ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1006 สงสัยว่ามีกลิ่นตัว + ตอนที่ 1007 ไม่ได้จากไป
ตอนที่ 1006 สงสัยว่ามีกลิ่นตัว
อู่เยวี่ยเดี๋ยวหน้าดำเดี๋ยวหน้าแดง ความโกรธกับความอับอายทำให้เธอบ้าคลั่ง นางแพศยาจ้าวเหมยกล้าด่าเธอว่าเป็นนักเรียนคะแนนแย่?
หากไม่ใช่เพราะนางแพศยาคนนี้ทำร้ายเธอ เพราะเรื่องกลิ่นตัวเลยทำให้การเรียนเธอถดถอยลงแบบนี้?
นับตั้งแต่เหมยเหมยไปจากตระกูลอู่ อู่เยวี่ยก็พบว่ากลิ่นเหม็นบนตัวเธอหายไปอย่างน่าแปลกแถมไม่เคยเกิดขึ้นอีก ภายหลังเธอไปถามคุณหมอโจว คุณหมอโจวบอกเธออย่างชัดเจนว่าเธอไม่ได้ป่วยทางจิต!
อู่เยวี่ยไม่ใช่คนโง่ ไม่นานเธอก็สงสัยในตัวเหมยเหมย
ตอนจ้าวเหมยอยู่บ้านตัวเธอก็มีกลิ่นเหม็นฉุน พอจ้าวเหมยจากไปกลิ่นเหม็นของเธอก็หายไป มันจะบังเอิญขนาดนี้ได้อย่างไร?
มันอดไม่ได้ที่จะทำให้เธอสงสัยว่าทุกอย่างเป็นเพราะฝีมือของจ้าวเหมย!
“จ้าวเหมย เพราะเธอทำร้ายฉัน เพราะเธอทำให้ฉันมีกลิ่นเหม็นบนตัว ทำให้ฉันไม่มีสมาธิในการสอบ ไม่อย่างนั้นฉันจะสอบได้ที่โหล่ได้ยังไง? ทั้งที่ฉันได้ที่หนึ่งมาโดยตลอด จ้าวเหมย…เธอไม่ได้ตายดีแน่!”
อู่เยวี่ยตวาดเสียงดังก้อง การสอบได้ที่โหล่เป็นสิ่งที่น่าอับอายไปตลอดชีวิตของเธอ!
แม้ว่าตอนนี้เธอมักจะชอบพูดว่าเรียนหนังสือไปก็ไร้ประโยชน์ แต่หากเลือกได้เธอก็อยากเป็นนักเรียนดีเด่นที่สอบได้ที่หนึ่ง แย่งชิงสิ่งที่เธอเคยได้กลับมาอีกครั้ง!
แต่ตอนนี้สายไปแล้ว เธอกลายเป็นนักเรียนคะแนนแย่และไม่ได้รับสิ่งที่เคยได้รับพวกนั้นอีก ทุกอย่างนี้ก็เพราะจ้าวเหมย!
เหมยเหมยหันกลับมาแค่นเสียงพูด “อู่เยวี่ย เธอไม่พัฒนาตัวเองสอบได้ที่โหล่แล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน? อีกอย่างกลิ่นเหม็นบนตัวเธอยิ่งไม่เกี่ยวกับฉัน หรือว่าฉันเป็นคนทำให้เธอมีกลิ่นตัว?”
เหล่านักเรียนระเบิดเสียงหัวเราะอีกครั้ง สายตาที่มองไปทางอู่เยวี่ยแฝงไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามมากกว่าเก่า
“ฉันไม่มีกลิ่นตัว ตั้งแต่เธอออกไปบนตัวฉันก็ไม่มีกลิ่นแม้แต่นิดเดียว จ้าวเหมยเธอกล้าสาบานต่อสวรรค์มั้ยล่ะว่าเธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลิ่นเหม็นบนตัวฉันเมื่อห้าปีก่อน!”
อู่เยวี่ยจ้องเหมยเหมยตาเขม็งเหมือนบังคับให้เธอสารภาพ
“น่าขำ เธอให้ฉันสาบานฉันก็ต้องสาบานเหรอ? เธอเป็นอะไรกับฉัน? มีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน?”
เหมยเหมยไม่มีทางหลงกลวิธีกระตุ้นที่แสนจะตื้นเขินแบบนี้อยู่แล้ว ตัวเธอเองที่ได้กลับมาเกิดใหม่เลยยิ่งเชื่อในเรื่องโชคชะตามากที่สุด จะยอมสาบานได้อย่างไร?
“จ้าวเหมยเธอไม่กล้าสาบานเพราะเธอทำชั่วแล้วไม่กล้ายอมรับ…”
อู่เยวี่ยพูดเสียงดังจนก้องไปทั่วโรงอาหารทำให้แทบจะทุกคนในที่ตรงนั้นได้ยิน รวมไปถึงโอหยางซานซานที่มาช้า ขณะที่เธอได้ยินอู่เยวี่ยพูดถึงกลิ่นเหม็นหึ่งออกจากตัวสีหน้าก็เปลี่ยนไป
เหมยเหมยหันกลับไปพูดเย้ยอู่เยวี่ยว่า “แล้วแต่เลยเธอจะว่ายังไงก็ตามใจ ต่อให้อนาคตเธอโดนรถชนตาย ไม่แน่อาจเป็นฉันที่สาปแช่งก็ได้!”
นักเรียนคนอื่นหัวเราะเสียงฮาครืน พอเห็นเหมยเหมยกลับห้องเรียนพวกเขาก็ค่อย ๆ สลายตัวปล่อยให้โรงอาหารโล่งในชั่วพริบตา อู่เยวี่ยยืนอย่างโดดเดี่ยวโดยไม่มีใครสนใจเธอ
นักเรียนเรียนดีไม่อยากเป็นเพื่อนกับนักเรียนเรียนแย่ ยิ่งนักเรียนคะแนนแย่ที่สร้างความไม่พอใจไปทั่วอย่างอู่เยวี่ยนั้นแม้แต่นักเรียนคะแนนแย่ด้วยกันยังไม่อยากยุ่งกับเธอ
คนใกล้ชาดติดสีแดง คนใกล้หมึกติดสีดำ นักเรียนคะแนนแย่ไม่อยากได้รับผลกระทบจากอู่เยวี่ยหรอกนะ!
โอหยางซานซานสบโอกาสที่คนไม่สนใจเข้าไปใกล้อู่เยวี่ยแล้วส่งสายตาให้เธอแวบหนึ่งก่อนจะเดินไปยังสวนดอกไม้หลังโรงเรียน อู่เยวี่ยชะงักไปทีแล้วเดินตามไป
เธอเองก็อยากหาโอหยางซานซานพอดี พ่อเลี้ยงของเธอให้เวลาเธอเพียงสามวันในการทำเรื่องลาออกจากโรงเรียน ไม่อย่างนั้นพ่อเลี้ยงจะมาโรงเรียนด้วยตัวเอง
เดิมเธอคิดจะไปหาอู่เจิ้งซือแต่อู่เจิ้งซือไปสัมมนางานที่ต่างประเทศไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไร
อู่เยวี่ยรู้ดีว่าทางโรงเรียนก็อยากให้เธอลาออกเองแทบแย่ หากพ่อเลี้ยงไปคุยกับทางโรงเรียนต้องทำเรื่องได้เร็วแน่ ๆ ต่อให้อู่เจิ้งซือกลับมาแล้วส่งตัวเธอเข้าไปอีกเกรงว่าคงยาก!
ดังนั้นเธออยากขอความช่วยเหลือจากโอหยางซานซาน พ่อเลี้ยงเธอกลัวคนมีตำแหน่งทางราชการที่สุด ขอแค่โอหยางซานซานยอมช่วย พ่อเลี้ยงของเธอต้องไม่บังคับให้เธอลาออกแน่ ๆ !
…………………………..
ตอนที่ 1007 ไม่ได้จากไป
หนึ่งชั่วโมงผ่านไปโอหยางซานซานเดินออกจากสวนดอกไม้ด้วยสีหน้าไม่ดีเท่าไร เธอไม่ได้รออู่เยวี่ยแต่กลับเร่งฝีเท้าไปยังห้องเรียน
“ซานซาน เรื่องของฉันเธออย่าลืมล่ะ!” อู่เยวี่ยวิ่งตามมาเตือน
โอหยางซานซานรับปากลวก ๆ แล้วก็วิ่งกลับไปห้องเรียนชั้นมอหกอย่างเร่งรีบโดยไม่รอเธอ ตอนนี้ใจเธอว้าวุ่นเหลือเกินไม่มีอารมณ์สนใจอู่เยวี่ย
อู่เยวี่ยมองแผ่นหลังที่วิ่งไปอย่างเร่งรีบของโอหยางซานซานก็กระตุกยิ้มเยือกเย็น รอดูเรื่องสนุก ๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้
จากความรักที่หวงอวี้เหลียนมีต่อโอหยางซานซานหากรู้ว่าลูกสาวถูกจ้าวเหมยวางแผนใส่จะไม่แก้แค้นได้อย่างไร?
หลังเลิกเรียนโอหยางซานซานกลับไปที่บ้านแล้วเล่าสิ่งที่ได้ฟังมาจากอู่เยวี่ยให้หวงอวี้เหลียนฟังพลางกล่าวอย่างนึกแค้นใจ “แม่ หนูแค้นมาก! เพราะจ้าวเหมยทำลายหนู ถ้าไม่ใช่เพราะกลิ่นเหม็นนั่นไม่แน่เราอาจจะไม่โดนคุณปู่คุณย่าไล่ออกมาก็ได้…”
แม้โอหยางซานซานจะได้ดิบได้ดีในเมืองจินแต่เธอก็อยากจะกลับไปเมืองหลวง
เลยเป็นเหตุผลที่เธอยิ่งเกลียดจ้าวเหมยที่ทำให้เธอต้องไปจากเมืองหลวง!
หวงอวี้เหลียนเองก็หวนนึกถึงเมื่อห้าปีก่อนที่จู่ ๆ ก็มีกลิ่นเหม็นฉุนออกมาจากตัวเธออย่างน่าแปลกใจ วันนั้นเป็นวันที่แข่งวาดรูปพู่กันจีนระดับประเทศ ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงมีกลิ่นเหม็นหึ่งออกมาจากตัว ทำเอาเธอต้องขังตัวเองอยู่ในบ้านถึงสามวัน
เรื่องนี้เธอแทบจะลืมไปแล้วและไม่เคยนึกถึงเรื่องกลิ่นตัวของโอหยางซานซานอีกเลย แต่ตอนนี้พอลูกสาวเตือนหวงอวี้เหลียนเลยนึกขึ้นได้
นางแพศยาจ้าวเหมย!
หวงอวี้เหลียนกัดฟันกรอด เธอแค้นยิ่งกว่าโอหยางซานซานเสียอีก!
โทษที่เธอหลงคิดว่าตัวเองมีฝีมือเก่งกาจ แต่คิดไม่ถึงว่าจะมาตกม้าตายให้นางแพศยาจ้าวเหมยครั้งแล้วครั้งเล่า แค้นนี้เธอจะต้องชำระ!
“ซานซานไม่ต้องร้อนใจ แม่จะแก้แค้นให้ลูกแน่ ๆ ลูกอดทนรออีกนิด อย่างมากก็อีกหนึ่งปีจ้าวเหมยต้องซวยแน่!”
หวงอวี้เหลียนปลอบลูกสาว ตลอดหลายปีมานี้เธอยังติดต่อกับโอหยางปิน บางครั้งโอหยางปินจะมาสัมมนางานที่ทางใต้ ชู้รักเก่าก็มีการกลับมาเจอกันบ้าง และหวงอวี้เหลียนจะถามถึงเรื่องเมืองหลวงไปพร้อม ๆ กัน
เดือนที่แล้วเธอเพิ่งเจอโอหยางปินมา โอหยางปินที่กำลังอารมณ์ดีเลยบอกข่าวดีเรื่องหนึ่งให้เธอ
ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอยอมที่จะอดทน–
โอหยางปินบอกว่าเฮ่อเหลียนเช่อเตรียมลงมือจัดการกับตระกูลจ้าวแล้ว อีกไม่นานตระกูลจ้าวต้องล่มจม ไม่ใช่ตระกูลจ้าวที่เฉิดฉายมีหน้ามีตาอย่างเช่นเคยอีก!
และถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนของตระกูลจ้าว ผู้ว่าอย่างจ้าวอิงหัวตำแหน่งนี้จะต้องสั่นคลอน ถึงตอนนั้นก็เป็นโอกาสดีที่ให้เธอได้ลงมือกับจ้าวเหมย
แต่ก่อนที่จะถึงตอนนั้นเธอก็สามารถสร้างปัญหาเล็ก ๆ ให้จ้าวเหมยได้เหมือนกัน!
เดิมทีเหมยเหมยคิดว่าวันต่อมาจะไม่เจออู่เยวี่ยอีก แต่ความจริงคืออู่เยวี่ยยังลอยหน้าลอยตาอยู่ในโรงเรียนต่อ ถึงขั้นวิ่งมาพูดอวดต่อหน้าเธอโดยเฉพาะ
“จ้าวเหมย ฉันไม่มีวันให้เธอได้สมหวัง ฉันจะต้องเรียนจบจากอีจง!”
เหมยเหมยมุ่นคิ้วแต่ไม่นานก็คลายตัวลง แม้อู่เยวี่ยไม่ได้ไปจากอีจงจะสร้างความสงสัยให้กับเธอได้บ้าง แต่ก็ทำได้แค่ปล่อยมันไป
แต่ที่เธอสงสัยหนักกว่านั้นคืออู่เยวี่ยเกลี้ยกล่อมพ่อเลี้ยงของเธอได้อย่างไร?
ในเมื่อผู้ชายคนนั้นดูเหมือนไม่ใช่คนที่คุยได้ง่าย และยังดูไม่ผูกพันกับอู่เยวี่ยเท่าไร!
“อู่เยวี่ยเธอประเมินตัวเองสูงไปหรือเปล่า เธอจะเรียนไม่เรียนหนังสือแล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน? ต่อให้เธอเรียนที่อีจงจนแก่ก็ไม่เห็นเป็นไร!”
เหมยเหมยมองอู่เยวี่ยอย่างเย้ยหยัน พอเห็นความโกรธและหงุดหงิดบนใบหน้าเธอก็อารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก
อู่เยวี่ยในตอนนี้ช่างจุดไฟติดได้ง่ายเหลือเกิน!
อู่เยวี่ยสูดหายใจเข้าลึก ๆ ตอบกลับด้วยความโกรธ “จ้าวเหมยเธออย่าได้ใจไป สักวันบาปกรรมจะตามสนองเธอ!”
“วางใจได้ เธอกับแม่ของเธอบาปกรรมยังไม่ตามสนองเลย แล้วฉันมีอะไรให้ต้องกังวลใจ ฉันว่านะอู่เยวี่ยแทนที่เธอจะมีเวลาว่างมาทะเลาะกับฉัน เอาไปห่วงใยแม่เธอที่โรงพยาบาลประสาทดีกว่า!”
พอเหมยเหมยเห็นเพื่อนรอบข้างมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปก็ยิ้มอย่างพอใจ!
นี่แหละคือผลลัพธ์ที่เธอต้องการ!
………………………….