่เยวี่ยเธอก็บอกอยู่เองว่าเป็นพ่อเลี้ยงของเธอ เธอก็ไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ ส่งเสียเธอเรียนถึงมัธยมปลายก็ดีไม่น้อยแล้ว อีกอย่างคะแนนเธอแย่ขนาดนี้ก็เหมาะแล้วที่พ่อเลี้ยงเธอจะตัดสินใจแบบนั้น!”
มีนักเรียนที่มาจากชนบทหลายคนที่เคยอยู่ห้องเดียวกับอู่เยวี่ย ได้ยินดังนั้นเลยอดพยักหน้าตามไม่ได้
“นั่นสิ คะแนนอย่างอู่เยวี่ยที่ชนบทคงไม่ได้เรียนต่อแล้ว ถ้าไม่เลือกแต่งงานก็กลับไปทำไร่ทำนา ถ้าฉันไม่ได้สอบเข้าอีจงได้ พ่อแม่แท้ ๆ ของฉันก็ไม่มีทางส่งเสียฉันเรียนหนังสือหรอก” นักเรียนหญิงคนหนึ่งกล่าว
นักเรียนหญิงคนอื่นก็พยักหน้าตามด้วยเหตุผลเดียวกัน มันเป็นเรื่องยากที่เด็กผู้หญิงจากชนบทจะได้เรียนหนังสือ
เพราะคนแก่มักคิดว่าเด็กผู้หญิงยังไงก็ต้องเป็นคนของตระกูลอื่นไม่ช้าก็เร็ว เรียนหนังสือมากไปก็ไปช่วยคนอื่น สู้กลับไปทำงานช่วยที่บ้านแล้วรีบแต่งงานเรียกเงินสินสอดมากหน่อยจะดีกว่า
ส่วนนักเรียนหญิงที่สามารถมาเรียนที่โรงเรียนอีจงอย่างพวกเธอได้ ต้องมีพ่อแม่ที่หัวทันสมัยและฐานะที่บ้านพอส่งเสียได้
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคะแนนสอบของพวกเธอต้องดี
คะแนนไม่ดี พวกเธอก็ไม่มีหน้าไปขอให้พ่อแม่ส่งเสียหรอก!
ดังนั้นพวกเธอถึงดูถูกอู่เยวี่ยเป็นอย่างมาก คะแนนสอบแย่ขนาดนี้ยังมีหน้าอยู่อีจงต่อ?
ช่างเป็นการหยามเหยียดอีจงเหลือเกิน!
อีกอย่างพวกเธอก็อายที่ต้องเป็นเพื่อนกับนักเรียนคะแนนแย่แบบนี้!
อู่เยวี่ยได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของเหล่านักเรียนหญิงเลยหันไปตวาดเสียงเข้ม “เกี่ยวอะไรกับเด็กบ้านนอกอย่างพวกเธอ? ก็แค่สอบได้คะแนนดีหน่อยไม่ใช่หรือไง เหอะ คนที่มาจากชนบทอย่างพวกเธอต่อให้สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ก็หางานดี ๆ ไม่ได้ จะมาทำเป็นเหลิงต่อหน้าฉันทำไม?”
สามปีมานี้อู่เยวี่ยนับวันก็ยิ่งอุปโลกเรื่องราวขึ้นมาเอง แล้วก็ค่อย ๆ ถูกโอหยางซานซานล้างสมอง ความคิดที่จะพัฒนาตัวเองไม่ต้องพูดถึงกลับกันมีแต่ความคิดที่ว่าเรียนหนังสือไปก็เปล่าประโยชน์แทน
คิดเพียงว่าต่อให้เรียนหนังสือดีขนาดไหนก็สู้คนเกิดมาโชคดีไม่ได้!
หากมีพ่อแม่ที่มีความสามารถคงไม่ต้องเครียดไปตลอดชีวิต หากเจอพ่อแม่ที่ไร้ความสามารถ เรียนหนังสือมากแค่ไหนก็สูญเปล่า
เหอปี้อวิ๋นจบสิ้นไปแล้วแต่เธอยังมีอู่เจิ้งซือ!
ขอแค่เธอได้กลับไปอยู่เคียงข้างอู่เจิ้งซือ อาศัยอำนาจเงินทองของอู่เจิ้งซือแล้วเธอจะต้องเรียนหนังสือไปทำไมอีก?
แถมเธอยังมีทางออกอีกหนึ่งทาง–เหมยซูหาน
แต่ตอนนี้เหมยซูหานเป็นเพียงตัวสำรองของเธอเพราะเบื้องหลังเขามีเฮ่อเหลียนเช่อที่สร้างความหวาดผวาแก่เธอ เป็นเวลาสามปีที่เธอไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้องมือของเหมยซูหานด้วยซ้ำ
อีกอย่างตอนนี้อู่เยวี่ยเริ่มมีความทะเยอทะยาน และหวังสูงยิ่งกว่าชั้นสวรรค์
ตั้งแต่ได้คุยกับหวงอวี้เหลียนอู่เยวี่ยก็ขยายเป้าหมาย เธออยากแต่งงานกับคนที่ดีกว่านี้ อย่างเช่นครอบครัวตระกูลที่มีตำแหน่งทางการเมืองอย่างตระกูลโอหยาง
เธอมั่นใจว่าหน้าตาและคุณสมบัติตัวเองไม่แย่ อีกทั้งทุกอย่างขึ้นอยู่กับการกระทำ ทำไมเธอจะไม่มีสิทธิ์บรรลุถึงเป้าหมายได้?
คำพูดของอู่เยวี่ยเรียกให้นักเรียนจากชนบทในโรงอาหารมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปดูไม่สบอารมณ์ สายตาที่มองไปทางอู่เยวี่ยแฝงด้วยความขุ่นเคือง
นักเรียนจากชนบทอย่างพวกเขาไม่มีคนคอยหนุนหลังไม่มีเส้นทางสำรอง เส้นทางเดียวที่จะช่วยให้ก้าวออกจากประตูหมู่บ้านที่ชนบทได้ก็คือสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้วหางานดี ๆ ทำในอนาคต
แบบนั้นพวกเขาก็จะกลายเป็นคนในเมือง สร้างหน้าสร้างตาให้พ่อแม่พวกเขาได้เฉิดฉายสักที
แต่อู่เยวี่ยกลับบอกว่าพวกเขาเรียนหนังสือไปก็เปล่าประโยชน์ ทั้งยังว่าพวกเขาเป็นเด็กบ้านนอกคำแล้วคำเล่า จะไม่ให้พวกเขาโกรธได้อย่างไร?
…………………………
ตอนที่ 1005 นักเรียนคะแนนยอดแย่อย่างเธอรีบไสหัวไป
เหมยเหมยรับรู้ได้ถึงความโกรธเคืองของนักเรียนกลุ่มนี้ ก็อดด่าอู่เยวี่ยว่าโง่ในใจไม่ได้
แค่ประโยคเดียวแต่ล่วงเกินคนตั้งมาก ต่อให้อนาคตจะได้เรียนหนังสือต่อนางแพศยาคนนี้ก็ไม่มีชีวิตสงบสุขหรอก!
โรงเรียนอีจงไม่เพียงรับนักเรียนจากทั่วทั้งเมืองแต่รวมไปถึงเมืองข้าง ๆ ด้วย โดยเฉพาะนักเรียนคะแนนดีแถวหน้าประจำเมืองต่าง ๆ แทบถูกเกณฑ์มาที่อีจงทั้งหมด
นักเรียนคะแนนดีพวกนี้มาเรียนที่อีจงย่อมเรียนฟรีทุกอย่างทั้งยังได้รับทุนการศึกษา เงื่อนไขดีขนาดนี้เหล่านักเรียนคะแนนดีกลุ่มนี้ต้องรับไว้อยู่แล้ว ในเมื่อเข้าโรงเรียนอีจงก็เท่ากับได้ก้าวขาข้างหนึ่งเข้าสู่ประตูรั้วมหาวิทยาลัย
คนโง่เท่านั้นที่จะไม่มา!
เช่นนี้นักเรียนจากชนบทของอีจงจึงมีจำนวนมากนับได้ครึ่งต่อครึ่งกับนักเรียนจากในเมือง
อีกทั้งนักเรียนจากชนบทเหล่านี้ต่างถือตัวไม่ค่อยไปไหนมาไหนกับเด็กในเมืองถือว่าต่างมีอาณาเขตของตัวเอง แต่อู่เยวี่ยกลับใช้ไม้พายคว่ำเรือทั้งลำเท่ากับล่วงเกินนักเรียนกว่าครึ่งของโรงเรียน
และพวกเขายังเป็นนักเรียนอันดับต้น ๆ ของโรงเรียน ไม่แปลกที่นักเรียนจากชนบทกลุ่มนี้จะกลั่นแกล้งอู่เยวี่ย!
เหมยเหมยย่อมยินดีที่เห็นอู่เยวี่ยตกอับ อู่เยวี่ยที่คะแนนสอบแย่ลงเรื่อย ๆ ความฉลาดทางสมองและความฉลาดทางอารมณ์กลายเป็นคะแนนติดลบทั้งคู่ ช่างเป็นเรื่องที่ดีจริง ๆ!
“อู่เยวี่ยเธอพูดเหลวไหลอะไร? ไม่ว่าเมื่อไหร่การเรียนก็คือทางออกเดียวของนักเรียนที่มาจากครอบครัวที่ลำบาก บัณฑิตจากตระกูลยากจนในสมัยโบราณได้รับราชการก็เพราะการสอบ หรือเธอคิดว่าสังคมสมัยใหม่ในตอนนี้สู้สมัยโบราณไม่ได้เหรอ?”
เหมยเหมยโต้กลับอย่างมีคุณธรรมทำเอานักเรียนจากชนบทมองเธออย่างซาบซึ้ง แอบชื่นชมดาวโรงเรียนว่าไม่เพียงแค่หน้าตางดงาม จิตใจก็งดงามยิ่งกว่า!
แม้ถ้อยคำของอู่เยวี่ยเมื่อกี้จะทำให้พวกเขารู้สึกโกรธอย่างมากแต่มันก็ทำให้พวกเขารู้สึกลังเลใจยิ่งกว่า!
ความโหดเหี้ยมของสังคมใช่ว่าพวกเขาจะไม่เคยได้ยินมาก่อน ในอดีตมีคนในหมู่บ้านสอบเข้ามหาวิทยาลัยดี ๆ ได้ แต่สิ่งที่ได้จากการรอคอย กลับเป็นหนังสือแจ้งรับเข้ามหาวิทยาลัยที่ด้อยกว่า จะไปโวยวายที่สำนักงานศึกษาธิการก็ไม่มีประโยชน์
เพราะคนที่มาแทนที่ได้ จะต้องเป็นคนมีเส้นสายยังไงล่ะ?
พวกคนที่ถูกแย่งตำแหน่งไปทำได้แค่ยอมรับในโชคชะตาตัวเอง!
ฉะนั้นภายในใจพวกเขาใช่ว่าจะไม่เป็นกังวล ต่างก็กังวลว่าพวกเขาจะไม่ได้รับความยุติธรรมเช่นกัน แต่พอฟังคำของเหมยเหมยพวกเขาก็เริ่มปล่อยวาง
แม้สังคมมีทั้งความยุติธรรมและอยุติธรรม แต่สำหรับนักเรียนจากชนบทอย่างพวกเขาแล้วการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเป็นทางออกเดียวของพวกเขา!
ไม่สอบเข้ามหาวิทยาลัยพวกเขาจะต้องจับจอบอยู่ในหมู่บ้านไปตลอดชีวิต ทำงานตลอดทั้งปีจนตายถึงจะหาเงินเลี้ยงปากท้องได้!
จากนั้นรุ่นถัดจากพวกเขาก็ต้องใช้ชีวิตแบบนั้นต่อไป หนึ่งรุ่นสืบต่อหนึ่งรุ่นไม่มีวันได้ผงาดอีกตลอดไป!
ดังนั้นพวกเขาต้องเปลี่ยนแปลงไม่เพียงเพื่อพ่อแม่แต่เพื่อตัวพวกเขาเองและเพื่อรุ่นต่อไปของพวกเขามากกว่า!
อู่เยวี่ยใจสั่นแอบเสียใจที่พูดไปไม่ทันคิด
“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น จ้าวเหมยเธออย่ามาแต่งเรื่องปรักปรำฉัน คนร้ายกาจอย่างเธอไม่เคยแข่งกับฉันอย่างเปิดเผยอยู่แล้ว ได้แต่ใช้วิธีสกปรกลับหลัง ถุย ระวังจะโดนฟ้าผ่า!”
อู่เยวี่ยที่ถูกความโกรธเข้าครอบงำเริ่มเอ่ยวาจาอย่างไม่คิด และเริ่มพูดจาเลวทรามลง
เหมยเหมยฟังแล้วนึกขำจึงพูดเย้ยหยัน “อู่เยวี่ย สมองเธอไม่ได้น้ำเข้าจนโง่ใช่มั้ย? ทำไมฉันต้องไปแข่งกับนักเรียนคะแนนแย่อย่างเธอด้วย? หรือว่าให้แย่งที่โหล่กับเธอเหรอ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า…”
นักเรียนรอบข้างระเบิดเสียงหัวเราะพลางมองอู่เยวี่ยด้วยสายตาดูถูก
ช่างพูดอย่างหน้าไม่อายเสียจริง คนสอบได้ที่โหล่คิดจะแข่งกับคนอื่น?
มั่นหน้ามาจากไหนกัน?
เหมยเหมยรู้สึกผิดหวังกับอู่เยวี่ยในตอนนี้มาก พอโง่ขึ้นสมองที่จะคิดวิธีที่ฉลาด ๆ ก็น้อยลง คู่อริแบบนี้ไม่เห็นสนุกตรงไหนเลย!
“อู่เยวี่ย เธอกลับไปขายปลาอย่างสบายใจเถอะ นักเรียนคะแนนแย่ที่พฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่างเธอไม่แน่อาจจะทำลายชื่อเสียงของอีจงก็ได้ รีบไสหัวไปก็ดีเหมือนกัน!”
เหมยเหมยพูดแทงใจดำเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเอากล่องข้าวกลับไปทานที่ห้องเรียน พูดตอกหน้าอู่เยวี่ยในระยะใกล้แบบนี้ช่างสะใจเสียจริง อย่างนี้ต้องกินมากขึ้นละ!
…………………………